กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 167 – 168 เลิ่งเชาถิงเริ่มจีบหญิง, เลิ่งเชาถิงตาสว่างทั้งคืน

อ่านนิยายจีนเรื่อง กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ Reincarnation Of The Businesswoman At School ตอนที่ 167-168 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Chapter 167 เลิ่งเชาถิงเริ่มจีบหญิง

 

“ไปเฟิ่งหัวแมนชั่น” ซื่อตู้เย่ออกคำสั่ง

 

ได้ยินเสียงซื่อตู้แย่ คนขับรถจึงขับรถไปที่เฟิ่งหัวแมนชั่นทันที

 

ไม่มีใครสังเกตว่ามีรถแลนด์โรเวอร์สีดำจอดอยู่ไม่ไกลจากรถเมอซาราติสีดำของซื่อตู้เย่ และชายที่นั่งอยู่ข้างในจ้องไปที่กู้หนิงตั้งแต่เริ่มจนจบ

 

เมื่อเห็นว่ากู้หนิงเข้าไปนั่งในรถเมอร์เซราติสีดำและขับออกไป สายตาที่เย็นชาเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ ชายผู้นั้นก็คือเลิ่งเชาถิง

 

ในที่สุดเลิ่งเชาถิงก็รู้แล้วว่าเขาตกหลุมรักกู้หนิง ดังนั้นเขาจึงมาเธอ แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะมาช้าไปก้าวเดียว เขาไม่รู้ว่าเจ้าของรถเมอร์เซราติสีดำเป็นใคร เขาจึงขับรถตามไปเงียบๆ

 

ในขณะเดียวกัน ซื่อตู้เย่คุยกับกู้หนิงมาตลอดทางจนมาถึงเฟิ่งหัวแมนชั่น เขาอยากแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกับเธอ เขาบอกเธอว่าหากเธอมีปัญหาที่เมือง G เธอมาหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือได้ และเขายังมีเครือข่ายกับแก๊งต่างๆและคนในรัฐบาล

 

ผู้ติดตามของซื่อตู้เย่ทั้งสองคนที่นั่งเบาะหน้าตกใจขึ้นมาอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้านายของเขาชอบช่วยเหลือคนอื่นทั้งยังออกปากเองด้วย?

 

กู้หนิงไม่ปฏิเสธ เธอต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

 

กู้หนิงเคยสงสัยว่าชายคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งฉิง แต่ตอนนี้ซื่อตู้เย่พูดออกมาด้วยตัวเอง กู้หนิงมั่นใจมากขึ้นว่าเขาต้องเชื่อมโยงและมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับแก๊งฉิง

 

ดังนั้นการสร้างเครือข่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

 

กู้หนิงลงจากรถที่เฟิ่งหัวแมนชั่น เธอกล่าวขอบคุณซื่อตู้เย่ก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างใน รถของซื่อตู้เย่ยังไม่ได้ขับออกไปทันที เขาเปิดกระจกหน้าต่างลงเพื่อดูกู้หนิงเดินเข้าไปข้างใน

 

รถอีกคันขับมาจอดข้างกู้หนิงเมื่อเธอเดินไปได้ครึ่งทาง ชายหนุ่มก้าวขาออกมาจากรถ ชายหนุ่มคนนี้ก็คือเลิ่งเชาถิง

 

เมื่อเห็นเลิ่งเชาถิง กู้หนิงพลันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้า เธอประหม่านิดหน่อย แต่วินาทีถัดมาเธอก็เปลี่ยนสีหน้า

 

เลิ่งเชาถิงถามเธอออกไปตรงๆว่า “ผู้ชายที่อยากให้เธอเป็นแฟนเขา ใช่ผู้ชายคนเดียวกับที่ขับรถมาส่งเธอรึเปล่า?”

 

กู้หนิงไม่พอใจที่เลิ่งเชาถิงถามเธอแบบนั้น เธอรู้สึกขุ่นเคือง

 

“ฉันไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวอะไรกับนายตรงไหน ไม่ใช่ธุระของนายสักหน่อย!” กู้หนิงกล่าว

 

ท่าทางของกู้หนิงทำให้เลิ่งเชาถิงเชื่อว่าเขาเดาถูก ดังนั้นเขาจึงโน้มน้าวเธอต่อไปว่า “เขาไม่เหมาะกับเธอ เขาเป็นคนอันตราย”

 

กู้หนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เลิ่งเชาถิงต้องรู้จักซื่อตู้เย่แน่ๆ เธอสงสัย “ทำไมเขาถึงอันตราย? นายรู้จักเขางั้นเหรอ?”

 

“เขาคือซื่อตู้เย่ หัวหน้าแก๊งฉิง” เลิ่งเชาถิงตอบ น้ำเสียงบ่งบอกว่ารังเกียจแก๊งฉิง

 

“อะไรนะ?” กู้หนิงอึ้ง

 

เธอเดาว่าชายคนนี้ต้องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแก๊งฉิง แต่คาดไม่ถึงว่าเขาเป็นถึหัวหน้า

 

หลังจากรู้ตัวตนที่แท้จริงของซื่อตู้เย่ กู้หนิงกลับคิดว่ามันเป็นข่าวดี

 

“หัวหน้าแก๊งฉิงเหรอ ไม่เลว! ถ้างั้นเขาก็สามารถจัดการปัญหาให้ฉันได้แค่พริบตา” กู้หนิงพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจหน่อยๆ

 

ได้ยินน้ำเสียงภูมิใจของเธอ ทำเอาเลิ่งเชาถิงรู้สึกฉุน เขาพูดว่า “ฉันเองก็สามารถช่วยเธอได้ และยังทำได้ดีกว่าเขา”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เลิ่งเชาถิงชมตัวเองต่อหน้าคนอื่น

 

กู้หนิงประหลาดใจ เธอรู้ว่าเขาไม่ได้โม้ เธอเคยสู้กับเขาและซื่อตู้เย่ เป็นความจริงที่เลิ่งเชาถิงเก่งกว่าซื่อตู้เย่ แต่หมาป่าตัวเดียวไม่สามารถเอาชนะกลุ่มหมาป่าได้! จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทีมที่แข็งแกร่งด้วย

 

เลิ่งเชาถิงเกลียดที่เห็นกู้หนิงชื่นชมซื่อตู้เย่ แต่กังขาในตัวเขา เขารู้สึกเจ็บ

 

“ฉันไม่สามารถบอกตัวตนจริงๆของฉันให้เธอรู้ได้ตอนนี้ แต่ฉันสัญญาว่าไม่ว่าเขาสามารถทำอะไรได้ ฉันทำได้ดีกว่าเขา” เลิ่งเชาถิงพูดด้วยความมั่นใจ

 

กู้หนิงไม่เคยเห็นความมั่นใจของเลิ่งเชาถิงจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

 

เธอไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่จากท่าทางของเขา “อ้อ งั้นเหรอ? แต่ฉันไม่คิดว่าเรื่องนี้จะสำคัญสำหรับฉันตรงไหน” กู้หนิงจงใจพูดประชด แม้ว่าในใจจะรู้สึกดี

 

“ฉันสามารถช่วยเธอได้!” เลิ่งเชาถิงย้ำ

 

“ทำไมนายถึงอยากจะช่วยฉันนัก? พวกเราไม่ได้สนิทกันสักหน่อย” กู้หนิงตอบด้วยท่าทีสบายๆ

 

“พวกเราสามารถเป็นได้” เลิ่งเชาถิงตอบ

 

“เป็นอะไร?” กู้หนิงแกล้ง

 

“สนิทกัน” เลิ่งเชาถิงตอบ “สนิทแค่ไหนล่ะ?” กู้หนิงยังยิงคำถามต่อ

 

“เอ่อ…” อยู่ๆเลิ่งเชาถิงก็หยุดพูดและหน้าแดง เขาอับจนคำพูด

 

“ฉันคิดว่าฉันไม่รบกวนนายดีกว่า” กู้หนิงหมุนตัวเดินจากไป เลิ่งเชาถิงตื่นตระหนกจนโพล่งออกไปว่า “เธอจะเป็นแฟนฉันได้ไหม?”

 

หลังจากนั้นผู้ชายคนนั้นก็รู้สึกเหมือนแสบร้อนไปทั้งหน้า และหัวใจของเขาเต้นเร็วระรัว เขาพูดออกไปแล้ว ไม่สามารถเอาคืนได้และไม่ได้อยากเอาคืน

 

กู้หนิงหยุดเดิน คำพูดของเขาที่โพล่งออกมาทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจมาก เธอเองก็ประหม่าเช่นเดียวกัน และไม่กล้าหันหน้าไปเผชิญกับเลิ่งเชาถิงตรงๆได้

 

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉัน มันขึ้นอยู่กับว่านายจะเอาชนะหัวใจฉันได้รึเปล่า” กู้หนิงพยายามบังคับตัวเองให้ใจเย็น

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเลิ่งเชาถิงก็ลุกโชนด้วยความยินดี เขาไม่รู้วิธีจีบผู้หญิง แต่เขาสามารถเรียนรู้ได้ เขาจึงตอบว่า “ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด!”

 

“ดี งั้นฉันไปล่ะ” กู้หนิงพูดจบก็วิ่งหนีไป ส่วนเลิ่งเชาถิงยืนนิ่งอยู่กับที่สักพัก

 

เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน เขาก็รีบค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต วิธีจีบสาว

 

กู้หนิงกลับมาบ้านพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำ กู้ม่านเห็นแล้วก็แปลกใจ “หนิงหนิง มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าลูก? หน้าลูกแดงมาก!” กู้ม่านกล่าวพลางยื่นมือมาแตะที่หน้าผากของกู้หนิงเพื่อดูว่าเธอมีไข้รึเปล่า

 

“แม่ หนูสบายดีค่ะ หนูวิ่งกลับมาบ้านเลยรู้สึกร้อนนิดหน่อย” กู้หนิงอธิบาย

 

กู้ม่านโล่งอกที่หน้าผากของลูกสาวไม่ร้อน “ไปอาบน้ำไป พวกเราจะได้ไปบ้านป้ากู้ชิงกินข้าว”

 

“ค่ะ” กู้หนิงตอบ จากนั้นเดินเข้าห้องของเธอไป

 

สิบนาทีต่อมา กู้หนิงก็อาบน้ำเสร็จและเดินออกมาพร้อมกับสวมชุดลำลองสบายๆ

 

Chapter 168 เลิ่งเชาถิงตาสว่างทั้งคืน

 

กู้หนิงใช้ไดร์เป่าผมยาวให้แห้ง และมัดผมขึ้นเป็นรูปทรงซาลาเปาเพื่อความคล่องตัว เธอหยิบโทรศัพท์มือถือและกุญแจบ้าน ออกไปบ้านกู้ชิง

 

เมื่อเห็นว่าเจียงซู่อยู่บ้าน กู้หนิงจึงถามเขาด้วยความเอาใจใส่ว่า “ลุงคะ ทุกอย่างราบรื่นดีไหมคะ?”

 

“ทุกอย่างราบรื่นดี พรุ่งนี้บ่ายของจะมาส่ง ร้านเตรียมเปิดได้วันมะรืน!” เห็นได้ชัดว่าเจียงซู่มีความสุข

 

“ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะคะ” กู้หนิงแสดงความยินดี

 

จากนั้นเธอเดินเข้าไปในห้องครัว กู้ม่านและกู้ชิงกำลังยุ่งกับการทำกับข้าว “แม่คะ ป้าคะ ต้องการลูกมือไหมคะ?”

 

“ไม่ต้องจ๊ะ ไปนั่งรอเถอะ กับข้าวใกล้เสร็จแล้ว” กู้ชิงตอบ

 

“แล้วร้านเสริมความงามเป็นไงบ้างคะ?” กู้หนิงถาม

 

“ไปได้ดีจ๊ะ พวกเราเริ่มคุ้นเคยแล้ว” กู้ชิงตอบ

 

“ดีค่ะ!” กู้หนิงกล่าว “แล้วซินหยูไปไหนคะ?”

 

“อยู่ในห้องน่ะ ขังตัวเองไว้ในห้องตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียน ป้าก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ออกมา” กู้ชิงตอบคำถามด้วยน้ำเสียงแสดงความกังวล

 

“เดี๋ยวหนูไปคุยกับน้องเองค่ะ” กู้หนิงเสนอ เธอเดินไปที่ห้องของเจียงซินหยูและเคาะประตู “ซินหยู พี่เอง เธอทำอะไรอยู่ข้างใน?”

 

“ไม่มีอะไรค่ะ!” เจียงซินหยูตอบออกมาจากข้างในห้อง ดูเหมือนว่าเธอไม่มีความประสงค์ที่จะออกมา กู้หนิงสังเกตว่าน้ำเสียงของซินหยูแปลกไป เธอกำลังร้องไห้ แต่ว่าทำไมกัน?

 

“พี่เข้าไปได้ไหม?”

 

“ขอโทษนะคะ หนูกำลังอ่านหนังสืออยู่!” เจียงซินหยูปฏิเสธ

 

“เด็กคนนี้มารยาทแย่จัง? นี่ลูกกำลังอ่านหนังสืออยู่จริงรึเปล่า? ซินหยู ออกมาข้างนอกเดี๋ยวนี้!” กู้ชิงวิ่งมาจากครัวและตะเบ็งเสียงดังขึ้น

 

“ป้าคะ ไม่เป็นไรค่ะ ให้หนูจัดการเถอะ” กู้หนิงดุนหลังกู้ชิงกลับเข้าไปในครัวทันที

 

แม้ว่ากู้หนิงไม่ต้องการบุกรุกความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น แต่เห็นได้ชัดว่าเจียงซินหยูไม่ปกติ ดังนั้นเธอจึงใช้ตาทิพย์ส่องดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน

 

ภายในห้อง เจียงซินหยูกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะอ่านหนังสือ แต่เธอไม่ได้อ่านหนังสือ เธอกำลังร้องไห้ แก้มซ้ายมีรอยฝ่ามือสีแดง มองให้ชัดจะเห็นรอยฝ่ามืออยู่หลายรอย

 

เห็นแบบนั้นแล้วหน้ากู้หนิงก็เปลี่ยนไป เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเจียงซินหยูถึงไม่ยอมออกมา เธอไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่าเธอถูกตบ

 

กู้หนิงเดินไปเอาขวดน้ำแข็ง และส่งข้อความถึงเจียงซินหยู ‘ซินหยู พี่เข้าใจว่าเธอไม่ต้องการให้พ่อแม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่ช่วยเธอได้ เปิดประตูให้พี่เข้าไปที’

 

เจียงซินหยูอ่านข้อความและลังเลว่าจะเปิดประตูหรือไม่เปิด หลังจากคิดอยู่สองวิ เธอก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูให้กู้หนิง

 

เจียงซินหยูปล่อยผมลงมาบังแก้มของเธอเอาไว้ กู้หนิงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ แต่เจียงซินหยูเพียงแต่เรียกเธอเงียบๆ และก้มหน้าลงไม่สบตากับกู้หนิง

 

กู้หนิงเดินเข้าไปในห้อง เธอล็อคประตูและดึงเจียงซินหยูมานั่งลงที่เตียง เธอใช้ขวดน้ำแข็งประคบที่แก้มของเจียงซินหยู เจียงซินหยูสะดุ้งและเบือนหน้าหนีแต่ถูกกู้หนิงหยุดเอาไว้ “ถ้าไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ ก็อยู่นิ่งๆ”

 

เจียงซินหยูจึงไม่กล้าขยับ เธอกลัวกู้หนิงนิดหน่อยตั้งแต่ที่กู้หนิงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

 

กู้หนิงใช้ขวดน้ำแข็งประคบ ความจริงเธอสามารถใช้พลังทำให้รอยแดงหายไปได้ แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย กู้หนิงจึงใช้ขวดน้ำแข็งประคบที่แก้มเจียงซินหยูอยู่หลายนาที

 

“พี่ พี่รู้ได้ยังไง…” เจียงซินหยูเพิ่งรู้ตัว กู้หนิงรู้ได้ยังไงว่าเธอโดนตบ?

 

“ไม่สำคัญหนอก แค่บอกพี่มาก็พอว่าเกิดอะไรขึ้น?!”

 

เจียงซินหยูไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าจากตรงไหนดี

 

“พูดออกมาเถอะ” กู้หนิงพูดเสียงเย็น เจียงซินหยูอ้าปากเล่าทันที “มีผู้ชายคนหนึ่งในโรงเรียนชอบหนูและส่งจดหมายมาให้ แต่หนูไม่ได้รับ ผู้หญิงที่ชอบผู้ชายคนนั้นรู้เข้า เธอเลยมาหาหนูและตบหน้าหนูหลายครั้ง เธอยังเตือนให้หนูอยู่ห่างจากผู้ชายที่เธอชอบ ไม่อย่างนั้นเธอจะตบหนูทุกครั้งที่เธอเห็นหนู ตะ แต่ หนูกับผู้ชายคนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยนะคะ!” พูดออกไปแล้วเจียงซินหยูก็รู้สึกเสียใจและร้องไห้อีกครั้ง

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นกู้หนิงรู้สึกไม่สบอารมณ์

 

“ผู้หญิงคนนั้นอยู่ห้องไหน? ชื่ออะไร?” กู้หนิงข่มความโกรธของตัวเองไว้และถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

 

“อยู่ห้องสาม เฟิงเสี่ยวอูและจางหยานหลิน” ยามที่เผชิญหน้ากับกู้หนิง เจียงซินหยูไม่กล้าปกปิดความจริง

 

“เข้าใจล่ะ พี่จะไปเอาคืนให้เธอเอง และจำเอาไว้อย่าได้หนีมาร้องไห้คนเดียวแบบนี้อีก เธอต้องยืนหยัดเพื่อตัวเธอเอง อย่าขี้ขลาด ถ้าเธอจัดการด้วยตัวเองไม่ได้ก็ให้มาหาพี่ เข้าใจไหม?” กู้หนิงอบรมลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอไม่ต้องการให้คนในครอบครัวของเธอถูกรังแก

 

“ค่ะ” เจียงซินหยูตอบ เธอเองก็รู้ว่าคนที่อ่อนแอมักถูกรังแก แต่เธอคุ้นเคยกับการอยู่เงียบๆไม่มีปากไม่มีเสียง คงต้องใช้เวลาสำหรับเธอที่จะเปลี่ยนแปลง

 

ดวงตาของเจียงซินหยูบวมหลังจากที่เธอร้องไห้มาเป็นเวลานาน แต่พลังวิเศษของกู้หนิงไม่เพียงแต่รักษาดวงตาที่บวมเป่งของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแก้มของเธอด้วย เมื่อเธอออกมาพร้อมกับกู้หนิงเพื่อทานข้าว เธอดูไม่ต่างจากปกติ

 

เจียงซินหยูประหลาดใจ แต่ไม่ได้คิดมากไปกว่านั้น

 

กู้หนิงบอกเจียงซินหยูใช้ข้ออ้างว่าเธอทำข้อสอบได้ไม่ดี ดังนั้นเธอจึงอารมณ์ไม่ดี

 

ทุกคนเชื่อเธอและปลอบใจเธอ บอกว่าครั้งหน้าทำให้ดีที่สุด

 

ทุกคนทานข้าวด้วยกันด้วยบรรยากาศชื่นมื่น ขณะเดียวกันนั้นเลิ่งเชาถิงก็ยังยุ่งกับการเรียนวิธีจีบสาว

 

เขาเรียนรู้หลายวิธี อย่างเช่นการส่งดอกไม้ ไปดูหนัง ส่งของขวัญ พูดคำหวานๆ แต่ผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกันย่อมชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งทำให้เลิ่งเชาถิงสับสนหนักมาก

 

ดังนั้นเขาจึงนอนไม่หลับทั้งคืน

 

เช้าวันต่อมาเมื่อกู้หนิงเดินออกจากโซน G เธอเห็นเรนจ์โรเวอร์สีดำจอดอยู่ที่ถนน และเลิ่งเชาถิงยืนพิงประตูหันหน้ามาทางเธอ

 

กู้หนิงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้ดูเท่ห์และน่าดึงดูดด้วยท่ายืนนั้น

 

เมื่อเห็นกู้หนิง เลิ่งเชาถิงพลันยืดตัวตรง เขาประหม่านิดหน่อย “เอ่อ ให้ฉันไปส่งที่โรงเรียนไหม?”

 

กู้หนิงพยายามสงบสติอารมณ์ เธอเขินนิดหน่อยที่ถูกกวนใจด้วยรูปลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของเขา “อ้อ ไม่เป็นไร ขอบคุณค่ะ ปกติฉันวิ่งไปโรงเรียน”

 

เลิ่งเชาถิงผิดหวัง “อืม ถ้างั้นฉันจะวิ่งไปโรงเรียนกับเธอ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด