Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 103 ส่วนแบ่งของสัญญา

อ่านนิยายจีนเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ตอนที่ 103 ส่วนแบ่งของสัญญา อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 103 ส่วนแบ่งของสัญญา

อันที่จริง ในตอนที่เพลงกุหลาบแดงทะยานขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์ ยอดดาวน์โหลดเพลงก็พุ่งทะลุหนึ่งล้านสองแสนแล้ว!

นี่ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขอันสวยงาม ขณะเดียวกันก็ยังหมายความว่าหลินเยวียนได้ก้าวเข้าสู่คุณสมบัติของการเป็นนักประพันธ์เพลงระดับสูงแล้ว

ใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมาสักหน่อยก็คือ

ควรเปลี่ยนสัญญาส่วนแบ่งให้เซี่ยนอวี๋แล้ว!

สัญญาที่หลินเยวียนมีก่อนหน้านี้เป็นสัญญามาตรฐานของหน้าใหม่ บริษัทได้ส่วนแบ่งแปดส่วน

ในตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นอย่างไร จำเป็นต้องเจรจากันก่อน

สัญญาที่บรรดานักประพันธ์เพลงระดับสูงของบริษัทเซ็นนั้นไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด

หลินเยวียนเพิ่งจะแตะถึงระดับแรกเข้าของมาตรฐานนักประพันธ์เพลงระดับสูง เหล่าโจวก็มาหาหลินเยวียน ก่อนจะกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม “นายแตะถึงมาตรฐานของนักประพันธ์เพลงระดับสูงที่บริษัทกำหนดไว้แล้ว มีความเห็นยังไงกับสัญญาใหม่”

มีความเห็นยังไง?

หลินเยวียนมองเหล่าโจวด้วยสายตางุนงง นี่มันคำถามไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ ส่วนแบ่งยิ่งมากก็ยิ่งดีอยู่แล้ว!

“…”

แน่นอนเหล่าโจวอ่านความนัยในสายตาของหลินเยวียนออก และไม่ได้โกรธเคือง เขายิ้มอย่างเป็นมิตร “เรื่องสัญญาฉันจะไปช่วยนายคุยกับบริษัทเอง”

หลินเยวียนลังเล

ไว้ใจเหล่าโจวได้ไหมนะ

ในตอนนั้นเอง ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ทันไรเงาร่างอันคุ้นเคยก็เดินมา

คนคนนี้คือจ้าวเจวี๋ย หลังจากที่เธอเดินเข้ามา ก็มองเหล่าโจวพลางเอ่ยว่า “หลินเยวียนแตะถึงมาตรฐานนักประพันธ์เพลงระดับสูงแล้ว ฉันกะว่าจะออกหน้าไปคุยเรื่องสัญญาใหม่แทนหลินเยวียน”

เหล่าโจวเหลือบมองจ้าวเจวี๋ย “ฉันจัดการเองก็ได้”

จ้าวเจวี๋ยส่ายหน้า “ฉันเจรจาสัญญาที่ดีกว่าได้”

เหล่าโจวไม่สบอารมณ์ “อย่าลืมว่าหลินเยวียนเป็นคนของแผนกประพันธ์เพลง เธอคิดว่าตัวเองมีกำลังภายในเยอะ หรือคิดว่าฉันออกหน้าเพราะจะหลอกหลินเยวียน?”

เสี่ยวจ้าวเล่นไม่ซื่อ!

หลินเยวียนเป็นคนของฉัน เธอยังจะมาแย่งโอกาสทำผลงานอีกเหรอ

จ้าวเจวี๋ยเองก็ไม่พอใจขึ้นมา เอ่ยเตือนเหล่าโจว “เหล่าโจว หลินเยวียนเป็นคนที่ฉันเซ็นสัญญาเข้ามา”

“ฉันจัดการเอง”

“ฉันจัดการเอง!”

“ฉัน โจวรุ่ยหมิงกล้างัดข้อกับผู้บริหารระดับสูง”

“ฉันคุ้นเคยกับบอส!”

“…”

หลินเยวียนมองทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกันขึ้นมา ทำได้แค่พูดว่า “พวกพี่ไปด้วยกันก็ได้นี่ครับ”

“ไปด้วยกัน?”

เหล่าโจวกับจ้าวเจวี๋ยมองหน้ากัน ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างรู้กัน “ได้ รอข่าวดีจากพวกเราแล้วกัน”

หลินเยวียนพยักหน้า

ผ่านไปห้านาที

โจวรุ่ยหมิงกับจ้าวเจวี๋ยมายังแผนกการเงิน แผนกการเงินของสตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์มีคนรับผิดชอบเรื่องสัญญาของนักประพันธ์เพลงระดับสูง

“ลมอะไรหอบพวกคุณสองคนมาล่ะครับเนี่ย”

เมื่อผู้รับผิดชอบสัญญาท่านนี้เห็นโจวรุ่ยหมิงและจ้าวเจวี๋ยเข้ามาพร้อมกัน ก็ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นบนใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มกระตือรือร้นออกมา

ทั้งสองคนนี้เป็นบุคลากรที่มีอำนาจในบริษัท

โจวรุ่ยหมิงพูดว่า “เปลี่ยนสัญญาให้เซี่ยนอวี๋ด้วย”

สีหน้าของผู้รับผิดชอบแปรเปลี่ยนเป็นอมทุกข์ “คุณมาแทนเซี่ยนอวี๋เองเลยเหรอครับ”

โจวรุ่ยหมิงพยักหน้า

ผู้รับผิดชอบงงงวยไปชั่วขณะ

สัญญาประเภทนี้โดยทั่วไปแล้วเป็นเรื่องที่นักประพันธ์เพลงกับบริษัทเจรจากัน

มีเพียงนักประพันธ์เพลงระดับสูงที่มีศักยภาพเท่านั้น ที่หัวหน้าจะออกหน้าช่วยเจรจาแทนด้วยตัวเอง

นี่คือสถานการณ์ที่ผู้รับผิดชอบหวาดกลัวมากที่สุด!

เพื่อที่จะรักษาสัมพันธภาพที่ดีต่อนักประพันธ์เพลงศักยภาพสูงเหล่านี้ ท่าทีของหัวหน้าเหล่านี้ตอนที่เจรจาผลประโยชน์มักจะดุดันเป็นที่สุด และยืนอยู่ฝั่งนักประพันธ์เพลงอย่างเต็มที่!

ทว่าหน้าที่ของผู้รับผิดชอบ ก็คือการยืนอยู่ฝั่งผลประโยชน์ของบริษัท และกดราคาให้ได้มากที่สุด

“แล้วหัวหน้าจ้าวล่ะครับ”

ผู้รับผิดชอบมองไปยังจ้าวเจวี๋ย

จ้าวเจวี๋ยตอบ “เหมือนกับเขานั่นแหละ”

ผู้รับผิดชอบถลึงตา “มาแทนใครครับ”

จ้าวเจวี๋ย “เซี่ยนอวี๋”

ผู้รับผิดชอบอ้าปากพะงาบ มือขยับค้างกลางอากาศ นิ่งอึ้งไปพูดอะไรไม่ออก

……

เมื่อจ้าวเจวี๋ยและโจวรุ่ยหมิงออกไป ผู้รับผิดชอบฟุบแน่นิ่งอยู่กับโต๊ะ ทำเอาลูกน้องข้างโต๊ะตกใจเสียยกใหญ่ “เป็นอะไรเหรอครับ”

“ฉันเป็นคนบาปของบริษัท”

ผู้รับผิดชอบเอ่ยปากอย่างไร้เรี่ยวแรง

ลูกน้องจนใจ “ไปอธิบายกับผู้บริหารระดับสูงมั้ยครับ”

ผู้รับผิดชอบมองลูกน้อง “เรื่องที่นายคิดได้ มีเหรอฉันจะคิดไม่ได้ พอผู้บริหารระดับสูงได้ยินว่าเป็นสัญญาของเซี่ยนอวี๋ ก็ให้ฉันจัดการเองเลย”

“หัวหน้าเซ็นไปเท่าไหร่ครับ”

“นี่เป็นเรื่องที่นายควรถามเหรอ”

ลูกน้องแค่นหัวเราะ ถอยออกไปเงียบๆ

ผู้รับผิดชอบพูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ “ครั้งหน้าเสนอสัญญา ผู้บริหารระดับสูงน่าจะมาเจรจาเอง”

ลูกน้องชะงักไป

อีกด้านหนึ่ง เหล่าโจวและจ้าวเจวี๋ยกลับมายังแผนกประพันธ์เพลงแล้ว ทั้งสองดูท่าทางมีอำนาจ วางสัญญาฉบับใหม่บนโต๊ะ “นี่คือสัญญาฉบับใหม่ของนาย”

“แบ่งยังไงครับ”

หลินเยวียนออกจะคาดหวังอยู่บ้าง

จ้าวเจวี๋ยยิ้มเอ่ย “ถ้าหลังจากนี้ร่วมงานกับนักร้องตัวเล็กๆ เธอจะมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งห้าส่วน นักร้องได้เท่าไหร่เธอตัดสินใจเลย แน่นอนล่ะพวกเขาเองก็มีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่ฉันว่าน่าจะไม่มีนักร้องคนไหนปฏิเสธโอกาสร่วมงานกับเธอหรอก”

หลินเยวียนเริ่มคิดคำนวณ

จากอัตราส่วนในสัญญานี้ เมื่อก่อนเขาได้ส่วนแบ่งเพียง 1.5 ส่วน ในตอนนี้ได้ 4.5 ส่วน เพิ่มขึ้นสามเท่าตัวเลย

นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ทุกเดือนรายได้รวมส่วนแบ่งจากเพลงของหลินเยวียนจะคูณสาม หลังจากนี้ราคาการสั่งทำเพลงจากระบบก็จะคุ้มค่าขึ้นมามาก

“อีกเรื่อง”

เหล่าโจวกล่าวเสริม “ถ้าร่วมงานกับนักร้องเบอร์ใหญ่ บริษัทจะให้ส่วนแบ่งสามส่วน หกส่วนที่เหลือบริษัทจะส่งคนไปคุยกับนักร้องและผู้จัดการ ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”

หลินเยวียน “…”

นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ชอบร่วมงานกับนักร้องเบอร์ใหญ่

ร่วมงานกับผู้ช่วยงาน ตนสามารถเก็บ 4.5 ส่วน แบ่งออกไปแค่ 0.5 ส่วนก็พอแล้ว ถ้าร่วมงานกับนักร้องเบอร์ใหญ่ ทางตนกลับได้แค่สามส่วนเท่านั้น

ราคาแตกต่างกันถึง 1.5 ส่วน!

อย่าดูถูกเงิน 1.5 ส่วนเชียวนะ เพลงก่อนหน้านี้ของหลินเยวียน ได้เงินมาจากส่วนแบ่ง 1.5 ทั้งนั้น รวมๆ แล้วก็ได้เงินมาไม่น้อยเลย

“หลินเยวียน”

เหล่าโจวกล่าวกลั้วหัวเราะ “สำหรับนายที่เพิ่งได้เป็นนักประพันธ์เพลงระดับสูง สัญญานี้กลายเป็นสัญญาที่มีเงื่อนไขดีที่สุดในตอนนี้แล้ว คนที่มีผลงานยอดเยี่ยมเยอะกว่านายเยอะแยะ สัญญากลับไม่จำเป็นต้องดีกว่านายก็ได้”

“ครับ”

จ้าวเจวี๋ยพยักหน้า “รอให้หลังจากนี้เธอผลิตผลงานที่โดดเด่นกว่านี้ สัญญานี้อาจเพิ่มขึ้นไปอีก พอถึงตอนนั้นฉันกับเหล่าโจวก็ยังช่วยเธอออกหน้าเจรจาได้”

“ขอบคุณครับ”

ระหว่างที่หลินเยวียนพูดก็หยิบสัญญามาอ่านรอบหนึ่ง หลังจากมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว จึงเซ็นสัญญา ‘เซี่ยนอวี๋’ และชื่อของตนลงในช่อง

“จริงสิ”

หลินเยวียนเซ็นชื่อ ทันใดนั้นก็เริ่มสงสัยขึ้นมา “ถ้าเป็นพ่อเพลง ทางบริษัทให้ส่วนแบ่งยังไงครับ”

“สิบส่วน”

จ้าวเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง

นักร้องไม่ได้ส่วนแบ่งเลย?

เหล่าโจวเสริมประโยคหนึ่ง โดยไม่รอให้หลินเยวียนรู้สึกอิจฉา “มีพ่อเพลงบางคน ยังสามารถได้รับส่วนแบ่งต่างๆ นอกเหนือจากยอดดาวน์โหลดได้”

หลินเยวียนตกตะลึงไป

บทเพลงทำเงินได้ไม่เพียงจากยอดดาวน์โหลด ยังรวมไปถึงการออกรายการและอีเวนต์ รวมไปถึงคอนเสิร์ตของนักร้องด้วย ส่วนแบ่งจากรายการเหล่านี้สูงมาก ถึงขั้นที่สูงกว่าส่วนแบ่งจากยอดดาวน์โหลดเพลงเสียอีก!

“สู้ๆ ”

เหล่าโจวยิ้มเอ่ย “รอให้นายมีวันนั้นก่อน ก็จะบอกสิ่งที่โหดกว่านั้นกับนาย บริษัทมีมือทองถมเถไป เพราะงั้นสัญญาของมือทองไม่ได้นับว่าดีเลิศอะไร แต่พ่อเพลงเหมือนอยู่คนละโลกกันแล้ว”

หลินเยวียนพยักหน้า

และระหว่างที่หลินเยวียนกำลังได้สัญญาฉบับใหม่นั้นเอง เฉินจื้ออวี่กับผู้จัดการก็กำลังกินโต๊ะจีนปลา ทันใดนั้น เฉินจื้ออวี่ก็อ้าปากกว้าง ท่าทางทรมานจับใจ

“เป็นอะไร”

ผู้จัดการเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

เฉินจื้ออวี่ร้องลั่น “ก้าง! ปลานี่ มีก้าง!”

………………………………………….

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด