Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 28 ชื่อเสียงด้านวรรณกรรม

อ่านนิยายจีนเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ตอนที่ 28 ชื่อเสียงด้านวรรณกรรม อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

แม้แต่วิทยาลัยศิลปะฉินโจวก็ยังถกเถียงกันเรื่อง ‘ปลายักษ์’ บริษัทบันเทิงขนาดใหญ่ในฉินโจวไม่มีทางไม่ติดตาม สื่อบันเทิงทั้งเล็กใหญ่ก็เริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับเพลงนี้เช่นกัน

“ภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังมากในช่วงนี้”

ในรายการบันเทิง ใบหน้าของพิธีกรประดับรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ “ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘มังกรมัจฉาเริงระบำ’ ในตอนนี้ยอดบ็อกซ์ออฟฟิศทะลุแปดร้อยล้านไปแล้ว และสิ่งที่มาพร้อมกับความโด่งดัง ก็คือเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งดังไปทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต”

“ผมจะยังไม่พูดชื่อเพลง”

“หลายคนคงจำความยิ่งใหญ่ของฤดูกาลศิลปินหน้าใหม่ในเดือนพฤศจิกายนกันได้สินะครับ เด็กใหม่ฟาดฟันในชาร์ตดาวรุ่งกันอย่างดุเดือด ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเพลงชื่อ ‘ชีวิตดังมวลผกายามคิมหันต์’ ที่คว้าอันดับหนึ่งไปครอง เพลงนี้ถึงกับเอาชนะเฉียนซิงอวี่ซึ่งได้รับความนิยมมากในตอนนั้น และผู้สร้างสรรค์เพลงนี้ขึ้นมาก็คือผู้ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ เซี่ยนอวี๋!”

“ใช่แล้วครับ หลายคนคงจะเดากันออกแล้ว”

“เพลงซาวด์แทร็กที่ชื่อว่า ‘ปลายักษ์’ นี้ก็เป็นผลงานจากมือของนักแต่งเพลงหน้าใหม่ท่านนี้ หลายคนฟังปลายักษ์จบก็ถูกเพลงนี้ตกเข้าแล้ว เพราะเหตุการณ์แบบนี้ทำให้พวกเรายากที่จะมองข้ามผู้สร้างสรรค์ผลงานอย่างเซี่ยนอวี๋ท่านนี้”

“ทุกคนต้องสงสัยกันแน่เลย”

“ในเวลาสั้นๆ แค่สองเดือน ถึงกับปล่อยเพลงดีขนาดนี้ออกมาสองเพลงรวด นักแต่งเพลงหน้าใหม่จากสตาร์ไลท์ท่านนี้เก่งไม่เบาเลยใช่มั้ยครับ ต่อให้เป็นในฉินโจวของเรา เด็กใหม่ที่มีพรสวรรค์แบบนี้ก็หาได้ยากมาก…”

พรึ่บ

ในเซวี่ยนล่านอิ๋นกวงซึ่งเป็นหนึ่งในสามบริษัทบันเทิงใหญ่ของฉินโจว สีเหม่ยหัวหน้าผู้จัดการหยิบรีโมตขึ้นมาปิดโทรทัศน์ติดผนัง

ในตอนนี้เอง

ผู้ช่วยของเธอก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา ตะโกนลั่นว่า “เกิดเรื่องแล้ว พี่คะ เกิดเรื่องแล้ว! แย่แล้ว!”

“ฟ้าถล่มหรือไง”

สไตล์การทำงานที่ดุดันคล้ายว่าจะเป็นเป็นเอกลักษณ์ร่วมกันของหัวหน้าผู้จัดการของทั้งสามบริษัทบันเทิงใหญ่ในฉินโจว สีเหม่ยก็เป็นคนแบบนี้ ถึงขั้นที่เธอเย็นชากว่าจ้าวเจวี๋ยเสียด้วยซ้ำ “หายใจก่อนแล้วค่อยพูด”

“ค่ะ!”

ผู้ช่วยสงบสติอารมณ์ เมื่อกลับมาผ่อนคลายลงแล้ว จึงกระซิบว่า “สตาร์ไลท์เพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการว่าจ้าวอิ๋งเก้อเซ็นสัญญากับพวกเขาแล้ว!”

“อะไรนะ!”

สีเหม่ยสีหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาทันที หรี่ตาลงพูดว่า “ที่เลือกสตาร์ไลท์ เธอรู้รายละเอียดมั้ยว่าเพราะอะไร”

“มีข้อมูลมานิดหน่อยค่ะ”

ผู้ช่วยคนนี้พูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นคนในของสตาร์ไลท์ เขาหลุดพูดมาว่าน่าจะเป็นเพราะ

เซี่ยนอวี๋ แต่ว่าเหตุผลโดยละเอียดฉันยังไม่แน่ใจค่ะ”

“เซี่ยนอวี๋อีกแล้วเหรอ”

แววตาของสีเหม่ยเป็นประกายวาบ

แย่งอันดับหนึ่งในชาร์ตดาวรุ่งไป เซียนอวี๋ก็ไม่ได้ดึงความสนใจของเธอไว้ได้ ถึงอย่างไรใครๆ ก็มีช่วงที่แรง

บันดาลใจลุกโชนกันทั้งนั้น ในสายงานนี้ก็มีถมไป

ในช่วงนี้

เพลงซาวด์แทร็ก ‘ปลายักษ์’ โด่งดังขึ้นมา เซี่ยนอวี๋ถึงทำให้สีเหม่ยสนใจขึ้นมาได้ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเพียงเด็กใหม่ที่

พรสวรรค์ไม่เลวก็แค่นั้น

แต่เธอนึกไม่ถึงว่า

จ้าวอิ๋งเก้อที่เธออยากไปคว้าตัวมานั้นจะถึงกับเข้าสตาร์ไลท์เพราะเซี่ยนอวี๋ นั่นทำให้สีเหม่ยต้องจับตามองแล้ว “เห็นทีจ้าวเจวี๋ยคงไปขุดเจอต้นกล้าพันธุ์ดีเข้าแล้วสิ แต่เรื่องของจ้าวอิ๋งเก้อก็ไม่ควรจบแบบนี้ ติดต่อซาไห่ไป”

ผู้ช่วยคิดว่าตนเองฟังผิดไป “ซาไห่?”

สามบริษัททั้งเซวี่ยนล่านอิ๋งกวง สตาร์ไลท์ แล้วก็ซาไห่นั้นไม่ได้ญาติดีต่อกันแต่อย่างใด

สีเหม่ยหัวเราะ “ช่วงนี้สตาร์ไลท์ได้เปรียบไปไม่น้อย คงจะทำให้ซาไห่โกรธมากเหมือนกัน ครั้งนี้พวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน จะร่วมมือกับซาไห่สักครั้งก็ได้”

……

การถกเถียงเรื่อง ‘ปลายักษ์’ หลินเยวียนก็พอจะรู้อยู่บ้าง เพราะในกลุ่มแช็ตที่เขาอยู่ก็มักจะมีคนแชร์เพลงเข้ามา ถึงขั้นมีคนคาดเดาว่าเพลงนี้มีโอกาสอยู่ในข้อสอบหรือเปล่า โชคดีที่อาจารย์ใจดีอยู่บ้าง ไม่ได้ทำลายความชอบที่ทุกคนมีต่อเพลงนี้ซ้ำสอง

คนพูดคุยมากก็หมายความว่าเพลงดัง

หลินเยวียนเริ่มคาดหวังขึ้นมาบ้าง ไม่รู้ว่าจนถึงตอนนี้ เพลง ‘ปลายักษ์’ ทำค่าความโด่งดังให้เขาเท่าไหร่แล้ว

เขาเอ่ยเรียกระบบ เบื้องหน้าก็ปรากฏแถบตัวอักษรขึ้นมา

[อายุ: 19]

[อายุขัย: 27]

[จิตรกรรม: 45]

[วรรณกรรม: 105]

[ดนตรี: 26494]

เป็นเพราะคะแนนวรรณกรรมและจิตรกรรมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ฉะนั้นระบบจึงขี้เกียจแสดงค่าความโด่งดังโดยภาพรวมแล้ว

ค่าความโด่งดังประเภทดนตรียังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพอกับที่หลินเยวียนจินตนาการไว้ ในตอนนี้ใกล้แตะถึงสามหมื่นแล้ว

“แต่ก็ยังห่างไกลกับค่าความโด่งดังหนึ่งล้านมาก”

หลินเยวียนขมวดคิ้ว มองเข้าไปในกล่องเก็บไอเทม ยังเหลือกล่องสมบัติทองแดงอีกสองกล่อง

เพลงที่มีอยู่ในมือได้ใช้ไปหมดแล้ว หลินเยวียนจำเป็นต้องเสริมการเติบโตในหน้าที่การงานต่อไป เขาจึงพูดว่า “เปิดกล่องสมบัติอีกสองกล่อง”

[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้เพลง ‘กุหลาบแดง ’ ]

[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้นิยายชนิดพิเศษ ‘ปรินซ์ออฟเทนนิส ’]

กล่องสมบัติสองใบเปิดออก

กล่องสมบัติใบแรกเป็นบทเพลงซึ่งไม่อยู่เหนือความคาดหมาย

แต่กล่องสมบัติใบที่สองกลับเป็นของที่พิสดาร

หลินเยวียนถาม “‘ปรินซ์ออฟเทนนิส’ คือนิยายอะไรเหรอ ทำไมฉันไม่เห็นเคยได้ยิน”

ระบบอธิบายว่า

“นี่คือนิยายความยาวหนึ่งล้านตัวอักษรซึ่งดัดแปลงจากอนิเมะคลาสสิกเรื่อง ‘เจ้าชายลูกสักหลาด’ โดยอ้างอิง

จากฉากในโรงเรียนมัธยมปลายบนบลูสตาร์ เล่าถึงเรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งที่คลั่งไคล้ในเทนนิสและไล่ตามความฝันในการเล่นเทนนิส มีทั้งความเยาว์วัยและสับสน ทั้งความเลือดร้อนและซาบซึ้ง ขณะเดียวกันนิยายเรื่องนี้ก็ยังเป็นแนวการแข่งขันกีฬาที่หาได้ยากของบลูสตาร์ในตอนนี้ เป็นการหวนคืนแก่นแท้ของอนิเมะอย่างสมบูรณ์แบบ โฮสต์สามารถใช้การอ่านด้วยความเร็วแสงตรวจสอบก่อนได้”

ดัดแปลงอนิเมะเป็นนิยายเหรอ

เรื่องราวภูมิหลังก็กลายเป็นบลูสตาร์

โดยทั่วไปแล้วจะดัดแปลงนิยายมาเป็นอนิเมะไม่ใช่เหรอ?

ระบบนี้ถึงกับทำกลับกัน ผสานเข้ากับฉากของบลูสตาร์ ทำให้อนิเมะเรื่องดังในโลกเดิมกลายเป็นนิยายหนึ่งล้านตัวอักษร…

“อ่าน”

หลินเยวียนกระซิบออกมาในใจ

ตามการแนะนำของระบบ เนื้อเรื่องพวกนี้กับเนื้อเรื่องของอนิเมะ ‘เจ้าชายลูกสักหลาด’ จะเหมือนกันถึงแปดสิบ

เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าเก็บแก่นสำคัญของเรื่องไว้ทั้งหมด ขณะเดียวกันสไตล์การเขียนก็ยังเข้ากับความคุ้นเคยของนักอ่านในบลูสตาร์ อีกทั้งพล็อตและจังหวะของเรื่องก็ค่อนข้างกระชับ เข้ากับมาตรฐานในการตีพิมพ์เป็นเล่ม

ล้วนเป็นการอวดเบ่งของระบบ

ที่แท้นี่ก็คือความหมายโดยนัยของนิยายชนิดพิเศษ?

อืม พิเศษจริงๆ นั่นละ เพราะอนิเมะเรื่อง ‘เจ้าชายลูกสักหลาด’ ก็ดัดแปลงมาจากมังงะ ไม่ได้มีฉบับนิยายแต่อย่างใด แต่กลับมีผู้คนในโลกเดิมให้ความสนใจไม่น้อย

‘ติ๊งต่อง’

เสียงของระบบดังขึ้น “ยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับภารกิจใหม่ หวังว่าโฮสต์จะประสบความสำเร็จในด้านวรรณกรรมภายในปีนี้”

[ชื่อภารกิจ: พัฒนารอบด้าน]

[เนื้อหาภารกิจ: การประกวดซูเปอร์โนวากำลังใกล้เข้ามา ขอให้โฮสต์เผยแพร่นิยายเรื่อง ‘ปรินซ์ออฟเทนนิส’ ในงานซูเปอร์โนวาให้สำเร็จ รวมไปถึงทำเป้าหมายค่าความโด่งดังด้านวรรณกรรมให้ทะลุหมื่น]

[รางวัลภารกิจ: กล่องสมบัติสามใบ]

หลินเยวียนตื่นตัวขึ้นมาทันที ในที่สุดก็มีภารกิจใหม่มาแล้ว และในครั้งนี้ก็มีรางวัลภารกิจเป็นกล่องสมบัติสามใบ!!!!

“รับภารกิจ”

หลินเยวียนตอบรับอย่างไม่ลังเล

ดูท่าแล้วค่าความโด่งดังที่นิยายให้มาน่าจัดอยู่ในประเภทวรรณกรรม

ได้เปิดประเดิมประเภทวรรณกรรมสำหรับหลินเยวียนนั้นนับว่าเป็นเรื่องดี มีช่องทางเพิ่มความโด่งดังมากขึ้นอีก เขาจะได้จัดการชีวิตของตนเองเร็วขึ้นสักหน่อย

ใช่แล้ว

‘ซูเปอร์โนวา’ ที่ระบบพูดถึง หลินเยวียนรู้สึกคุ้นหูอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้คล้ายกับว่าจะได้ยินซย่าฝานกับเจี่ยนอี้พูดถึง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด