กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 67 – 68: วิ่งหนีไป, ศึกชิงแท่นฝนหมึก
Chapter 67: วิ่งหนีไป
“อะไรนะ? ถ้าเธอไม่ได้ชนแจกัน แล้วมันจะตกแตกได้ยังไง!” ชายคนนั้นโต้กลับมา
“แล้วยังไงล่ะ?” กูหนิงเอ่ย
“แจกันใบนี้มากจากยุคคังซีเชียวนะ มูลค่าของมันในตลาดอย่างน้อยก็ปาไปห้าแสนหยวน! แต่เธอยังเป็นเด็กสาว ห้าแสนหยวนก็พอ”
กู้หนิงเย้ยหยัน ผู้ชายคนนี้ช่างหน้าไม่อายซะจริง
“ถ้าอย่างนั้นฉันจ่ายชดเชยให้คุณก็ได้ แต่คำพูดของคุณนั้นยังไม่พอหรอกนะ ฉันอยากให้ผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์มัน ถ้ามันมีมูลค่าถึงห้าแสนหยวนจริง ฉันจะจ่ายให้คุณทันที” กู้หนิงเอ่ย
ชายผู้นั้นตื่นตระหนก น้ำเสียงของเขาจึงอ่อนลง “ไม่จำเป็นหรอก! ต้องใช้เงินมากในการจ้างผู้เชี่ยวชาญ ฉันเองก็มีใบรับประกันของแท้ มันสามารถพิสูจน์ได้ว่าแจกันใบนี้เป็นของแท้แน่นอน”
พูดเสร็จเขาก็ดึงเอาใบรับประกันของแท้ออกมา แน่นอนว่ากู้หนิงไม่เชื่อ
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ค่าพิสูจน์ฉันจะเป็นคนจ่ายเอง”
เขาหยุดนิ่งไปหนึ่งวินาที ตอนนี้เขาตระหนักได้ว่าเขาตัดสินใจผิดพลาดเข้าแล้ว แต่เขาไม่อยากจะยอมแพ้ตอนนี้
“ฉันไม่อยากเสียเวลากับเธอ! ฉันต้องการเงินชดเชยเดี๋ยวนี้! จ่ายมาซะ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกตำรวจ” ชายผู้นั้นเอ่ยเตือน เขาล้วงเอามือถือขึ้นมาทำท่าว่าจะโทร
กู้หนิงยิ้มมุมปาก ชายคนนี้กำลังขมขู่เธออยู่
จากนั้นเธอก็พูดอย่างสบายอารมณ์ “เชิญตามสบายค่ะ”
“เธอ….” เขาคาดไม่ถึงว่ากู้หนิงจะไม่กลัวเลยสักนิด ซึ่งนั้นทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในระหว่างนั้น ผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็เข้ามาห้ามไว้ “คุณครับ อย่าหัวเสียไปเลย พวกคุณสามารถต่อรองกันได้ เธอเป็นเพียงเด็กวัยรุ่น มันคงไม่ดีต่ออนาคตเธอถ้าเธอถูกตำรวจจับ ทำไมคุณไม่ลองต่อรองราคากับเธอดู?”
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะเข้ามาช่วยกู้หนิง แต่แท้จริงแล้วเขาก็คือผู้สมรู้ร่วมคิด
แต่แย่หน่อยตรงที่กู้หนิงมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
“เกิดอะไรขึ้น?” เสียงชายชราดังขึ้นมา
จากนั้นไม่นานก็มีกลุ่มคนเดินออกมาจากฝูงชน ชายชราสองคนอายุอานามราวๆเจ็ดสิบปีอยู่ด้านหน้า
หนึ่งในนั้นคืออาจารย์ฝู
“สาวน้อย เป็นเธอนั่นเอง? เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นว่าเป็นกู้หนิง อาจารย์ฝูก็ประหลาดใจ ดูเหมือนว่ากู้หนิงจะมีเรื่อง
ผู้ชายที่เรียกร้องค่าเสียหายจู่ๆก็หน้าถอดสี
เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักคนกลุ่มนี้
“โอ้ มันเป็นอุบัติเหตุ แค่อุบัติเหตุ” กู้หนิงยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ผู้ชายคนนั้นก็พูดขึ้นมาก่อน เขาเปลี่ยนความคิดยูเทิร์นอย่างไว
เขาเกรงกลัวชายชราตรงหน้าเขา
ไม่มีใครในตลาดขายของเก่าที่จะไม่รู้จักอาจารย์ฝูและอาจารย์หยวน ทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการ ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขา โดยเฉพาะอาจารย์หยวน เขาไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ว่าเมือง G แต่ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของเก่าอีกด้วย เขาสามารถบอกได้ทันทีว่าแจกันที่ตกแตกเป็นของแท้หรือของปลอมเพียงใช้ตามอง
ผู้ชายสองคนที่ต้องการหาประโยชน์จากกู้หนิงกำลังช็อคกับความจริงที่ว่ากู้หนิงรู้จักกับท่านอาจารย์ฝูและท่านอาจารย์หยวน
อาจารย์หยวนและอาจารย์ฝูเข้าใจได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาเห็นเศษแจกันตกแตกบนพื้น ทั้งคู่ไม่พอใจ
คำว่า ‘อุบัติเหตุ’ ไม่น่าจะใช่เรื่องปกติ แต่เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นกับกู้หนิง คนที่ทำความผิดก็ชักจะร้อนตัวขึ้นมาแล้ว
อาจารย์ฝูเห็นกู้หนิงเป็นเหมือนหลานสาว เขาย่อมปกป้องเธอ ดังนั้นอาจารย์ฝูจึงรู้สึกไม่พอใจและเอ่ยถามว่า
“เป็นอุบัติเหตุจริงๆรึเปล่า?”
ผู้ชายที่อ่อนวัยกว่ามีเหงื่อซึมตามไรผม เขาอยากจะตอบว่าใช่ แต่มันไม่น่าจะเป็นคำตอบที่ฉลาดเท่าไหร่
ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจทนแรงกดดันจากอาจารย์ฝูได้อีกแล้ว เขาเอ่ยขอโทษ “ท่านอาจารย์ฝู ผมต้องขออภัยด้วย เป็นความผิดผมเอง ผมสัญญาว่าจะไม่ทำมันอีกแล้วครับ”
“คนที่นายต้องขอโทษไม่ใช่ฉัน” อาจารย์ฝูโกรธ
ผู้ชายคนนั้นจึงหันมาหากู้หนิง เขาโค้งตัวลง “คุณหนู ผมขอโทษจริงๆ ได้โปรดยอมรับคำขอโทษจากผมด้วย”
“ครั้งนี้ฉันจะยอมรับคำขอโทษ แต่คนของฉันจะจับตาดูพวกคุณ ถ้ากล้าทำอีกครั้งล่ะก็ พวกคุณได้ไปนอนอยู่ในคุกแน่!” กู้หนิงพูด
เธอขู่พวกเขาเพื่อไม่ให้ทำมันอีกครั้ง
“แน่นอน แน่นอน”
ชายสองคนตอบพร้อมกัน ตอนนี้พวกเขาดูเหมือนหนูที่อยู่ตามถนน ความคิดเดียวที่มีอยู่ตอนนี้คือรีบหนีออกจากตรงนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
จากนั้นพวกเขาก็วิ่งหนีหายไป
“เรื่องแบบนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆ เธอเองก็ต้องระตัวไว้” อาจารย์ฝูพูดกับกู้หนิง ถ้าหากพวกเขามาไม่ทัน กู้หนิงอาจจถูกฉกฉวยเอาประโยชน์จากพวกมิจฉาชีพได้
“หนูจะระวังค่ะ คุณปู่ฝู” แม้ว่ากู้หนิงจะไม่ยอมให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายๆ เธอก็เลือกตอบอาจารย์ฝูที่หวังดีด้วยความจริงใจ
“ดี เอาล่ะฉันขอแนะนำ นี่คืออาจารย์หยวน ประธานสมาคมโบราณวัตถุ” อาจารย์ฝูแนะนำกู้หนิงให้รู้จัก
“ยินดีที่ได้พบค่ะ อาจารย์หยวน” กู้หนิงทักทายอย่างสุภาพ
“เช่นกัน” อาจารย์หยวนเป็นคนเข้มงวด โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ ดังนั้นเขาจึงตอบกู้หนิงแบบไว้ตัว แต่เขาก็ไม่ได้ไม่ชอบเธอ
“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไร หนูต้องขอตัวก่อน” กู้หนิงเอ่ย หลังจากที่อาจารย์ฝูพยักหน้าอนุญาต กู้หนิงก็ขอตัวออกมา
ต่อมาเธอก็ใช้ตาทิพย์ตรวจสอบของที่วางอยู่เรียงรายข้างทาง
ห่างไปไม่กี่เมตร เธอเห็นวัตถุที่มีไอพลังงานออกมา มันคือจานฝนหมึก
กู้หนิงเดินเข้าไปหาทันที เธอถามราคา จากนั้นก็จ่ายเงินเสร็จสรรพ เธอจ่ายไปแค่ห้าพันหยวนสำหรับของโบราณของแท้
อาจารย์ฝูและอาจารย์หยวนที่เดินอยู่ข้างหลังไม่ไกลจากกู้หนิง พวกเขาต่างเห็นการกระทำของกู้หนิงและดูตกอกตกใจ
พวกเขาไม่รู้ว่ากู้หนิงเข้าใจเรื่องของโบราณหรือเปล่า เธอซื้อมันโดยไม่มีข้อสงสัยหรือกังขาใดใด
“สาวน้อย เธอ…” อาจารย์ฝูเดินเข้าไปหากู้หนิงฉับไว เขาต้องการเข้าไปห้ามเธอแต่ก็ช้าไปแล้ว การซื้อขายจบลงแล้ว อาจารย์ฝูได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วง
“เธอรู้เรื่องของโบราณรึเปล่า สาวน้อย?” อาจารย์ฝูเอ่ยถามขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงจัง
ถึงแม้อาจารย์หยวนจะไม่ชอบใจการกระทำของกู้หนิง แต่เขาก็ไม่ได้ตัดสินเธอในเมื่อมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา
Chapter 68: ศึกชิงแท่นฝนหมึก
“เอ่อ ก็ไม่เชิงค่ะ” กูหนิงตอบ
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงซื้อที่ฝนหมึกโดยไม่คิดให้รอบคอบ?” อาจารย์ฝูตักเตือน เขาคาดหวังในตัวกู้หนิงมากกว่านี้
“เพราะสัญชาตญาณค่ะ? ไม่ทราบว่าอาจารย์ทั้งสองมีเวลาดื่มชาสักหน่อยไหมคะ? อาจารย์หยวน คุณช่วยหนูตรวจสอบของชิ้นนี้ได้ไหมคะ?”
อาจารย์หยวนเป็นผู้เชี่ยวชาญของเก่า เขาชื่นชอบของเก่าเป็นพิเศษและไม่เคยปฎิเสธที่จะตรวจสอบมัน
เมื่อเห็นกู้หนิงมั่นใจอย่างกับว่าที่ฝนหมึกเป็นของแท้ อาจารย์หยวนก็เกิดความอยากรู้ขึ้นมา ถ้าที่ฝนหมึกเป็นของแท้จริงๆ มันคงไม่สะดวกที่จะตรวจสอบที่นี่ ดังนั้นอาจารย์หยวนเลยตอบว่า
“ก็ได้”
จากนั้นพวกเขาเดินเข้าไปยังร้านน้ำชาพวกเขามีห้องส่วนตัวเนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญทั้งสองท่าน
ก่อนที่ทุกคนจะนั่งลง อาจารย์หยวนก็เปิดปากพูดขึ้น “สาวน้อย ขอฉันดูหน่อยสิ”
แท่นฝนหมึกอยู่ในมือกู้หนิง เมื่ออาจารย์หยวนเอ่ยปาก เธอก็ยื่นมันให้เขาอาจารย์หยวนรับที่ฝนหมึกมาและพินิจพิเคราะห์มัน
อาจารย์ฝูและกู้หนิงต่างนั่งนิ่งเงียบ ลิ้มรสชาติของชา
อาจารย์หยวนเอาแต่สังเกต แตะและถูมันอยู่สักพัก สุดท้ายประกายตาสดใสของเขาก็สว่างวาบขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ของจริง! นี่มันของจริง ที่ฝนหมึกนี้มาจากยุคเฉียนหลง
“อะไรนะ?!” ได้ยินแบบนั้น อาจารย์ฝูก็แปลกใจและตื่นเต้นไปพร้อมกัน
ของเก่าอันมีค่าเช่นนี้ถูกค้นพบโดยเด็กสาววัยรุ่นซึ่งทำให้อาจารย์หยวนทึ่งมาก เขาถามว่า “สาวน้อย เธอพบมันโดยสัญชาตญาณเธองั้นเหรอ?”
พูดตามตรงอาจารย์หยวนไม่เชื่อว่ามันจะง่ายขนาดนั้น กู้หนิงมีความมั่นใจมากราวกับว่าเธอรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นของแท้
กู้หนิงรู้ว่าข้อแก้ตัวของเธอไม่น่าเชื่อถือ แต่เธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับของโบราณเท่าไหร่ ดังนั้นเธอจึงได้แต่ตอบว่า “ใช่ค่ะ”
อาจารย์หยวนและอาจารย์ฝูยังไม่เชื่อ แต่ในเมื่อเด็กสาวตอบแบบนั้น พวกเขาก็ไม่ถามอะไรต่ออีก
อาจารย์หยวนมองที่ฝนหมึกในมือ เขาตัวสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น “สาวน้อย เธออยากจะขายมันไหม? ถ้าเธออยาก ฉันสามารถจ่ายได้ในราคาตลาด” อาจารย์หยวนเอ่ย
อาจารย์หยวนไม่เพียงแต่จะเชี่ยวชาญของเก่าแล้ว แต่เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการคัดลายมืออีกด้วย เขารักเครื่องมือที่เกี่ยวกับงานเขียนทุกชนิด
“อ้าว อาจารย์หยวน ผมรู้จักกู้หนิงมาก่อนคุณ ถ้าเธอจะขาย ผมต้องได้เป็นคนซื้อคนแรก คุณจะมาฉวยเอาจากผมไม่ได้!” อาจารย์ฝูลุกขึ้นทันที
ถึงแม้อาจารย์ฝูจะไม่เชี่ยวชาญเท่าอาจารย์หยวน แต่เขาก็เป็นนักสะสมของเก่าตัวยง เขาไมได้ชอบงานเขียนเป็นพิเศษ แต่เขาชอบสะสมของโบราณ
กู้หนิงประดักประเดิด เธอไม่ต้องการเห็นผู้อาวุโสทั้งสองที่น่าเคารพนับถือต้องแย่งชิงที่ฝนหมึก
กู้หนิงเข้าใจอาจารย์ฝูที่ต้องการเป็นคนสำคัญเพราะเขารู้จักกับเธอก่อน ส่วนอาจารย์หยวนปกป้องแท่นฝนหมึกไว้ในอ้อมแขน เขามองอาจารย์ฝูอย่างไม่สบอารมณ์
“อาจารย์ฝู ท่านไม่ได้ชอบงานเขียน ท่านจะอยากได้มันไปทำไม?”
“ผมไม่ได้ชื่นชอบงานเขียนก็จริง แต่ผมรักของโบราณ!” อาจารย์ฝูกล่าว
อาจารย์หยวนกลัวว่ากู้หนิงจะขายแท่นฝนหมึกให้อาจารย์ฝูเพราะทั้งสองรู้จักกันก่อนเขา เขาต้องขุดหลุมพราง
“ถ้าท่านไม่แย่งกับผม ผมจะให้ไวน์กิ่งพีชที่บ่มมาแล้วสิบปีแก่ท่าน” อาจารย์หยวนกล่าวกับอาจารย์ฝู
ได้ยินแบบนั้น ดวงตาของอาจารย์ฝูก็สว่างไสว เขาหยุดแย่งแท่นฝนหมึกแต่ต่อรองไปว่า
“สองขวด”
อาจารย์หยวนขมวดคิ้ว เขาลังเล แต่เพื่อแท่นฝนหมึก เขาจึงตกลงในที่สุด
“ได้ สองขวด” อาจารย์ฝูขบฟันแน่น
จากนั้นอาจารย์ฝูก็พึงพอใจ เขากลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม และอาจารย์ฝูก็เพิ่งนึกได้ว่ากู้หนิงยังไม่ได้ตกลงจะขายแท่นฝนหมึก
“ว่าไง สาวน้อย เธอจะขายให้คุณปู่หยวนคนนี้ไหม?” อาจารย์หยวนมองกู้หนิงอย่างเว้าวอน ดูเหมือนว่าแท่นฝนหมึกจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขาไปแล้ว ถ้ากู้หนิงเอามันคืน มันคงเหมือนเฉือนเนื้อสดๆเขาออกมา
อาจารย์หยวนในยามนี้ดูแตกต่างจากอาจารย์หยวนที่เคร่งขรึมก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
เหตุผลแท้จริงที่กู้หนิงเชิญอาจารย์หยวนมาพิสูจน์แท่นฝนหมึกก็เพื่อตั้งใจจะขายให้เขานั่นเอง
เธอไม่แน่ใจว่าอาจารย์หยวนจะสนใจซื้อมันรึเปล่า แต่ในเมื่อเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญของโบราณ บางทีเขาอาจจะไม่อยากพลาดของโบราณของแท้ก็ได้
“แน่นอนค่ะ” กู้หนิงตอบ
อาจารย์หยวนยิ่งกว่าดีใจ “ดีมาก สาวน้อย! ฉันเองก็จะไม่โกหกเธอเช่นกัน แท่นฝนหมึกนี้มาจากยุคเฉียนหลง มันเป็นของนักกวีชื่อดัง จางเว่ยเต๋า มันมีมูลค่าอยู่ที่ห้าล้านหยวน ดังนั้นฉันจะจ่ายให้เธอห้าล้านหยวน”
“ไม่มีปัญหาค่ะ” กู้หนิงเห็นด้วย เธอไม่ได้สนว่ามันจะมีราคาเท่าไหร่ตราบใดที่เป็นราคาที่เธอยอมรับได้
“สาวน้อย ถ้าครั้งหน้าเธอโชคดีแบบนี้อีก เธอต้องขายให้ฉันเป็นคนแรก!” แม้ว่าอาจารย์ฝูจะไม่แย่งกับอาจารย์หยวนแล้วแต่เขาก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ
กู้หนิงยิ้มน้อยๆ “คุณปู่ฝู คุณทิ้งแท่นฝนหมึกเพื่อไวน์กิ่งพีชสองขวดเองนะคะ หนูคิดว่าคุณปู่ต้องเป็นนักดื่มไวน์ตัวยงแน่ หนูมีแก้วไวน์ คุณปู่อยากจะดูไหมคะ?
พูดเสร็จกู้หนิงก็หยิบเอาแก้วไวน์จากกระเป๋าเป้ของเธอออกมา
อาจารย์หยวนและอาจารย์ฝูนิ่งตะลึงไปชั่วครู่ พวกเขามีความคิดแบบเดียวกันว่านี่เธอโชคดีอีกแล้วหรือ?
ถ้าหากเธอโชคดีอีกครั้ง เธอต้องเป็นเด็กสาวนำโชคอย่างแน่นอน! หรือเธอต้องมีทักษะความสามารถของเธอเอง
อาจารย์ฝูเขยิบมานั่งใกล้กู้หนิง เมื่อเธอหยิบเอาแก้วไวน์ออกมา อาจารย์ฝูก็ฉวยเอาจากมือเธอทันทีและจ้องมัน
แต่เขาไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญขนาดนั้น จากนั้นเขาก็ส่งให้อาจารย์หยวนดู “อาจารย์หยวน ช่วยดูให้ผมที”
ไม่ต้องสงสัย อาจารย์หยวนคว้าแก้วจากอาจารย์ฝูมาดูทันที
แก้วไวน์เป็นทรงกลมตั้งตรง อืมรูปทรงของมันมาจากยุคถัง จากนั้นอาจารย์หยวนก็เพ่งดูตัววัสดุและเครื่องหมาย
อาจารย์ฝูที่นั่งถัดจากอาจารย์หยวนอย่างกระวนกระวาย เขาอยากจะเปิดปากพูดหลายครั้ง อยากจะถามผลของมันแต่ไม่อยากทำให้เขาเสียจังหวะ
ทันใดนั้นอาจารย์หยวนก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ของจริง! มันมาจากยุคราชวงศ์ถัง มันเป็นแก้วไวน์ที่ใช้ในราชวงศ์ชนชั้นสูง”
“อะไรนะ? จริงๆหรือ?” อาจารย์ฝูกระโดดลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้อย่างตื่นเต้นดีใจเห็นแบบนั้นกู้หนิงก็เป็นห่วงอาจารย์ฝู เธอไม่อยากเห็นเขาล้ม
“ใช่ มันเป็นของแท้แน่นอน แก้วไวน์ที่ใช้ในราชวงค์ยังมีเก็บที่พิพิธภัณฑ์ ผมเคยเห็นพวกมัน” อาจารย์หยวนตอบ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมชอบมัน!” อาจารย์ฝูหัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจ เขากลัวว่าอาจารย์หยวนจะแย่งมันไปจากเขา ดังนั้นเขาจึงคว้ามันคืนกลับมา
กู้หนิงและอาจารย์หยวนได้แต่นิ่งพูดไม่ออก
คอมเม้นต์