ศพ – ตอนที่ 133 แพ้ยับ
ตอนที่ 133 แพ้ยับ
ผีผู้หญิงตนนั้นดุร้ายมาก เธอไม่สนใจฤทธิ์ของเชือกแดงพวกนั้นเลยสักนิด เมื่อเชือกแดงขึ้นมาขวางหน้าเธอ เธอก็จะตัดมันทิ้งทันที
ดวงตาจ้องไปที่หยางเฉ่ว พร้อมพูดด้วยเสียงที่ดุร้าย “ ยัยชั่ว ฉันจะฆ่าแก ” ด้วยคำพูดแบบนี้
การเคลื่อนไหวของผีผู้หญิงค่อนข้างเร็ว แถมยังมีพลังที่สูง
เพียงชั่วพริบตา เธอก็จะหลุดจากเขตแดนวงเวทย์ดอกเหมยแล้ว
หยางเฉ่วไม่กล้าประมาท ประสานมือทั้งสองข้างไว้และท่องอะไรสักอย่างไม่หยุด
ร่างกายเริ่มสั่น การกระตุ้นวงเวทย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เหงื่อไหลออกไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังลำบากมาก
และผีผู้หญิงตนนั้น ก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น การก้าวเท้าของเธอก็เริ่มช้าลง
ดูเหมือนตรงหน้าของเธอ มีกำแพงที่มองไม่เห็นอยู่
ผมและเฟิงเฉ่วหานก็ตกตะลึง ทนความเจ็บปวดที่ร่างกายเอาไว้ แล้วรีบลุกขึ้นมาทันที
ในเวลาเดียวกันผมก็ตะโกนว่า “ เหล่าเฟิง ลงมือพร้อมกัน ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็หยิบดาบไม้ขึ้นมา และพุ่งเข้าไปหาผีผู้หญิงอีกครั้ง
เฟิงเฉ่วหานก็ทำเช่นเดียวกัน ถ้าปล่อยให้ผีผู้หญิงหลุดจากวงเวทย์ งั้นเจ้าสิ่งนี้จะต้องวุ่นวายหนักกว่าเดิมแน่ และจะไม่สามารถควบคุมได้เหมือนเดิม
ผมและเฟิงเฉ่วหานวิ่งเข้าไป เพียงชั่วพริบตาก็มาปรากฎตัวที่ด้านหลังของผีผู้หญิงแล้ว
และทันใดนั้นเอง ตัวผมและเฟิงเฉ่วหานก็กระโดดขึ้นกลางอากาศอย่างพร้อมเพียง
“ สารเลว ตายไปซะ ! ” ผมสองคนตะโกน ใช้ดาบไม้ในมือแทงไปที่หลังของผีผู้หญิงทันที
แต่เสียงเพิ่งจางหาย ผีผู้หญิงตนนั้นก็หันมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ รนหาที่ตาย ! ”
หลังจากพูดจบ ผีผู้หญิงตนนั้นก็โบกมืออย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น สายลมที่เยือกเย็นก็พัดเข้ามา ความหนาวเย็นนั้นเข้ามาห่อหุ้มผมสองคนเอาไว้
ไม่เพียงเท่านั้น พลังที่มองไม่เห็นโจมตีใส่ร่างกายของพวกเราทันที ช่วงเวลานั้นผมรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว
ไม่รอให้ดาบไม้ในมือของพวกเราสองคนได้สัมผัสกับร่างของผีผู้หญิง ผมและเฟิงเฉ่วหานก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และร่างกายก็กระเด็นออกไปทันที
จนเกิดเสียงดัง “ ปักปัก ” ตัวของพวกเรากระแทกลงกับพื้นอีกครั้ง
เพราะครั้งนี้รุนแรงมาก ถึงแม้ผมสองคนจะล้มลงกับพื้นแล้ว แต่ก็ยังกลิ้งไปอีกสองรอบก่อนที่จะหยุดลงได้
มันทรมานจนพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนร่างกายแหลกเป็นชิ้นๆ
“ ติงฝาน เฟิงเฉ่วหาน ! ” หยางเฉ่วตกใจ
แต่หยางเฉ่ว พึ่งพูดประโยคสุดท้ายจบ มือที่ประสานกันก็เริ่มเปลี่ยนท่า
ทันใดนั้น ธงขนาดเล็กที่ปักอยู่บนพื้น กลับลอยขึ้น
ดูเหมือนมันกลายเป็นดาบ พุ่งเข้าไปทางผีผู้หญิงทันที
แต่ผีผู้หญิงตนนั้นกลับไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้น เธอเปล่งเสียง ฮึ ออกมาอย่างเย็นชา เอื้อมมือไปจับอย่างรวดเร็ว ธงเล็กๆผืนนั้นก็ถูกจับเอาไว้ทันที
เมื่อหยางเฉ่วเห็นสิ่งนี้ เธอก็ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้ มองดูอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
แต่มือของผีผู้หญิงขยับแค่เล็กน้อย “ กร๊อบ ” ธงอันนั้นก็หักทันที
ในเวลาเดียวกันเธอก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ ฉันอยู่มา 20 ปี คิดจะใช้เจ้านี้ทำร้ายฉันเนี่ยนะ ”
หลังจากพูดจบ จู่ๆน้ำเสียงของผีผู้หญิงก็เปลี่ยนไป เธอตะคอกใส่หยางเฉ่วทันที “ ไปตายซะ ! ”
หลังจากพูดจบ ผีผู้หญิงก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำลายวงเวทย์ที่ควบคุมตัวเธอเอาไว้ จากนั้นก็ฉีกเชือกสองสามเส้นสุดท้ายที่หยุดเธอเอาไว้ทันที
เธอพุ่งเข้าไปหาหยางเฉ่วทันที ตอนนี้ใบหน้าของหยางเฉ่วเต็มไปด้วยความตกตะลึง
เมื่อวงเวทย์ถูกทำลาย เธอก็ตกใจมาก
แต่เมื่อเห็นผีผู้หญิงพุ่งเข้ามา เธอก็ถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าว ในเวลาเดียวกันเธอก็รีบหายันต์ออกมาสู้
แต่ผีผู้หญิงตนนั้นมีพลังเยอะกว่าพวกเราเกินไป ตามที่พวกเราสังเกตดู ถ้านำพลังของผีผู้หญิงตนนั้น มาเทียบกับคำเรียกของพลังในอาชีพเรา ขั้นต่ำสุดเธอก็น่าจะมีพลังระดับอาจารย์ลักทธิเต๋า
มากกว่าพวกเราสามคนหนึ่งเท่าตัว หรือจะเรียกได้ว่าเธอมาเพื่อบดขยี้
ดังนั้นไม่รอให้หยางเฉ่วได้หยิบยันต์ออกมา ผีผู้หญิงก็มาถึงตรงหน้าเธอแล้ว
ผีผู้หญิงยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว และเข้าไปบีบคอของหยางเฉ่วทันที
เมื่อจู่ๆหยางเฉ่วถูกบีบคอ เรี่ยวแรงในร่างกายของเธอก็ดูเหมือนจะหายไป แม้แต่มือก็ยกไม่ขึ้น
ตาเหลือกขึ้น พลังหยางในร่างกายหายไปอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังทรมานมาก
แต่ดวงตาของผีผู้หญิงนั้นกลับเต็มไปด้วยความดุร้าย “ ยัยชั่ว ทำร้ายหลานของฉัน แล้วยังคิดจะทำร้ายฉันอีกเหรอฮะ ”
หลังจากพูดจบ เธอก็อ้าปากอย่างรวดเร็ว กำลังเข้าไปกัดหยางเฉ่วให้ตาย
แต่ผมกลับทนความเจ็บที่รุนแรงตรงหน้าท้องไว้ ค่อยๆลุกขึ้น
ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ “ แม่…ซิหยุดเดี๋ยวนี้ เก่งจริงก็เข้ามาหาฉันซิ ! ”
ผมอ้าปากหอบหายใจ มือข้างหนึ่งกุมหน้าท้องที่โดนพลังหยินโจมตีเอาไว้ และพูดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เสียงของผมพึ่งเงียบลง ผีผู้หญิงที่กำลังจะกัดหยางเฉ่ว กลับนิ่งไป
ผีผู้หญิงหันมามองอย่างช้าๆ ด้วยแนวหัวที่หมุน 180 องศา เมื่อเห็นภาพแบบนั้นมันน่าขนลุกมากจริงๆ
ผีผู้หญิงเห็นผมยืนอยู่ ตรงมุมปากก็มีรอยยิ้มเย็นชาผุดออกมา “ ไอ้หนูรนหาที่ตายดีนักนะ ! ได้งั้นแกก็ตายเป็นคนแรกก็แล้วกัน…… ”
หลังจากพูดจบ ผีผู้หญิงก็ยกมือแล้วแกว่งมืออย่างรวดเร็ว
หยางเฉ่วที่ถูกบีบคออยู่ ก็กระเด็นออกไปทันที “ ปัก ” สุดท้ายร่างของเธอก็กระแทกกับกำแพงที่อยู่ไม่ไกล
ครั้งนี้มันรุนแรงมาก เพราะหัวของหยางเฉ่วกระแทกโดนกำแพง ทำให้เธอนอนสลบ อยู่ข้างๆกำแพงทันที
แต่ผีผู้หญิงตนนั้นกลับไม่สนใจ ร่างของผีผู้หญิงก็ลอยมาทางผมอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นผีผู้หญิงพุ่งเข้ามา ผมก็จับดาบไม้ในมือให้แน่นพร้อมรับการโจมตี
ในบรรดาพวกเราสามคนผมเป็นคนที่มีพลังน้อยที่สุด แล้วแบบนั้นผมจะไปต่อสู้กับผีผู้หญิงตนนี้ได้ยังไง
ผลลัพธ์เมื่อเข้ามาเผชิญหน้ากัน ผีผู้หญิงก็ไม่รอให้ผมแทงได้ เธอรีบใช้กรงเล็บกวาดมาที่ผม
กรงเล็บพวกนั้นคมกริบไม่เพียงทำเสื้อผมขาดได้ แถมยังสร้างบาดแผลให้ผมหนึ่งแผลอีกด้วย
ด้วยพลังที่เข้ามากระทบอย่างมหาศาลนั้นทำให้ตัวผมล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง ทั้งร่างเหมือนแหลกลาน
แต่ในเวลานี้ เฟิงเฉ่วหานเองก็หายใจหอบเหนื่อย เขายืนขึ้นมาอย่างยากลำบากมากๆ
แต่ว่าตอนนี้ เขาหยิบยาขวดสีดำออกมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะใช้ยาเรียกให้พี่หานเฉ่วเฟิงออกมาจัดการผีผู้หญิง
แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คิด เฟิงเฉ่วหานยังไม่ทันเปิดฝาขวด ผีผู้หญิงตนนั้นก็ปรากฎขึ้นที่หน้าของเฟิงเฉ่วหาน
เฟิงเฉ่วหานรู้สึกถึงลมแรงๆที่พัดเข้ามา ยังไม่ทันได้มองให้ชัดเจน ตาทั้งสองข้างก็เหลือกขึ้น ถูกผีผู้หญิงพ่นหมอกสีขาวใส่ตรงๆ ทันใดนั้นเขาก็สลบไปในทันที
ผมนอนราบอยู่กับพื้น เมื่อเห็นฉากแบบนั้น ก็พูดในใจว่าสมควรตายสักพันครั้งหมื่นครั้ง พวกเขาวางแผนและเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นไว้ทุกอย่างแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในบ่อน้ำจะมีผีผู้หญิงอีกหนึ่งตน
แถมผีตนนี้กับผีทารกยังเป็นพวกเดียวกัน และพลังยังสูงมากอีกด้วย
ตอนนี้ก็ช่างดีจริงๆ เฟิงเฉ่วหานและหยางเฉ่วถูกทำร้ายจนสลบ เหลือไว้เพียงคนอ่อนแอที่สุดอย่างผม
ถ้าผมไม่สามารถจัดการยัยผีนี่ได้ ผมกล้าพูดเลยว่า พวกเราสี่คนที่อยู่ที่นี่ จะไม่มีใครรอดได้เห็นแสงตะวันในวันพรุ่งนี้แน่
ผมรู้สึกหวาดกลัว แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆผมก็นึกถึงเรื่องไฝดำที่ข้อมือได้ และคิดถึงน้องศพมู่หลงหยียนขึ้นมา
ใช่แล้ว ! มู่หลงเหยียนบอกว่า ถ้าเจออันตราย สามารถใช้ไฝดำ เรียกชื่อเธอให้ออกมาช่วยได้
แม้ว่าผมจะไม่มั่นใจว่าเธอจะมาได้ยังไง หรือมาได้รึเปล่า
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นี่จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะสามารถช่วยชีวิตผมได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผมจะมัวแต่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเองอยู่ได้ยังไง
ผมทุลักทุเล รีบลุกขึ้นมาทันที ไม่อย่างนั้นผมได้ตายจริงๆแน่
ในเวลาเดียวกัน ข้อมือซ้ายของผมมีไฝดำอยู่ รีบประสานมือ เคลื่อนพลังจากจุดตานเถียน มาที่ตรงกลางไฝดำทันที
ส่วนผีผู้หญิงตนนั้น ได้หันมาเรียบร้อย เธอค่อยๆลอยเข้ามาหาผมแล้ว
ใบหน้าสยดสยอง ดวงตาสีขาวโพน จ้องผมอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับพูดเยาะเย้ย “ ไอ้ชายชั่ว ถึงตาแกแล้ว ต่อไปแกอยากให้ฉันฆ่าแกยังไงดีละ…… ”
คอมเม้นต์