ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 99.2 ขอโทษละกันที่ผิดแผน! (2)

อ่านนิยายจีนเรื่อง ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ตอนที่ 99.2 ขอโทษละกันที่ผิดแผน! (2) อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 99 ขอโทษละกันที่ผิดแผน! (2)

“นายพูดอะไรนะ!”

“อวดดีชะมัด!”

“หมอนี่เป็นพวกเดียวกับฟู่ชางติ่ง เจ้าสองคนนี้จะร่วมมือกันอีกแล้วใช่ไหม? ถังซงถิงก็เป็นพันธมิตรกับพวกเขาด้วย?”

ถังซงถิงใช้มือประคองอกหยัดกายขึ้น ขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเจ็บปวด “พันธมิตรบ้านแกสิ!”

“…”

คำพูดยั่วยุของฟางผิงทำให้หลายคนโมโหขึ้นมา

บอกว่านักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้อ่อนแอต่อหน้าทุกคน แม้พวกเขาเพิ่งจะเข้าเรียนวันที่สอง แต่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็เป็นศูนย์ยึดเหนี่ยวจิตใจของพวกเขาแล้ว!

นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่พวกเขาเลือก เป็นที่รวมตัวของอัจฉริยะอย่างพวกเขา

ความทระนงตน ความภาคภูมิใจนั้นซึมลึกในกระดูกตั้งแต่วันที่สมัครเข้าเรียนที่นี่แล้ว!

เวลานี้ฟางผิงเหยียบย่ำมหาวิทยาลัย หลายคนจึงมีโทสะอย่างยิ่ง

แต่เมื่อทุกคนเห็นฟู่ชางติ่ง กลับเกรงกลัวอยู่บ้าง เมื่อครู่ความสามารถของฟู่ชางติ่งนั้นร้ายกาจไม่เบา

“อะไรกัน? ทำเป็นแต่เห่าหอนหรือไง?”

“หลายคนบอกฉันว่า ผู้ฝึกยุทธ์ต้องแข่งขัน! ต้องกล้าแข่งขันแย่งชิง!”

“ฉันคิดแบบนั้น ทำแบบนั้นมาตลอด ฉันคิดว่าผู้ฝึกยุทธ์ในมหาวิทยาลัยนั้นแตกต่างออกไป พวกเขากล้าเดินพัน กล้าต่อสู้แย่งชิง!”

“แต่ฉันต้องผิดหวังกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้อีกครั้ง ผู้ฝึกยุทธ์เยอะขนาดนี้ ฉันเหยียบหน้าพวกนาย แต่นอกจากเห่าหอนแล้ว จะทำอะไรได้อีก?”

“ฉันกล้ามั่นใจว่า ตอนนี้พวกอาจารย์กำลังมองอยู่และได้ยินทั้งหมด”

“ฉันดูถูกนักศึกษาที่นี่ พวกอาจารย์ไม่พอใจอยู่แล้ว ทั้งหวังให้มีคนออกหน้า พิสูจน์ความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แต่พวกนายล่ะ?”

“…”

“ฟางผิง!”

คนที่พูดคือฟู่ชางติ่ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจกับคำพูดเหน็บแนมของฟางผิงเท่าไหร่

หากพูดต่อไป พวกนักศึกษาที่ตอนแรกไม่ได้คิดร่วมมือกัน อาจจะเปลี่ยนใจเพราะคำพูดของฟางผิง

ฟางผิงหัวเราะขึ้นมาทันที หันมามองเขา “นายคิดว่าฉันกำลังเหน็บแนม?”

“ไม่ ฉันไม่ได้เหน็บแนม แค่พูดความจริงต่างหาก”

“จริงสิ ฉันเคยเจอนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะต่อสู้หนานเจียงคนหนึ่ง นักศึกษาที่พวกนายมองว่าเป็นพวกปลายแถว อีกฝ่ายกลับแข็งแกร่งกว่าพวกนายร้อยเท่า ถ่อมตัวกว่าพวกนายร้อยเท่า! ไม่เย่อหยิ่งทระนงตัว ไม่ด้อยค่าตัวเอง ฉันคิดมาตลอดว่า นี่ก็คือสมบัติเฉพาะตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ขนาดมหาวิยาลัยหนานเจียงยังเป็นแบบนี้ แล้วเซี่ยงไฮ้ล่ะ? มหาวิยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้เป็นหนึ่งในสองมหาวิทยาลัยชื่อดัง ถึงจะเป็นนักศึกษาใหม่ ก็ควรจะเผยความโดดเด่นจนทำให้คนเลื่อมใส?”

“น่าเสียดาย ฉันกลับหาสิ่งนี้ไม่เจอ ผิดหวังอยู่บ้างจริงๆ ตอนนี้ชักสงสัยแล้วว่า การเลือกมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ เป็นตัวเลือกที่ถูกหรือเปล่า…”

“ฟางผิง! พอได้แล้ว!”

“นายอยากรนหาที่ตาย? ลองดูก็ได้!”

“…”

นักศึกษาหลายคนเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ ฟางผิงดูถูกพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้หลายคนทนไม่ไหวอีกต่อไป

หากไม่ใช่ว่าโดยรอบนั้นมีคนเยอะเกินไป ไม่รู้ว่าควรจะให้ใครออกหน้า คงมีคนออกมาจัดการฟางผิงนานแล้ว

ในเวลานี้กลางโถงใหญ่กลับมีเสียงประกาศออกมาจากมุมหนึ่ง “เอาชนะเขา! ทำให้เขารู้ว่า มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ไร้คนมีความสามารถ! มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปมีอัจฉริยะแค่คนเดียว ไม่ได้หมายความว่าจะกดหัวเซี่ยงไฮ้ได้! ดีเหมือนกัน จะได้ทำให้พวกเราเห็นว่า ตกลงพวกคุณคุ้มค่าพอที่จะได้รับการสั่งสอนหรือไม่ พวกอาจารย์กำลังดูความสามารถของพวกคุณอยู่! ใครทำให้คนที่พูดจาโอหังคนนี้พ่ายแพ้ได้ ให้รางวัลห้าสิบคะแนน หักจากคะแนนของฟางผิง!”

“…”

ห้องโถงใหญ่ เงียบไปพักหนึ่ง

ไม่นาน แววตาของทุกคนกลับแตกต่างกันออกไป

เสียงเมื่อตะกี้มาจากคณบดีหวงจิ่ง!

พวกอาจารย์กำลังมองอยู่ คณบดีก็เช่นกัน ยังมีรางวัลอีกห้าสิบคะแนน!

แม้จะเป็นฟู่ชางติ่ง เวลานี้แววตาเผยความซับซ้อนคล้ายสามารถฆ่าคนได้เช่นกัน ฉันบอกว่าอย่าสร้างเรื่อง อย่าสร้างเรื่องไง นายทำอะไรเนี่ย!

ตอนนี้ต้องทำยังไงล่ะ!

ยึดตามแผนเดิมหรือกลับลำจัดการฟางผิง แย่งชิงห้าสิบคะแนนดี?

ด้านฟางผิง สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คณบดี ชนะผมได้ หักคะแนนจากผม แล้วถ้าผมเอาชนะพวกเขาได้ล่ะ?”

“คนธรรมดาหนึ่งคะแนน ผู้ฝึกยุทธ์ห้าคะแนน!”

“ขี้เหนียวจัง แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไร…”

ฟางผิงหัวเราะ ก่อนจะยกไม้พลองยาวในมือ “พวกนายได้ยินกันแล้วนะ! ฉันยอมเป็นผลประโยชน์ให้พวกนาย พวกนายก็เป็นผลประโยชน์ของฉันเหมือนกัน ผู้ฝึกยุทธ์ต้องแย่งชิง เริ่มตั้งแต่นี้เลยแล้วกัน!”

สิ้นเสียงฟางผิงพลันทะยานตัวเข้าไปในกลุ่มคนธรรมดา ทุกคนยังไม่ทันตั้งตัว ไม้พลองยาวของฟางผิงกลับฟาดลงแล้ว

“อ๊าก!”

“แม่เจ้า!”

“ฉันไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะลงมือ!”

“…”

คนพวกนั้นตะโกนร้องอย่างวุ่นวาย หลายคนโมโหและตื่นกลัว พวกเขายังไม่ทันขยับ นึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะลงมือ!

“ไอ้สัตว์เอ้ย หนึ่งต่อสามร้อย จัดการเขาสิ!”

มีผู้ฝึกยุทธ์ได้สติขึ้นมา ตะโกนอย่างลนลาน ก่อนจะพุ่งตัวไปหาฟางผิง

“พลั่ก!”

ฟางผิงฟาดไม้ไปที่หัวผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่ง ไม่สนใจเสียงครวญครางของเขา เหวี่ยงเท้าขวาเตะผู้ฝึกยุทธ์อีกคนที่แอบโจมตีอยู่ด้านหลัง

“ปราณลดอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เป็นไรใช้ค่าทรัพย์สินแลกเปลี่ยนได้ ค่อยเอาคะแนนมาแลกเป็นเงิน ไม่ขาดทุนอยู่แล้ว!”

ฟางผิงตัดสินใจแล้วเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะท้าทายคนพวกนี้ เขาผิดหวังอยู่บ้างจริงๆ

นักศึกษาของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ทำให้เขารู้สึกว่าคนพวกนั้นห่างชั้นจากหวังจินหยาง ทำให้เขารู้สึกเสียใจที่เลือกเรียนที่นี่อยู่บ้าง

อีกด้านหนึ่ง เขาอยากให้พวกอาจารย์ได้เห็นความสามารถของตัวเองเช่นกัน!

ตอนนี้ยังมีของรางวัลที่เหนือความคาดหมาย ยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากลงมือ

เมื่อสะบัดผู้ฝึกยุทธ์ที่แอบซุ่มออกไปได้แล้ว ฟางผิงก็เอ่ยเสียงดัง “ไม่ได้กินข้าวกันมาเหรอเนี่ย? นี่ฉันยังไม่ได้อุ่นเครื่องเลยนะ!”

“อวดดี! ฟู่ชางติ่ง นายอยู่ฝั่งไหน?”

ท่ามกลางผู้คน จ้าวเหล่ยตะโกนขึ้นมา เงยหน้ามองฟู่ชางติ่ง

ฟู่ชางติ่งกัดฟัน เอ่ยทันที “พวกนายเป็นแค่ขยะกองหนึ่ง มาสิ พวกเราสองคนจะจัดการพวกนายทั้งหมดเอง!”

เขามองทะลุปรุโปร่งเช่นกัน รุมโจมตีมันแสดงความสามารถตรงไหนกัน?

สองต่อสามร้อย แพ้ยังถือว่าคุ้มค่า!

พูดจบ ฟู่ชางติ่งพลางถือด้ามหอกขึ้นมา ก่อนจะวาดใส่ผู้ฝึกยุทธ์คนหนึ่งที่กำลังล้อมโจมตีฟางผิง ปากยังตะโกนว่า “คณบดี ผมฟู่ชางติ่ง อยากได้คะแนนเหมือนกัน!”

“ได้!”

เสียงหวงจิ่งที่ออกมาจากลำโพงนั้นฟังไม่ออกว่ากำลังโมโหหรือยินดีกันแน่

“เอาล่ะ!”

ฟู่ชางติ่งอารมณ์ดีขึ้นมา จัดการหนึ่งคนก็เก็บคะแนนได้แล้ว!

ได้รับคำตอบที่แน่ชัดแล้ว เขาจึงผละจากกลุ่มที่กำลังรุมโจมตีฟางผิงทันที ออกไปจัดการพวกคนธรรมดาที่อยู่รอบนอกแทน

“ปั่ก!”

พอไม้หวดลงไป ฟู่ชางติ่งก็พึมพำ “สามคะแนนแล้ว!”

“ผลัวะ!”

“สี่คะแนน!”

“พลั่ก…”

“เหมือนจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์? เก้าคะแนนแล้ว ไม่สิ ยังไม่ล้ม สี่คะแนนเหมือนเดิม…”

“รีบเข้ามาช่วยกันสิ พวกนายยังแกล้งบื้ออะไรอีก อยากเห็นพวกเราถูกสองคนนี้จัดการจริงๆ หรือไง?”

ผู้ฝึกยุทธ์ที่เมื่อครู่ถูกฟู่ชางติ่งโจมตี เห็นผู้ฝึกยุทธ์ด้านนอกไม่มีใครลงมือ จึงโมโหจนแทบอยากกระอักเลือด!

ยังจะมาแสร้งวางมาดว่ามีความสามารถสูงส่ง!

แม่แกสิ ปัญญาอ่อนหรือไง?

เจ้าสองคนนี้ความสามารถไม่ใช่เล่น คนธรรมดาแทบไม่ใช่คู่มือ มีแค่ผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นที่พอจะสยบได้

ตอนนี้ด้านนอกมีผู้ฝึกยุทธ์ประมาณสามสิบสี่สิบคนกำลังทำตัวเป็นผู้ชม ปัญญาอ่อนกันไปหมดแล้ว?

หากถูกจัดการจริงๆ พวกเขาก็อย่าคิดว่าจะรอดเลย!

จ้าวเหล่ยใบหน้าดำคล้ำ หยางเสี่ยวม่านกัดฟัน ตะโกนว่า “ไปเถอะ คนที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ออกมา คิดจะส่งคะแนนให้หรือไง? โง่เขลา!”

คนธรรมดาพวกนี้ นอกจากไม่ทำประโยชน์แล้ว ยังเข้าไปล้อมเบียดสองคน พวกเขาลอยได้ที่ไหนกัน จะให้บินเข้าไปสู้หรือไง?

คนที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์รีบถอยออกมา ตอนแรกอยากจะชิงคะแนน บางคนเพราะถูกดันจึงเข้าไปอยู่ในวงล้อมด้วย

เวลานี้หลายคนถูกอัดจนหน้าบวม ที่เลวร้ายที่สุดถึงกระทั่งมีคนล้มกับพื้นเกือบถูกคนอื่นเหยียบตาย

พอได้ยินว่าผู้ฝึกยุทธ์มา พวกเขาจะรอช้าอีกทำไม ต่างพากันถอยออกไป!

ฟางผิงที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลาง เหวี่ยงหมัดใส่คนธรรมดาคนหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะว่า “ไปไหนกัน หลายคะแนนเลยนะนั่น เงินฉันทั้งนั้น อย่าคิดหนีสิ!”

“แม่งเอ้ย!”

มีคนตะโกนด่า นี่พวกเราถูกคนอื่นเห็นเป็นคะแนนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!

———————-

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด