ศพ – ตอนที่ 5 ผีคู่สามีภรรยา

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 5 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนแรกผมคิดว่าเรื่องในคืนนี้จะจบลงแค่นี้แล้วเชียว แต่ใครจะไปคิดว่าสามีของยัยผีนั้นจะโผล่มา

 

ในเวลานี้ผมเครียดแบบสุดๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ผีผู้ชายนั้นรู้ความจริง ผมยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม เหงื่อออกเต็มหลัง

 

ในมือกำกระจก 8 ทิศไว้แน่น ผมเขยิบถอยหลังไปเรื่อย ๆ

 

ส่วนผีผู้หญิงนั้นกลับทำหน้าประหลาดใจ หันมามองที่ไก่ “เขาก็อยู่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ ก็ถูกแล้วนิ”

 

แต่ผีผู้ชายก็หยุดความคิดของผีผู้หญิงทันที “อีเมียโง่ เธอมองดูดีๆซิ นั้นมันแค่ไก่ เธอนี่โดนลูกไม้กระจอกๆเล่นงานได้ครั้งแล้วครั้งเล่าจริงๆ!”

 

ผีผู้ชายพูดด้วยความโมโหอย่างมาก ส่วนผีผู้หญิงนั้นถึงกับมึนงง

 

ดูเหมือนเขาจะมองทะลุภาพลวงตาของอาจารย์ได้ “กึก” สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที

 

“สมควรตาย ฉันจะต้องหาไอ้เด็กนั้นให้เจอ!”

 

เสียงของผีร้ายแหบมาก คนได้ยินเข้าจะรู้สึกอึดอัดมากทันที

 

ในฐานะที่เป็นคนก่อเรื่อง และยังซ่อนตัวอยู่ใต้โลงศพห่างจากพวกเขาเพียง 7-8 เมตรเท่านั้น มันจึงทำให้ผมกลัวมากกว่าเดิม กลัวจนถึงขีดสุด แม้แต่การหายใจแรงๆตัวผมเองยังไม่กล้าทำออกมา

 

แม้ว่าตัวเองจะทำเรื่องพวกนี้กับอาจารย์มาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ตอนที่อาจารย์ออกไปทำพิธี กลับไม่เคยพาผมไปด้วยเลย

 

อย่างมากที่สุดก็คือพิธีเฝ้าศพ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งนี้

 

ผมยังไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน และยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เคยเจอผีที่ร้ายกาจขนาดนี้ด้วย

 

ขณะที่ผมกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้โลง สติของผมก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรดี

 

แถมเจ้าผีผู้ชายนั้นก็อย่างกับหมา หันมามองในห้อง แล้วใช้จมูกสูดดมแค่สองสามครั้ง จากนั้นก็หันไปคุยกับผีผู้หญิงที่อยู่ด้านหลัง “ไอ้เด็กนั้นมันซ่อนตัวอยู่แถวๆนี้ และเป็นไปได้มากที่มันจะอยู่ในห้องนี้ ไม่อย่างนั้นมันคงใช้วิธีแบบนี้ไม่ได้แน่!”

 

ขณะที่พูด ผีผู้ชายคนนั้นก็เดินเขย่งเท้าเข้ามาในห้องเก็บศพ นอกจากนี้เขายังไม่ลืมที่จะมองไปรอบๆ และใช้จมูกดมกลิ่นไปในตัว

 

บางทีสิ่งที่อาจารย์พูดอาจจะถูก แม้ว่าที่ผมอยู่ตรงนี้อาจจะดูเห็นได้ชัด และมันก็ไม่มีสิ่งขัดขวางอะไร

 

แต่ผีสองตัวนี้กลับมองหาในนี้ตั้งหลายรอบ พวกเขาเดินกลับไปกลับมาในห้องเก็บศพหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ยังไม่เจอตัวผม

 

ผมแอบดีใจ แต่ที่ในปากกลับกลืนน้ำลายไปมา เห็นได้ชัดว่าผมกำลังเครียด

 

ผมถูกทรมานอยู่ในนี้ประมาณ 10 นาที แต่ผีร้ายทั้งสองตัวก็ยังหาผมไม่เจอ เหมือนกับตอนแรกเริ่ม พวกเขายังคงเดินวนเวียนไปเรื่อยๆ

 

เมื่อเห็นภาพแบบนี้ ผมเลยคิดว่าคืนนี้ตัวเองคงต้องทนแบบนี้ต่อไป จนถึงรุ่งเช้า

 

ดังนั้นใจของผมจึงค่อยๆผ่อนคลายลงมานิดหน่อย แต่ใครจะไปรู้ผ่านไปแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น

 

ด้านหน้าของโลงศพที่ผมอยู่ กลับมีหัวของคนตายโผล่ออกมา

 

ใบหน้าขาวซีดจนไม่อาจหาอะไรเทียบได้ นอกจากนี้บนใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้มที่น่าสยองขวัญ ดวงตาขาวโพน กำลังจ้องมาที่ผม

 

“ไอ้เด็กน้อย ที่แท้แกก็ซ่อนตัวอยู่นี้เอง ให้พี่สาวหาตั้งนาน!”

 

ตอนที่พูดสองสามประโยคสุดท้าย ผีผู้หญิงตนนั้นก็เพิ่มระดับเสียงขึ้นทันที มันเป็นเสียงที่ต่ำมาก

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง เธอพูดขึ้นมาอย่างฉับพลัน

 

เมื่อเห็นแบบนี้ ในสมองก็มีเสียงดัง “เวิง” ไม่กล้านิ่งเงียบอีกต่อไป วินาทีนั้นผมร้องออกมาทันที!

 

“เฮ้ย!”

 

เท้าทั้งสองข้างขยับ ถอยหลังไปไม่หยุด แต่สุดท้ายผมก็ชนเข้ากับผนัง ไม่สามารถขยับตัวได้อีก

 

ผมได้เพียงแต่มองรอยยิ้มที่แสนน่าเกลียดน่ากลัวของคนตาย ในเวลาเดียวกันนั้นผีผู้ชายก็ปรากฎตัวขึ้นด้านหน้าเช่นกัน

 

เขาก้มตัวลง มองมาที่ผมอย่างประหลาด

 

“ไอ้เด็กน้อย มา พี่จะพาแกไปอาบน้ำเอง!”

 

ตอนที่พูด ผีสามีภรรยาคู่นี้ยังทำเสียงหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า” ที่น่าสยองออกมาด้วย มันบาดแก้วหูมาก ทำให้คนฟังขนลุกเลยทีเดียว

 

“ ฉัน ฉันไม่ไป ถ้าจะอาบ พวกแกก็ไปอาบเองซิ!” ผมกดความกลัวที่อยู่ในใจเอาไว้และพูดออกมา

 

ผลลัพธ์เสียงพึ่งขาดหายไปเท่านั้น ผีผู้หญิงตนนั้นก็ก้มหน้าลงมา  “ไม่ไปงั้นเหรอ ถึงไม่ไปพี่สาวก็จะพาแกไปเอง!”

 

หลังจากพูดจบ เธอก็เอื้อมมือข้างหนึ่งออกมา แขนที่ยื่นมานั้นขาวซีดมาก มันตรงเข้าคว้าตัวผมทันที

 

ตอนนี้ในมือของผมมีกระจก 8 ทิศที่อาจารย์ให้ไว้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาจับตัว วินาทีนั้นผมจึงถือกระจกแปดทิศไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ยืดตรงออกไปทางด้านหน้าตามสัญชาตญาณ

 

ผลลัพธ์มือของผีผู้หญิงตนนั้นเข้ามาโดนกับกระจก 8 ทิศพอดี กระจก 8 ทิศเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดสำหรับขับไล่สิ่งชั่วร้าย

 

ในชนบท หลายบ้านต่างแขวนมันไว้ที่หน้าประตู เพื่อใช้ขับไล่วิญญาณชั่วร้าย

 

เมื่อสิ่งชั่วร้ายมาเห็น ส่วนใหญ่พวกมันก็จะเกรงกลัวและออกห่างทันที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปจับเลย

 

มันเป็นเวลาที่เหมาะเจาะพอดี หลังจากผีผู้หญิงจับโดนเข้าอย่างจัง

 

ผมก็ได้ยินเสียง “อร๊าย…” จากนั้นก็มีควันดำปรากฎขึ้นทันที

 

ดูเหมือนมือของผีผู้หญิงตนนั้นได้สัมผัสกับเหล็กร้อนๆ มือของมันถูกเผาไหม้ทันที

 

ผีผู้หญิงเจ็บปวดทรมาน ปากยังคงร้อง “อร๊าย” ออกมาไม่หยุด เธอรีบดึงมือออกทันที

 

เมื่อผีผู้ชายเห็นเข้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาพูดด้วยความโมโหมาก “กล้าทำร้ายเมียฉัน ฉันจะสูบพลังให้แกแห้งตายไปเลย!”

 

ขณะที่พูด เขาก็เอามือเข้ามาจับผมเช่นกัน

 

เวลานี้ตัวเองก็ไม่รู้ว่าเอาความกล้าพวกนี้มาจากไหน ด้วยแรงปรารถนาที่อยากอยู่รอด ผมจึงหันกระจกเตรียมรับมือกับผีผู้ชายด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว

 

หลังจากเห็นแบบนั้นเขาก็พูดออกมาทันที “หลบ หลบไป!”

 

แม้ว่าผีผู้ชายจะดุร้าย แต่ก็ไม่กล้าสัมผัสกับกระจก 8 ทิศตรงๆ มือที่ยื่นออกมา ก็ถอยกลับไปอีกครั้ง

 

แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยเลยสักนิด ตอนนี้ในมือเหมือนกำลังถือฟางเอาไว้ช่วยชีวิตอย่างนั้น จับกระจก 8 ทิศไว้แน่นมาก และยังคงจ้องผีร้ายสองตนที่อยู่ด้านนอกด้วยความเคร่งเครียด

 

ในใจยังไม่หยุดคิด อาจารย์ อาจารย์ ไม่ได้คอยจับตาดูอยู่ข้างนอกหรอ ทำไมยังไม่รีบเข้ามาช่วยผมอีกนะ ถ้าอาจารย์ยังไม่ออกมา ศิษย์คนนี้ของอาจารย์จะคุกเข่าขอร้องแล้วนะครับ

 

แต่ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายมาก ผีผู้ชายเห็นตัวเองซ่อนอยู่ใต้โลงจึงลงมือไม่ถนัด หลังจากดึงมือกลับไป เขาก็ใช้ฝ่ามือเดียวปัดโลงศพที่ขวางอยู่กระเด็นทันที

 

ได้ยินเพียงเสียง “แอ๊ด” เบาๆเท่านั้น ต่อมาโลงศพสีดำลูกนั้น ก็ตกลงมาแตกเป็นสองสามชิ้น

 

ทันใดนั้นภาพผีร้ายสองตนนั้นก็ปรากฎต่อหน้าผม ถึงตอนนี้ตัวเองอยากหลบก็หลบไม่ได้แล้ว ดังนั้นผมจึงลุกขึ้นและกำลังจะวิ่งหนีออกไป

 

แต่ทันใดนั้นทั้งสองทางกลับถูกผีทั้งสองตนปิดกั้นไว้จนหมด ในเวลาเดียวกันผีผู้หญิงที่บาดเจ็บก็แยกเขี้ยวที่น่าเกลียดออกมา “พูดดีๆไม่ชอบชอบให้บังคับ ตอนนี้ฉันจะเอาชีวิตแก!”

 

หลังจากพูดจบ เธอก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที

 

ใบหน้าของผมเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่กำลังจะใช้กระจกแปดทิศป้องกัน จู่ๆกระจกที่อยู่ในมือก็ถูกผีผู้ชายปัดด้วยหลังมือ หลังจากนั้นกระจก 8 ทิศที่อยู่ในมือกระเด็นออกไปไกลกว่าสองเมตร

 

“ดูซิว่าแกจะเอาอะไรมาป้องกัน!” ผีผู้ชายพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย

 

ผมรู้สึกเจ็บที่บริเวณแขน เมื่อหันไปดูกลับพบว่าตอนนี้เสื้อผ้าของตัวเองมีรอยฉีกขาด ที่แขนยังมีบาดแผล และเลือดสดๆก็กำลังไหลทะลักออกมา

 

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจเรื่องอื่น ผมจับแขนไว้และไม่สามารถขยับไปข้างๆได้ ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความกลัว

 

ส่วนผีร้ายสองตัว เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าที่หวาดกลัว ก็ดูเหมือนจะดีใจกันมาก

 

ใบหน้าของผมเริ่มมืดมน  เพราะพวกเขาเริ่มขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ เรื่องอื่นไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัด

 

หัวใจเต้นรัว ความกลัวถึงขีดสุด จบกันจบกัน อีกเดี๋ยวชีวิตผมต้องจบเห่แน่

 

แต่ตอนที่ตัวเองกำลังคิดว่าหมดหนทางรอดชีวิตแล้ว จู่ที่ประตูก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “ไอ้พวกชั่ว ยังไม่หยุดอีก!”

 

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ในใจก็มีเสียงดัง “กึกๆ” ขึ้นมาทันที ผีร้ายสองตนก็หันไปมองเช่นกัน

 

ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่า ที่ประตูมีชายแก่ยืนอยู่ เขาคนนั้นก็คืออาจารย์ของผมนั้นเอง ติงโย่วซาน

 

ในมือของอาจารย์กำลังถือดาบไม้อยู่ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ถือแผ่นป้ายสองแผ่น ดูเหมือนว่ามันจะเป็นป้ายวิญญาณ

 

ขณะที่ผมกำลังสังเกตว่าของในมือของอาจารย์คืออะไร สีหน้าของผีร้ายสองตนนั้นก็เปลี่ยนไปทันที

 

ในเวลาเดียวกันยังได้ยินเสียงผีผู้ชายที่พูดด้วยสีหน้าอันดุร้าย “ตาแก่ รีบวางป้ายวิญญาณของพวกเราลง ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”

 

เสียงทุ่มต่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

 

แต่สีหน้าของอาจารย์ยังเรียบนิ่ง “ อยากได้ป้ายวิญญาณงั้นหรอ ก็มาแย่งไปเองซิ ”

 

หลังจากพูดจบ เขาก็จงใจวางป้ายวิญญาณพิงไว้ที่ข้างๆประตู

 

ภาพนี้ทำให้สีหน้าผีร้ายทั้งสองตนก็เปลี่ยนเป็นเขียวและแดงในทันที แทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปฉีกร่างอาจารย์ออกเป็นชิ้นๆ

 

“ฮึ!” ผีผู้ชายอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาพุ่งเข้าไปทันที

 

จากนั้นก็ตามมาด้วยผีผู้หญิง เธอแผดเสียงออกมาดังมาก หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาอาจารย์ทันที

 

เมื่ออาจารย์เห็นผีทั้งสองตนพุ่งเข้ามา เขาหันมามองผมที่อยู่ในห้องเก็บศพแวบนึง จากนั้นก็วิ่งออกไปข้างออกทันที

 

เห็นได้ชัดว่าเขาทำไปเพราะต้องการดึงดูดให้ผีทั้งสองตามไป จากนั้นก็สร้างทางหนีเอาชีวิตรอดให้กับผม

 

หลังจากที่ผีร้ายสองตนออกไปจากห้องเก็บศพ ผมก็รีบหยิบกระจก 8 ทิศที่พื้นทันที จากนั้นก็ค่อยออกจากที่นี่ และหาที่สักแห่งเพื่อซ่อนตัว

 

แต่เมื่อผมวิ่งไปถึงประตู ก็พบว่าอาจารย์สู้กับผีร้ายสองตัวนั้นไม่ไหว

 

และตอนนี้ด้านหลังของอาจารย์ยังถูกทำร้ายแล้วด้วย เลือดสดๆกำลังไหลซึมเข้าสู่ชุดนักพรต

 

เมื่อเห็นแบบนี้ ผมก็นิ่งอึ้งไปทันที

 

อาจารย์รับเลี้ยงผมไว้ ดูแลตั้งแต่เล็กจนโต เวลานี้ยังมาบาดเจ็บเพราะช่วยผม ถ้าตอนนี้ผมหนีเอาตัวรอดคนเดียว แบบนั้นผมยังเป็นคนอยู่งั้นหรอ

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเอาความกล้ามาจากไหน

 

ผมกัดฟัน เห็นข้างๆมีกระถางใส่ขี้เถ่าธูปขนาดใหญ่วางไว้ ไม่คิดอะไรอีกต่อไป ผมยกกระถางธูปขึ้นและวิ่งออกไปทันที

 

นอกจากนั้นยังตะโกนเสียงดังว่า “อาจารย์ ผมมาช่วยแล้ว……”

 

เสียงพึ่งลดลงเท่านั้น ผมก็วิ่งเข้ามาทางด้านหลังผีสองตน ไม่รออะไรทั้งสิ้น ผมเอากระถางธูปกระแทกใส่หัวผีผู้ชายแรงที่สุดเท่าที่ทำได้

 

ผลลัพธ์ผมได้ยินเสียงดัง “เพล้ง” กระถางธูปแตกเป็นสี่ถึงห้าชิ้น

 

ถ้าเป็นคนธรรมดาถูกกระแทกแรงขนาดนั้น หัวต้องแตกแน่นอน หรือถ้าไม่ตายก็ต้องมึนหัว

 

แต่นี่คือวิญญาณชั่วร้าย ของธรรมดาๆจะทำร้ายพวกเขาได้ยังไง

 

ผลลัพธ์ผีผู้ชายคนนั้นไม่เพียงไม่เป็นอะไรเท่านั้น หัวของเขายังหนุมรอบ 180 องศา หลังจากนั้นเขาก็หันมาจ้องที่ผม สีหน้าที่มองยังดุร้ายยิ่งกว่าเดิมด้วย

 

“กล้าทำร้ายฉัน ฉันจะฆ่าแก!”

 

เมื่อพูดจบ ก็อ้าปากทันที

 

ไม่รอให้ผมได้หลบ เขาก็ตรงเข้ามากัดที่คอผมทันที……

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด