Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 55 ตายเรียบ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน ตอนที่ 55 ตายเรียบ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 55 ตายเรียบ

ฉู่ขวงโพสต์นิยายขนาดสั้น

เมื่อได้รับข้อความ ปฏิกิริยาตอบรับแรกของแฟนคลับก็เหมือนกัน

ฉู่ขวงโพสต์ภาคแยกของปรินซ์ออฟเทนนิสในปู้ลั่วเหรอ

ความคิดแบบนี้ธรรมดามาก

มีนักเขียนบางคนชอบโพสต์ภาคแยกของนิยายซึ่งเดิมทีไม่มีแผนจะตีพิมพ์ผ่านปู้ลั่ว และพูดคุยกับนักอ่าน

แต่ว่าฉู่ขวงเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับ

เมื่อทุกคนกดเข้าไปดูในปู้ลั่วตามแจ้งเตือน ก็พบว่านี่ไม่ใช่ภาคแยกแต่อย่างใด หากแต่เป็นนิยายสั้นที่ฉู่ขวงเขียน

“ถ้าเป็นภาคแยกของปรินซ์ออฟเทนนิสก็ดีน่ะสิ”

ในตอนนั้น ปรินซ์ออฟเทนนิสได้ตีพิมพ์เล่มที่สองแล้ว ฐานแฟนคลับก็ขยายใหญ่ขึ้น เมื่อพบว่าไม่ใช่ภาคแยก คนจำนวนมากก็ผิดหวังอยู่บ้าง

ยกตัวอย่างเช่นจูหมิง นักเรียนมัธยมปลายของเมืองซานในฉินโจว เรียกได้ว่าเป็นแฟนตัวยงของปรินซ์ออฟเทนนิสเลย

“นายน่าจะอ่านหนังสือที่มีสาระให้มากกว่านี้นะ”

จูฮุ่ยพี่สาวของจูหมิงต่อต้านนิยายแฟนตาซีเยาวชนที่น้องชายอ่านมาโดยตลอด ได้โอกาสก็เอ่ยปากบ่นจูหมิงอยู่เสมอ

จูฮุ่ยมีอคติกับนิยายแนวแฟนตาซีเยาวชนพรรค์นี้

เพราะในนิยายประเภทนี้ที่เธอเคยอ่านนั้น ตัวละครทะลุมิติไปยังต่างโลก วันๆ ก็เอาแต่ขลุกอยู่กับสาวสวยโขยงหนึ่ง สุดท้ายหญิงสาวกลุ่มนี้ก็กลายเป็นภรรยาของเขาทั้งหมด บทบรรยายในเนื้อเรื่องบางครั้งก็ยังสอดแทรกเนื้อหาของผู้ใหญ่ไว้ด้วย…

“ผมบอกแล้วไง”

น้องชายตอบโต้จูฮุ่ย “ปรินซ์ออฟเทนนิสไม่เหมือนกับนิยายพวกนั้นซะหน่อย นิยายเรื่องนี้เขียนเกี่ยวกับเทนนิส นักกีฬาเทนนิสมืออาชีพยังบอกเลยว่านิยายเขียนดีมาก มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่อ่านนิยายเล่มนี้”

“งั้นเหรอ”

จูฮุ่ยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เธอนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ ในคอมพิวเตอร์ล็อกอินบัญชีผู้ใช้ปู้ลั่วของน้องชายค้างไว้ “เมื่อกี้นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าฉู่ขวงโพสต์นิยายสั้น เป็นนักเขียนที่นายชอบใช่มั้ย ไหนพี่ดูหน่อยซิว่าเขาเขียนเกี่ยวกับอะไร”

“เรื่องนี้ไม่ใช่นิยายแฟนตาซีเยาวชน”

“ขอแค่เป็นคนเดียวกันก็ได้”

“งั้นพี่ก็ไปอ่านปรินซ์ออฟเทนนิสสิ ผมมีหนังสือ”

“ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนั้น บางครั้งอ่านจากสำนวนก็เข้าใจคนได้แล้ว” จูฮุ่ยว่าพลางกดเปิดนิยายที่ชื่อว่า ‘โฉมงามประดิษฐ์’

เนื้อเรื่องสั้นจริงๆ นั่นละ

บทเปิดของเรื่องบรรยายถึงเถ้าแก่บาร์คนหนึ่งเห็นว่าบาร์ของตนเองล้มละลาย จึงเดิมพันหมดหน้าตัก ผลิตหุ่นยนต์สาวสวยซึ่งสามารถบริการลูกค้าในบาร์ได้ เพราะหุ่นยนต์หญิงสาวนี้จะตัดสินโชคชะตาของบาร์แห่งนี้ ดังนั้นเถ้าแก่จึงทุ่มเท สร้างเธอออกมาให้สวยสะคราญชวนตะลึง

ผิวขาวผุดผ่องเนียนละเอียดดุจหยกเกินสาววัยแรกแย้มคนใดเปรียบ พานให้ทึกทักว่าเป็นมนุษย์จริงๆ

ผู้ที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ย่อมต้องคิดว่านี่เป็นหญิงสาวที่ผิวเนียนนุ่มที่สุดคนหนึ่งที่ตนเคยพบมาเลย!

เมื่อบรรดาลูกค้าเห็นเด็กสาวอายุน้อยรูปร่างหน้าตาสะสวยมาใหม่หลังเคาน์เตอร์ในบาร์ ก็รีบปรี่เข้ามาแย่งกันทักทาย

ยามที่อีกฝ่ายถามชื่อเสียงเรียงนามและอายุ เธอยังตอบได้พร้อมรอยยิ้มสบายๆ แต่ถ้าถามต่อไปเรื่อยๆ เธอก็จะตอบไม่ได้แล้ว…

แม้จะพูดแบบนี้ แต่ก็ไม่มีใครจับสังเกตได้ว่าเธอเป็นหุ่นยนต์

ดังนั้นบาร์แห่งนี้จึงโด่งดังขึ้นมา

ผู้คนมากมายหลั่งไหลมาที่บาร์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ เชื้อเชิญให้โฉมงามคนนี้ร่ำสุรา

ส่วนเถ้าแก่ก็ยืนอยู่ในเคาน์เตอร์ บ้างครั้งก็นั่งยองลง เก็บสุราในท่อพลาสติกที่เท้าของหุ่นยนต์หญิงสาวกลับมา แล้วนำไปขายให้ลูกค้าด้วยราคาเที่ยงธรรม

บรรดาลูกค้าไม่ล่วงรู้ถึงความลับนี้

[หญิงสาวคนนั้นยังเยาว์วัย ดื่มสุราไปไม่น้อยเลย แต่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าร่างกายต้องแข็งแรงมากแน่ๆ เธอไม่ได้เข้าไปดึงลูกค้ามายั่วเย้าคลอเคลีย ลูกค้าเลี้ยงเหล้าเธอ เธอก็ดื่มจนหมดเสียทุกครั้ง แต่กลับไร้ซึ่งท่าทีว่าจะเมามาย]

ลูกค้าคิดกัน

จูฮุ่ยซึ่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์รู้สึกตกตะลึง

ความคิดของฉู่ขวงคนนี้น่าสนใจอยู่เหมือนกันแฮะ

ในสำนวนภาษาคล้ายกับจะระคนกลิ่นอายของการเสียดสีอยู่เล็กน้อย เพราะทุกคนสนใจเพียงรูปลักษณ์

ภายนอก ไม่ได้สนใจภายใน ฉะนั้นทุกคนจึงชมชอบหุ่นยนต์หญิงสาวโดยปราศจากความสามารถในการขบคิดและกลั่นกรองด้วยตนเอง

แต่ว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปยังไงล่ะ

ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมา จูฮุ่ยก็เห็นเนื้อหาท่อนต่อไปแล้ว

[ในบรรดาลูกค้าเหล่านี้ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาตกหลุมรักหุ่นยนต์หญิงสาวนี้ทันทีที่แรกเห็น ทุกวันจะต้องไปเลี้ยงสุราหุ่นยนต์หญิงสาวที่บาร์นี้ทุกวัน แน่นอนไม่ว่าเขาจะใช้รอยยิ้มพะเน้าพะนอคุณผู้หญิงโปกเกอร์เฟซอย่างไรก็เปล่าประโยชน์ ทว่าเขายังไม่ยอมถอดใจ กลับรุกใส่คุณผู้หญิงโปกเกอร์เฟซมากขึ้นอีก สั่งสุราชั้นดีราคาแพงที่สุดในบาร์ ถึงขั้นที่ใช้เงินเก็บของตนไปจนหมด]

ท่อนนี้ก็เป็นการเสียดสีเช่นเดียวกัน

ถึงกับแฝงเรื่องจริงเข้าไปในนั้นเล็กน้อยด้วย

เด็กหนุ่มที่หลงรักหุ่นยนต์หญิงสาวตั้งแต่แรกพบนั้นเหมือนกับพวกหนอนน่าสงสารที่กดส่งของขวัญให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ส่วนตัวเองก็ยอมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นละ

ทว่าทิศทางของเรื่องราวนั้นคาดเดาได้ยาก

คงไม่ใช่ท้ายที่สุดแล้วหุ่นยนต์ก็มีชีวิตขึ้นมาหรอกล่ะมั้ง

ถ้าเป็นแบบนั้น จูฮุ่ยต้องผิดหวังมากแน่ๆ

เพราะมันเห่ยสุดๆ ไปเลย

เธอโอบกอดความคาดหวัง อ่านต่อไป [สุดท้ายแล้ว เป็นเพราะจ่ายค่าสุราไม่ไหว เด็กหนุ่มจำต้องกัดฟันไปหยิบ

เงินของที่บ้านมาใช้ ด้วยเหตุนี้เอง พ่อของเขาจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กล่าวโทษอย่างเดือดดาล ‘ต่อไปห้ามไปสถานที่ทุเรศทุรังนั่นอีก! เอ้า เอาเงินก้อนนี้ไปจ่ายซะ จำไว้ว่านี่เป็นครั้งสุดท้าย!’]

ครั้งสุดท้าย

เด็กหนุ่มนำเงินก้อนนี้ไปยังบาร์ เพื่อบอกลา เขายกแก้วหลายต่อหลายครั้ง เลี้ยงสุราคุณหุ่นยนต์ไปไม่น้อย

เขาสารภาพรักอีกครั้ง

ทว่าครั้งนี้สมองของหุ่นยนต์มีแต่ความว่างเปล่า ราวกับเป็นกระป๋องดีบุกเปล่า โฉมงามซึ่งมีเพียงรูปโฉมงดงามทำได้เพียงตอบไปตามคำพูดซึ่งถูกโปรแกรมเอาไว้แล้ว

เด็กหนุ่มไม่ได้คำตอบตามที่ใจปรารถนา

[เขาแอบหยิบยาพิษร้ายแรงออกมาจากกระเป๋า ใส่ลงในแก้วสุรา เติมสุราลงไปจนเต็ม จากนั้นก็วางไว้ต่อหน้าหุ่นยนต์หญิงสาว จ้องมองหุ่นยนต์หญิงสาวยกแก้วขึ้นมาอย่างไม่วางตา แล้วดื่มสุราพิษจนหมดแก้ว]

“โหดร้ายไปหรือเปล่า”

จูฮุ่ยซึ่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พลันรู้สึกว่าใจเต้นระส่ำ ลูกค้าสุดโต่ง หลงรักแต่ไม่ได้ครอบครองก็ฆ่าอีกฝ่าย โชคดีที่หุ่นยนต์หญิงสาวไม่ได้เป็นมนุษย์ ไม่อย่างนั้นคงถูกเด็กหนุ่มวางยาพิษตายไปแล้วล่ะมั้ง

เธอคิดเช่นนี้

ทว่าในเนื้อเรื่องท่อนต่อมา กลับทำให้จูฮุ่ยเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที

[หลังจากที่เด็กหนุ่มออกไป เถ้าแก่ก็ตะโกนเรียกลูกค้าที่เหลือตรงนั้น ‘ตั้งแต่ตอนนี้ ผมขอเลี้ยงสุราทุกท่าน ทุกท่านเชิญดื่มให้เต็มที่!’

แม้จะบอกว่าเลี้ยง แต่เถ้าแก่ก็ไม่มีทางยอมขาดทุน เพราะในค่ำคืนอันเงียบสงัด ผู้คนบางตาแบบนี้ คงไม่มีลูกค้ามาเพิ่มแล้ว พูดอีกอย่างก็คือสุราที่เถ้าแก่ให้ทุกคนดื่มก็หนีไม่พ้นสุราที่เก็บกลับมาจากท่อพลาสติกที่เท้าของคุณผู้หญิงโปกเกอร์เฟซ ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย]

อ๋า!

เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย!

สุราที่หุ่นยนต์หญิงสาวดื่มเข้าไป สุดท้ายแล้วก็ถูกเถ้าแก่เก็บกลับมา แล้วขายให้ลูกค้าคนอื่นดื่ม หรือจะเรียกได้ว่าสุราที่ทุกคนในบาร์ดื่มเข้าไปในวันนี้เป็นสุราพิษร้ายแรง!

จูฮุ่ยสีหน้าพลันฉายแววประทับใจขึ้นมา

นิยายตอนสั้นๆ ดำเนินมาถึงตอนจบ ท่อนสุดท้ายของเรื่องเขียนไว้เช่นนี้

[เหล่าลูกค้าและบริกรในร้านส่งเสียงกู่ร้องด้วยความดีใจ ทุกคนต่างยกแก้วขึ้นชนกัน ร่ำสุรากันอย่างเพลิดเพลิน แม้แต่เถ้าแก่ซึ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์เองก็ถูกบรรยากาศเช่นนี้พาไป ค่อยๆ หยิบแก้วสุราขึ้นมา ดื่มเข้าไปหนึ่งแก้วอย่างแช่มช้า]

เรื่องราวทั้งหมดก็ตัดจบลงเพียงเท่านี้

แต่หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น แทบจะไม่ต้องคาดเดาเลย นี่คือพื้นที่ซึ่งนักเขียนเหลือว่างไว้ แต่กลับยิ่งมีพลังมากกว่า!

‘ตายเรียบ’

ตอนจบนี้อยู่เหนือความคาดหมายของจูฮุ่ยโดยสิ้นเชิง จนเธอส่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ “ตายเรียบเลย!”

“อะไรนะ”

น้องชายซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

จูฮุ่ยไม่ตอบ รีบล็อกอินเข้าบัญชีปู้ลั่วของตนเพื่อติดตามฉู่ขวง จากนั้นก็พูดขึ้นมา

“ฉู่ขวงเป็นนักเขียนที่มีพรสวรรค์ นิยายของเขาน่ะ…น่าจะควรค่าแก่การอ่าน”

………………………………………………

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด