กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 23: เจ็บปวด
หยูหมิงซีไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไรกัน
“เอ่อ จริงๆแล้วเมื่อวานฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมาก นายไม่กลัวว่าฉันจะแค่แกล้งทำเหรอ? และฉันเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการต่อสู้เลย” กู้หนิงตอบคำถามมู่เค่อทันทีและถามเขากลับ
“ถึงฉันจะคิดผิด แต่เธอเก่งกว่าฉันแล้วกัน ถ้าเธอเต็มใจรับฉันเป็นลูกศิษย์จะดีมากเลย!”
ถ้ากู้หนิงเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาๆ เธอคงไม่สามารถล้มผู้ชายตัวโตได้ถึงสามคนง่ายๆ
เธอต้องเป็นเจ้าแม่แห่งวงการกังฟูแน่!
มู่เค่อกังวลว่ากู้หนิงจะปฏิเสธเขา ดังนั้นจึงเอ่ยสำทับขึ้นมาอีกว่า “ฉันจะไม่รบกวนเวลาเรียนของเธอ เอาไว้เธอว่างค่อยมาสอนฉัน และฉันจะจ่ายค่าเรียนให้เธอหรืออะไรก็ได้ที่เธออยากให้ฉันทำ”
มู่เค่อกล่าวอย่างจริงใจเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขา
กู้หนิงลังเลในตอนแรก แต่ตอนนี้รู้สึกประทับใจ
เธอนึกถึงอ้ายเฉียน
กู้หนิงมีเพื่อนน้อยมาก ขณะที่มู่เค่อมาจากครอบครัวคนรวย เธออาจขอความช่วยเหลือจากเขาในอนาคตก็ได้
กู้หนิงยอมรับว่าเธอทำแบบนี้เพื่อตัวเธอเอง และยังเป็นเพราะมู่เค่อ เขาเด็กหนุ่มนิสัยดีและอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งก็ได้
ดังนั้นกู้หนิงจึงเอ่ยตอบกลับไปว่า “ฉันสอนนายได้ถ้านายต้องการ แต่นายไม่จำเป็นต้องลูกศิษย์ของฉัน เงินนายฉันก็ไม่ต้องการเหมือนกัน สิ่งที่ฉันต้องการคือความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากนาย”
“จะ..จริงเหรอ?” มู่เค่อตื่นเต้นดีใจที่กู้หนิงยอมตกลง
“หลังเลิกเรียนฉันว่างแล้วจะมาสอนนายแล้วกัน” กู้หนิงเอ่ย
“จะ..จริงเหรอ?” มู่เค่อเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความ “ดะ ได้ ได้” เขาเอ่ยละล่ำละลัก
มู่เค่อเอ่ยพูดตะกุกตะกัก บ่งบอกว่าเขาดีใจสุดสุด ถ้ากู้หนิงไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาคงกระโดดตัวลอยไปแล้ว
จากนั้นมู่เค่อก็ชวนกู้หนิงไปกินข้าวกับเขา กู้หนิงตกลง เธอและหยูหมิงซีเดินตามมู่เค่อไปยังโรงอาหารชั้นสอง
หยูหมิงซีอยากรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แต่ไม่รู้ว่าจะถามอย่างไรดี
แม้ว่ากู้หนิงไม่ต้องการให้มู่เค่อเป็นลูกศิษย์ มู่เค่อจึงยืนกรานที่จะเรียกกู้หนิงว่า ‘บอส’ เพื่อสร้างความสนิทสนม
กู้หนิงไม่เต็มใจในตอนแรก เธอไม่ชอบถูกเรียกว่า ‘บอส’
ถึงอย่างนั้นมู่เค่อก็ยังยืนยันที่จะเรียกเธอว่า ‘บอสหรืออาจารย์’
เปรียบเทียบกับ ‘อาจารย์’ แล้ว คำว่า ‘บอส’ ยังฟังดูเข้าท่ากว่า
ระหว่างมื้ออาหาร มู่เค่อเรียกกู้หนิงว่าบอสตลอดเวลา เขารับใช้กู้หนิงอย่างขันแข็ง ซึ่งเรียกความสนใจจากนักเรียนที่อยู่แถวนั้น
กู้หนิงอายและสั่งให้มู่เค่อหยุดเรียกเธอว่าบอสได้แล้ว
ถ้าหยูหมิงซีไม่ได้รับรู้บทสนทนาระหว่างพวกเขา เธออาจคิดว่ามู่เค่อตกหลุมรักกู้หนิงและพยายามตามตื้อเธออยู่
เมื่อหยูหมิงซีรู้ว่ากู้หนิงล้มนักเลงได้ด้วยหมัดเดียว เธอทำตาโต อ้าปากค้าง
แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ระหว่างกู้หนิงและจ้าวเฟยเฟย เธอทราบโดยทันทีว่ากู้หนิงเก่งมากจริงๆ
หยูหมิงซีปลื้มกู้หนิงมากกว่าเดิม
“กู้หนิง เธอช่วยสอนฉันบ้างได้ไหม?” หยูหมิงซีเอ่ยขอร้อง
“ได้สิ” กู้หนิงตอบกลับอย่างรวดเร็ว
กู้หนิงหวังว่าอย่างน้อยหยูหมิงซีจะสามารถเรียนกังฟูไว้ป้องกันตัวเอง
แต่เธอจะไม่บังคับ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของตัวหยูหมิงซีเอง
ถ้าหยูหมิงซีมีความสนใจเพียงช่วงเวลาสั้นๆแล้วยกธงขาว กู้หนิงก็ไม่สนใจสอนเธอต่อเช่นกัน แต่ถ้าหยูหมิงซีปรารถนาที่จะเรียนต่อด้วยปณิธานที่แรงกล้า กู้หนิงก็พร้อมที่จะฝึกให้เธอเป็นนักสู้มืออาชีพ
หลังจากมื้ออาหาร ทั้งสามต่างพากันเดินไปยังป่าเล็กๆ มีคนอยู่ไม่กี่คน
เนื่องจากกู้หนิงสัญญาว่าจะสอนพวกเขา เธอต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเธอให้พวกเขาดู
ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่ลังเล เธอล้มมู่เค่อลงไปกองกับพื้นเพียงกระบวนท่าเดียว
มู่เค่อนิ่งเป็นคนโง่แต่ไม่ใช่เพราะความเจ็บ แต่เป็นเพราะกำลังช็อค
ถึงแม้กู้หนิงลงมือโดยไม่ลังเล แต่ร่างกายของเธอยังไม่ค่อยดีนัก ความแข็งแรงของเธอจึงมีจำกัด มู่เค่อรู้สึกเจ็บแต่ยังครบสามสิบสองประการ
นักสู้จะต้องเรียนรู้ และเติบโตจากความเจ็บปวดของเขา
หยูหมิงซีที่ยืนดูอยู่ด้านข้างอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง เธอชื่มชมกู้หนิงมากขึ้นกว่าเดิม
น่าประทับใจ! นี่มันน่าประทับใจเกินไปแล้ว
“ลุกขึ้นมา!” กู้หนิงสั่งมู่เค่อที่ยังนอนกองกับพื้นให้ลุกขึ้น
ในเมื่อกู้หนิงตัดสินใจที่จะสอนพวกเขาแล้ว เธอจำเป็นต้องเป็นครูที่เข้มงวด
นักเรียนที่โดดเด่น ล้วนถูกฝึกจากครูที่เข้มงวด
กู้หนิงให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นเธอจะไม่ยอมให้พวกเขาเสียเวลาไปเปล่าๆ
มู่เค่อลุกขึ้นทันทีและตั้งใจกับการฝึก
กู้หนิงตั้งใจให้มู่เค่อเข้าใจทักษะได้โดยเร็ว เธอจึงจู่โจมมู่เค่อด้วยแรงทั้งหมดที่มี
แน่นอนว่ากู้หนิงไม่ทำร้ายมู่เค่อจนบาดเจ็บสาหัส เธอแค่ปรับการเคลื่อนไหวของเธอตามความสามารถของเขา กู้หนิงต้องการให้เขาได้สัมผัสกับความเจ็บปวดเล็กน้อย และเรียนรู้ทักษะไปพร้อมกันระหว่างการฝึกซ้อม
หลังจากนั้นไม่นาน มู่เค่อก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย
ถึงแม้เขาจะเจ็บปวด เขาก็ไม่ยอมหยุด หรือยอมแพ้ เขาเผชิญหน้ากับความท้าทายด้วยจิตใจที่หึกเหิม
หยูหมิงซีซึมซับการฝึก ทุกครั้งที่มู่เค่อร้องโอดโอย เธอจะตั่วสั่นไปด้วย อย่างกับว่าเธอเป็นคนที่ถูกต่อยซะเอง
แม้ว่าจะมีคนไม่กี่คนที่อยู่ในป่าแห่งนี้ เสียงตะโกนของมู่เค่อก็ดึงดูดความสนใจของนักเรียนหลายคน
เมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งถูกผู้หญิงเตะต่อย พวกเขาต่างทำหน้าประหลาดใจ เด็กหนุ่มบางคนถึงกับเปล่งเสียงออกมาว่า
“อะไรวะนั่น!! ผู้หญิงคนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ! ผู้ชายสู้กลับไม่ได้เลยสักนิด!!”
คอมเม้นต์