ศพ – ตอนที่ 54 ปรากฎตัว

อ่านนิยายจีนเรื่อง ศพ ตอนที่ 54 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 54 ปรากฎตัว

จู่ๆก็ได้ยินเสียงนี้ ผมและอาจารย์ที่อยู่ในบ้านจึงมึนงง พร้อมกับใบหน้าที่ตกตะลึง

ในบ้านหลังนี้มีเพียงผมและอาจารย์อาศัยอยู่เท่านั้น แล้วจะมีเสียงผู้หญิงโผล่ขึ้นมาได้ยังไงละ

อาจารย์ทำหน้าตกใจ รู้สึกว่ามันอันตราย จนกำยันต์ในมือจนแน่น

แต่หลังจากที่ผมผ่านช่วงอารมณ์ตกใจ กลับแสดงสีหน้ามีความสุขออกมา

เพราะเสียงนี้ สำเนียงนี้ จะต้องเป็นผีเมียของผมมู่หลงเหยียนแน่นอน

เนื่องจากอาจารย์ไม่เคยได้ยินเสียงผีเมีย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหวาดกลัว

ในเวลาเดียวกัน ผมสองคนก็มองหาต้นเสียงตามสัญชาตญาณ

 

หลังจากหันไป ตำแหน่งโซฟาที่อยู่ไม่ไกล ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้กลับมีหญิงงามปรากฎตัวขึ้น

ผู้หญิงคนนั้นผิวขาวราวหิมะ หน้าผากมนเยี่ยงจักจั่น งดงามราวกับหยก เธอสวยจนเหมือนกับนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์

ตอนนี้ร่างของเธอกำลังแอบอิงอยู่กับโซฟา ท่าทางเฉยเมย ลูบผมยาวๆของตนเองอย่างสบายอกสบายใจ

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของผมก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาทันที

ครั้งที่แล้วได้เห็นตัวจริงของเธอ ก็ตอนที่อยู่กลางป่ากลางเขา

แต่ตอนนี้ผมกลับได้เห็นเธออีกครั้ง จึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย “น้องศพ! เธอมาได้ยังไง!”

 

จู่ๆอาจารย์ก็ได้ยินผมพูดแบบนี้ เขาจึงนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพูดเลียนแบบผม “น้อง น้องศพ”

เสียงพึ่งจางหาย เขาก็หันมามองหน้าผมด้วยความตกตะลึง จากนั้นก็หันกลับไปมองมู่หลงเหยียนอีกครั้ง “หรือว่า หรือว่าเธอคือคู่สมรสของศิษย์ฉันงั้นเหรอ”

ผีเมียลุกขึ้นยืนช้าๆ จากนั้นก็ยิ้มให้อาจารย์เล็กน้อย

รอยยิ้มนั้นให้ความรู้สึกเหมือนมันจะสามารถละลายน้ำแข็งที่มีอายุหลายพันปีได้เลยทีเดียว อบอุ่นมาก และงดงามมากด้วยเช่นกัน

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมู่หลงเหยียนยิ้ม แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนที่เธอยิ้มมันจะงดงามได้ถึงขนาดนี้

 

“ท่านนักพรตติงสุภาพเกินไปแล้วค่ะ!” มู่หลงเหยียนพูดออกมาหนึ่งประโยค เห็นได้ชัดว่าเธออ่อนโยนมาก

ไม่เหมือนกับมู่หลงเหยียนผู้หญิงระเบิดมังกรที่ผมรู้จักเมื่อก่อนหน้านี้เลยสักนิด ราวกับเป็นคนละคน

อาจารย์เห็นว่ามู่หลงเหยียนพูดจาสุภาพ เขาจึงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ดี ดี! คิดไม่ถึงเจ้าศิษย์โง่ของฉันจะได้คนแบบเธอมาเป็นภรรยา คงเป็นเพราะโชคจากชาติที่แล้ว!”

เมื่อมู่หลงเหยียนได้ยินเธอก็ยิ้ม “ยิงฟัน” ท่าท่างและการกระทำนั้น เกือบทำให้ผมสำลักความหวานตาย

ผมมีความรู้สึกเหมือนเห็นภาพลวงตา ก่อนที่จะรู้จักมู่หลงเหยียน ยัยเด็กนี้เคยเป็นเหมือนเฟิงเฉ่วหานไหมนะ ที่มีหนึ่งร่างสองวิญญาณ

 

ไม่หยุดเพียงแค่นี้ มู่หลงเหยียนยังตอบกลับว่า “ใช่เขาค่อนข้างโง่ แถมเขายังห่วยอีกด้วยค่ะ”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผมที่กำลังถูกความสวยดึงดูด ก็ได้สติขึ้นมาทันที จึงกลอกตาใส่เธอ

อาจารย์เป็นคนพูดน้อย แต่เขาก็ยังหัวเราะ “ฮ่าๆ” ออกมา

แต่ผมก็ไม่ยอมรับ ตั้งแต่รู้จักจนถึงตอนนี้ ทุกครั้งที่ผมได้ยินคำว่าห่วย ผมก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวผมเป็นผู้ชายไร้น้ำยาตรงไหนกัน

เธอลบเพื่อนของผม ตอนกลางดึกยังวาดหน้าผม แถมไม่ให้ผมเรียกชื่อ เอาแต่รังแกผมตลอด นอกจากนี้เธอยังขู่ผม แล้วสุดท้ายยังด่าผมว่าห่วยอีกเนี่ยนะ

 

แล้วแบบนี้ผมจะทวงความยุติธรรมจากที่ไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จนผมไม่มีอารมณ์กังวลกับผีร้ายที่กำลังทุบประตูอยู่

จากนั้นก็พูดกับมู่หลงเหยียนว่า “ฉันสงสัยจริงๆ ทำไมฉันถึงห่วย”

ผลลัพธ์กลับไม่ต้องรอให้มู่หลงเหยียนตอบ อาจารย์ของผมกลับส่ายหัว เขามองผมด้วยสายตาที่โหดร้าย

ไม่ส่งสัญญาณล่วงหน้า ทันใดนั้นเขาก็ตบหัวผมทันที “ไอ้เด็กนี้จะถามอะไรให้มันเยอะแยะ เมียแกบอกว่าแกห่วย แกก็เปลี่ยนตัวเองก็พอแล้วนิ แล้วถ้ายังพูดมากอีก อาจารย์จะปล่อยแกไปตายซะ!”

เมื่อเห็นอาจารย์ทำท่าทางแบบนั้น ผมก็มึนงงทันที

อาจารย์ อาจารย์เป็นอาจารย์ของผมนะ แล้วยัยเด็กนี้ก็คือมู่หลงเหยียนผู้หญิงที่คิดจะระเบิดมังกรน้อยของผมนะครับอาจารย์

 

ไม่ช่วยผมก็ชั่ง แต่ทำไมต้องไปช่วยยัยผีนี้กดขี่ผมด้วยละครับ

ผมพูดอะไรไม่ออก กลัวว่าตาแก่นี่จะตัดขาดผมอีกรอบ

แต่ทันใดนั้นมู่หลงเหยียนก็หันมาพูดกับผม “นายห่วย ไสหัวไปทางโน้น!”

ขณะที่พูดเธอก็หันมาจ้องหน้าผม จากนั้นก็เข้ามายืนตรงหน้าของผมกับอาจารย์

ในเวลาเดียวกัน ยันต์สามแผ่นที่อาจารย์ติดไว้ที่ประตู กลับหลุดกระจายออกมา ดูเหมือนการสลายตัวทั่วๆไป  แต่มันกลายเป็นขี้เถ้าและกระจายตัวลงบนพื้น

เมื่อขี้เถ้าจากยันต์แผ่นสุดท้ายหล่นลงบนพื้น “ปัง” ทันใดนั้นประตูบ้านก็ถูกเปิดออก

 

จากนั้น สายลมอันหนาวเย็น ก็พัดเข้ามาในบ้านทันที

วินาทีนั้นเงินกระดาษได้ถูกลมพัดจนปลิวไปทั่วบ้าน และสายลมนั้นยังเย็นจนเข้ากระดูก

ราวกับสายลมในเดือนสิบสอง(ตามปฏิทินจันทรคติจีน) เมื่อเข้ามาสัมผัสตัว ก็เหมือนกับวินาทีที่ถูกเข็มแทง

ความรู้สึกแบบนี้มันทรมานมาก ผมขนลุกไปทั่วทั้งตัว

แต่มันยังไม่จบเท่านี้ นอกจากสายลมที่หนาวเหน็บแล้ว

ที่หน้าประตู ยังมีร่างของผีร้ายในชุดขาวปรากฎขึ้น 5-6 ตน

และผู้นำของพวกมัน ก็คือผีชั่วที่สมควรตายตนนั้นนั่นเอง

 

มันพึ่งปรากฎตัว ก็หัวเราะ “ฮึฮึฮึ” ด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งยโส “ยันต์กระจอกๆ คิดว่ามันจะหยุดข้าได้งั้นเหรอ คืนนี้แหละที่ข้าจะมาเก็บวิญญาณของพวกแก!”

หลังจากพูดจบ ผีชั่วตนนั้นก็หันมาสนใจมู่หลงเหยียนที่กำลังยืนอยู่ในบ้าน

มันใช้ดวงตาสองข้างจ้องมอง และไม่ละสายตาไปจากเธอพักหนึ่ง

เมื่อกี้มันยังหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์ แต่ตอนนี้มันกลับตัวแข็งทื่อ มองรูปร่างหน้าตามู่หลงเหยียนอย่างลืมตัว

“ที่ ที่นี่ยังมีสาวงามหายากอยู่ด้วยว่ะ ดีคืนนี้ฉันจะได้ฟิน……”

ขณะที่พูด ใบหน้าของมันยังแสดงความหื่นกามออกมาด้วย

 

แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเห็นไอ้ผีชั่วมองมู่หลงเหยียนแบบนี้ และยังพูดจาแบบนั้น ในใจของผมกลับรู้สึกอึดอัดมาก

เหมือนกับใจของตัวเองถูกขโมยไปแบบนั้น ถึงมู่หลงเหยียนจะสวยมาก แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอมันกลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่

แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อผมได้ยินมันพูดแบบนั้นกลับรู้สึกอึดอัดมาก เหมือนอยากจะด่าคน

นอกจากนี้ผมยังเดินไปข้างหน้าอย่างลืมตัว มองหน้าผีชั่วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แม่..ซิไปล้างปากเน่าๆของแกก่อนเถอะ……”

ขณะที่พูด ผมกลับแสดงความโกรธที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมาจากที่ไหน ใช้ดาบไม้ในมือชี้หน้าผีชั่วทันที

 

ตอนนี้ ผมไม่กลัวเลยสักนิด จึงพูดเพิ่มตามสัญชาตญาณของตัวเอง “ฉันจะปกป้องเอง”

มู่หลงเหยียนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แม้เธอจะไม่พูดอะไร

แต่ใบหน้าของเธอ กลับมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เมื่อผีชั่วเห็นผมพูด มันก็ใช้เสียงเย็นชาพูดกลับมาทันที “แกมีสิทธิพูดด้วยเหรอฮะ แหลกไปซะไอ้เด็กน้อย!”

เสียงพึ่งจบลง ทันใดนั้นผีชุดขาวที่อยู่ข้างหลังสี่ตนก็พุ่งเข้ามาทันที

แต่ละตนต่างไม่มีนัยน์ตา ใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัว แถมยังยกแขนและกางกรงเล็กออก

ตอนแรกที่พวกมันปรากฎตัว ก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที

 

เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็จับดาบไม้ในมือจนแน่น เตรียมรับมือกับผีร้าย

แต่มู่หลงเหยียนที่อยู่ข้างๆกลับยกคิ้วขึ้น จู่ๆเธอก็พูดว่า “ใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังกล้าทำอวดดีอีกนะ!”

หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่ง

ขณะที่มู่หลงเหยียนยกมือขึ้นมา ผมกลับรู้สึกถึงลมหายใจที่เย็นยะเยือกกำลังไหลทะลักออกมาจากตัวมู่หลงเหยียน

จากนั้น รอบๆก็มีเสียงกรีดร้อง “อร๊าย” ดังขึ้น ผีร้ายสี่ตนที่พึ่งพุ่งเข้ามาในบ้าน

กลับกระเด็นออกไปทันที และแต่ละตนยังไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีก

 

ร่างของพวกมันสั่นเทา มีแสงกระพริบออกมาจากร่าง และในปากของพวกมันยังกรีดร้องโหยหวน

เห็นได้ชัดว่า ผีร้ายสี่ตนถูกมู่หลงเหยียนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส จนไม่มีกระจิตกระใจอยากต่อสู้อีกต่อไป และเมื่อดูจากท่าทาง วิญญาณของพวกมันกำลังจะแตกสลายอีกด้วย

เมื่อผมและอาจารย์เห็นภาพนี้ ก็ตกตะลึงในทันที

สุดยอด สุดยอดเลยนี่มันแข็งแกร่งเกินไปมั้ง

นี่มันแค่การโบกมือเพียงครั้งเดียวเองนะ ยังไม่ได้สัมผัสกับร่างกายเลยสักนิด แม้แต่การสู้ตัวต่อตัวยังเรียกไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ผีร้ายสี่ตน ผีร้ายสี่ตนกลับถูกผีเมียจัดการง่ายๆขนาดนี้เนี่ยนะ

สวรรค์! ยัย ยัยมู่หลงเหยียนนี่มีพลังขนาดไหนกัน จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว……

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด