กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 45 – 46: ยายของกู้หนิง, ถูกไล่ออกจากบ้าน

อ่านนิยายจีนเรื่อง กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ Reincarnation Of The Businesswoman At School ตอนที่ 45-46 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 45: ยายของกู้หนิง

 

สิ่งที่กู้หนิงพูดมาทั้งหมดทำให้เธอรู้สึกเบาใจและคลายความกังวลว่าตัวเธอจะเป็นภาระแก่ลูกสาว สิ่งที่กู้ม่านต้องการมากที่สุดคือการที่เห็นกู้หนิงมีความสุข ในเมื่อกู้หนิงต้องการให้เธอทำอย่างนั้น ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเชื่อฟังลูกสาวตัวเอง กู้ม่านไม่ได้อยากจะทำอะไรจริงจัง แต่ในเมื่อชีวิตของพวกเธอกำลังก้าวหน้า เธอสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตตัวเองได้

“ดีจ้ะ แม่จะลาออกจากงาน และจากนี้แม่คงต้องขอพึ่งลูกแล้ว” กู้ม่านเอ่ยอย่างขำๆ

“ได้สิคะ จากนี้เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ” กู้หนิงหายใจโล่งอกได้สักที

ครอบครัวของกู้เซียวเซียวอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในพื้นที่ราคาแพงใกล้ตัวเมืองหลังจากเลิกเรียนช่วงเย็น กู้เซียวเซียวก็กลับมาถึงบ้านและบ่นให้แม่ของเธอฟัง ‘หลินหลี่หยวน’​

“แม่คะ กู้หนิงบอกว่าจะไม่ยอมขอโทษหนู”

หลินหลี่หยวนอายุสี่สิบห้าปี แต่เธอบำรุงดูแลผิวพรรณอย่างดีจึงทำให้เธอดูอ่อนกว่าอายุจริง หลินหลี่หยวนมีลูกชายและลูกสาว ลูกชายของเธอมีชื่อว่า ‘กู้ฉิงหยุน’​ อายุยี่สิบปี เขาเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสองที่มหาวิทยาลัยแพทย์ในเมือง ส่วนลูกสาวของเธอคือกู้เซียวเซียว

“อะไรนะ? ทำไมเด็กนั่นถึงได้จองหองอย่างนี้ เธอไม่กลัวเราเลยงั้นเหรอ?”  หลินลี่หยวนแปลกใจ

“ตอนนี้นังนั่นอวดดีจะตายไปค่ะ ถึงกับชกต่อยกับฮ่าวหรันที่โรงเรียนวันนี้ด้วย” กู้เซียวเซียวไม่อยากบอกว่าตอนนี้กู้หนิงเป็นหัวหน้าฮ่าวหรันแล้ว เธอไม่อยากให้คนในครอบครัวกู้รู้ว่ากู้หนิงแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน

“อะไรนะ?” ได้ยินดังนั้นหลินหลี่หยวนก็ตกอกตกใจ กู้หนิงเปลี่ยนไป?

หลินหลี่หยวนรู้ว่าฮ่าวหรันเป็นใคร ฮ่าวหรันมาจากครอบครัวที่มีอิทธิพลมาก เธอเคยขอให้กู้เซียวเซียวสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเด็กหนุ่ม เพื่อหวังว่าในอนาคตอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์นี้

หลินหลี่หยวนยังรู้อีกว่าฮ่าวหรันเป็นเด็กหนุ่มเลือดร้อน มันไม่ง่ายที่จะทำความใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา

หลังจากหายตกใจ หลินหลี่หยวนก็หัวเราะขึ้นมา “แม่คิดว่าดีแล้วล่ะที่เด็กนั่นกล้ามีเรื่องกับฮ่าวหรัน งานนี้เด็กนั่นจบเห่แน่” หลินหลี่หยวนไม่เชื่อว่ากู้หนิงจะเอาชนะฮ่าวหรันได้ เธอพนันได้เลยว่ากู้หนิงเป็นคนแพ้

“แต่…” กู้เซียวเซียวเกือบหลุดปากบอกแม่ไปว่าตอนนี้กู้หนิงเป็นหัวหน้าฮ่าวหรันแล้ว แต่เธอยั้งปากไว้ได้ทัน

“แต่ กู้หนิงไม่ยอมขอโทษหนู หนูเกลียดมัน”

“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับกู้หนิง?” ก่อนที่หลินหลี่หยวนจะพูดอะไร ก็มีเสียงหญิงชราดังขึ้นแทรก ผู้หญิงอายุประมาณหกสิบก็เดินเข้ามา หญิงสูงวัยคนนี้ก็คือยายของกู้หนิงนั่นเอง

ยายกู้หนิงมีชีวิตที่สะดวกสบาย ดังนั้นเธอจึงดูกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา และยังเป็นหญิงชราที่ดื้อรั้น แต่กลับไม่กล้าต่อกรกับหลินหลี่หยวน

ถึงแม้หลินหลี่หยวนจะเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ เธอไม่ใส่ใจแม่สามีคนนี้มากนักตราบใดที่แม่สามียังอยู่ในการควบคุมของเธอ ทั้งหมดทั้งมวลนั้น หลินหลี่หยวนและแม่สามีก็เข้ากันได้ดี

ยายกู้หนิงไปเยี่ยมญาติเมื่อวาน ดังนั้นเธอจึงยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างกู้หนิงและกู้เซียวเซียว

“คุณย่า กู้หนิงเอาจานฟาดใส่หนูเมื่อวานที่โรงอาหาร ทั้งยังตบหน้าหนูอีกด้วย และไม่ยอมขอโทษหนู หนูโกรธมาก” กู้เซียวเซียวฟ้องย่าทันทีที่เห็นย่าเดินเข้ามา

“อะไรนะ กู้หนิงกล้าเอาจานตีหลานงั้นเหรอ! ยัยเด็กเหลือขอ!!” หญิงชราโมโห

ในสายตาหญิงชราคนนี้ กู้หนิงเป็นสิ่งที่น่าอับอายขายหน้าของตระกูลกู้เพราะเธอไม่มีพ่อ ส่วนกู้หนิงก็เกลียดยายของเธอเช่นเดียวกัน เพราะยายมักเรียกเธอว่า เด็กไม่มีพ่อ ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก

“ใช่แล้วค่ะ  คุณย่าต้องไล่มันสองแม่ลูกออกจากบ้านเก่าเรานะคะ”  กู้เซียวเซียวอ้อนวอน แววตาเปล่งประกายจงเกลียดจงชัง

“เอ่อ…” หญิงชราไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น ถึงเธอไม่ชอบกู้หนิงและกู้ม่านมาก แต่ไม่เคยคิดที่จะไล่สองคนแม่ลูกออกไป

อีกทั้งกู้ม่านก็เป็นลูกสาวของเธอ เธอจึงยังเห็นใจลูกสาวอยู่ไม่มากก็น้อย ที่สำคัญที่สุด สามีที่เสียชีวิตไปของเธอได้เตือนไว้ว่าไม่ให้ไล่กู้ม่านและกู้หนิงออกจากบ้าน ไม่อย่างนั้นเขาจะกลับมาเอาเรื่องเธอต่อให้เขาเป็นผีแล้วก็ตาม

ยายของกู้หนิงยังเชื่อในเรื่องลี้ลับ ดังนั้นเธอจึงไม่เคยคิดที่จะไล่กู้ม่านและกู้หนิงออกจากบ้านหลังเก่า

เมื่อเห็นย่าตัวเองทำท่าไม่เต็มใจทำตามที่เธอขอร้อง กู้เซียวเซียวรู้ว่าไม่ได้ผลแน่ เธอเลยเปลี่ยนความคิด

“คุณย่าคะ คุณย่าขอให้กู้หนิงมาขอโทษหนูได้ไหมคะ ถ้าหนูพอใจ หนูยกโทษให้เธอก็ได้”

“ไม่มีปัญหา ย่าจะโทรหากู้หนิงเดี๋ยวนี้และบอกให้เธอขอโทษหลาน” ครั้งนี้หญิงชราไม่ได้ปฏิเสธ แต่หยิบมือถือออกมาแทน หญิงชราไม่ได้โทรหากู้หนิงโดยตรงเพราะเธอเกลียดกู้หนิงมาก ดังนั้นจึงโทรหากูม่านแทน

ตอนนี้เวลาประมาณสี่ทุ่มซึ่งยังไม่ดึกมากนัก กู้หนิงและกู้ม่านจึงยังไม่นอน ทั้งสองกำลังดูทีวีกันอยู่

ในขณะนั้น มือถือของกู้ม่านก็ดังขึ้น คนที่โทรเข้ามาคือแม่ของเธอ กู้ม่านยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงด่าทอก็ดังขึ้นจากปลายสาย

“กู้ม่าน ลูกสาวแกกล้าดียังไง! ถึงกล้าเอาจานมาตีเซียวเซียว ทั้งยังตบหน้าเธอด้วย! นังเด็กเหลือขอ!! นังเด็กไม่มีพ่อ!!! นังเด็กไม่มีสำมาคารวะ บอกนังกู้หนิงมาขอโทษเซียเซียวจนกว่าเซียวเซียวจะพอใจซะ!!”

คำสั่งของมารดาเป็นคำสั่งที่ขัดขืนไม่ได้

แม่ของกู้ม่านตะโกนเสียงดัง ดังนั้นกู้หนิงจึงได้ยินเสียงยายของเธอชัดเจน  จริง ๆ แล้วกู้หนิงไม่สนใจว่าคุณยายของเธอจะคิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอทนไม่ได้ที่ยายเธอเรียกเธอว่า ลูกไม่มีพ่อ กู้ม่านรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของกู้หนิง เธอรู้สึกโกรธขึ้นมาบ้าง และยิ่งได้ยินแม่ของเธอเรียกหลานสาวตัวเองว่า ลูกไม่มีพ่อ ยิ่งทำให้กู้ม่านเจ็บปวด

ถึงกู้ม่านจะอ่อนแอ แต่เธอห่วงลูกสาวเธอมากกว่า เธอไม่ยอมให้ลูกสาวเธอต้องถูกเรียกว่า เด็กไม่มีพ่อ

ครั้งนี้กู้ม่านรู้สึกโกรธจนน้ำตาเกือบไหล “แม่คะ หนิงหนิงไม่ใช่เด็กไม่มีพ่อ เธอเป็นลูกสาวของหนู ถึงแม่จะไม่ชอบเธอ แม่ก็ไม่มีสิทธิ์ด่าทอเธอแบบนั้น แม่ไม่ควรเชื่อคำพูดเซียวเซียวทั้งหมด หนิงหนิงไม่ได้ทำร้ายเซียวเซียวเลยแม้แต่น้อย อีกอย่างไม่ใช่ความผิดของหนิงหนิง เป็นเพราะเซียวเซียวทำให้กู้หนิงต้องอับอายขายหน้าก่อน ทำไมกู้หนิงต้องเป็นคนขอโทษด้วยล่ะคะ!”

หญิงชราประหลาดใจที่กู้ม่านระเบิดอารมณ์ใส่เธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ตรงข้ามกลับโกรธมากกว่าเดิม “กู้หนิงเป็นเด็กไม่มีพ่อ ฉันไม่เคยยอมรับมันว่าเป็นหลานสาวของฉัน มันต้องมาขอโทษเซียวเซียว หรือไม่อย่างนั้นพวกเธอทั้งคู่ก็ออกจากบ้านฉันไปซะ!”

 

Chapter 46: ถูกไล่ออกจากบ้าน

หญิงชราโกรธมากจนโพล่งบอกถึงสิ่งที่กู้เซียวเซียวต้องการออกไป เธอไม่ได้ต้องการไล่กู้ม่านและกู้หนิงออกจากบ้านจริงๆ เธอต้องการเพียงแค่ขู่พวกเขาเท่านั้นเอง

กู้เซียวเซียวที่ยืนอยู่ข้างๆหัวใจพองโตด้วยชัยชนะ

“แม่….” กู้ม่านเอ่ยออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เธออยากจะเถียงกลับแต่น้ำตาดันระเบิดออกมาซะก่อน และไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากลำคอ

กู้หนิงฉวยหยิบเอามือถือจากกู้ม่านทันที เธอเอ่ยเสียงเย็นว่า “ยัยแก่บ้า หนูขอบอกเอาไว้เลยนะว่าหนูไม่มีวันขอโทษ ถ้าอยากไล่เราสองคนแม่ลูกออกจากบ้าน ก็ได้ เชิญตามสบาย พวกเราจะย้ายออกเร็วๆนี้แล้ว แต่จำคำพูดของยายวันนี้ให้ดีๆนะคะ หนูไม่ใช่หลานของยายแล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของยายอีกแล้ว!!” จากนั้นกู้หนิงก็วางสายอย่างไว

กู้ม่านไม่ได้ห้ามหรือต่อว่ากู้หนิง หัวใจของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆจากอคติที่แม่ของเธอมีต่อพวกเธอ

อีกด้าน หญิงชราตัวสั่นด้วยความโกรธ และสบถด่าทอกู้หนิงเสียงดัง

“หลี่หยวน ถ้านังสองแม่ลูกนั่นไม่ย้ายออกจากบ้านพรุ่งนี้ ก็ไปหาใครสักคนมาเตะพวกมันออกไป!!” ความตั้งใจเดิมของหญิงชราเพียงแต่ต้องการข่มขู่กู้ม่านเพื่อให้กู้หนิงมาขอโทษกู้เซียวเซียว แต่มาบัดนี้กู้หนิงตะคอกใส่เธอ หญิงชราจึงตัดสินใจไล่พวกเขาออกจากบ้านหลังเก่า

ในขณะที่กู้เซียวเซียวและหลินหลี่หยวนพากันตื่นเต้นดีอกดีใจ พวกเขาไม่มีความเมตตาเห็นใจต่อกู้ม่านและกู้หนิงเลยสักนิด

ณ โรงพยาบาล

“แม่คะ อยู่โรงพยาบาลต่อสักวันสองวันเถอะค่ะ หนูจะไปจัดการเรื่องย้ายบ้านเอง เอาของสำคัญๆออกมาก่อน แล้วหนูจะซื้อบ้านให้เร็วที่สุด จากนั้นพวกเราก็ย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่กันค่ะ” กู้หนิงเอ่ย

ถึงแม้กู้หนิงจะได้ตัดสินใจไปแล้วว่าจะซื้อบ้านในเฟิ่งหัวแมนชั่น เธอจำเป็นต้องไปเมือง G เพื่อหาเงินเพิ่มก่อน

“ดีจ้ะ”  ตอนนี้กู้ม่านฟังกู้หนิงทุกอย่าง เธอปล่อยให้กู้หนิงเป็นคนตัดสินใจ

เนื่องจากกู้ม่านอยู่ห้องผู้ป่วย VIP เธอจึงได้รับการดูแลอย่างดีเป็นพิเศษจากพยาบาล ยิ่งไปกว่านั้นอันเฉียนก็ยังให้ความสนใจเป็นกรณีพิเศษ กู้หนิงเลยไม่กังวลเรื่องแม่ของเธอ

เช้าวันต่อมา กู้หนิงก็กลับไปโรงเรียน

กู้เซียวเซียวมาโรงเรียนแต่เช้าตรู่เช่นเดียวกัน เธอทนไม่ไหวที่จะหัวเราะสมน้ำหน้ากู้หนิง

ถึงแม้กู้หนิงจะยังหัวเสียเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แต่เธอยังคงดำเนินชีวิตเธอตามปกติ เธอพร้อมด้วยมู่เค่อและหยูหมิงซีกำลังวิ่งที่สนามฟุตบอล และครั้งนี้มีฮ่าวหรันและเพื่อนมาร่วมด้วย

กู้หนิงไม่ได้เจาะจงว่าต้องวิ่งกี่รอบเพราะพวกเขาดูกระตือรือร้นที่จะฝึกซ้อม

ฮ่าวหรันและเพื่อนแสดงออกได้ดีกว่ามู่เค่อ

เช้านี้หยูหมิงซีวิ่งตามพวกเขาด้วยความเร็วเท่ากัน เธอวิ่งช้าลงเมื่อวิ่งครบรอบที่สอง  รอบที่สามเธอก็วิ่งเบาๆ สุดท้ายหยูหมิงซีวิ่งได้ห้ารอบซึ่งมีระยะทาง 2 กิโลเมตร

มู่เค่อวิ่งได้แปดรอบขณะที่พวกฮ่าวหรันและกู้หนิงวิ่งได้สิบรอบ หลังจากวิ่ง ฮ่าวหรันและเพื่อนพากันเหนื่อยหอบ พวกเขานั่งลงบนสนามอย่างหมดแรง กู้หนิงยังอยู่ในสภาพดีกว่าพวกเขา เธอเหนื่อยนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับหายใจหอบ เธอยังควบคุมร่างกายตัวเองได้อยู่

ในตอนแรกความเร็วของกู้หนิงนั้นคงที่ แต่หลังจากวิ่งได้เจ็ดหรือแปดรอบ เธอลดความเร็วลงอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายเธอไม่ได้แข็งแรงเท่าไหร่นัก ในชีวิตก่อนหน้าเธอเคยวิ่งได้ถึงสิบสองกิโลเมตรโดยไม่เหนื่อยหอบ

เธอฝึกฝนตัวเองทุกวันเพื่อให้มีร่างกายที่แข็งแรง ในชาตินี้เธอต้องตั้งใจฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ร่างกายเธอแข็งแรง

นั่งพักสักครู่ ฮ่าวหรันกับเพื่อนก็พอจะเอ่ยปากพูดออกมาได้

“บะ บอส ดะ ได้ ได้ไง ทำไมเธอไม่เหนื่อยเลย?  ฮ่าวหรันเอ่ยถามด้วยความชื่นชม

“ใช่ๆ” ฉินซีหุนและจางเทียนปิงเห็นด้วย

“ตราบใดที่พวกนายขยันฝึกซ้อม พวกนายก็จะแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นในอนาคตพวกนายจะสามารถวิ่งได้ง่ายๆ” กู้หนิงให้กำลังใจพวกเขา

ใช่ ตราบใดที่ฝึกซ้อมเรื่อยๆ ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน วิ่ง12กิโลเมตรจึงไม่ใช่เรื่องยาก ใครก็ตามที่มีความตั้งใจก็สามารถทำเช่นนั้นได้ ได้ยินดังนั้น เหล่าเด็กหนุ่มต่างพากันตื่นเต้น

“ฉันจะตั้งใจฝึกซ้อมและแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม!!”

“ฉันด้วย”

“ฉันด้วย”

“เอาล่ะ ฉันมีบางอย่างต้องไปจัดการตอนบ่าย พวกนายอยากจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ”  กู้หนิงบอก เธอจะเข้าไปเก็บเอาของสำคัญออกมา จากนั้นจะไม่กลับเข้าไปเหยียบที่บ้านหลังเก่านั่นอีก

“บอส เธอกำลังจะไปเยี่ยมแม่ใช่ไหม? งั้นพวกเราไปด้วย” เด็กหนุ่มคิดว่ากู้หนิงจะไปเยี่ยมแม่

“เปล่าหรอก แต่ขอบใจมาก ฉันไม่ได้จะไปโรงพยาบาล” กู้หนิงปฏิเสธ เธอไม่ต้องการจะพูดอะไรเพิ่มเติม ฮ่าวหรันกับเพื่อนจึงพากันหุบปาก

กู้หนิงและเพื่อนกลับไปที่ห้องเรียนก่อนคาบแรกเริ่มหลายนาที นักเรียนห้องเจ็ดอยู่ชั้นสอง ฮ่าวหรันและเพื่อนจึงเดินเข้าห้องของพวกเขาก่อนที่ชั้นสอง กู้หนิงและที่เหลือเดินตรงขึ้นบันไดไปชั้นสาม

เมื่อพวกเขากำลังจะเดินขึ้นชั้นสาม พวกเขาสังเกตเห็นกู้เซียวเซียวยืนพิงราวบันไดอยู่คนเดียว

พวกเขารู้สึกโกรธขึ้นมาทันที เพราะรู้ว่ากู้เซียวเซียวเป็นสาเหตุที่ทำให้กู้ม่านตกบันได กู้หนิงรู้ว่าทำไมกู้เซียวเซียวถึงอยู่ที่นี่ เธอต้องการเยาะเย้ยกู้หนิง แต่กู้หนิงแปลกใจตรงที่ไม่เห็นเฉินจื่อเหยา ฉินเจิ้งและเพื่อนคนอื่นๆ

ความจริงแล้วเฉินจื่อเหยายังไม่มาโรงเรียน ส่วนฉินเจิ้งและเพื่อนดูเหมือนว่าจะกลัวกู้หนิงอยู่บ้าง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มาด้วย

กู้เซียวเซียวมีความสุขกับชัยชนะของเธอมากจนไม่สนใจความโกรธของมู่เค่อและหยูหมิงซี เธอหัวเราะทันทีที่เห็นกู้หนิง

“กู้หนิง ฉันบอกให้แกขอโทษฉันแต่แกก็ไม่ฟัง แกกล้าดียังไงถึงได้ตะคอกใส่คุณย่า! คุณย่าสั่งให้แกกับแม่แกย้ายออกจากบ้านวันนี้ ไม่อย่างนั้นแกจะถูกไล่ตะเพิดออก”

ได้ยินแบบนั้น มู่เค่อและหยูหมิงซีทำตาโตด้วยความตกใจ

อะไรนะ? ถ้ากู้หนิงไม่ขอโทษเธอจะถูกไล่ออกจากบ้าน?

ตอนแรกพวกเขาแค่คิดว่ากู้เซียวเซียวคุยโม้ไปอย่างนั้นเอง ครอบครัวกู้ไม่มีทางไล่กู้หนิงกับแม่ออกเพียงเพราะความขัดแย้งเล็กๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ

ใจร้ายใจดำเกินไปแล้ว!

“ฉันจะย้ายออกก่อนพรุ่งนี้” กู้หนิงเอ่ยอย่างใจเย็น

“แก…” กู้เซียวเซียวคาดไม่ถึงว่าตอนนี้กู้หนิงจะยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ได้

เธอผิดหวังที่ไม่เห็นกู้หนิงตื่นตระหนกกระวนวายใจ กู้เซียวเซียวคิดว่ากู้หนิงต้องแกล้งทำเป็นเหมือนไม่รู้สึกอะไร ดังนั้นเธอต้องการกระชากหน้ากากกู้หนิงให้ขาดออกจากกัน แม้ว่ากู้หนิงจะสัญญาว่าจะย้ายออกไป กู้เซียวเซียวก็ยังไม่ยอมปล่อยกู้หนิง

“กู้หนิง แกไม่สนใจแม้แต่แม่ของแกอย่างนั้นเหรอ? ค่าเช่าบ้านข้างนอกสูงจะตาย แกมีปัญญาจ่ายรึไง? ถ้าแกขอโทษฉันจนกว่าฉันจะพอใจ ฉันสามารถขอร้องคุณย่าให้แกอยู่บ้านหลังนั้นต่อไปได้” กู้เซียวเซียวอยากเห็นกู้หนิงขอร้องอ้อนวอนเธอ เธอต้องการความภาคภูมิใจเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้หนิง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด