ศพ – ตอนที่ 129.2 หลอกล่อผีทารก

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 129.2 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 129 หลอกล่อผีทารก

ผ่านการทำงานของทั้งวัน เวลาก็ดำเนินมาถึงยามค่ำคืนอีกครั้ง

คืนนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็ต้องจัดการผีทารกนั้นให้ได้

ไม่อย่างนั้นถ้ารอไปอีกสองสามวัน พวกเราสามคนจะต้องจัดการผีทารกไม่ได้แน่

และเมื่อถึงเวลานั้น ถ้ายังคิดจะจัดการผีทารกนี่อีก ก็คงจะต้องเชิญตาแก่ที่บ้านออกมาจัดการแล้ว

แต่พวกเราไม่อยากทำแบบนั้น ในเมื่อเลือกจะทำอาชีพนี้แล้ว เวลาเผชิญกับเรื่องแบบนี้ การจัดการด้วยตัวเองถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

และตอนนี้ผมก็ อยากเจอกับประสบการณ์แบบนี้

 

ด้วยวิธีนี้ ผมถึงจะพัฒนาพลังให้สูงขึ้นได้เร็วที่สุด

ฟ้าเริ่มมืด ท่าทีของจูจูเหมือนกับเมื่อคืน เห็นได้ชัดว่าเธอกังวลจนอยู่ไม่สุข ดูท่าทางหวาดกลัวมาก

คืนนี้เธอดูอาการหนักกว่าเดิม ถามพวกเราหลายครั้งว่าสามารถกลับไปที่มหาลัยได้ไหม

แต่ก็ถูกหยางเฉ่วจูงใจให้อยู่ต่อ เพราะถ้าจูจูไม่อยู่ พวกเราก็จะรับประกันความปลอดภัยของเธอได้ยากมาก

แรงกดดันในใจของจูจูมีเยอะมาก เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืนไม่นาน หยางเฉ่วก็ใช้วิชาพิเศษ ทำให้จูจูสลบไป

เมื่อเป็นแบบนี้ ก็ทำให้พวกเราทำตามแผนได้สะดวกขึ้น

ประมาณสี่ทุ่มครึ่ง พวกเราก็เริ่มลงมือ

 

เมื่อคืนได้ประมือกับผีทารกมาแล้ว ดังนั้นเพื่อสร้างความสับสนให้อีกฝ่าย หรือหลอกล่อทำให้เด็กสนใจ

พวกเราสามคนจึงใส่หน้ากาก หลังจากที่ผมสวมเสร็จ ก็ถือลูกอมและของเล่นเอาไว้

ในเวลานี้หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหาน ก็ต่างทำหน้าที่ของตัวเอง

ในมือของหยางเฉ่วมีธงสามผืน และยังจุดธูปเอาไว้ พอถึงเวลาที่ล่อเด็กออกมาได้ และเข้าไปในวงเวทย์เรียบร้อย หยางเฉ่วก็จะเปิดใช้งานวงเวทย์ดอกเหมย ขังเจ้าผีทารกเอาไว้ทันที

ส่วนในมือของเฟิงเฉ่วหาน ก็มีฝาครอบขนาดใหญ่อยู่หนึ่งอัน

ขนาดของมันสามารถปิดบ่อน้ำได้พอดี ถ้าผีทารกออกมา

 

เฟิงเฉ่วหานก็จะปิดบ่อน้ำทันที และใช้ยันต์ปิดผนึกอีกชั้น ทำลายทางหนีของเด็กคนนั้น

ตอนนี้ทุกคนพร้อมแล้ว ผมจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พยักหน้าให้ทั้งสองคน

“ พวกเราเริ่มกันเลยเถอะ ! ”

หลังจากพูดจบ ผมกำลังจะเดินออกมา

แต่หยางเฉ่วกลับแสดงสีหน้าจริงจัง “ ระวังด้วยนะ ถึงผีทารกจะมีนิสัยเหมือนเด็ก แต่มันก็ดุร้ายมาก ! ”

เมื่อเห็นหยางเฉ่วเตือน ผมก็ยิ้มให้ทั้งหน้ากาก “ วางใจได้เลย ! ”

หลังจากพูดจบ ผมก็เดินเข้ามาที่ปากบ่อ

เมื่อมาถึงขอบบ่อ ผมก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะต้องก้มหน้าทำต่อไป

 

จากนั้น ผมก็วางลูกอมและของเล่นวางเอาไว้ที่พื้น และยืนอยู่ข้างๆขอบบ่อทั้งๆแบบนั้น

แกล้งทำน้ำเสียงร่าเริง ตะโกนเข้าไปในบ่อน้ำว่า “ เจ้าตัวน้อย ออกมากินลูกอมกัน ! ”

หลังจากพูดพบ ผมก็หยิบลูกอมขึ้นมาแกะหนึ่งเม็ด จากนั้นก็เอาใส่ปากตัวเอง

เขามองไม่เห็นหน้าของผม ดังนั้นผมจึงทำเสียงให้มันฟังดูอร่อยน่ากิน “ อือ อร่อยจังเลย หวานมาก ! ช่างอร่อยจริงๆ ว๊าว รสชาติอร่อยอะไรขนาดนี้…… ”

ในเวลาเดียวกันผมยังทำท่าทางเว่อร์ๆ ถึงแม้มันจะดูงี่เง่าไปหน่อยก็เถอะ

แต่หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล กลับไม่มีทีท่าว่าจะขำผมเลยสักนิด

ในทางกลับกันใบหน้ายังเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ท่าทางจริงจังมาก

 

เรื่องก็เป็นแบบนี้ ผมกินลูกอมเม็ดที่สองไปแล้ว แต่ในบ่อน้ำก็ยังคงนิ่งไม่มีเสียงใดๆตอบกลับ

ผมจึงเปลี่ยนวิธีโยนลูกอมลงไปในบ่อหนึ่งเม็ด จากนั้นก็พูดว่า “ เจ้าตัวน้อย ฉันให้แกกินหนึ่งเม็ด ! ”

แต่ใครจะรู้เสียงพึ่งเงียบลง ในบ่อน้ำนั้นก็มีเสียงของเด็กดังออกมา เสียงยังคงแหบแห้ง “ ไม่กิน นายมันคนเลว หนูไม่กิน ! ”

ขณะที่พูด ลูกอมเม็ดนั้นก็ถูกโยนออกมาจากบ่อ และหล่นลงพื้นทันที

เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเราสามคนก็นิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง

อะไรกัน ตอนนี้เจ้าเด็กนี้รู้แล้วเหรอว่าห้ามกินลูกอมจากคนแปลกหน้า และผมก็สวมหน้ากากอยู่ แล้วเขารู้ว่าเป็นผมได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ

 

หลังจากเงียบมาพักหนึ่ง ผมก็กลับมาหัวเราะและพูดกับเด็กในบ่อน้ำว่า “ เจ้าตัวน้อย ลูกอมของลุงอร่อยมากเลยนะ เอาแบบนี้ดีไหมเดี๋ยวลุงให้เธอกินปลาเส้นรสเผ็ด ”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ผมก็ฉีกซองปลาเส้นรสเผ็ดออก และโยนมันเข้าไปในบ่อ

ผลลัพธ์ซองปลาเส้นรสเผ็ดพึ่งเข้าไป มันก็ถูกเจ้าเด็กนั้นโยนกลับออกมา

“ ไม่กิน ไม่กิน ไม่กินของคนเลว…… ” เสียงของเด็กค่อนข้างหนักแน่น แต่ก็ยังปนไปด้วยเสียงที่ไร้เดียงสาของเด็ก

ผมแสดงสีหน้าอึดอัดใจ คิดไม่ถึงว่าจะใส่หน้ากากแล้ว เขาก็ยังจำผมได้

เมื่อเห็นว่าขนมไม่ได้ผล และอีกฝ่ายจำผมได้ ผมจึงถอดหน้ากากออก

 

พูดกับเด็กที่อยู่ข้างในว่า “ เจ้าตัวน้อย ตรงนี้ลุงมีหน้ากากอุลตร้าแมนเธออยากเล่นไหม มันสนุกมากเลยนะ แถมเป็นอุลตร้าแมนจี้ดรุ่นพิเศษเลยนะ ! ”

หลังจากพูดจบ ผมก็ถือหน้ากากขึ้นมา แกว่งมันไปมาสองสามครั้ง

ผลลัพธ์ครั้งนี้ในบ่อกลับเงียบกริบ

เมื่อผมไม่ได้ยินเสียงใดๆ จึงโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ก้มลงไปบ่อน้ำ

เพราะผมเปิดตาสวรรค์แล้ว จึงสามารถมองเห็นในบ่อได้อย่างชัดเจน

แต่สิ่งที่ผมคิดไม่ถึงก็คือ วินาทีที่ผมก้มลงไปในบ่อ

 

ทันใดนั้นก็พบว่า เด็กคนนั้นอยู่บริเวณใกล้ๆปากบ่อ และตอนนี้เขาก็กำลังคลานไปด้านล่างของบ่อเล็กน้อย

เขายิ้มออกมาเล็กน้อย จ้องผม และมองตาของผม

ผมยังพบว่า ภายในหนึ่งวัน หัวของเขา โตขึ้นมาไม่น้อย

พอสังเกตดูแล้ว มันน่าจะไม่ต่างอะไรจากเด็ก 3 ขวบมากนัก

ผมอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ เจ้าเด็กนี้โตเร็วจริงๆ ความเร็วนี้ ภายในระยะเวลาสามวันเขาจะต้องโตจนอายุได้ห้าหกขวบแน่ๆ

แต่ไม่รอให้ผมได้ทำอะไร เจ้าเด็กนั้นก็อ้าปากอย่างรวดเร็ว ลิ้นสีแดง ก็พุ่งออกมาทันที

 

แต่วินาทีนั้น ลิ้นสีแดงนั้นกลับเข้ามาดึงหน้ากากที่อยู่ในมือของผมไป

แม้ว่าจะแปลกใจ แต่จิตใต้สำนึกของผมอยากจะจับลิ้นนั้นเอาไว้ จากนั้นก็ดึงตัวของเจ้าเด็กนั้นออกมาจากบ่อน้ำ

ผลลัพธ์การเคลื่อนไหวของลิ้นนั้นเร็วมาก ไม่เหลือเวลาให้ผมได้ลงมือเลยสักนิด

หลังจากลิ้นเข้ามาพันที่หน้ากากในมือของผมแล้ว มันก็ดึงกลับเข้าไปในบ่อน้ำทันที

และยังไม่จบแค่นี้ หลังจากเจ้าเด็กนั้นได้ครอบครองหน้ากากแล้ว เขาก็หมุนตัว และกระโดดกลับเข้าไปใต้บ่อ

จากนั้น ในบ่อน้ำก็มีเสียง “ ก้าก้าก้า ” ของเสียงหัวเราะที่กำลังสนุกสนานดังขึ้น และผมยังได้ยินเสียงเด็กพูดเบาๆ “ อุลตร้าแมน อุลตร้าแมนของฉัน ”

 

ผมขมวดคิ้ว แอบพูดในใจว่าสมควรตาย ปล่อยให้โอกาสเมื่อกี้หยุดมือไปได้ยังไง

หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานเองก็มีเหงื่อเย็นๆไหลออกมา

แม้ว่าหน้ากากจะถูกชิงไป แต่มันแสดงว่า เจ้านี้ค่อนข้างชอบของเล่น

จากนั้น ผมก็หยิบตุ๊กตาบาร์บี้และรถกระบะจิ๋วออกมา “ เจ้าต้วน้อย ไปเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ กับรถกระบะคันจิ๋วนี้ดีกว่า ตุ๊ดตุ๊ดตุ๊ด……”

ตอนนี้ผม ทุ่มสุดตัว ขอแค่สามารถล่อเจ้าเด็กนั้นออกมาได้ก็พอ

ผลลัพธ์เจ้าเด็กนั้นกลับไม่ออกมา เพียงตอบกลับว่า “ ฉันคืออุลตร้าแมน ”

 

อย่างมากก็คลานขึ้นมาบนปากบ่อนิดหน่อย และมองออกมานอกบ่อครึ่งหัว

แต่เป็นแบบนี้ไม่ได้ เพราะหน้าที่ของผมคือล่อผีทารกออกมา พาตัวเขาเข้าไปอยู่ในวงเวทย์

แบบนี้ถึงจะขังเขาเอาไว้ได้ และบรรลุเป้าหมายในการจัดการเขา

ดังนั้นผมยังทุ่มทุนแสดงต่อสุดตัว ผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นแบบนี้ ผมใช้เวลาที่ปากบ่อประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้ผล

เมื่อหยางเฉ่วเห็นผมเริ่มท้อเล็กน้อย จึงทำมือสร้างกำลังใจให้ผม บอกให้ผมพยายามต่อไป

ผมมองรถกระบะคันจิ๋วและตุ๊กตาบาร์บี้ที่อยู่ในมือ คิดว่าทั้งสองสิ่งนี้ยังน่าสนใจไม่พอ ที่จะล่อเขาออกมาจากบ่อน้ำได้

 

แต่ถ้าไม่ใช้ของนี่ แล้วตอนนี้จะมีอะไรอีกที่ล่อใจเขาได้

ในใจมีปัญหาที่แก้ไม่ตก ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

แต่ขณะที่ผมกำลังแก้ปัญหาไม่ได้ ในสมองของผมก็มีแสงแวบขึ้นมา ทันใดนั้นผมก็คิดถึงเกมมือถือ

และ “ หนงเย้า ” ก็เป็นเกมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ และยังเป็นเกมยอดฮิตติดชาร์ตของเด็กประถม

ในหนังสือพิมพ์บอกว่าแม้แต่เด็กอนุบาลก็ยังหยิบโทรศัพท์ของพ่อแม่มาเล่น เห็นได้ชัดว่าเกมนี้มีสิ่งล่อใจอยู่

ไม่แน่เจ้าเด็กในบ่อน้ำคนนี้ ก็อาจจะถูกเกมมือถือพวกนี้ดึงดูดก็ได้

เมื่อคิดถึงจุดนี้ได้ ผมก็กัดฟันแรงๆ

ไม่สนแล้ว ถึงจะมีโอกาสน้อย แต่ก็ต้องลองดู

ผมไม่ลังเล โยนของเล่นในมือทิ้ง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างรวดเร็ว……

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด