กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 77 – 78: เธอมีปืนอีกกระบอก, ซื้อบ้าน
Chapter 77: เธอมีปืนอีกกระบอก
พวกเขาสังเกตเห็นว่ากู้หนิงหยิบปืนของคนร้าย แต่ไม่ได้ส่งคืนให้พวกเขาอย่างไรก็ตามกู้หนิงมีจุดประสงค์ที่ดี เธอได้ให้ความช่วยเหลือพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้คิดมาก พวกเขาเชื่อว่าเด็กสาวคนนี้เพียงแต่อยากรู้อยากเห็นเรื่องปืนก็เท่านั้น
กู้หนิงลังเลใจในตอนแรก แต่เธอก็หยิบมันออกมาจากกระเป๋าเป้โยนคืนให้เลิ่งเชาถิง
“ซ่อนจากนายไม่ได้เลยสินะ?” เธอบ่น
กู้หนิงไม่มีโอกาสจะเก็บปืนในพื้นที่กระแสจิต ดังนั้นถ้าหากเขาต้องการค้นตัวเธอ เธอก็ซ่อนมันไม่ได้ เธอเลยต้องคืนให้เขา
“ลุงโจว ไปกันเถอะค่ะ” กู้หนิงเรียกโจวเจิ้งหงให้ตามเธอมา ทันใดโจวเจิ้งหงก็ตามเธอออกไป
เมื่อกู้หนิงลับสายตาไปแล้ว เลิ่งเชาถิงก็พบว่ามีคนร้ายนอนอยู่ในห้องหมายเลขสาม เขารับรู้ได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาเดินเข้าไปค้นร่างคนร้าย
ไม่มี
แน่นอนแล้วว่ากู้หนิงมีปืนอีกกระบอกกับเธอซึ่งเป็นของคนร้าย ถ้ากู้หนิงไม่มีปืนอีกกระบอกกับตัว เธอคงไม่เต็มใจคืนให้เขาในตอนแรก
เลิ่งเชาถิงหงุดหงิดแต่ไม่ถึงกับหัวเสีย ดูเหมือนว่าเขาเชื่อใจว่าเธอจะไม่ทำอันตรายใดๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ออกติดตามเธอไป แต่โฟกัสกับเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมแทน
เขารู้ว่าเธอเป็นนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมปลายอันดับสามของเมือง F เขาสามารถหาเธอเจอทีหลังได้
“บอส คุณเก่งมาก!” เมื่อพวกเธออกมาจากโรงแรม โจวเจิ้งหงก็หายจากอาการตกใจแล้ว ตอนนี้เขาประทับใจในตัวกู้หนิงยิ่งขึ้นไปอีก
กู้หนิงเป็นเด็กสาวอายุสิบแปดปีเท่านั้นเอง!
“ถ้าหนูทำไม่ได้ หนูคงไม่กล้าเดินออกไปแบบนั้นหรอกค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
“ก็ใช่” โจวเจิ้งหงเห็นด้วยกับกู้หนิง เขาเชื่อมาตลอดว่ากู้หนิงไม่ใช่เด็กธรรมดาที่เก่งเรื่องพนันหินอย่างเดียว วันนี้เขาได้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว
“โอ้ บอส คุณจะทานอะไรไหม? พวกเรายังไม่ได้ทานอะไรเลย” โจวเจิ้งหงเอ่ยถาม
กู้หนิงคิดสักพัก จากนั้นก็พูดว่า “งั้นไปกินฮอตพอทกันค่ะ”
“ได้” โจวเจิ้งหงตอบ พวกเขาไปศูนย์อาหารหลังจากนั้น
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงครึ่งพอดี เที่ยวบินกู้หนิงเทคออฟบ่ายสอง ดังนั้นเธอต้องรีบไปสนามบินแล้ว
ก่อนที่กู้หนิงจะจากไป เธอบอกโจวเจิ้งหงให้ซื้อรถเพื่อความสะดวก เขาได้รับอนุญาตให้ใช้รถราคาหนึ่งล้านหยวนได้
จากนั้นกู้หนิงก็จากไป
ระหว่างทางไปสนามบิน กู้หนิงคิดว่าถ้าเธอจะซื้อบ้านให้ไวขึ้น เธอต้องมีเส้นสาย ท่ามกลางคนที่กู้หนิงรู้จักในเมือง F มีเพียงอันเฉียนและฉินอี้ฟานที่พอจะพึ่งพาได้
ตัวเลือกแรกคือฉินอี้ฟาน เธอยังไม่รู้เบื้องหลังของอันเฉียนและไม่แน่ใจว่าอันเฉียนจะมีความสามารถพอจะช่วยเธอได้รึเปล่า
ดังนั้นกู้หนิงจึงโทรหาฉินอี้ฟาน
ในขณะนั้นฉินอี้ฟานก็กำลังนั่งอยู่กับลี่เจินหยู
ฉินอี้ฟานเป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูงและมั่นคง แต่เมื่อมันเกี่ยวข้องกับกู้หนิง ฉินอี้ฟานก็จะเปลี่ยนเป็นมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันใด
เมื่อกู้หนิงโทรมา ฉินอี้ฟานก็ดีใจยิ้มมุมปาก “กู้หนิง มีอะไร?” แม้กระทั่งน้ำเสียงของเขาก็ยังอ่อนหวาน
ลี่เจินหยูที่เป็นพยานรับรู้ท่าทางของเขาก็ไม่สบายใจขึ้นมา
ฉินอี้ฟานชอบกู้หนิงมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
ถึงแม้เขาจะเกลียดกู้หนิง เขาก็ต้องขอชื่นชมว่าเธอไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เธอเป็นคนสวยและโชคเข้าข้าง ทั้งยังเก่งในเรื่องการพนันหิน ยิ่งไปกว่านั้นลี่เจินเจินกลับมาบ้านด้วยท่าทางตกใจขวัญเสียในเมื่อวาน เขารู้ว่าลี่เจินเจินจ้างนักเลงไปสั่งสอนกู้หนิง
ไม่น่าเชื่อว่ากู้หนิงจะไม่เป็นอะไร หนำซ้ำยังโทรขู่ลี่เจินเจินโดยใช้มือถือนายหลิว
ตอนแรกลี่เจินหยูคิดว่านายหลิวรับเงินจากกู้หนิง แม้ว่าเขาจะมีเส้นสายกับนายหลิว พวกเขาก็ไม่ได้สนิทกัน นอกจากนี้นายหลิวยังเป็นนักเลงที่สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อเงิน เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะทรยศลี่เจินเจินเพื่อเงินก็ได้
แต่เมื่อเขาได้ตรวจสอบเองเมื่อเช้านี้ นายหลิวและคนของเขาถูกกู้หนิงทำร้ายบาดเจ็บ และตอนนี้พวกเขาอยู่ในโรงพยาบาล
ลี่เจินหยูตกใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
มันเป็นอะไรที่เกินกว่าเขาจะจินตนาการได้ว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะเก่งกาจและยากจะต่อการด้วยได้ขนาดนี้ แต่เขาก็ยังไม่แน่ชัดถึงเบื้องหลังกู้หนิง
ถ้าหากเธอมาจากครอบครัวธรรมดาๆ เขาก็คงไม่เก็บเอามาใส่ใจ แต่ถ้าหากเธอมาจากครอบครัวเศรษฐีที่มีอิทธิพล เขาควรจะคิดให้รอบคอบกว่านี้
ลี่เจินหยูตัดสินใจตรวจสอบเบื้องหลังกู้หนิงก่อนเป็นอันดับแรก
โชคถึงแม้กู้หนิงจะรู้ว่าลี่เจินเจินอยู่เบื้องหลังพวกนักเลง แต่เธอก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ ดังนั้นลี่เจินหยูจึงไม่กังวลว่ากู้หนิงจะกล่าวหาน้องสาวของเขา
“คือฉันต้องการซื้อบ้านที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้วในเฟิ่งหัวแมนชั่น คุณพอจะรู้จักใครที่จะช่วยฉันดำเนินการเรื่องนี้ไหมคะ?” กู้หนิงถาม
ฉินอี้ฟานตอบกลับอย่างดีอกดีใจ “เธอโทรมาถูกคนแล้ว! ฉันมีเพื่อนที่เป็นผู้จัดการขายที่เฟิ่งหัวแมนชั่นพอดี ฉันจะโทรหาเขาให้ช่วยเธอเลือกโลเคชั่นที่ดีที่สุดและให้ส่วนลดพิเศษอีกด้วย”
ฉินอี้ฟานรู้ว่ากู้หนิงล่ำซำมีเงินมากกว่าร้อยล้านหยวน ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจเลยเมื่อเธอบอกว่าจะซื้อบ้านในเฟิ่งหัวแมนชั่น ยิ่งไปกว่านั่น เขารู้สึกได้รับเกียรติที่กู้หนิงมาขอความช่วยเหลือจากเขา
“เยี่ยมค่ะ ขอบคุณมาก” กู้หนิงยอมรับน้ำใจของฉินอี้ฟาน จริงๆแล้วเธอก็ไม่ได้สนว่าจะได้ส่วนลดเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธมันเช่นกัน
“ด้วยความยินดีครับ ฉันจะส่งเบอร์ให้นะ” ฉินอี้ฟานเอ่ยบอก
“ขอบคุณค่ะ” เธอกำลังจะวางสาย เธอก็คิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้ “โอ้ ฉันเกือบลืมไปค่ะ ฉันมีหยกกับฉันตอนนี้ และอยากจะทำเครื่องประดับให้กับคนที่บ้าน ฉันมีแผนจะให้ร้านอี้ซุยของคุณช่วยทำให้หน่อยได้ไหมคะ เมื่อคุณกลับไปที่เมือง F แล้ว”
“อะไรนะ? เธอได้หยกมาอีกก้อนเหรอ? ชนิดไหน?” ฉินอี้ฟานตื่นเต้นที่ได้ยินแบบนั้น เขาเกือบจะกระโดดลุกจากเก้าอี้
ไม่มีใครโทษเขาเรื่องนี้ได้ กู้หนิงตัดหินได้หยกระดับสูงเมื่อวานไปแล้วสองก้อนซึ่งนั่นก็น่าทึ่งมากแล้ว แต่เธอยังตัดเพิ่มได้อีก มันอัศจรรย์เกินไปแล้ว! เธอต้องการทำเครื่องประดับให้กับครอบครัวของเธอ แสดงว่ามันต้องเป็นหยกระดับสูงแน่!
“คุณจะได้รู้ก็ตอนที่กลับมาแล้วค่ะ แน่นอนว่ามันย่อมไม่ธรรมดา” กู้หนิงจงใจเก็บไว้เป็นความลับ แต่สำหรับฉินอี้ฟาน มันเหมือนเขาถูกน้ำเย็นสาดใส่ตัวเขา ความตื่นเต้นดีใจถูกทำลายลงในพริบตา
“เธอทำกับฉันยังงี้ได้ยังไงกัน! ทรมานกันเหรอ! ฉันทนรอไม่ไหวแล้ว! ฉันจะกลับพรุ่งนี้”
“คุณจัดการธุระของคุณให้เรียบร้อยก่อนเถอะค่ะ ฉันเกือบถึงสนามบินแล้ว บายๆค่ะ” กู้หนิงเอ่ย
Chapter 78: ซื้อบ้าน
“ดูแลตัวเองด้วย” ฉินอี้ฟานรู้ว่ากู้หนิงจะกลับวันนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่เธออยู่ที่สนามบินในตอนนี้
หลังจากฉินอี้ฟานวางสาย ลี่เจินหยูก็มองเขาอย่างมีนัยยะ “ดูเหมือนว่านายจะแสดงออกกับกู้หนิงต่างออกไปนะ บอกความจริงฉันมา นายชอบเธอใช่ไหม?”
ฉินอี้ฟานนิ่งไปในทันใด เขาประทับใจในตัวกู้หนิง แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเองชองกู้หนิงรึเปล่า เขาแค่รู้สึกมีความสุขและผ่อนคลายเมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่กับเธอ
“ฉันไม่รู้” ฉินอี้ฟานให้คำตอบที่คลุมเครือเพราะเขาไม่รู้จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม คำตอบที่คลุมเคลือของเขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาอาจจะชอบเธอแม้ว่าลี่เจินหยูจะผิดหวังที่ได้ยินคำตอบ เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
เขารู้แจ้งแก่ใจกับท่าทีที่ฉินอี้ฟางมีต่อลี่เจินเจินน้องสาวของเขา เขาไม่ยินดีที่จะแต่งงานกับเธอ แต่ลี่เจินหยูยังมีความหวัง
พ่อแม่ฉินอี้ฟานชอบลี่เจินเจิน พวกเขาล้วนหวังว่าฉินอี้ฟานจะแต่งงานกับลี่เจินเจิน แต่พวกเขาเคารพในการตัดสินใจของฉินอี้ฟาน ดังนั้นตระกูลลี่จึงไม่อาจหักหาญน้ำใจฉินอี้ฟานให้แต่งงานกับลี่เจินเจินได้เพื่อความสัมพันธ์อันดีของพวกเขา
จากนั้นฉินอี้ฟานก็โทรหาเพื่อนของเขาให้ช่วยเหลือกู้หนิง
ในขณะเดียวกันนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านอาหารในโรงแรมก็เป็นข่าวทางทีวี อย่างไรก็ตามรายงานข่าวไม่ได้เอ่ยถึงกู้หนิง
ถึงแม้กู้หนิงจะมีส่วนช่วยในเหตุการณ์ครั้งนี้ เลิ่งเชาถิงก็กลัวว่าเธอจะอาจถูกตามล่าจากพวกแก็งค์อันธพาล ดังนั้นเขาจึงสั่งไม่ให้พูดถึงเธอ
ขณะนี้เวลาบ่ายสามสิบห้า เครื่องบินก็ถึงสนามบินเมือง F กู้หนิงก็เช็คมือถือและได้รับข้อความจากฉินอี้ฟาน
ฉินอี้ฟานบอกว่าเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว ชื่อและเบอร์โทรเพื่อนของเขาก็แนบมากับข้อความ ผู้ชายคนนั้นมีชื่อว่า ‘เว่ยจื่อรุ่ย’
กู้หนิงส่งข้อความขอบคุณกลับไปให้เขา
เมื่อกู้หนิงออกจากสนามบิน เธอก็โทรหากู้ม่าน เธอบอกแม่ว่ากลับมาแล้ว แต่เธอจะไปดูบ้านใหม่ก่อนจะกลับไปที่โรงพยาบาล
กู้หนิงเรียกแท็กซี่ตรงไปยังเฟิ่งหัวแมนชั่น
ระหว่างทาง เธอโทรหาเว่ยจื่อรุ่ยเพื่อบอกเขาว่าเธอกำลังจะไปและจุดประสงค์ของเธอ
แน่นอนว่าเว่ยจื่อรุ่นไม่อาจบอกปัดข้อเสนอนี้ได้ กู้หนิงเป็นคนที่เพื่อนของเขาแนะนำมาเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณกู้ใช่หรือเปล่า?”
เมื่อกู้หนิงเดินมายังแผนกขาย ผู้ชายอายุราวๆสามสิบปีก็เข้ามาทักทายเธอ เว่ยจื่อลรุ่ยรู้อยู่แล้วว่ากู้หนิงเป็นเด็กสาวหน้าตาดีอายุสิบแปด และแถวนี้ก็ไม่มีเด็กสาวคนอื่นๆอยู่รอบๆ เขาจึงมั่นใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเขาทักถูกคน
ถึงแม้ว่าผู้ซื้อจะเป็นเพียงเด็กสาว เขาก็ยังประหลาดใจอยู่ดีเมื่อพบกับกู้หนิงตัวเป็นๆ เด็กสาวคนนี้ยังเด็กและยังต้องการซื้อบ้านสองหลัง
อย่างไรก็ตามในเมื่อเธอเป็นคนที่ฉินอี้ฟานแนะนำ เธอต้องรวยมากๆแน่
เว่ยจื่อรุ่ยสุภาพนอบน้อมทุกครั้งที่มีลูกค้าเดินเข้ามา ไม่สำคัญว่าเขาหรือเธอจะรวยหรือไม่ มันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของงานบริการ
“ฉันคือกู้หนิงค่ะ คุณต้องเป็นคุณเว่ย!” กู้หนิงตอบ
“ครับ ผมเว่ยจื่อรุ่ย ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณกู้ ยินดีต้อนรับสู่เฟิ่งหัวแมนชั่น” เว่ยจื่อรุ่ยกล่าวต้อนรับกู้หนิง
“คุณกู้ อี้ฟานบอกผมถึงความต้องการของคุณแล้ว ถึงอย่างนั้นผมคิดว่าน่าจะเป็นการดีกว่าที่จะแนะนำสภาพแวดล้อมของเฟิ่งหัวแมนชั่นให้กับคุณก่อน กรุณาตามผมมาครับ”
เว่ยจื่อรุ่ยแนะนำกู้หนิงไปยังห้องโถงและกล่าวว่า “เฟิ่งหัวแมนชั่นเป็นสถานที่พักอาศัยที่หรูที่สุดในเมือง F ทำเลของที่นี่นั้นดีมาก มันอยู่ใกล้กับตัวเมือง แต่เงียบสงบ มีห้างสรรพสินค้าขนาดกลางตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเฟิ่งหัวแมนชั่น ในนั้นมีซุปเปอร์มาร์เก็ต เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์และอื่นๆข้างใน รวมทั้งธนาคารต่างๆ มันสะดวกสบายมากที่จะอยู่อาศัยที่นี่”
“สิ่งอำนวยความสะดวก การบำรุงรักษาและการบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ของเฟิ่งหัวแมนชั่นล้วนมีคุณภาพสูง เฟิ่งหัวแมนชั่นได้มีการวางแผนแยกแต่ละตึกให้เป็นสัดส่วน ชุมชนตึกสี่กับตึกแปดมีประตูของใครของมัน ผู้พักอาศัยจำเป็นต้องมีการ์ดในการเข้าและบุคคลภายนอกจำเป็นจ้องมีผู้นำทางหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าบ้านก่อน หลังจากที่พนักงานรักษาความปลอดภัยได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านเขาถึงจะอนุญาตให้เข้ามาได้ แน่นอนว่าอาจจะมีคนแอบแฝงตามผู้พักอาศัยเข้ามา แต่ถ้ามีใครรบกวนคุณ คุณสามารถโทรแจ้ง ร.ป.ภ ได้ทันที ร.ป.ภ จะเข้ามาพาตัวคนๆนั้นออกไปทันที ในนี้ยังมีพื้นที่สำหรับสวนหย่อม สระว่ายน้ำ บาร์สุดหรู ยิมและซุปเปอร์มาร์เกตเล็กๆอีกด้วย”
“คุณกู้ ถ้าหากคุณต้องการบ้านที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ตัวเลือกนั้นมีจำกัด เนื่องจากเรามีเพียงสามชั้นพร้อมบ้านที่ตกแต่งอย่างดีในแต่ละตึก ชั้นของตึกแต่ละหลังนั้นแตกต่างกัน มีหกครอบครัวในแต่ละชั้น สี่ห้องนอน สามห้องนอนและสองห้องนอน ถ้าคุณต้องการสามห้องนอน มีสองตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ยังว่างอยู่ ตัวเลือกที่หนึ่งคือโซนอี และอีกตัวเลือกคือโซนจี แต่ละโซนมีส่วนกลางร่วมกัน ถ้าคุณเข้ามาทางประตูและเดินด้วยความเร็วธรรมดา ใช้เวลาเพียงสิบยี่สิบนาทีก็ถึง ทางเรายังมีลานจอดรถให้ ถ้าคุณนำรถมา สามนาทีก็ถึง”
เว่ยจื่อรุ่ยชี้ให้กู้หนิงดู มันอยู่ในตำแหน่งที่ดี
“นี่คือโมเดลของบ้าน เชิญดูครับ” พูดจบ เว่ยจื่อรุ่ยก็เชิญกู้หนิงไปดูพื้นที่จัดแสดงโมเดล
กู้หนิงมีแผนจะซื้อบ้านขนาดร้อยหกสิบตารางเมตร ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่ามันจะใหญ่เกินไปสำหรับแม่และเธอ โชคดีที่มีบ้านสองหลังอยู่บนชั้นเดียวกัน มันจะมีชีวิตชีวามากถ้าครอบครัวของกู้ชิงย้ายเข้ามาอยู่ด้วย
กู้หนิงพึงพอใจมากกับบ้านขนาดร้อยหกสิบตารางเมตร แต่ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเธอต้องการดูการตกแต่งภายในของมันซะก่อน
ถึงแม้เฟิ่งหัวแมนชั่นจะเป็นย่านที่พักที่มีแต่คนรวย และการตกแต่งย่อมหรูและครสนิยมดี แต่มันคงดีกว่าถ้าได้ดูด้วยตาของตัวเอง
พวกเขานั่งรถกอล์ฟไป ใช้เวลาสามนาทีก็มาถึง มันจะเร็วกว่านี้ถ้าไม่มีคนขึ้นลงระหว่างทาง
จากนั้นลิฟต์ก็พามายังชั้นที่เก้า เว่ยจื่อรุ่ยเปิดประตูให้กู้หนิงเข้าไป
เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน สวนหย่อมในบ้านก็ปรากฏสู่สายตา มีตู้รองเท้าหน้าประตูทางเข้า โต๊ะน้ำชาและตู้ปลาอยู่ในสวน ไม่มีปลาอยู่ข้างใน เพราะบ้านหลังนี้ยังไม่มีเจ้าของ
คอมเม้นต์