ศพ – ตอนที่ 77 เจรจาต่อรอง
ตอนที่ 77 เจรจาต่อรอง
ตอนที่อาจารย์พูดประโยคนั้นออกไป เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพมาก
และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะเจรจาต่อรอง ขอแค่อีกฝ่ายเสนอเงื่อนไขออกมา พวกเราจะต้องพยายามทำให้มันสำเร็จให้จงได้
จากมุมมองของพวกเรา เรื่องนี้หลี่ต้าชานเป็นคนผิดจริงๆ
และในสายงานของพวกเรา ยังเชื่อมั่นเสมอว่า
ถ้าทำบาปไว้ ยังไงกรรมก็ต้องคืนสนอง
โดยเฉพาะกับคนตาย จะเข้าไปยุ่งย่ามง่ายๆไม่ได้เด็ดขาด
แต่หลี่ต้าชานรนหาที่ตายเอง จะไป “เอา” ที่ไหนก็ไม่ไป ดันไปที่ที่มีหลุมศพคนตายตั้งอยู่
แถมมองจากท่าทางของพวกเขา ดูเหมือนคุณหนูที่เป็นเจ้านายจะยังไม่เห็น ดังนั้นเรื่องพวกนี้ล้วนเป็นฝีมือคนรับใช้ของเธอทั้งนั้น
น่าจะเป็นคนที่มีอำนาจมาก ตอนที่มีชีวิตคงเป็นผู้หญิงที่มีตำแหน่งสูงศักดิ์เลยทีเดียว
ปัญหาที่ก่อขึ้นในตอนนี้ พวกเราเองก็ทำอะไรไม่ถูก
ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ควรใช้กำลังบีบบังคับ ถ้าเป็นผีชั่วก็ว่าไปอย่าง
แค่สู้ก็จบแล้ว และใช้พละกำลังที่มีอยู่ในมือจัดการปัญหาให้สิ้นซาก
แต่สถานการณ์ตรงหน้า มันไม่เหมาะสม เรื่องนี้ทำได้เพียงพูดคุยกันเท่านั้น
แต่ใครจะรู้เมื่อเสียงของอาจารย์พึ่งตกลง อีกฝ่ายกลับแสดงสีหน้าไม่พอใจ
ผีผู้ชายวัยกลางคนที่เป็นแกนนำเปล่งเสียง “ฮึ” ออกมาจากนั้นก็พูดต่อว่า “กล้าลบหลู่คุณหนูของพวกเรา ไม่ฆ่าเขาก็ถือว่าดีมากแล้ว ปล่อยเขาไปงั้นเหรอ ฮ่าฮ่า! แกคิดว่าตัวเองเป็นตัวอะไรกันฮะ”
หลังจากพูดจบ ใบหน้าของผีผู้ชายก็เปลี่ยนไปทันที
ผมยืนอยู่ข้างๆอาจารย์ จู่ๆก็ได้ยินอีกฝ่ายด่าอาจารย์ ผมจึงเดือดขึ้นมาทันที
ขณะที่ผมกำลังเดินไปด่าข้างหน้า แต่อาจารย์กลับใช้มือจับห้ามผมเอาไว้
ในเวลาเดียวกันอาจารย์ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาพูดกับผีผู้ชายว่า “ข้านักพรตติงโย่วซาน มีชื่อเสียงในตำบลชิงฉือแห่งนี้อยู่พอสมควร วันข้างหน้ายังไงพวกเราก็ต้องเจอกันอยู่ดี! ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลายโปรดเข้าใจ ข้าเองก็จะไม่เอาเปรียบพวกท่านเช่นกัน อาหารสามมื้อกับข้าวห้าอย่าง ข้าจะไม่ให้ขาดเลยแม้แต่อย่างเดียว!”
เมื่ออีกฝ่ายได้ยินประโยคนี้ พวกเขาก็ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
ผีผู้ชายยังคงแสดงสีหน้าโมโหอยู่เหมือนเดิม “ฮึ! มาจากไหนก็ไสหัวกลับไปที่นั้น! ใครอยากจะได้อาหารสามมื้อห้าอย่างของแกกัน ถ้ายังกล้าอยู่ที่นี่ต่อ ฉันก็จะทำให้แกตายในเวลา 30 ปี!”
หลังจากพูดจบ ผีผู้ชายตนนั้นก็โบกมือ
วินาทีนั้น ผีสี่ตนที่อยู่ข้างๆก็หายตัวไป จากนั้นก็มาปรากฎตัวขึ้นยืนเรียงแถวตรงหน้าของพวกเรา
ทุกตนต่างแสดงสีหน้าเย็นชา เหมือนกับคุยไม่ถูกคอกันอย่างแรง แล้วอยากจะ “ไล่” พวกเราออกไปจากที่นี่เท่านั้น
แต่วิญญาณของหลี่ต้าชานยังอยู่ที่นี่ และพวกเรายังแสดงท่าทีอ่อนน้อมขนาดนั้น แต่อีกฝ่ายก็ยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิม
ที่จริงแล้วในใจของพวกเราก็มีไฟลุกอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ ป่านนี้พวกเราก็คงเข้าไปต่อสู้กับอีกฝ่ายแล้ว
เมื่ออาจารย์เห็นอีกฝ่ายแสดงท่าทางออกมาแบบนั้น เขาก็ฉีกยิ้มที่มุมปากทันที “ท่านทั้งหลาย พวกคุณทำแบบนี้แสดงว่าจะไม่คุยกันดีๆแล้วซินะ”
“ใช่! ถ้าพวกแกยังไม่ไปอีก อย่าหาว่าพวกข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!” ผีผู้ชายพูดขึ้นมาอีกครั้ง เขายังใช้มือจับกระโปรงจีบสีขาวเอาไว้
“ถ้าคืนนี้ผมจะพาวิญญาณของหลี่ต้าชานไป พวกคุณก็คิดจะลงมืออย่างงั้นเหรอ” ท่านนักพรตตู๋พูดออกมาตรงๆ
“งั้นเหรอ งั้นก็ต้องมาดูกันแล้วละว่าพวกแกจะมีความสามารถมากแค่ไหน!” ผีผู้ชายตนนั้นพูดอีกครั้ง
เสียงพึ่งจางหาย ทันใดนั้นพลังหยินก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา
เสี้ยววินาทีนั้นป่ารกล้างผืนนี้ ก็ได้หนาวเย็นขึ้นมาทันใด
ส่วนผีอีกสี่ตนก็ตะโกน “โฮก” และพุ่งเข้าใส่พวกเราทันที
เมื่ออาจารย์เห็นอีกฝ่ายพุ่งเข้ามา ก็ด่าออกมาว่า “ไอ้บ้าเอ้ย เห็นพวกเราเป็นพวกอ่อนแอรึยังไงฮะ!”
หลังจากพูดจบ “ฉึก” อาจารย์ก็ดึงดาบไม้ออกมา เตรียมต่อสู้ทันที
ตอนนี้พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเจรจาไม่ได้ผล งั้นก็เหลือแค่วิธีต่อสู้กันแล้วละ
ส่วนเรื่องอื่นๆนั้น ผมเองก็ไม่ได้คิดมาก
วินาทีนั้น ผมเองก็ดึงดาบไม้ออกมาเตรียมพร้อมจะต่อสู้เช่นกัน
แต่ตอนที่พวกเรากำลังจะสู้กัน จู่ๆแรงกดดันมหาศาล ก็ปะทุออกมาทันที
ไม่ใช่เพียงเท่านี้ ในความรู้สึกนั้น มันยังเต็มไปด้วยความรู้สึกหนาวเย็นมากๆ จนทำให้คนที่รับรู้ได้ถึงกับใจสั่น
ท่านนักพรตตู๋และอาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างหน้ารับรู้ได้ดีที่สุด “พรึบ” สีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ต่างเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา
ส่วนผีห้าตนที่พุ่งเข้ามาหาพวกเรา ก็หยุดลง และหันหน้าไปมองต้นไม้ต้นนั้นทันที
ไม่รอให้พวกเราได้คิดออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆเสียงผู้หญิงก็ดังขึ้น “หยุดนะ!”
เสียงไม่ดังมาก แต่มันกลับดังอยู่ในหูของทุกคน
เมื่อผีห้าตนได้ยินคำพูดสองคำนี้ พวกเขาก็ตัวแข็งทื่อ
ส่วนพวกเรา ก็หยุดยืนอยู่กับที่ทันที
เพราะอากาศที่อยู่รอบๆ ทำให้ผมรู้สึกหนาวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกแบบนั้นมันทำให้ผมรู้สึกกดดันมาก
เมื่อเทียบกับตอนที่เจอผีชั่ว ตอนนี้ยังรู้สึกกดดันมากกว่าซะอีก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวอีกด้วย
ไม่รอให้พวกเราได้ตอบสนองใดๆ จู่ๆผีผู้ชายที่เป็นแกนนำก็โค้งคำนับให้ต้นไม้ต้นนั้น ในเวลาเดียวกันก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “คุณหนู!”
ผู้หญิงคนนี้คือเจ้านายอย่างงั้นเหรอ คุณหนูโจวลูกสาวของโจวกงคนนั้นน่ะเหรอ
แต่เสียงนี้พึ่งตกลง ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบกลับทันที “ปล่อยชายคนนี้ให้พวกเขาไป!”
“แต่คุณหนู……” ผีผู้ชายขมวดคิ้ว เหมือนจะอยากพูดอะไรอีกหน่อย
แต่ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็พูดแทรกทันที “ไม่ใช่อะไรหรอก ไหนๆลูกเขยบ้านมู่หลงก็มาแล้ว จะไม่ไว้หน้าได้ยังไงละ”
เมื่อผีผู้ชายได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “นี่ นี่มัน……”
“ยังไม่ทำตามอีก” เสียงของผู้หญิงดังขั้นมาอีกครั้ง
ผีผู้ชายจะกล้าชักช้าลีลาได้ที่ไหนละ รีบประสานมือ “ขอรับคุณหนู!”
หลังจากพูดจบ ผีผู้ชายก็เดินเข้าไปหาหลี่ต้าชานที่คุกเข่าก้มหัวอยู่ที่พื้นทันที
แต่ตอนนั้นผม กลับอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ผีเมียก็ชื่อว่ามู่หลงเหยียน ลูกเขยบ้านมู่หลง ที่นี่นอกจากผมแล้ว จะพูดถึงใครได้อีกละ
ส่วนอาจารย์นั้น เพราะไม่รู้ว่าผีเมียชื่ออะไร
แต่หลังจากได้ยิน เขาก็ขมวดคิ้ว หันมามองผมแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ท่านนักพรตตู๋และเฟิงเฉ่วหาน แสดงท่าทางมึนงงออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ขณะนั้น ผีผู้ชายก็มาถึงตรงหน้าของหลี่ต้าชานแล้ว ต่อมาก็เอื้อมมือไปจับคอของเขาเอาไว้
หลังจากนั้นก็ทำเหมือนกับลากซากศพของสุนัข เขาจงใจลากหลี่ต้าชานเข้ามา
เนื่องจากวิญญาณของหลี่ต้าชานไม่มีจิต จึงไม่ดิ้นรน เพียงแค่แสดงท่าทางไร้สติออกมาเท่านั้น
เร็วมาก เพียงชั่วพริบตาผีผู้ชายตนนั้นก็มาถึงด้านหน้าของพวกเราแล้ว เขาโยนหลี่ต้าชานมาที่พื้นทันที “คุณหนูของพวกเรามีเมตตา เรื่องนี้ก็จบเพียงเท่านี้ ถ้ามันยังกล้ามาทำอีก ข้าจะเอาชีวิตของมันแน่!”
เป้าหมายที่พวกเรามาในคืนนี้ก็คือช่วยเหลือหลี่ต้าชาน ไม่ได้มาเพื่อต่อสู้
แม้ว่าอีกฝ่ายจะแสดงท่าทางไม่พอใจ แต่อย่างน้อยเขาก็คืนหลี่ต้าชานให้กับพวกเรา
ดังนั้นอาจารย์และนักพรตตู๋จึงเก็บอาวุธ และจับมือกับผีผู้ชายตนนั้นอีกครั้ง “เมื่อกี้ต้องขอโทษด้วย!”
ผีผู้ชายตนนั้นตอบกลับเพียง ฮึ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก แล้วมองพวกเราด้วยสายตาที่แย่เอามากๆ
หลังจากนั้นเขาก็รีบหมุนตัวกลับและเดินจากไปทันที เมื่อพวกเราเห็นว่าวิญญาณของหลี่ต้าชานกลับมาแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะอยู่ที่นี่อีกต่อไป
อาจารย์หยิบเชือกแดงออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็ทำเป็นบ่วง นำไปใส่ที่คอของหลี่ต้าชาน และกำลังจะพา
หลี่ต้าชานกลับไป
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงของผู้หญิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “คนก็คืนให้พวกคุณแล้ว แต่เขาจะต้องอยู่ที่นี่หนึ่งคืน!”
เสียงพึ่งจางหาย รอบๆก็มีลมกระโชกพัดเข้ามาทันที
ไม่รอให้ทุกคนได้ตอบสนองใดๆ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแรงดูดอย่างรุนแรง
จนตัวของผมเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ ร่างกายของผมปลิวไปที่ต้นไม้ต้นนั้นทันที……
คอมเม้นต์