ศพ – ตอนที่ 98 เห็นสัญลักษณ์อีกครั้ง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 98 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 98 เห็นสัญลักษณ์อีกครั้ง

ฉากนี้ทำให้ผมตกใจทันที เพราะตอนนี้ตัวผมก็ถูกยัยผีที่อ่อนแอจับเอาไว้เรียบร้อย

แต่เหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน จึงทำให้พวกเรารับมือกันไม่ทัน

นี่ยังไม่ถือว่าแปลกอะไร เพราะสิ่งที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ ทำไมยัยผีนี้ถึงมีตาที่สามละ

แต่ตอนนี้ผมจะมัวมาคิดมากไม่ได้ เมื่อเห็นปากนั้นกำลังเข้ามากัด ผมก็ใช้มือสองข้างดัน หัวของอีกฝ่ายเอาไว้ทันที

แต่ยัยผีนี้แรงเยอะโครตๆ ช่วงเวลานั้นผมจึงผลักหัวเธออย่างยากลำบาก

นอกจากนี้ในปากของยัยผีนี้ ยังพ่นลมหายใจออกมาไม่หยุด ผมหนาวสั่น ราวกับตัวกำลังจะแข็ง

 

เมื่อหานเฉ่งเฟิงและหยางเฉ่วเห็นสิ่งนี้ ก็หน้าซีดทันที

ทุกคนต่างคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะกลายเป็นแบบนี้ แต่เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆอาการตกใจนั้นก็หายไป ทันใดนั้น

หยางเฉ่วก็พุ่งเข้ามา

เธอใช้เท้าถีบไปที่หัวผีผู้หญิงอย่างแรง “ ไสหัวออกไป ! ”

ยัยผีนั้นร้อง “ โอ๊ย ” ออกมาทันที ขณะเดียวกันหัวของเธอเพียงโยกออกไป แต่ร่างของเธอยังกดทับตัวผมเอาไว้แน่นเหมือนเดิม

แต่วินาทีที่เธอหันหน้าออกไป ผมกลับมองเห็นคอของผีผู้หญิงอย่างชัดเจน

มันไม่ใช่เพราะคอของเธอดูน่าหลงไหลมาก แต่ตอนที่ผมเห็นคอของยัยผีนี้ ผมก็รู้สึกเหมือนจะเห็นสัญลักษณ์ผีสามตาแยกเขี้ยวทำหน้าเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มอยู่

 

เมื่อกี้แค่สงสัย ว่าผียัยนี้อาจเกี่ยวข้องกับองค์กรลึกลับนั้น

แต่ตอนนี้ เมื่อผมได้เห็นสัญลักษณ์นี้บนร่างของเธอ

ผมก็มั่นใจได้ทันที ยัยผีนี่ไม่ใช่วิญญาณธรรมดาๆ เธอจะต้องไม่ได้ตายโหงแบบทั่วๆไปแน่

หลังจากเห็นสิ่งนี้ ผมก็มั่นใจว่าเธอจะต้องเกี่ยวข้องกับองค์กรลึกลับนั่นแน่ๆ

ขณะที่ผมกำลังตกตะลึง หยางเฉ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ตะโกนด้วยความตกใจ “ ผีสามตา ! ”

ในเวลาเดียวกัน หานเฉ่วเฟิงที่อยู่หน้าห้องกลับโมโห “ นังผีชั่วสมควรตาย ฉันจะทำให้แกได้เห็นดี ! ”

ขณะที่พูด หานเฉ่วเฟิงก็ยกตุ๊กตาตัวนั้นขึ้นมา กระชากอย่างแรง ทันใดนั้นมันก็ขาดออกเป็นสองท่อนทันที

 

ส่วนผีผู้หญิงที่อยู่บนตัวผม วินาทีนั้นเธอก็กรีดร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด เห็นได้ชัดว่าเธอเจ็บปวดมาก จากนั้นตัวเธอก็เริ่มสั่น

ในเวลาเดียวกัน ผมก็ออกแรง ใช้มือผลักตัวเธอออกไป

เมื่อหยางเฉ่วเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไป ก็ใช้เท้าถีบเธออีกครั้ง

ครั้งนี้ยัยผีนั้นไม่สามารถต้านทานได้ ตัวเธอล้มกลิ้งลงไปกับพื้นทันที

จากนั้นผมก็รีบลุกขึ้น หยิบยันต์ออกมา และเข้าไปทำร้ายผีผู้หญิงซ้ำทันที

แต่หยางเฉ่วที่อยู่ข้างๆกลับดึงตัวผมเอาไว้ “ ยัยผีนี้มีความลับเยอะมาก จะให้เธอตายไม่ได้ ติงฝาน

เฟิงเฉ่วหานพวกนายสองคนไปจับตัวเธอเอาไว้ ฉันจะทำลายพลังชั่วในร่างเธอก่อน แล้วหลังจากที่เธอฟื้นตัวกลับมาค่อยมาคุยกันใหม่ ! ”

 

หลังจากพูดจบ เธอไม่รอให้ผมและหานเฉ่วเฟิงตอบกลับ หยางเฉ่วหยิบยันต์ออกมา จากนั้นเธอก็กัดนิ้วโป้งของตัวเอง นำไปเขียนลงในยันต์แผ่นนั้นทันที

ถึงผมจะไม่รู้ว่าหยางเฉ่วรู้จักสัญลักษณ์ผีสามตานั้นได้ยังไง แต่ตอนนี้ ผมก็ไม่คิดจะทำให้ผีตัวนี้ตายเช่นกัน

เพราะไม่ง่ายเลยกว่าที่จะเจอผีที่มีสัญลักษณ์ผีสามตา และยังเป็นวิญญาณที่พูดได้ด้วย

ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากได้ข้อมูลที่ลึกลับขององค์กรนั้นจากอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุด

แต่หานเฉ่วเฟิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดกับหยางเฉ่วว่า “ ฉันชื่อหานเฉ่วเฟิง ! ”

หลังจากพูดจบ เขาก็ตรงเข้ามาหาผีผู้หญิงทันที

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็รีบตามเข้าไปหา ยัยผีสาวอย่างรวดเร็ว

 

เพราะตุ๊กตาของยัยผีนั้นถูกทำลาย ตอนนี้เธอจึงแทบไม่มีพลังต่อสู้ และไม่มีแม้แต่แรงต่อต้าน

ดังนั้นผมและหานเฉ่วเฟิงจึงสามารถกดตัวเธอเอาไว้ แล้วจับมือยัยผีไว้ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จับตัวเธอกดเอาไว้กับผนัง

ในเวลานี้ หยางเฉ่วเองก็เตรียมอาวุธเสร็จแล้ว

เธอถือยันต์เลือดแผ่นนั้น ตรงเข้ามาทันที

มองผีผู้หญิงที่กำลังดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นหยางเฉ่วก็พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ เจ็บหน่อยนะ แต่มันจะช่วยกำจัดพลังชั่วร้ายในร่างของเธอได้ ! ”

ยัยผีตัวนั้นสูญเสียสติปัญญาไปอย่างสมบูรณ์ เธอตะโกน “ โฮกโฮก ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง มาถึงตรงนี้เธอก็ยังคิดจะต่อต้าน

 

ตอนนี้ตุ๊กตานั้นก็ได้ถูกทำลายไปแล้ว ถึงจะมาดิ้นรนตอนนี้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

หยางเฉ่วไม่ลังเลเลยสักนิด เธอยกยันต์ขึ้น เล็งไปที่หน้าอกของผีผู้หญิง และลงมือแปะยันต์ลงไปทันที

“ แปะ ” ยันต์แผ่นนั้นถูกแปะลงไปที่หน้าอกของผีผู้หญิงเรียบร้อย

จากนั้น หยางเฉ่วก็ใช้มือทั้งสองข้างเสกคาถา

ผ่านไปไม่กี่วินาทีเธอก็ตะโกนออกมาว่า “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี้ยง ! ”

เสียงพึ่งจางหาย ยันต์แผ่นนั้นก็ระเบิดดัง “ ปัง ” จากนั้นพลังแปลกๆของคาถาก็เริ่มทำงาน ที่จริงมันไม่ได้กลืนหายเข้าไปในร่างของผี

 

ส่วนยัยผีนั้น กลับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดิ้นทุรนทุรายไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังทรมานมาก

“ อร๊าย ! อร๊าย ! เจ็บ เจ็บเหลือเกิน…… ”

เมื่อหยางเฉ่วเห็นท่าทางแบบนั้น ก็ส่งสัญญาณให้พวกเราปล่อยมือ

ผมและหานเฉ่วเฟิงเองก็ไม่อยากอยู่ตรงนั้นต่อ หลังจากปล่อยมือจากยัยผีเสร็จ พวกเราก็ถอยออกมาสองก้าว

ผีผู้หญิงดิ้นไปดิ้นมากับพื้นไม่หยุด ดูท่าทางเธอจะเจ็บปวดมาก

แต่พวกเรากลับมองเห็นผ่านการเปิดตา ขณะที่เธอดิ้นไอสีดำก็ได้ไหลทะลักของมากจากตัวเธอเรื่อยๆ

และชุดสีเหลืองอ่อนของเธอ ก็เริ่มจางลง

 

เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เพราะพลังชั่วร้ายในร่างของเธอกำลังถูกขับออกมาอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเวลานี้เมื่อเห็นเธอดิ้นไม่หยุด ผมก็พูดกับหยางเฉ่วว่า “ หยางเฉ่ว เธอรู้จักผีสามตาด้วยเหรอ ”

ทันใดนั้นเมื่อหยางเฉ่วได้ยินคำถามของผม เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองผมแวบหนึ่ง “ รู้นิดหน่อยนะ นายเองก็รู้จักเหรอ ”

ผมไม่ลังเล พยักหน้าเล็กน้อยทันที “ ฉันก็พึ่งรู้จักเมื่อเร็วๆนี้เอง แถมยังรู้แค่ว่ามันเกี่ยวกับองค์กรลับ สัญลักษณ์ของพวกเขาคือรูปผีสามตาที่ทำหน้าเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม งานศพเมื่อคืน ก็เจอสัญลักษณ์นี่บนตัวหมากินวิญญาณเหมือนกัน ! ”

 

หานเฉ่วเฟิงถูกบทสนทนาของพวกเราดึงดูด เขาเองก็ตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา

เมื่อหยางเฉ่วฟังผมพูดจบ ก็พยักหน้าให้เล็กน้อย “ อือ ! ฉันเองก็รู้ไม่ค่อยเยอะหรอก รู้แค่ว่าพวกมันแบ่งเป็นห้าชนิดใหญ่ๆ คือคน วิญญาณ สัตว์ ศพ และปีศาจ ”

“ คน วิญญาณ สัตว์ ศพ และปีศาจ ” ผมไม่เข้าใจ

“ ใช่แล้ว ที่คางของสัญลักษณ์ทุกอัน จะมีอักษรณ์อยู่หนึ่งตัว เพื่อแสดงชนิดที่แตกต่างกัน ”

“ ยัยผีนี่น่าจะเป็นชนิดของวิญญาณ ! ส่วนเรื่องอื่น และเรื่องที่พวกเขาเป็นใครนั้น ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ” หยางเฉ่วพูด

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

เมื่อวานเห็นสัญลักษณ์ที่หมาเป็นคำว่า “ สัตว์ ” ถ้าเป็นอย่างที่พูด งั้นพลังที่ใช้ควบคุมเจ้าพวกนี้ก็ต้องมีเยอะมาก

ช่างเป็นเรื่องที่อยู่เหนือจินตนาการจริงๆ พลังชั่วร้ายขนาดนี้เกิดขึ้นมาได้ยังไงกันแน่

ขณะที่ผมกำลังคิดในใจ หานเฉ่วเฟิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาหันมาถามผมว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่

ปกติเขาหลับลึกอยู่ในร่างของเฟิงเฉ่วหาน จึงไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอก

ดังนั้นผมจึงอธิบายให้เขาฟังสั้นๆ ว่าตอนแรกที่พวกเราเจอผีชั่วที่ป่าช้าเก่า บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับองค์กรที่ใช้สัญลักษณ์ผีสามตา

แน่นอน ว่าผมไม่ได้พูด เรื่องของมู่หลงเหยียนและโจวหยุน เลยแม้แต่น้อย

 

หลังจากหานเฉ่วเฟิงฟังจบ เขาก็แสดงท่าทางเงียบขรึม

เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่างใด เบื้องหลังของมันมีความลับอยู่มากมาย แม้แต่ปีศาจที่มีพลังชั่วร้ายมหาศาลก็ยังมีอยู่บนโลก แถมพวกมันยังคอยทำเรื่องชั่วร้ายโดยที่ไม่มีใครรับรู้อีกด้วย

ขณะที่ผมกำลังสับสน จู่ๆผีผู้หญิงที่เคยทรมานอยู่นั้น ก็หยุดดิ้น

สีชุดของเธอได้กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ พลังชั่วร้ายที่เคยอยู่ในร่างก็ได้สลายหายไป จนหมดแล้ว

ตาที่บนหน้าผากของเธอก็หายไปแล้ว และกลับมาสู่สภาพปกติอีกครั้ง

แต่ตอนนี้เหมือนเธอ กำลังอยู่ในอาการโคม่า นอนอยู่บนพื้นไม่ขยับตัวไปไหน

 

เมื่อหยางเฉ่วเห็นแบบนั้น ก็พูดออกมาทันที “ ฉันทำลายพลังชั่วร้ายให้เธอแล้ว ฉันคิดว่าตอนนี้เธอน่าจะได้สติกลับมาแล้ว พวกเราก็ถามเธอตรงๆ ! ยัยผีนี้ น่าจะมีข้อมูลที่พวกเราอยากจะรู้อยู่ ! ”

หลังจากพูดจบ หยางเฉ่วก็ยกมือขึ้นมาประสานกัน มองไปที่ผีตนนั้น และพูดว่า “ คลาย…… ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด