ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 121 ระบบของภารกิจ (2)

อ่านนิยายจีนเรื่อง ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ตอนที่ 121 ระบบของภารกิจ (2) อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 121 ระบบของภารกิจ (2)

สถานีตำรวจเดิมทีก็เป็นสถานที่ที่ให้บริการคนทั่วไปอยู่แล้ว

ฟางผิงเปิดระบบภารกิจของหน่วยสืบสวน ภารกิจทางนี้จะค่อนข้างยากกว่า

“จับกุมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลาย มีคดีฆาตกรรมติดตัว เรียนเคล็ดวิชาฝ่ามือ

สถานที่ : เมืองหวงผิง

ข้อแนะนำ : ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายที่สำเร็จเคล็ดวิชาต่อสู้หรือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง

เงินรางวัล : เงินสดสองแสนหยวน”

“สังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองคดีฆาตกรรม เรียนเคล็ดวิชาดาบ

สถานที่ : เมืองหนานอัน

ข้อแนะนำ : ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขึ้นไป

รางวัล : ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งหรือสิบคะแนน”

“สังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองตอนปลาย หลอมกระดูกแขนขาแล้ว พกอาวุธร้อนติดตัว ชำนาญเคล็ดวิชาขาและหมัด

สถานที่ : หลบหนีในเมืองเซี่ยงไฮ้

ข้อแนะนำ : ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองตอนปลายหรือขั้นสาม สำเร็จเคล็ดวิชาต่อสู้แล้ว เคยต่อสู้ในสถานการณ์จริง มีประสบการณ์เกี่ยวกับภารกิจประเภทนี้มาก่อน…

รางวัล : เงินสดห้าแสนหยวนหรือยี่สิบคะแนน”

“…”

ภารกิจของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ รางวัลถือว่าไม่น้อยเลย ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายได้เงินรางวัลสองแสนอย่างสบายๆ ขั้นสองตอนปลายยังสามารถคว้าได้ถึงยี่สิบคะแนน ทั้งภารกิจยังมีมากมาย สามารถเลือกได้ ไม่ต้องแย่งชิงกับคนเยอะ

ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียงไม่ค่อยมีภารกิจพวกนี้เท่าไหร่ ถึงมีก็มักจะถูกคนแย่ง

ฟางผิงกวาดสายตาอ่านภารกิจของหน่วยทหารต่อ

ไม่ต่างจากภารกิจของหน่วยสืบสวนเท่าไหร่ เพียงแค่ภารกิจของหน่วยทหารมักจะอยู่ในป่าเขาถิ่นทุรกันดาร ห่างจากเซี่ยงไฮ้ค่อนข้างไกล

รางวัลก็หลากหลาย มีเงินสด ยาบำรุง คะแนนของมหาวิทยาลัย อาวุธโลหะผสม ทั้งยังมีคะแนนสะสมของหน่วยทหารและหน่วยสืบสวนด้วย

ส่วนภารกิจของมหาวิทยาลัย ฟางผิงมองอยู่พักหนึ่ง หมดคำจะพูดอยู่บ้าง

นึกไม่ถึงว่ายังจะมีรับสมัครแฟนสาว!

“รับสมัครแฟนสาวหนึ่งคน นิสัยอ่อนหวาน หน้าตาดี

เวลา : สิบวัน

หมายเหตุ : เป็นความสัมพันธ์ชายหญิงที่บริสุทธิ์ สามารถปฏิเสธหากสนิทชิดเชื้อจนเกินไป…

รางวัล : ห้าคะแนน”

รับสมัครแฟนสาวยังพอว่า ยังมีรับสมัครแฟนหนุ่มอีก ประเด็นอยู่ที่คนลงภารกิจยังเป็นผู้ชายเนี่ยสิ!

ภารกิจที่ไม่น่าเชื่อถือพวกนี้แทบไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงด้วยซ้ำ ยังมีภารกิจที่เป็นประโยชน์ให้เห็นอยู่เหมือนกัน

อย่างเช่นมีนักศึกษากำลังฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ ต้องการนักศึกษาที่ฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ไปฝึกฝนด้วยกัน ให้รางวัลเป็นคะแนน

ฟางผิงไล่สายตามอง จู่ๆ ก็เจอภารกิจที่น่าสนใจอันหนึ่ง

“ท้าประลองหวังจินหยางจากหนานเจียง! หวังจินหยาง ขั้นสามตอนปลาย (อาจจะขั้นสี่แล้ว) ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง

ผลการต่อสู้ : เอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลายของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ปักกิ่งได้สิบสี่คน

หมายเหตุ : ไม่มีบันทึกการตายของผู้ที่เคยประลอง มีแต่บาดเจ็บหนัก

รางวัล : เอาชนะอีกฝ่าย ให้รางวัลสองร้อยคะแนน! หากไม่ชนะ ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้ จะให้ตามอาการบาดเจ็บ ห้าสิบถึงหนึ่งร้อยห้าสิบคะแนน สังหารได้ให้ห้าร้อยคะแนน!”

“เหล่าหวังมีศัตรูอยู่ทุกหนทุกแห่งจริงๆ!”

ฟางผิงถอนหายใจ โดยเฉพาะยังมีรางวัลสังหารตั้งห้าร้อยคะแนน!

ค่าตอบแทนนี้ไม่น้อยเลย แทบจะเทียบเท่ากับเงินสดสิบห้าล้านหยวน

แน่นอนว่าภารกิจนี้มีคนรับไม่เยอะหรอก หรืออาจจะไม่มีเลย

หากอยู่ขั้นสามตอนปลายหรือขั้นสี่ คนพวกนี้คงไม่ขาดแคลนห้าร้อยคะแนนนี้หรอก ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดาย

นึกไม่ถึงว่าภารกิจนี้จะมาโผล่ที่ฟางผิงได้ เห็นได้ชัดว่าพิเศษอยู่บ้าง ปกติภารกิจของขั้นสามขั้นสี่ ฟางผิงนั้นไม่อาจเห็นได้

“หลิวหย่งเหวินหรือเป็นคนอื่น?”

ฟางผิงคาดเดา แต่คิดแล้วก็สะบัดหัว ไม่คิดต่ออีก อาจจะไม่ใช่หลิวหย่งเหวินเสมอไป หมอนั่นใช่ว่าจะใจกล้าขนาดนั้น

ทั้งห้าร้อยคะแนนยังไม่ใช่จำนวนน้อยๆ หลิวหย่งเหวินอาจจะหามาไม่ได้ด้วยซ้ำ

ไม่ใช่ว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่ลำดับขั้นสูงๆ จะมีเงินกันทุกคน ยิ่งลำดับขั้นสูงเท่าไหร่จะยิ่งสิ้นเปลืองมากเท่านั้น อันที่จริงยังมีบางคนขาดแคลนเรื่องเงินทองยิ่งกว่าฟางผิงซะอีก

ควักห้าร้อยคะแนนออกมาได้ นั่นหมายความว่าฐานะทางบ้านคงไม่ธรรมดา

ดีที่ภารกิจนี้คือการท้าประลองไม่ใช่การลอบฆ่า

ฟางผิงเดาว่ามหาวิทยาลัยคงไม่อนุญาตให้ประกาศภารกิจทำนองนั้น

การท้าประลองเป็นเรื่องยุติธรรม แต่ลอบฆ่าคงไม่เหมือนกันแล้ว จากพลังขาวสะอาดเปลี่ยนเป็นสกปรกดำมืดทันที

ทั้งบางทีภารกิจแบบนี้ เหล่าหวังเองน่าจะรู้แล้ว แต่ไม่คิดเอามาใส่ใจ

ฟางผิงมองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “ถ้าฉันให้เหล่าหวังเล่นละครเป็นเพื่อน แกล้งยอมแพ้ ไม่ใช่ว่าจะได้สองร้อยคะแนนมาฟรีๆ หรอกเหรอ?”

เขาครุ่นคิดสักพัก เหล่าหวังมีโอกาสน้อยที่จะตอบรับ

แม้ทุกคนจะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่อีกฝ่ายที่อยู่ขั้นสี่แพ้ให้กับขั้นหนึ่ง เป็นเรื่องที่อับอายขายขี้หน้าไม่น้อย

“แต่ไม่แน่เหมือนกัน เหล่าหวังเป็นคนมองโลกตามความเป็นจริง แบ่งคะแนนให้เขาครึ่งหนึ่ง อีกฝ่ายอาจจะตอบรับก็ได้?”

ฟางผิงเก็บภารกิจนี้ไว้ในใจ ตัดสินใจว่ามีโอกาสจะถามสักหน่อย สองร้อยคะแนนไม่ใช่น้อยเลย

ฟางผิงอยู่ชั้นสามของฝ่ายบริการเกือบสองชั่วโมงแล้ว

สุดท้ายฟางผิงยังคงไม่เลือกรับภารกิจไหนเลย

ดูไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้เขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน ความสามารถก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะไปฝึกหาประสบการณ์ได้ เวลานี้รับภารกิจจะเสียเวลาเปล่า ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

รอความสามารถพร้อมแล้ว หรือขาดแคลนเรื่องเงิน ค่อยรับภารกิจง่ายๆ มาทำละกัน

ตอนที่ออกจากประตู ฟางผิงยังนึกถึงเรื่องอื่น

“ไม่เห็นภารกิจเกี่ยวกับพวกนอกรีตเลย หรือว่าไม่ได้อธิบายอย่างละเอียดเฉยๆ บางภารกิจที่จับกุมอาจเกี่ยวข้องกับพวกนอกรีตอยู่แล้ว?”

“พวกเหล่าหวังบอกว่าขั้นสามมีความเสี่ยงอย่างมาก คงมาจากภารกิจพวกนี้เหมือนกัน ตอนนี้เขาน่าจะยังเข้าถึงภารกิจพวกนี้ไม่ได้ คงจะเป็นอย่างนั้นสินะ”

ครุ่นคิดแล้วก็นึกถึงเรื่องคลาสฝึกพิเศษต่อ

คลาสฝึกพิเศษรับสมัครคน จะได้เรียนอะไรกันนะ?

กดความคิดพวกนี้ไว้ในใจ ฟางผิงกลับมาถึงหอพักก็เริ่มหลอมกระดูกต่อ

ตอนนี้เขาหลอมกระดูกยี่สิบแปดชิ้นแล้ว ขาขวาเหลือแค่สามชิ้นที่ไม่ได้หลอม แบ่งเป็นกระดูกต้นขา กระดูกสะบ้า และกระดูกน่อง

กระดูกสามชิ้นนี้ กระดูกต้นขาใหญ่ที่สุด กระดูกสะบ้าค่อนข้างซับซ้อนอยู่บ้าง ต่างอยู่ในส่วนที่หลอมยาก

ฟางผิงหลอมกระดูกพวกนี้ได้ช้าลง ไม่ได้เร็วเหมือนกับกระดูกเท้าพวกนั้นในตอนแรก หลอมวันละชิ้นได้สบายๆ

กระดูกสามชิ้นนี้ ฟางผิงคาดว่าอย่างน้อยคงใช้เวลาประมาณสิบวัน

“ต้องรีบหลอมกระดูกข้างหนึ่งให้เสร็จ มีเวลาอีกสามเดือนก่อนจะหมดเทอม กระดูกขายังมีอีกสามสิบสี่ชิ้น อย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกประมาณสองเดือน”

เวลาสองเดือนหลอมกระดูกเสร็จสิ้น อยู่ในช่วงขั้นหนึ่งตอนปลาย นี่เป็นสิ่งที่ฟางผิงคาดคะเนไว้

ถ้าโชคดี อาจจะสามารถเข้าสู่ขั้นสองตอนท้ายเทอม

แน่นอนว่าถ้าโชคดีเท่านั้น ฟางผิงอาจจะไม่ได้ทำสำเร็จเสมอไป ทะลวงเร็วเกินไป ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี

เคล็ดวิชาต่อสู้และจวงกงของเขา ต้องใช้เวลาและปราณอย่างมากในการฝึกฝนควบคู่กันไป

“ยังมีทางบริษัทอีก ต้องส่งเงินให้หลี่เฉิงเจ๋อขยายกิจการต่อ ตอนนี้รู้สึกว่านับวันก็ยิ่งใช้เงินมากขึ้น ภายหลังอาจจะแย่ ไม่มีเงินการพัฒนาของฉันคงช้าลงมาก แต่ลงทุนกับบริษัทเยอะไป หลี่เฉิงเจ๋อหอบเงินหนีไปจะทำยังไง?”

ฟางผิงไม่ลังเลที่จะมองผู้คนในแง่ร้ายเช่นเดียวกัน ตอนนี้เงินมีน้อย ลงทุนหนึ่งล้านสองล้าน หลี่เฉิงเจ๋ออาจหักห้ามใจได้

แต่ถ้าเงินถึงสิบล้านแล้ว ทั้งฟางผิงยังไม่อยู่บริษัท เขาอาจจะควบคุมความคิดไม่ได้เสมอไป

“ยังต้องหาใครสักคนมาขวางเรื่องพวกนี้สักหน่อย เฮ้อ จะทำเรื่องอะไรก็ไม่ง่ายทั้งนั้น…”

เขาถอนหายใจ ก่อนจะปลดปล่อยความคิดออกไป ตั้งใจฝึกฝนวิชาต่อ

————————-

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด