กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 49 – 50, ใช้วีแชทส่งอั่งเปา, ฉันชอบเธอ
Chapter 49: ใช้วีแชทส่งอั่งเปา
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ยายของกู้หนิงก็ได้รับกุญแจบ้าน วินาทีที่เห็นกุญแจ เธอเกือบลืมหายใจ เธแไม่ได้หวังให้กู้ม่านและกู้หนิงทำอย่างนั้นจริงๆ
ถึงหญิงชราคนนี้จะใจร้าย เธอก็ไม่ได้อยากจะไล่พวกเขาออกหากกู้หนิงยอมขอโทษกู้เซียวเซียว
อย่างไรก็ตาม กู้ม่านและกู้หนิงก็ย้ายออกจากบ้านดีกว่าขอโทษ
“ดี ดีมาก มาดูกันว่าพวกเธอสองคนแม่ลูกจะปีกกล้าขาแข็งได้นานแค่ไหนกัน” หญิงชรากัดฟันด้วยความโกรธ เธอเชื่อว่ากู้ม่านกับกู้หนิงต้องไปอยู่ที่บ้านของกู้ชิงเพราะพวกเขาสนิทกัน ดังนั้นหญิงชราจึงโทรไปหากู้ชิงทันทีและห้ามไม่ให้เธอช่วยกูม่านและกู้หนิง
กู้เซียวเซียวพอใจมากที่กู้หนิงกับแม่ย้ายออกจากบ้านหลังเก่า เธอไม่มีวันลืมที่กู้หนิงตบหน้าเธอสามครั้งเข้านี้
กู้ชิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งแม่โทรมาหาเธอ แต่กู้ม่านก็ไม่ได้ติดต่อมาเธอ นอกจากนี้กู้ชิงหงุดหงิดที่แม่ของเธอห้ามไม่ใช้ช่วยกู้ม่าน
กู้ชิงเกือบจะพลั้งปากเถียงแม่ แต่ครั้งนี้เธอยั้งไว้ได้ทัน “แม่ กู้ม่านเป็นลูกสาวในไส้แม่นะ ทำไมแม่ใจร้ายกับเธอแบบนี้?”
เธอคิดแค่เพียงว่าแม่ไม่ชอบกู้ม่านและกู้หนิงเฉยๆ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเลือดเย็นแบบนี้
แม่ของเธอชื่นชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว เธอและน้องสาว กู้ม่าน จึงไท่ได้รับความรักจากมารดาเท่าไหร่นัก พวกเธอยังถูกรุมรังแกจากพวกพี่ชายและยังต้องคอยทำงานบ้านทั้งหมดตั้งแต่ยังเล็ก
ถ้าหากไม่ใช่เพราะบิดา บางทีพวกเธออาจจะไม่ได้เรียนหนังสือ
กู้ชิงเรียนหนังสือไม่เก่ง และเลิกเรียนเมื่อจบม.ปลาย ส่วนกู้ม่านก็ต้องหยุดเรียนกลางคันเพราะตั้งท้องก่อน
หญิงชราไม่คาดคิดว่ากู้ชิงจะกล้าเถียงเธอ เธอจึงตะโกนด้วยความโกรธ “ฉันไม่ต้องการให้แกมาสอน ถ้ายังอยากเรียกฉันว่าแม่ ก็ทำตามที่ฉันสั่ง! กู้ม่านกับยัยเด็กนรกนั่นสมควรได้รับแล้ว ฉันจะคอยดูว่าพวกมันจะรอดไปได้กี่น้ำ!”
จากนั้นหญิงชราจึงวางสายด้วยความเดือดดาลในหัวใจ
กู้ชิงเจ็บปวดกับนิสัยของแม่เธอ เธอตัดสินใจที่จะไม่เชื่อฟัง เธอห่วงว่ากู้ม่านกับกู้หนิงจะเป็นคนไร้บ้าน เธอจึงโทรหากู้ม่านเพื่อเสนอความช่วยเหลือ
ถึงบ้านเธอจะมีห้องแค่สองห้อง เธอคิดว่าพอจะให้กู้ม่านกับกู้หนิงอาศัยอยู่หนึ่งห้องได้
กู้ม่านรับสายกู้ชิง กู้ชิงบอกว่าเธอรู้ว่ากู้ม่านกับกู้หนิงถูกมารดาไล่ออกจากบ้้านแล้ว กู้ม่านจึงบอกกู้ชิงว่าเธออยู่โรงพยาบาล
เมื่อรู้ว่ากู้ม่านประสบอุบัติเหตุ กู้ชิงทนไม่ไหวอยากจะไปเยี่ยมเธอ เมื่อนึกได้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงจะเลิกงานแล้ว เธอจึงขอตัวออกมาก่อนและตรงดิ่งมาโรงพยาบาลทันที
กู้ชิงไม่ทราบมาก่อนว่ากู้ม่านอยู่ห้องผู้ป่วย VIP จนกระทั่งเมื่อเธอมาถึง เธอแปลกใจสุดๆ
กู้หนิงบอกแม่ว่าอย่าเพิ่งบอกความจริงกู้ชิงตอนนี้ ดังนั้นเธอจึงบอกกู้ชิงว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลนี้เป็นเพื่อนกู้หนิง กู้หนิงช่วยงานคุณหมอบางอย่าง คุณหมอจึงเป็นคนจัดการทุกอย่าง
และเหตุผลที่ทำไมพวกเธอถึงย้ายออกจากบ้านหลังเก่า กู้ม่านไม่ได้ปิดบัง เธอบอกกู้ชิงถึงเรื่องราวทั้งหมด
ฟังจบ กู้ชิงก็โกรธให้แม่ของเธอรวมทั้งหลินหลี่หยวนและกู้เซียวเซียว เธอเองก็คิดว่ากู้หนิงไม่สมควรจะขอโทษ
กู้เซียวเซียวเป็นเด็กเห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจมาโดยตลอด เธอสมควรถูกตบแล้ว
ถึงแม้กู้หนิงจะเลือดร้อนไปหน่อยที่ท้าทายครอบครัวกู้ และยังย้ายออกจากบ้านหลังเก่า แต่กู้ชิงรู้สึกดีใจที่เห็นกู้หนิงสามารถเอาคืนกลับได้
กู้ชิงกังวลจริง ๆ ว่ากู้หนิงจะเจ็บปวดมากกว่านี้ถ้าเธอทำตัวเหมือนคนขี้ขลาดต่อไป
“กู้ม่าน เธอกับกู้หนิงอยู่บ้านพี่ได้นะ หาบ้านใหม่ต้องใช้เวลา เธอไม่ต้องรีบร้อน” กู้ชิงบอกกู้ม่าน
“อย่ากังวลเรื่องพวกเราเลยพี่ ฉันต้องอยู่โรงพยาบาลอีกสองสามวัน หนิงหนิงกับฉันจะอยู่ที่นี่ชั่วคราว พวกเรากำลังหาบ้านใหม่ ฉันเชื่อว่าพวกเราจะได้บ้านในไม่กี่วันนี้” กู้ม่านอธิบาย
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้” กู้ชิงไม่เซ้าซี้ต่อ
“พี่อย่าบอกใครนะว่าฉันอยู่โรงพยาบาล รู้เฉพาะตัวพี่พอ”
“พี่เข้าใจ ไม่ต้องห่วง” กู้ชิงตอบ เธอจะไม่บอกใครเรื่องนี้
หลังจากจบคาบบ่าย กู้หนิง หยูหมิงซี มู่เค่อ ฮ่าวหรันและเพื่อนของเขาอีกสองคนรวมกลุ่มกับฉู่เพ่ยหาน
พวกเขาต่างเซอร์ไพรส์ยกเว้นหยูหมิงซี
“ว้าว เหล่าพี่น้องทั้งหลาย เร็วเข้า พวกเรามาตั้งกลุ่มในวีแชทกัน” ฉู่เพ่ยหานทักทายพวกเขาทันทีที่เห็น
ฉู่เพ่ยหานเป็นหญิงสาวที่กล้าแสดงออก ถึงแม้เธอจะไม่รู้จักมักจี่กับมู่เค่อหรือพวกฮ่าวหรันมาก่อน เธอก็ไม่รู้สึกแปลกแยกแต่อย่างใดในเมื่ิอทุกคนเป็นกลุ่มเดียวกันแล้ว
ได้ยินดังนั้น ทุกคนก็รู้ว่าฉู่เพ่ยหานก็ยอมรับกู้หนิงเป็นบอสเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ยังหันมามองกู้หนิงเพื่อต้องการความแน่ใจ
กู้หนิงพยักหน้ายืนยัน เด็กวัยรุ่นเหล่านี้จึงกลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
มีเพียงหยูหมิงซี ที่ค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว เธอขี้อายและไม่ค่อยพูด แต่คนอื่นก็ไม่ได้ละเลยเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกโดดเดี่ยว เธอพยายามที่จะพูดคุยกับคนอื่นที่ล่ะน้อย
หลังจากนั้นไม่นานทุกคนเพิ่มบัญชีวีแชทของกันและกัน พวกเขายังมีกลุ่มวีแชทที่เรียกว่า“ ครอบครัวนักสู้”
กู้หนิงพูดไม่ออก นี่มันฟังดูรุนแรงไปหน่อยรึเปล่า? ทุกคนดูเหมือนจะชอบชื่อกลุ่มมากดังนั้นกู้หนิงจึงไม่ว่าอะไร
“มาเลย หัวหน้ากลุ่มต้องส่งอั่งเป่ามาให้เรา” ฮ่าวหรันเอ่ย
“ไม่มีปัญหา เอาไปเลยยย!” ฉู่เพ่ยหานที่เป็นหัวหน้สกลุ่มวีแชทเอ่ยขึ้น
เธอส่งอั่งเปาจำนวน 888 หยวน มี 7 คนในกลุ่มและทุกคนจะสุ่มได้จำนวนเงินไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับโชคพวกเขา
กู้หนิงโชคดีที่สุด เธอได้ 300 หยวน ตามมาด้วยหยูหมิงซี 200 หยวน
ฉู่เพ่ยหานและคนที่เหลือได้เงินกันคนล่ะนิดหน่อย ฮ่าวหรันได้แค่สามหยวน “อะไรอ่ะ? ทำไมฉันถึงโขคไม่ดีแบบนี้เนี่ย! สามหยวน? ล้อเล่นกันแน่เลย”
จากนั้นทุกคนก็ไปยังป่าเล็กหลังโรงเรียนเพื่อฝึกซ้อม
ฉู่เพ่ยหานไม่ได้เป็นพยานรับรู้ว่ากู้หนิงเก่งการต่อสู้แค่ไหน ดังนั้นเธอจึงตื่นเต้นที่จะขอลองดู เมื่อทุกคนเดินมาถึงที่หมาย เธอก็ขอท้าดวลกู้หนิง
ฉู่เพ่ยหานมีความชำนาญในการต่อสู้ ทั้งยังเคยฝึกจากผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว ดังนั้นเธอจึงมีทักษะมากกว่าพวกฮ่าวหรัน
ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่ชนะฉู่เพ่ยหานในทันที
Chapter 50: ฉันชอบเธอ
ถึงอยากนั้นก็ตามผ่านไปไม่กี่รอบ ฉู่เพ่ยหานก็พ่ายแพ้ในสิบท่า ถึงแม้เธอจะแพ้ ฉู่เพ่ยหานก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง กลับกันเธอรู้สึกตื่นเต้นมากกว่า
ถ้ากู้หนิงไม่อาจเอาชนะเธอได้ง่ายๆ เธอคงคิดผิดที่เลือกกู้หนิงเป็นหัวหน้า ฉู่เพ่ยหานมีความสุขที่เลือกไม่ผิดคน
ในขณะเดียวกันฉู่เพ่ยหานก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา “กู้หนิง ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าใครจะเก่งกว่ากันระหว่างเธอกับพี่ชายฉัน เธออยากจะลองสู้กับเขาดูบ้างไหมสักวัน?
“ได้สิ” กู้หนิงเห็นด้วย เธออยากจะลองสู้กับคนที่มีความแข่งแกร่งระดับเดียวกันกับเธอ
และพี่ชายของฉู่เพ่ยหานก็น่าจะเป็นคนนั้น
เมื่อกู้หนิงอนุญาต ฉูเพ่ยหานก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอย แต่พี่ชายของเธอไม่ได้อยู่ในเมือง F ตอนนี้ เขาจะกลับมาในอีกหนึ่งสัปดาห์
จากการฝึกซ้อมกับกู้หนิง ฉู่เพ่ยหานก็ประหลาดใจที่กู้หนิงเป็นมืออาชีพเหมือนกับพี่ชายของเธอ
ในขณะเดียวกันเธอก็สงสัยในตัวกู้หนิง ว่าเธอเกิดมาในครอบครัวอยากจนจริงๆหรือ?
ถึงแม้เธอจะสงสัย เธอก็ไม่ได้อยากจะตรวจสอบกู้หนิงเพราะทำอย่างนั้นถือเป็นการไม่ให้เกียรติกัน
ฉู่เพ่ยหานไม่สนว่าความลับของกู้หนิงคืออะไร เธอยังเชื่อมั่นว่าเธอคบคนไม่ผิด
ในคาบเรียนตอนเย็น มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาขวางทางกู้หนิงไว้ขณะที่เธอกำลังเดินกลับเข้าห้องเรียน
เขาสูงราว180เซนติเมตรและหน้าตาดี แต่สีหน้าของเขานั้นเคร่งเครียด
อย่างไรก็ตามกู้หนิงรู้ว่าเขาทำสีหน้าเคร่งเครียดเพื่อกลบเกลื่อนความประหม่าของตัวเอง เขาไม่ได้จะเข้ามาหาเรื่องเธอ
แต่กู้หนิงก็ไม่แน่ใจว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรกันแน่?
บรรดานักเรียนที่นั่งอยู่ใต้หน้าต่างตรงทางเดินมองมายังเธอ พวกเขาคิดว่าคงจะมีใครสักคนเข้ามาหาเรื่องกู้หนิงอีกแล้ว จ้าวเฟยเฟยและเพื่อนอดไม่ไหวที่จะรอชมด้วยความตื่นเต้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ทุกคนถึงกับกรามค้างเลยทีเดียว
“กู้หนิง ฉันชอบเธอ เธอเดตกับฉันได้ไหม” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม
ได้ยินแบบนั้น กู้หนิงนิ่งตะลึงไปไม่เป็น เธอไม่คาดคิดว่าเด็กหนุ่มจะพูดว่าเขาชอบเธอ
นักเรียนคนอื่นต่างอยู่ในอาการช็อกเช่นกัน
อะไรนะ? เขาชอบเธอ? ไม่ได้มาหาเรื่องเหรอ?
“ขอโทษด้วย” กู้หนิงบอกปัด เธอไม่อยากเดตกับใครตอนนี้ และเด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ใช่แบบที่เธอชอบ นอกจากนี้ กู้หนิงอายุจริงคือยี่สิบห้าปี เธอไม่สนใจเด็กหนุ่มวัยรุ่น
“ทำไม?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทันใด
“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ” กู้หนิงตอบ
เด็กหนุ่มไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จากนั้นเขาจึงเอ่ยว่า “ถ้างั้นเราเป็นเพื่อนกันได้ไหม?”
“ถ้าพวกเรารู้จักกันดีพอก็อาจเป็นเพื่อนกันได้ แต่ตอนนี้เราเป็นแค่คนแปลกหน้า เร็วเกินไปที่จะพูดว่าเป็นเพื่อน” กู้หนิงไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตกลง
เด็กหนุ่มเชื่อว่าตัวเองยังมีความหวัง “กู้หนิง ยินดีที่ได้รู้จักเธอนะ ฉันอ้ายยี่จากห้องหก เป็นฉันเองที่ไร้มารยาทไปหน่อย ขอโทษนะ แต่ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่จนกว่าเธอจะยอมรับ” อัายยี่กล่าวอย่างจริงใจ
เสียงออดดังขึ้นบอกว่าคาบเรียนตอนเย็นได้เริ่มแล้ว อานฉีบอกลากู้หนิงจากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
กู้หนิงกับหยูหมิงซีก็เดินเข้าห้องเรียนตัวเอง
เมื่อกู้หนิงก้าวเท้าเข้าไป สายตาของจ้าวเฟยเฟยก็จับจ้องกู้หนิงตลอดทางแม้ว่าเธอจะหวาดกลัวกู้หนิงและฮ่าวหรันเมื่อวาน แต่เธอยังคงอิจฉากู้หนิงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
มันเป็นเรื่องยากสำหรับจ้าวเฟยเฟยที่จะเข้าใจได้ว่าทำไมกู้หนิงถึงมีคนชื่นชอบมากมาย ในสายตาของเธอ กู้หนิงก็แค่สวยกว่าคนธรรดาทั่วไปนิดหน่อยและไม่ได้สวยจนน่าตะลึง กู้หนิงยังมาจากครอบครัวที่ยากจนอีกด้วย หน้ำซ้ำยังเรียนไม่ได้เรื่อง
แต่มู่เค่อเด็กหนุ่มที่จ้าวเฟยเฟยชอบกลับเรียกกู้หนิงว่าบอสของเขา เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง!
จ้าวเฟยเฟยเริ่มเดือดขึ้นมาอีกครั้ง เธอคิดหาวิธีที่จะทำลายกู้หนิง
พวกนักเลงกลุ่มที่แล้วทำพลาด จ้าวเฟยเฟยไม่อยากทำพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง ส่วนกู้หนิง เธอชินกับสายตาไม่เป็นมิตรของจ้าวเฟยเฟยซะแล้ว และเธอก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ
หลังจากจบคาบเรียนตอนเย็น กู้หนิงก็ตงไปโรงพยาบาลทันที เธอใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการวิ่งไปถึงที่นั่น
ในเวลานั้นมีคนไม่กี่คนอยู่ในโรงพยาบาล มันดูเงียบวังเวงและน่ากลัวไปหน่อย
เมื่อกู้หนิงไปถึงห้องผู้ป่วย กู้ม่านจึงบอกกู้หนิงว่ากูชิงมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลเมื่อวาน
กู้ม่านยังบอกถึงเหตุผลที่กู้ชิงมาที่นี่ เธอมองกู้หนิงอย่างห่วงใย เธอกังวลว่ากู้หนิงจะรู้สึกเศร้า
“ยายแก่ชั่ว!” กู้หนิงเย้ยหยัน เธอโกรธไม่ได้เศร้าเลยสักนิด
ความโกรธของเธอไม่ได้มาจากที่ยายใจร้ายกับเธอ แต่เพราะกู้ม่าน กู้ม่านเป็นลูกสาวแท้ๆของยายเธอ
กู้หนิงทราบมาตลอดว่ายายของเธอชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่เธอไม่คิดว่าหญิงแก่จะเป็นคนเลือดเย็นได้ขนาดนี้
และกู้เซียวเซียวก็เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้
กู้ม่านถอนหายใจยาว เธอเจ็บในใจลึกๆมากกว่ากู้หนิง
ถึงกู้หนิงจะทำสิ่งที่ผิดพลาด กู้ม่านอาจจะโกรธหรือใจสลาย เธอก็จะไม่เกลียดลูกสาวของเธอหรือแม้แต่ปฏิบัติกับเธอแย่ๆ กู้ม่านจะให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างลูกสาว
เพราะ…….
กู้ม่านมองดูกู้หนิง จากนั้นก็ค่อยๆจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เธอดูเศร้าราวกับกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ กู้หนิงรู้ว่ากู้ม่านต้องคิดถึงพ่อผู้ให้กำเนิดกู้หนิง
เธอดูเหมือนเขาขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่มีร่องรอยความเกลียดชังในแววตาของกู้ม่าน เธอยังคงรักเขาอยู่ไม่เสื่อมคลาย ทันใดนั้นกู้หนิงก็อยากรู้เรื่องพ่อแท้ๆของตัวเองขึ้นมา
“แม่คะ แม่พอจะเล่าเรื่องพ่อให้หนูฟังได้ไหมคะ?” กู้หนิงเอ่ยถาม
กู้ม่านลังเลในตอนแรก จากนั้นเธอก็สงบจิตสงบใจลง
หนิงหนิงอายุสิบแปดปีแล้วตอนนี้ เธอไม่อาจเก็บซ่อนความจริงไว้ได้ตลอดไป เธอไม่ต้องการให้กู้หนิงเกลียดพ่อของตัวเองเพราะความเข้าใจผิด
หลังจากนั้นสักพัก กูม่านก็เปิดปากพูด “พ่อของลูกเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี เขามีรูปร่างสูง กำยำ เฉลียวฉลาด แต่เขาความจำเสื่อมและไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แม่เลยเรียกเขาว่า ‘หนิง’ แม่ช่วยชีวิตพ่อของลูกโดยบังเอิญ เขากำลังบาดเจ็บ หลังจากนั้นเราสองคนก็ตกหลุมรักกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พ่อของลูกเป็นคนซับซ้อน เขากลายเป็นหัวหน้างานในบริษัทภายในครึ่งปี จากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการในแผนกวางแผน แต่ถึงอย่างนั้นพ่อของลูกก็ประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปเรื่องงาน รถบัสตกลงในแม่น้ำ มีคนยี่สิบสามคนบนรถบัส มีเพียงห้าคนที่รอดชีวิต พบศพสิบสองศพ แต่หกคนหายสาบสูญรวมถึงพ่อของลูกด้วย”
คนที่หายสาบสูญป่านนี้คงเสียชีวิตไปแล้ว
คอมเม้นต์