กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 73 – 74: ดราม่าในศูนย์การค้า, ปลดออก
Chapter 73: ดราม่าในศูนย์การค้า
กู้หนิงกำลังจะเอื้อมมือไปจับ จู่ๆก็มีมือมาฉวยมันไปก่อนเธอ “ฉันชอบตัวนี้ ฉันจะเอาไปลอง!”
ผู้หญิงอายุสี่สิบอยู่ในชุดหรูหรามีราคา ดูดีเฉพาะภายนอกแต่มารยาทนั้นทรามมาก!
ผู้หญิงที่มีมารยาทที่ดีจะไม่ฉวยเอาของจากมือคนอื่น
“หยุดนะ” กู้หนิงเอ่ยเสียงเข้ม เธอไม่พอใจ กู้หนิงทนไม่ได้ที่ผู้หญิงคนนี้ฉวยเอาของจากมือเธอ
แต่หล่อนกลับเดินหนีราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงของกู้หนิง
เห็นแบบนั้นแล้วกู้หนิงก็ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เธอเดินไปขวางทางผู้หญิงคนนั้นไว้
ผู้หญิงคนนั้นเกือบชนกู้หนิง
เธอรู้สึกกลัวกู้หนิงเล็กน้อยและตะโกนต่อว่า “เธอจะทำอะไร เด็กน้อย? จะทำร้ายฉันงั้นเหรอ? เธอต้องรับผิดชอบ!”
เสียงตะโกนของหล่อนเรียกความสนใจจากคนในร้าน ทุกคนต่างเดินเข้ามามุงดูพวกเขา
“ขอโทษ แต่ฉันเลือกชุดนี้ก่อนคุณ” กู้หนิงเอ่ยเสียงเย็น ถ้าเธอไม่อยากได้มันเธอคงปล่อยผ่านทำไม่สนใจ แต่ในเมื่อเธออยากได้ เธอไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้มาฉวยมันไปจากเธอง่ายๆ
“จิ๊ แค่เพราะเธอเลือกมันก่อนก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นของเธอ ตอนนี้ชุดนี้มันอยู่ในมือฉัน! เอาล่ะ ถ้าหากฉันบอกว่าฉันเลือกเสื้อผ้าทั้งหมดในร้าน ก็แปลว่าเธอไม่สามารถซื้อได้สักชิ้นงั้นสิ?” ผู้หญิงคนนั้นกล่าวด้วยความไม่พอใจ
“ว้าว ไม่ยักรู้ว่าคุณรวยขนาดนี้ คุณอยากได้เสื้อผ้าทุกชุดในร้าน! เฮ้ คุณได้ยินคุณผู้หญิงคนนี้พูดแล้วใช่ไหมคะ? เธออยากได้เสื้อผ้าทุกชิ้นในร้าน ฉันคิดว่าค่าคอมมิชชั่นที่คุณจะได้วันนี้อาจสูงกว่าที่คุณได้ทั้งปี” กู้หนิงพูดกับพนักงานขายหญิง เธอจงใจบิดเบือนความจริง
“หุบปากนะ! ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น!” หล่อนตะโกนใส่หน้ากู้หนิงด้วยความโกรธ ถึงแม้เธอจะรวยแต่เสื้อผ้าแบรนด์นี้มีราคาแพงมาก ราคาหนึ่งชุดก็ปาไปหลายหมื่นหยวน เสื้อผ้าทั้งหมดในร้านคงมีมูลค่าประมาณอย่างน้อยหนึ่งล้านหยวน เธอไม่สามารถซื้อพวกมันได้ทั้งหมด
ทุกคนรู้ว่ากู้หนิงบิดเบือนคำพูดแต่ก็ไม่มีใครเอาใจใส่จริงจัง
“งั้นเหรอคะ? เพราะถ้าเป็นฉัน ฉันจะซื้อมัน แล้วคุณล่ะ?” กู้หนิงยั่วโมโห
“เธอ…” หล่อนโมโห หล่อนยังเข้าใจว่ากู้หนิงตั้งใจท้าทายเธอ
“ขอโทษค่ะ คุณนาย คุณหนูท่านนี้เป็นคนเลือกชุดนี้ก่อน ไม่ทราบว่าคุณนายสนใจจะดูตัวอื่นแทนไหมคะ?” พนักงานหญิงกล่าวขอโทษ
ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็เข้าใจสถานการณ์ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนไม่พอใจกับพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้
“เสี่ยวลี่ คุณนายเชาเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ถือบัตรวีไอพี เธอมีสิทธิ์ได้เลือกก่อน” พนักงานหญิงอีกคนที่อยู่กับคุณเชาพูดขึ้น เธอมองพนักงานหญิงที่อยู่กับกู้หนิง
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่เกี่ยวกับลำดับความสำคัญที่เรียกว่าให้เลือกก่อน พนักงานขายคนนี้ช่างเป็นคนเลือกปฏิบัติ
ถึงอย่างนั้นเสี่ยวลี่ก็ไม่ได้สนใจกับคำเตือน “คุณหวัง ฉันไม่เห็นด้วยกับคุณค่ะ คนที่มาถึงก่อนก็ได้เลือกก่อน ถึงแม้จะเป็นลูกค้าวีไอพีก็ไม่สามารถแย่งชุดจากลูกค้าท่านอื่นได้”
“เธอ..!” พนักงานแซ่หวังหัวเสีย
เธอเป็นคนมีรสนิยมสูงและยังเลือกปฏิบัติ เธอคอยบริการแต่คนรวยๆ ในขณะที่คุณนายเชาเป็นลูกค้าประจำที่นี่ เธอต้องการเป็นมิตรกับคุณนายเชา เธอจึงเสนอหน้าออกตัวช่วย
นี่เป็นร้านค้าของแบรนด์ดีไซเนอร์ต่างประเทศ ชุดที่ถูกที่สุดมีราคาหลายหมื่นหยวน นอกจากนี้พนักงานขายอาจมีค่าคอมมิชชั่น 2% จากยอดขาย
ทุกครั้งที่คุณนายเชามาที่ร้าน เธอจะใช้จ่ายเงินประมาณแปดหมื่นหยวน ค่าคอมมิชชั่นที่ได้ก็หลายพันหยวน
คนที่มุงดูล้วนเห็นด้วยกับเสี่ยวลี่ พวกเขารู้สึกไม่พอใจ
“ใช่ ถึงจะเป็นลูกค้าวีไอพีก็ไม่ควรหยิบเอาของจากลูกค้าคนอื่น มันไม่ยุติธรรม!”
“มันไม่ยุติธรรม เลือกปฏิบัติ!”
“ทำไมเธอถึงขายให้แต่ลูกค้าวีไอพีก่อนล่ะ? ทุกคนที่ต้องการซื้อเสื้อผ้าที่นี่ต้องมีบัตรวีไอพีก่อนงั้นเหรอ?”
“จริง!”
ลูกค้าที่ยืนอยู่รอบๆต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์พนักงานแซ่หวัง เธอรู้สึกเสียหน้าแต่ไม่กล้าโต้กลับ
คุณนายเชาหงุดหงิด “แล้วไง? ฉันมีเงิน ฉันจะซื้ออะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ ไม่ใช่ธุระอะไรของพวกเธอ”
“คุณสามารถซื้ออะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่คุณจะแย่งเอาจากคนอื่นไม่ได้” มีใครบางคนโต้กลับ
“ใช่ คุณผู้หญิงท่านนี้ไม่มีมารยาทเลยสักนิด”
“นี่ พวกเธอรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ถึงกล้าพูดแบบนี้กับฉัน! ฉันเป็นภรรยาของประธานบริษัทโจวฝูเชียวนะ!” คุณนายเชาโมโห เธอประกาศฐานะของตัวเองเสียงดังลั่น
ได้ยินดังนั้นทุกคนก็หุบปากเงียบทันที
พวกเขารู้จักร้านอัญมณีโจวฝูซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน! และพวกเขามีทรัพย์สินหลายล้านรายการ ไม่มีใครกล้าต่อกรกับร้านโจวฝู
กู้หนิงแปลกใจเล็กหน่อย ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นภรรยาของเชาผิง เชาผิงกับโจวเจิ้งหงไม่ถูกกัน ดังนั้นกู้หนิงจึงไม่ชอบครอบครัวของเชาผิงไปด้วย
ลูกค้าคนอื่นต่างเกรงใจตระกูลเชา แต่กู้หนิงไม่ใช่ เธอต่อว่าซึ่งๆหน้า “คุณคิดว่าคุณจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการโดยใช้ฐานะภรรยาประธานบริษัทโจวฝูงั้นหรือ?”
“เธอ…” คุณนายเชาไม่คิดว่ากู้หนิงจะไม่เกรงกลัวตระกูลเชาเลยสักนิด แต่คุณนายเชาภาคภูมิใจเกินไป ในเมือง F มีหลายตระกูลที่รวยกว่าเธอมาก
ในขณะเดียวกัน ผู้จัดการร้านก็เดินออกมา “เกิดอะไรขึ้น?”
ต่อหน้าทุกคน กู้หนิงเปิดปากพูดแบบตรงไปตรงมา “ยินดีที่ได้พบค่ะ ผู้จัดการ ฉันขอถามคุณว่าจริงรึเปล่าที่ลูกค้าวีไอพีสามารถแย่งเสื้อผ้าจากลูกค้าคนอื่นได้ตราบใดที่เธอต้องการ?”
“จะเป็นไปได้ยังไง? ใครที่มาก่อนมีสิทธิ์เลือกก่อน ลูกค้าวีไอพีได้เพียงส่วนลดเท่านั้น” ผู้จัดการร้านรีบอธิบาย จากนั้นเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหันไปทางพนักงานแซ่หวัง
“หวังยุนยุน เกิดอะไรขึ้น?”
ในเมื่อตอนนี้มีลูกค้าวีไอพีในร้านอยู่คนเดียวคือคุณนายเชา พนักงานที่อยู่กับคุณนายเชาคือหวังยุนยุน ผู้จัดการร้านจึงหันไปหาเธอเป็นคนแรก
หวังยุนยุนไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ เธอเกลียดกู้หนิงมากแต่ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้าผู้จัดการร้าน
เหตุการณ์นี้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายอย่างไรดี
Chapter 74: ปลดออก
“กรุณาให้ฉันเป็นคนอธิบายค่ะ พนักงานหญิง ‘เสี่ยวลี่’ เลือกชุดให้ฉันอยู่ และฉันก็ชอบมัน ฉันต้องการจะดูใกล้ๆแต่โชคไม่ดีที่คุณนายเชาคว้ามันไปจากฉัน ฉันขอให้เธอคืนชุดให้ฉัน แต่เธอปฏิเสธ ในขณะนั้นพนักงานหญิง ‘หวังยุนยุน’ ก็พูดว่าคุณนายเชาเป็นลูกค้าวีไอพีและมีสิทธิ์ได้เลือกชุดก่อน” กู้หนิงอธิบาย
สีหน้าของผู้จัดการพลันเปลี่ยนสีทันที เขาไม่สงสัยกับคำอธิบายของกู้หนิง และหันไปต่อว่าหวังยุนยุน
“หวังยุนยุน เธอเป็นอะไรของเธอ? เธอทำงานที่นี่มากี่ปีแล้ว? ทำไมถึงไม่รู้กฎระเบียบ?”
ผู้จัดการรู้ว่าหวังยุนยุนเป็นคนเลือกปฏิบัติ แต่เธอก็ไม่เคยสร้างปัญหา ดังนั้นผู้จัดการก็ไม่อาจทำอะไรได้ ถึงอย่างไรก็ตามผู้จัดการไม่อาจยอมรับได้ว่าเธอทำลายชื่อเสียงของร้านในครั้งนี้
“ฉัน..ฉัน” จู่ๆหวังยุนยุนก็ไม่รู้จะพูดอะไร เธอรู้ว่าการกระทำของเธอนั้นผิด แต่ทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อค่าคอมมิชชั่น
“พอ เธอถูกไล่ออก เธอไม่จำเป็นต้องมาทำงานที่ร้านพรุ่งนี้แล้ว” ผู้จัดการไม่อยากเสียเวลากับหวังยุนยุน เธอเป็นคนทำลายชื่อเสียงของร้าน ผู้จัดการจำเป็นต้องปลดเธอออก
“อะไรนะ?” ได้ยินแบบนั้น หวังยุนยุนก็ตื่นตะลึง เธอคาดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้
ตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง ถ้าเธอถูกไล่ออก เธอไม่อาจหางานที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว เธอขอร้องอ้อนวอน
“ผู้จัดการคะ ได้โปรดให้โอกาสฉันอักสักครั้งนะคะ! ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
“หวังยุนยุน มันถูกเขียนไว้ในสัญญาแล้ว ใครก็ตามที่ทำลายชื่อเสียงของร้านจะถูกไล่ออก ฉันขอโทษด้วย มันเกินมือของฉันที่จะช่วยได้” ผู้จัดการร้านพูด
จากนั้นผู้จัดการร้านก็ไม่สนใจหวังยุนยุนอีก เขาหันมาหาคุณนายเชา เขาอธิบายอย่างสุภาพ
“คุณนายเชา ที่ร้านของเรามีกฎระเบียบ ลูกค้าท่านใดที่มาถึงก่อนก็มีสิทธิ์เลือกก่อน ถ้าคุณชอบชุดนี้จริงๆ ผมเกรงว่าคุณต้องรอจนกว่าคุณหนูท่านนี้จะไม่ต้องการมันแล้ว ได้โปรดคืนชุดให้คุณหนูท่านนี้ด้วยครับ ขอบคุณมากครับ”
แน่นอนว่าคุณนายเชาย่อมไม่พอใจ ไม่ใช่แค่เพราะชุดนี้แต่เพราะเธอเสียหน้าถึงอย่างนั้นในเมื่อผู้จัดการร้านอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่อยากโต้เถียงกับเขา เธอยังต้องการซื้อชุดจากร้านนี้อีกในอนาคต
ถึงแม้จะมีร้านแบรนด์เนมมากมายในเมือง G แต่ร้านนี้มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ฉันไม่ต้องการมันแล้ว ใครสนกันล่ะ!” คุณนายเชาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เธอโยนมันกลับคืนให้กู้หนิงจากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป
เธอถูกทำให้ขายหน้าต่อหน้าทุกคนและไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่ร้านต่อ
กู้หนิงรับชุดได้ทันท่วงที เธอชอบชุดนี้จริงๆ
“ฉันเอาชุดนี้ค่ะและชุดนี้ด้วย ขอเป็นไซส์แอลสำหรับผู้หญิงวัยสี่สิบนะคะ” กู้หนิงยื่นชุดให้พนักงาน
ได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ประหลาดใจแกมทึ่ง
เด็กสาวคนนี้ไม่มองป้ายราคาเลยสักนิด เธอต้องเป็นคนรวยแน่
ยิ่งลูกค้าซื้อเสื้อผ้ามากเท่าไหร่พนักงานก็จะได้คอมมิชชั่นมากเท่านั้น เสี่ยวลี่ดีใจที่เห็นแบบนั้น เธอแนะนำเสื้อผ้าให้กู้หนิงทันทีตามความต้องการของเธอ
ท้ายที่สุด กู้หนิงเลือกเสื้อสเวตเตอร์ กางเกงสองตัวและเสื้อโค้ทสองตัวสำหรับกู้ม่านและกู้ชิง แน่นอนว่าเธอย่อมไม่ลืมลุงเจียงซื่อและลูกพี่ลูกน้องของเธอเจียงซินหยู
เธอซื้อสูทอาร์มานี่ เสื้อสเวตเตอร์และกางเกงสำหรับเจียงซื่อ
ส่วนเจียงซินหยู เธอยังเด็กและไม่จำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง กู้หนิงก็เช่นดัน ดังนั้นเธอจึงไปร้านแบรนด์ธรรมดาๆและซื้อชุดให้เจียงซินหยูและตัวเธอเอง
หลังจากซื้อเสื้อผ้า กู้หนิงก็ซื้อสกินแคร์ให้กู้ม่านและกู้ชิง จากนั้นกู้หนิงก็มีคำถามว่าเธอควรจะซื้ออะไรให้ฉู่เพ่ยหานและคนอื่นๆ?
ของขวัญควรมาจากน้ำใจไม่ใช่ราคา นอกจากหยูหมิงซีคนอื่นๆก็เป็นเด็กบ้านรวย คงไม่เป็นการฉลาดที่จะซื้อของขวัญราคาแพงให้พวกเขา
ผ่านไปสักพักกู้หนิงก็ตัดสินใจซื้อน้ำหอมลังโคมให้ฉู่เพ่ยหานและหยูหมิงซีซึ่งมีราคามากกว่าพนึ่งพันหยวน
หยูหมิงซียังไม่มีมือถือดีๆใช้ ดังนั้นกู้หนิงจึงซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้เธอด้วย เพื่อไม่เป็นการทับถมเพื่อน กู้หนิงไม่ได้ซื้อเครื่องราคาแพงให้ เธอใช้เงินซื้อมือถือเพียงสองพันหยวนเท่านั้น
กู้หนิงซื่อมือถือเครื่องใหม่ให้กู้ม่านและครอบครัวป้ากู้ชิงด้วย
สำหรับฮ่าวหรันและเด็กหนุ่มคนอื่นๆ เธอซื้อกระเป๋าตังค์อาร์มานี่ให้พวกเขา ราคาอยู่ที่ราวๆหนึ่งพันหยวนต่อชิ้น
กู้หนิงพึงพอใจ เมื่อเธอเปิดบริษัท เธอวางแผนเตรียมทำเครื่องประดับจากหยกให้แก่พวกเขาอีกด้วย
เมื่อเธอรับสายโจวเจิ้งหง กู้หนิงก็เกือบช้อปปิ้งเสร็จแล้ว ก่อนที่เธอจะจากไป เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำผู้หญิงเพื่อเก็บของที่เธอซื้อมาไว้ในห้องลับกระแสจิต
สถานที่นัดหมายคือร้านอาหารข้างๆอาคารศูนย์การค้า กู้หนิงเดินตรงเข้าไปยังร้านอาหารทันทีที่ออกจากอาคารศูนย์การค้า
เธอก้าวเข้าไปในลิฟต์ เมื่อประตูลิฟต์กำลังจะปิด ทันใดนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งกระแทกชนกู้หนิงโดยบังเอิญ
“โอ้ะ ขอโทษ ผมกำลังรีบ” เขาเอ่ยขอโทษ
“ไม่เป็นไรค่ะ” กู้หนิงตอบ แต่เธอรู้สึกมีบางอย่างแปลกๆ เพราะเมื่อเขาชนเธอ เธอมีความรู้สึกว่าสัมผัสเข้ากับของที่อยู่เอวของเขา มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโลหะและรูปทรงค่อนข้างคุ้นเคยกับกู้หนิง
ทันใดนั้นความคิดสว่างวาบเข้ามา หรือมันจะเป็นปืน?
เมื่อคิดแบบนั้นกู้หนิงก็ใช้ตาทิพย์ส่องดูทันที มันเป็นปืนจริงๆด้วย!
กู้หนิงใช้ตาทิพย์สำรวจผู้ชายอีกสี่คนที่ยืนอยู่รอบๆเธอ เธอรู้สึกประหม่า ผู้ชายทั้งห้าคนพกปืนไว้ที่เอวของพวกเขา
ผู้ชายที่มีปืนในครอบครองต้องเป็นตำรวจไม่ก็ทหาร ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะเป็นแก็งค์อันธพาลหรืออาชญากร
กู้หนิงสามารถสัมผัสไอความรุนแรงจากตัวพวกเขาได้ พวกเขายิ่งดูเหมือนอันธพาลหรือาชญากร
กู้หนิงใช้ตาทิพย์ส่องเข้าไปดูในกล่องที่ถือโดยผู้ชายคนหนึ่ง มีถุงแป้งสีขาวด้านใน
แม้ว่ากู้หนิงจะไม่เคยใช้ผงแป้งนี้กับตัวเอง เธอก็รู้ว่ามันคืออะไรจากประสบการณ์ของเธอ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พวกผู้ชายเหล่านี้ต้องมาที่นี่เพื่อทำการซื้อขาย มันไม่ใช่ธุระของกู้หนิง ดังนั้นเธอจึงไม่คิดจะข้องเกี่ยว
ลิฟต์หยุดที่ชั้นห้า กู้หนิงเดินออกไป ช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้ ชายทั้งห้าก็เดินออกจากลิฟต์ด้วย
กู้หนิงเดินไปยังห้องนัดหมายส่วนตัว เธอประหลาดใจที่ห้องของเธออยู่ถัดจากห้องของพวกเขา
“บอส คุณมาแล้ว เชิญนั่งครับ” นาทีที่กู้หนิงปรากฏตัว โจวเจิ้งหงก็ทันทายเธอทันที เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง
“บอส ผมไม่รู้ว่าบอสชอบทานอะไร ดังนั้นผมจึงยังไม่ได้สั่ง ตอนนี้สั่งได้เลยครับ” โจวเจิ้งหงยื่นเมนูอาหารให้กู้หนิงจากนั้นก็สั่นกระดิงเรียกบริกร
คอมเม้นต์