Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 9 วิธีทำลายความชื่นชอบ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ตอนที่ 9 วิธีทำลายความชื่นชอบ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

คนจำนวนมากไม่คิดว่า ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ จะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ถึงกับโต้กลับเซวี่ยนหลานอิ๋นกวงได้ภายในวันเดียว!

ขณะที่ทุกคนล้วนมุ่งความสนใจไปยังสถานการณ์นี้ ในวงการก็ร้อนแรงขึ้นมาในชั่วพริบตา

“สตาร์ไลท์ได้ที่สองแล้ว!?”

“ตกต่ำไปหลายปี กลับมาผงาดแล้ว สถานการณ์แบบสตาร์ไลท์คือสิ่งที่เรียกกันว่ากระดอนขึ้นมาหลังจากถึงจุดต่ำสุดใช่มั้ยนะ”

“ทุกคนอย่าลืมว่าอันดับหนึ่งถือว่าเป็นเงื่อนไขพิเศษ ถ้าปัดเศษแล้วก็เท่ากับว่าปีนี้ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ มงลงนะ!”

“ปัดเศษก็ได้เหรอ?”

“ไม่ต้องปัดเศษ ยังมีอีกสถานการณ์หนึ่งที่ทุกคนอาจไม่ทันสังเกต ถึงอันดับหนึ่งจะยังนำห่างอยู่ แต่ถ้าดูจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ก็ดูเหมือนว่าเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ จะสูงกว่าอยู่พอตัวเลยนะ และนั่นหมายความว่าอะไรทุกคนคงเข้าใจดี”

อัจฉริยะด้านข้อมูลของบริษัทหนึ่งมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

“คุณหมายถึง?”

“สรุปว่าทุกคนเตรียมเก้าอี้กับเมล็ดแตงโมไว้ก็แล้วกัน ปลายเดือนนี้อาจมีโอกาสได้เห็นมหาสงครามของเทพเซียน สนุกแน่นอน ตอนแรกคิดว่าปีนี้ซาไห่จะล็อกที่หนึ่งสบายๆ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลยซะอีก”

“…”

ขณะเดียวกัน

เจิงอี้นักร้องและหลี่ยางนักแต่งเพลงของเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงซึ่งเดิมทีอยู่ในอันดับที่สองกำลังกินข้าวอยู่ข้างนอก

ราคาอาหารมื้อนี้พอให้พวกเขารูดบัตรเครดิตไปสองพันหยวน

ปูยักษ์สีแดงขนาดใหญ่จังก้าอยู่บนโต๊ะ สำแดงความน่าเกรงขามครั้นยังมีชีวิตอยู่ และยังคล้ายกับเติมชื่อให้กับอาหารมื้อนี้ว่า

งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ

ทว่ากินไปได้เพียงครึ่งเดียว เจิงอี้ก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากบริษัทว่า ‘ราศีเมษ’ ถูกอันดับที่สามระเบิดแล้ว

ในตอนนั้น

ปูยักษ์ในชามก็พลันไม่หอมอร่อยขึ้นมาทันใด

เจิงอี้มองหลี่ยางด้วยความตกตะลึง ราวกับกำลังถามว่า ‘แล้วที่สองของผมล่ะ? เพิ่งขึ้นไปอยู่ที่สอง ตอนนี้หายไปไหนแล้วล่ะ’

“…”

หลี่ยางผู้แต่งเพลงไม่พูดจา เพียงแต่หยิบโทรศัพท์และหูฟังขึ้นมาฟังเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ สักรอบ

เอาเถอะ

หลี่ยางยอมรับว่าตนทะนงตนไปสักหน่อย ตอนที่ผลชาร์ตดาวรุ่งออกมา เขาในฐานะที่ได้อันดับสอง จึงฟังแค่เพลงของอันดับที่หนึ่ง ไม่ได้คิดจะสนใจฟังเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ซึ่งอยู่อันดับสามเลย

ใครจะไปสนใจคนที่ด้อยกว่าตนเองกันล่ะ

ทว่าหลังจากฟังเพลงจบ ขณะที่หลี่ยางกำลังกดดาวน์โหลดเพลงด้วยความรู้สึกซับซ้อน สายตาก็มองไปยังเพลงซึ่งอยู่ในอันดับหนึ่งของชาร์ตดาวรุ่ง จู่ๆ สีหน้าก็ดุดันขึ้นมา “ตายแน่!”

……

แต่ในหอพักของสตาร์ไลท์

ซุนเย่าหั่วซึ่งจับตามองการจัดอันดับมาตลอดทั้งวันเช่นเดียวกัน ก็ย่อมสังเกตเห็นว่า ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ พุ่งขึ้นไปเป็นอันดับสอง

เขาลุกพรวดขึ้นมา “เฮ้ย! ฉันดังแล้ว!”

มิน่าล่ะในวงการมักจะลือกันเรื่องพ่อเพลงตัวท็อป ถึงขั้นที่มีนักร้องซึ่งเดบิวต์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงว่า

‘ฉันยอมเป็นหมาให้พ่อเพลงเลย’

ที่แท้ก็ได้พ่อเพลงขั้นเทพ แบบนี้เอาสุนัขมาร้องเพลงในห้องอัดก็ยังดังจริงๆ นั่นแหละ!

เห็นชัดๆ ว่าตนซึ่งใฝ่ฝันอยากเดบิวต์เพียงถูกผู้จัดการลากมาอัดเสียงอย่างมึนๆ งงๆ แล้วก็ร้องเพลงตามที่คนอื่นบอกอย่างมึนๆ งงๆ อยู่ๆ ก็ทะยานขึ้นอันดับสองในชาร์ตดาวรุ่ง กลายเป็นหนึ่งในนักร้องที่เจิดจรัสที่สุดในฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่!

ด้านล่างนี้คือคำถามอัตนัย:

ซุนเย่าหั่วกำลังครุ่นคิด ว่าถ้าหากไม่สนใจธรรมเนียม ครั้งหน้าเมื่อพบกับรุ่นน้องหลิน ตนควรทักทายว่าอย่างไร

……

ในขณะเดียวกันนั้นเอง

วิทยาลัยศิลปะฉินโจว

หลินเยวียนผู้ซึ่งไม่ค่อยได้รับรู้เรื่องราวใดๆ กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด ในตอนนั้นข้างหูก็มีเสียงใสรื่นหูแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น

[ยินดีกับโฮสต์ที่ค่าความโด่งดังรวมทะลุหมื่น!]

[รางวัลค่าความโด่งดังทะลุหมื่น: อายุขัยห้าปี!]

[รางวัลค่าความโด่งดังทะลุหมื่น: กล่องสมบัติทองแดงสามใบ!]

[รางวัลค่าความโด่งดังทะลุหมื่น: กล่องสมบัติเงินหนึ่งใบ!]

ค่าความโด่งดังทะลุหมื่นแล้วเหรอ?

หลินเยวียนเงยหน้ามองตัวอักษรเรืองแสงสี่บรรทัด ในใจกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเห็นข้อมูลปัจจุบันของตน

[อายุ: 19]

[อายุขัย: 27]

[จิตรกรรม: 45]

[วรรณกรรม: 105]

[ดนตรี: 12580]

[ภาพรวม: 12730]

ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมและวรรณกรรมสองอย่างนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ค่าความโด่งดังด้านดนตรีเพิ่มขึ้นพรวดพราด สูงทะลุหลักหมื่นไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’

สิ่งสำคัญที่สุดคือ

อายุขัยเพิ่มขึ้นอีกห้าปี

ตอนนี้อายุขัยของหลินเยวียนแตะถึงยี่สิบเจ็ดแล้ว แม้ว่าในตอนนี้อายุขัยจะเพิ่มมาแค่ห้าปี แต่ก็พอทำให้หลินเยวียนปลีกตัวออกมาจากเงื้อมมือของความตายได้ชั่วคราว

หลินเยวียนถามในใจ “ระบบ ครั้งต่อไปอายุขัยจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่”

ระบบตอบ “ร่างกายของโฮสต์ป่วยรักษาไม่หาย ว่ากันตามทฤษฎีแล้วก็คือไม่สามารถรักษาได้ ดังนั้นเพื่อที่จะรักษาโฮสต์ ระบบจึงใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงสุดในจักรวาลมาปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายของโฮสต์ ฉะนั้นค่าความโด่งดังที่ต้องการจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ครั้งต่อไปหากโฮสต์ต้องการรับการรักษาของระบบ เพื่อเพิ่มอายุขัยของตนเอง ค่าความโด่งดังที่ต้องใช้เท่ากับ…”

หลินเยวียนถามว่า “หนึ่งแสน?”

ระบบตอบ “ไม่ใช่ หนึ่งล้านต่างหาก”

หลินเยวียนสีหน้าครึ้มลงทันที ฟังจากคำพูดพล่ามกองโตของระบบก็รู้แล้วว่าเงื่อนไขของค่าความโด่งดังในการเพิ่มอายุขัยจะต้องสูง แต่เขาไม่คิดว่าจะสูงขนาดนี้

ยากจริงๆ

แสนเดียวยังทำไม่ได้เลย!

ยังจะกล้าเรียกตั้งหนึ่งล้าน!

หลินเยวียนรู้สึกโมโหอยู่บ้าง “หรือว่าฉันจะต้องปล่องเพลงระดับเดียวกับ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ สักร้อยเพลง?”

“ไม่ต้องกังวลไป”

ระบบเอ่ยอธิบาย “ในตอนนี้ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ให้ค่าความโด่งดังแก่โฮสต์เกินหลักหมื่น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเพลงนี้ให้ได้แค่ความโด่งดังพวกนี้ หลังจากนี้ขอเพียงยังมีผู้ฟังใหม่ชื่นชอบ ชื่อเสียงของโฮสต์ก็จะเพิ่มขึ้นไม่หยุด ตามหลักแล้วชื่อเสียงของโฮสต์จะสูงขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งล้านดูเหมือนจะมาก แต่อันที่จริงใช้เวลาแค่ชั่วพริบตา”

หลินเยวียนออกแรงกะพริบตา

ระบบเกือบจะค้างอยู่รอมร่อ “…”

ในใจของหลินเยวียนหัวเราะ ‘เหอะๆ’ แต่เขาก็ยอมรับความจริงแทบทั้งหมด เขาแอบมีความคิดหนึ่งขึ้นมา ขอเพียงหลังจากนี้ผลงานของตนมากขึ้น ชื่อเสียงเรียงนามของเซี่ยนอวี๋เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ไม่หยุดหย่อน ชื่อเสียงของตนก็ต้องมีมากขึ้นไปด้วยสินะ แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็จำเป็นต้องอาศัยความพยายามปล่อยผลงานอย่างไม่ย่อท้อเพื่อแลกมาซึ่งชื่อเสียงถึงจะใช้ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้

หลินเยวียนมองไปยังกล่องสมบัติสี่ใบในคลังเก็บของด้วยความคาดหวัง ไม่รู้ว่าเปิดออกมาจะมีของดีอะไร

เขาไร้ซึ่งความลังเล

หลินเยวียนเปิดกล่องสมบัติทองแดงสองใบก่อน ส่วนกล่องสมบัติทองแดงใบที่สามนั้น เขาตัดสินใจว่าจะเหลือไว้ให้ตนเองสงสัยเล่น

[เปิดกล่องสมบัติทองแดง: ได้รับเพลง ‘ปลายักษ์[1]’]

[เปิดกล่องสมบัติทองแดง: ได้รับเพลง ‘ติดไฟง่ายระเบิดง่าย[2]’]

ดูท่าระบบก็คงรู้ว่าในฉินโจวซึ่งเป็น ‘มาตุภูมิแห่งดนตรี’ นี้ รางวัลที่เกี่ยวข้องกับดนตรีนั้นมีค่าสูงสุด สิ่งที่เปิดมาเจอในกล่องสมบัติจึงเกี่ยวโยงกับดนตรีทั้งหมด

“กล่องสมบัติเงินก็เปิดเลยแล้วกัน” หลินเยวียนบอก

ต่อจากนั้น หลินเยวียนก็สัมผัสได้ว่าเบื้องหน้ามีแสงสว่างเจิดจ้า

[เปิดกล่องสมบัติเงิน: ได้รับเพลงเปียโน ‘วิวาห์ในฝัน ’]

กล่องสมบัติเงินเปิดมาพร้อมกับสเปเชียลเอฟเฟกต์กระจอกๆ?

แต่ว่ารางวัลนี้ก็ไม่เลวจริงๆ ถึงกับเป็น ‘วิวาห์ในฝัน[3]’!

มูลค่าของเพลงเปียโนสูงกว่าทำนองเพลงมาก ถึงอย่างไรก็เป็นหนึ่งในผลงานชั้นยอดของปอล เดอ เซนเนอวีลย์ซึ่งประพันธ์ให้ริชาร์ด เคลย์แดร์ม็อง ในโลกไม่มีใครไม่เคยได้ยินเพลงคลาสสิกนี้หรอก!

มิน่าล่ะถึงเอามาไว้ในกล่องสมบัติเงิน

ถ้าหากมีโอกาสปล่อยเพลงเปียโนซึ่งได้รับคำชื่นชมกันทั่วบ้านทั่วเมืองนี้ไป ก็น่าจะเพิ่มความโด่งดังให้ตนเองได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมนะ

หลินเยวียนครุ่นคิดด้วยความคาดหวัง

แต่ก็ห้ามปล่อยออกไปสุ่มสี่สุ่มห้า

ก็เหมือนกับความสำเร็จของ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ที่ต้องหยิบยืมทรัพยากรและแพลตฟอร์มของสตาร์ไลท์ ถ้าหากไม่มีแพลตฟอร์มหรือโอกาสที่ดี ก็จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิผลของค่าความโด่งดังที่ได้รับไปด้วย

เมื่อคิดถึงตรงนี้

หลินเยวียนก็นึกสงสัยขึ้นมา “ถ้าฉันปล่อยผลงานโดยที่ไม่เปิดเผยตัวตนจริงๆ ค่าความโด่งดังของฉันจะถูกหักมั้ย”

“ไม่”

ระบบเองก็ดูเหมือนขี้เกียจจะพิมพ์ จึงใช้เสียงจักรกลอันไร้อารมณ์ความรู้สึกตอบเข้ามาในสมองของหลินเยวียน “อย่างเช่นชื่อเซี่ยนอวี๋ ตัวตนของเขาก็ระบุถึงโฮสต์ ฉะนั้นโฮสต์จะอยู่เบื้องหน้าหรือหลบอยู่เบื้องหลังก็เหมือนกัน”

“เข้าใจแล้ว”

ก็เหมือนกับการบรรยายว่า ‘เพื่อนสนิทที่สุดของเจี่ยนอี้กับซย่าฝาน’ ที่หมายถึงตนเองนั่นล่ะ ขอแค่คนที่สื่อในตอนสุดท้ายไม่มีปัญหาก็ใช้ได้แล้ว

ทำไมฟังแล้วรู้สึกเหมือนตำนานคธูลู[4]อยู่นะ

หลินเยวียนถามอีกว่า “ปัจจัยโดยละเอียดในการสร้างความโด่งดังดังคืออะไร”

ระบบตอบ “สิ่งที่เรียกว่าความโด่งดังนั้นมาจากการที่ผู้คนยอมรับในผลงาน เพราะผู้คนชื่นชอบ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ จากใจ ดังนั้นความชื่นชอบนี้จะกลายเป็นค่าความโด่งดัง แต่จะกลายเป็นค่าความโด่งดังเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับระดับความชื่นชอบที่ผู้คนมีต่อผลงานของคุณ”

“อ้อ”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ผลประโยชน์จากความโด่งดัง จึงจำเรื่องนี้ได้ขึ้นมาอีกสักหน่อย เมื่อเทียบกับภารกิจที่ลงแรงแสนยากเย็นแล้ว เป็นรางวัลจากความโด่งดังที่หอมหวานกว่ามาก

แน่นอนล่ะ

ต่อให้แมลงวันจะเล็ก แต่ก็ยังเป็นเนื้อ

หลินเยวียนไม่มีทางรังเกียจหากรางวัลมีแค่กล่องสมบัติทองแดงใบเดียว ส่วนภารกิจเกี่ยวกับการสอบนั้น หลินเยวียนก็จะพยายามอย่างเต็มที่จนสำเร็จ

ในตอนนั้นเอง

โทรศัพท์ของหลินเยวียนก็ดังขึ้น

เขาเปิดดู ก็พบว่าเป็นการแท็กทั้งกลุ่มในกลุ่มแช็ตชั้นเรียน

ผู้ที่แท็กทุกคนก็คืออาจารย์หวงซึ่งรับผิดชอบวิชาเรียนของสาขา ‘นักศึกษาทุกคน ประกาศใหม่ล่าสุดจากคณะ สาขาของพวกเราจะจัดการสอบในวันที่ 15 พฤศจิกายน! การบ้านเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์ในดนตรีของสัปดาห์หน้าจะเพิ่มอีกหัวข้อหนึ่ง! พวกเธอได้ฟัง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ แล้วใช่มั้ย ขอให้ทุกคนเตรียมตัวล่วงหน้า หาเหตุผลที่เพลงใหม่เพลงนี้ประสบความสำเร็จ จากมุมมองของการประพันธ์เพลง เน้นจุดสำคัญ! อาจารย์เก็งข้อสอบไว้ รู้สึกได้ว่าข้อสอบของสาขาในครั้งนี้จะต้องออกแน่!’

ในกลุ่มโอดครวญขึ้นมาทันใด

“ไม่เอานะ…”

“อาจารย์…”

“เป็นเพลงที่ฉันชอบที่สุดช่วงนี้เลย…”

“คือจากทำนองเพลงที่ฟังแล้วชอบก็กลายเป็นเพลงที่ฟังจนเอียน?”

“ทุกคน ฉันประกาศไว้ล่วงหน้าเลยนะ ว่าฉันไม่ชอบ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ แล้ว”

คนที่ชอบเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ มีมากทีเดียว

แต่หลี่ว์ซวิ่นกล่าวไว้ว่า

สำหรับนักศึกษาสาขาดนตรี วิธีทำลายเพลงเพลงหนึ่งก็คือการทำให้เพลงนั้นเป็นการบ้าน

หลินเยวียนกลับดีใจมาก

ถึงยังไงเพื่อนๆ ในคลาสก็ได้มอบชื่อเสียงให้เขามาแล้ว ระบบหักคะแนนไม่ได้อยู่แล้วละ

ส่วนหลังจากนี้พวกเขาจะยังชอบหรือไม่ชอบ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ก็ไม่เกี่ยวกับหลินเยวียน

หลังจากนี้ตนเองยังมีอีกหลายเพลง

อีกอย่างถ้าออกสอบเรื่องนี้ หลินเยวียนก็มั่นใจมาก เพราะว่าในขณะที่ระบบมอบเพลงให้ ก็ยังมอบสิ่งที่คล้ายกับข้อมูลอ้างอิงมาให้ด้วย

‘การบ้านทำเพลงอะไรเหรอ’

เพียงไม่กี่นาทีข้อความในกลุ่มก็ 99+ แล้ว

มีนักศึกษาบางคนที่มาช้า โทรศัพท์ค้าง แต่กลับขี้เกียจย้อนอ่าน จึงพิมพ์ถามในกลุ่ม

‘’ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ถ้าถามอีกจะกัดลิ้นตายแล้วนะ!’

คำตอบนี้มาจากหัวหน้าชั้น ขนาดมีหน้าจอกั้นอยู่ยังรู้สึกถึงความอาฆาตแค้น หนำซ้ำยังเสริมมาอีกประโยคหนึ่งว่า ‘ฉันเกลียดเซี่ยนอวี๋!’

‘+1!’

‘+2!’

‘+3!’

กองทัพของชั้นเรียนผนึกกำลังกันเป็นหนึ่ง

หลินเยวียนพิมพ์จุดๆๆ เพื่อทำลายกระบวนทัพ รู้สึกว่าคนพวกนี้ดุดันจริงๆ จากนั้นเขาก็ค่อยโล่งใจ

ทุกคนเกลียดเซี่ยนอวี๋

แล้วเกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?

………………………………………………

[1] ปลายักษ์ (《大鱼》) ขับร้องโดยโจวเซิน เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์อนิเมชันเรื่อง ‘ปลายักษ์กับบีโกเนีย’

[2] ติดไฟง่ายระเบิดง่าย (《易燃易爆炸》) ขับร้องโดยเฉินลี่

[3] วิวาห์ในฝัน (Mariage d’Amour) เพลงเดี่ยวเปียโน ประพันธ์โดยปอล เดอ เซนเนอวีลย์ นักดนตรีชาวฝรั่งเศส

[4] ตำนานคธูลู เป็นจักรวาลซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ในนิยายของเอช. พี. เลิฟคราฟต์

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด