บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 26 ลงโทษ
ตอนที่ 26
ลงโทษ
“แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ยังโดนเลย ข้าคงไม่รอดแล้ว”ศิษย์คนหนึ่งพูดพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย การฝึกของสำนักมีทั้งการฝึกพลังวิญญาณที่ยากเย็นแสนเข็ญ บางครั้งการฝึกก็ต้องนั่งสมาธิติดต่อกันหลายวันเพื่อเพิ่มพลังวิญญาณภายในร่างเพียงนิดหน่อยเท่านั้น หากมุ่งเน้นฝึกพลังวิญญาณก็จะไม่มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างที่อาจารย์หู่ต้องหาร แต่หากไม่ฝึกพลังวิญญาณพวกมันก็จะไม่แข็งแกร่งขึ้น ทำเอาศิษย์หลายๆคนลำบากอย่างมากในการเพิ่มพละกำลังของตนเอง เฟิงชิวนั้นแม้มันจะทะเหลทะไหลไปบ้าง แต่ที่กำลังมันไม่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เพราะมันมัวแต่เกี้ยวพาราสีหญิงสาวในสำนัก แต่เพราะมันพยายามจะข้ามระดับไปสู่ระดับ ผลึกวิญญาณ ต่างหาก แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่มันจะถูกละเว้นโทษจากอาจารย์หู่
“ต่อไปก็ หยางเกา”อาจารย์หู่พูดพลางเดินมายืนหน้าหยางเกา ในฐานะศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดในด้านกำลังของหอตะวันออก อาจารย์หู่คาดหวังในตัวหยางเกาอย่างมาก
“ขอรับ”หยางเกาพูดพลางกำหมัดแน่น กล้ามเนื้อใหญ่โตของหยางเกายามนี้น่ากลัวอย่างมาก แต่อาจารย์หู่ที่เป็นเป้าต่อยก็น่ากลัวไม่แพ้กัน
ตูม! วิชาหมัดของหยางเกากระจายออกมาอย่างรุนแรง สร้างความตื่นตะลึงให้แก่เหล่าศิษย์เป็นอย่างมาก พลังของหยางเกานั้นนับเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นของพวกมันอย่างไม่ต้องสงสัย หากวัดกันที่กำลังกายล้วนๆแม้แต่เฟิงชิวที่เป็นศิษย์พี่ก็ต้องเหงื่อตก
“ยอดเยี่ยม พลังหมัดล้วนๆของเจ้าคงล้มระดับ ก่อกำเนิด ขั้นที่ 5 ได้สบาย”อาจารย์หู่ชื่นชมอย่างพอใจ แม้จะเพิ่มไม่มากแต่พลังของหยางเกาก็เพิ่มมามากกว่าคราวก่อน แม้จะน่าประหลาดใจผู้ฝึกฝนวิชาพลังวิญญาณจะมีพลังกายเปล่าๆเหนือกว่าระดับพลังวิญญาณได้เช่นนี้ นั่นหมายความว่าคนธรรมดาก็สามารถฝึกฝนจนสามารถล้มผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณได้ใช่หรือไม่ คำตอบคือ…ไม่
เมื่อไร้พลังวิญญาณ ร่างกายก็จะไม่สามารถซึมซับพลังวิญญาณได้เมื่อไร้พลังวิญญาณหล่อเลี้ยง กล้ามเนื้อก็ไม่มีทางพัฒนาได้ระดับนี้อย่างแน่นอน เรียกได้ว่ากำลังกายเป็นผลพวงจากการฝึกฝนพลังวิญญาณก็ว่าได้ เพียงแต่สำนักของพวกมันเน้นมาฝึกฝนของแถมเช่นนี้มากกว่า
“ต่อไป จิงหลิง”อาจารย์หู่เดินมาหน้าจิงหลิงที่ยืนถัดจากหยางเกามาพอดี ตัวเธอดูผอมบางไม่ต่างจากหญิงสาวทั่วไปเลยแม้แต่น้อย แต่เธอก็เป็นถึงบุตรสาวของอาจารย์ลี่ไม่มีทางที่เธอจะเป็นเด็กสาวธรรมดาอย่างแน่นอน
ฟุบ! หมัดของจิงหลิงกระแทกใส่อกของอาจารย์หู่ หมัดของจิงหลิงแม้ไม่รวดเร็วเท่าของเฟิงชิวและไม่รุนแรงเท่าหยางเกา แต่เสียงที่ดังออกมาก็เบากว่าทั้งสองคนอย่างมาก แถมกำลังก็ไม่เลวทีเดียว
“ระดับ 2 เจ้าทำได้ไม่เลว”อาจารย์หู่พูดพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ สำหรับสตรีแล้ว กำลังถือเป็นเรื่องลำบากหากจะฝึกฝนให้เท่าชายชาตรี แต่จิงหลิงก็ไม่ธรรมดาถึงกับเทียบเคียงเฟิงชิวที่เป็นศิษย์พี่มาได้ติดๆ แถมยังนำเหล่าศิษย์น้องหลายๆคนมาอย่างไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว
“ต่อไปก็….”อาจารย์หู่พูดพลางมองมาทางจินเหลียน เพราะสิษย์คนอื่นๆเดินทางไปท่องโลก ทำให้คิวของจินเหลียนมาถึงไวกว่าเดือนก่อนๆ ทำให้อาจารย์หู่อดชักสีหน้าระเหี่ยใจออกมาไม่ได้
“ขอรบกวนด้วยขอรับ”จินเหลียนไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อยหมัดไปที่อกของอาจารย์หู่ในทันที แต่หมัดของเขากลับเบาอย่างมาก
“ขั้น 1 กับอีกนิดหน่อย”อาจารย์หู่พูดพลางกัดฟันกรอด นั่นเพราะจินเหลียนไม่เคยต่อยเต็มแรงเลยสักครั้ง เขาเลือกที่จะต่อยให้มากกว่าคราวก่อนเพียงนิดหน่อยเท่านั้น และเพิ่มแรงอีกเล็กน้อยเมื่อถึงการทดสอบถัดไป
“ขอบคุณขอรับ”จินเหลียนก้มหัวลงพลางยิ้มกว้าง มันทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากการเอาตัวรอดหน้าด้านๆเสียเท่าไหร่ แต่เพราะมันควบคุมร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมมันจึงสามารถรีดเร่นพลังออกมาตามที่มันต้องการได้อย่างแม่นยำ อาจารย์หู่เลยไม่ว่าอะไรที่จินเหลียนจะทำ เพียงแต่มันอดไม่ได้ที่จะหมดอารมเพราะจินเหลียนไม่แสดงพัฒนาการให้มันเห็นเลยแม้แต่น้อย ทำให้มันไม่สามารถลงโทษจินเหลียนได้และไม่สามารถฝึกฝนมันได้เช่นกัน
“ต่อไป…”อาจารย์หู่ว่าพลางเริ่มทดสอบศิษย์คนต่อๆไป ไม่นานแถวศิษย์นับร้อยก็เริ่มล่อยหลอลงทุกที คนที่ผ่านก็แสดงสีหน้าโล่งใจก่อนจะเดินแยกออกไป ส่วนคนที่ไม่ผ่านก็ได้แต่หน้าซีดเดินมารวมกับศิษย์พี่ใหญ่เฟิงชิวกันตาละห้อย
“ไม่ผ่าน”อาจารย์หู่พูดด้วยน้ำเสียงดุดันพลางชี้บอกให้ศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างไป๋จูเหวินไปยืนข้างๆเฟิงชิว ก่อนจะหันมามองไป๋จูเหวิน
“ต่อไปตาเจ้า”อาจารย์หู่พูดพลางเดินมายืนหน้าไป๋จูเหวิน มันทั้ง 3 เป็นศิษย์ใหม่ของสำนัก ทำให้ไม่มีบันทึกว่าพวกมันทำได้เท่าไหร่เมื่อรอบที่แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ถูกลงโทษ หากต่อยหมัดหน่อมแน้มออกมาละก็ พ่อจะฝึกให้หนักเลยทีเดียว
“รบกวนด้วยขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลสงตั้งท่า หมัดเคลื่อนภูผา ซึ่งเป็นวิชาหมัดพื้นฐานที่มันได้มาจากหอตำรา ทำให้อาจารย์หู่ยิ้มออกมาเพราะเห็นว่าไป๋จูเหวินมีการศึกษาตำรามาแล้ว ท่วงท่าที่แสดงออกมาจึงถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย
ตุบ! หมัดของไป๋จูเหวินเข้ากระแทกหน้าอกของอาจารย์หู่ วินาทีนั้นดวงตาของอาจารย์หู่ก็ถึงกับเบิกกว้าง กำลังของไป๋จูเหวินหนักหน่วงยิ่งกว่าหยางเกาเสียอีก ทำเอามันตะลึงไปในทันที แถมพลังของไป๋จูเหวินยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเสียอีก ไม่มีท่าทีจะหยุดลงเลย
“ระดับ 1”อาจารย์หู่พูดออกมาด้วยดวงตาเบิกโพลง ศิษย์คนอื่นๆต่างเข้าใจว่าระดับ 1 หมายถึงขั้นก่อกำเนิดขั้น 1 ซึ่งไม่เลวเลยสำหรับศิษย์ใหม่ แต่อาจารย์หู่กลับไม่ทำการทดสอบต่อ เพียงยืนนิ่งมองไป๋จูเหวินด้วยแววตาประหลาดใจ นั่นเพราะระดับ 1 ที่มันประกาศออกไปหาใช่ขั้นก่อกำเนิดไม่
หมับ! อาจารย์หู่จับไปที่ไหล่ของไป๋จูเหวิน ก่อนจะส่งพลังวิญญาณเข้าไปตรวจสอบ แม้แต่ตัวมันเองหมัดเปล่าๆยังไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ นี่มันใช้เวลาฝึกเท่าไหร่เองถึงได้พละกำลังเช่นนี้มา
“……”อาจารย์หู่ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อตรวจสอบร่างกายของไป๋จูเหวิน ร่างกายที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ใช่ว่าทุกคนจะมีได้ จุดชีพจรเปิดอย่างหมดจด กล้ามเนื้อและกระดูกก็แข็งแกร่งราวกับสร้างจากโลหะ เรียกได้ว่าเป็นร่างกายในฝันเลยก็ว่าได้
“อาจารย์หู่ ทำการทดสอบต่อเถอะ”อาจารย์ลี่เห็นอาจารย์หู่ก็แสดงท่าทีไม่พอใจเล็กน้อย ไป๋จูเหวินเป็นศิษย์รักคนใหม่ของมัน แต่อาจารย์ลี่กลับมองและทดสอบความสามารถของมันราวกับติดใจ
“อะ อืม”อาจารย์หู่ดึงตัวเองออกจากร่างกายของไป๋จูเหวิน ขณะกำลังเดินมาทางต้าชิง มันก็ยังเอาแต่ครุ่นคิดว่าไป๋จูเหวินได้ร่างกายเช่นนี้มาอย่างไร ไม่ว่าจะเกิดมาก็มีร่างกายเช่นนี้เลยหรือบำรุงด้วยสมุนไพรหายากมาอย่างยาวนาน แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่มันต้องเป็นโชคของไป๋จูเหวินอย่างไม่ต้องสงสัย
ตุบ! หมัดของต้าชิงต่อยใส่อกอาจารย์หู่แล้ว แต่มันกลับไม่ได้ประกาศผลการทดสอบ มันเดินไปหาต้าเฉินโดยไม่ได้มองไปทางต้าเฉินเสียด้วยซ้ำ
ร่างกายเช่นนั้น มันสามารถต่อสู้กับผู้มีพลังเหนือกว่า 1 ระดับได้เลยเชียวนะ เรื่องเช่นนี้หาใช่เรื่องธรรมดาไม่ เพียงแค่คิดอาจารย์หู่ก็มองเห็นภาพไป๋จูเหวินลงมือเอาชนะศิษย์ที่มีพลังวิญาณสูงกว่าขึ้นมาทันที นับว่าไม่จำเป็นต้องรอถึงงานประลองแต่ละสำนัก มันแทบจะอยากเห็นไป๋จูเหวินลงมือต่อสู้มันตรงนี้เลย
ตุบ! หมัดของต้าเฉินซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ทดสอบต่อยเข้าใส่อาจารย์หู่ แต่กลับไม่สามารถทำร้ายอาจารย์หู่ได้เลยแม้แต่น้อย แถมยังขัดจังหวะความคิดของอาจารย์หู่อีกต่างหาก
“พวกเจ้าไปรับการลงโทษ”อาจารย์หู่ว่าพลางชี้ไปทางเฟิงชิวสร้างความประลหาดใจให้เหล่าศิษย์คนอื่นอีกครั้ง ต้าชิงและค้าเฉินไปทำอะไรมา อาจารย์หู่ถึงเล่นงานเช่นนี้ ทั้งๆที่พวกมันพึ่งทดสอบครั้งแรกไม่น่าโดนอะไรสิ
.
.
.
“ไป๋จูเหวิน เจ้าอย่าลืมมาหาข้าตอนบ่ายละ”หลายวันต่อมาอาจารย์ลี่ก็ยังคงมาหาศิษย์รักผู้นี้เช่นเคย แถมยังคอยสรรหาตำรามาให้เป็นประจำ จนวิชาอาวุธลับที่มันได้เรียนมีเยอะกว่าวิชามือเปล่าที่มันเลือกเสียอีก
“ไป๋จูเหวิน เจ้าว่างหรือไม่ มาฝึกซ้อมกับข้าซะ”ไม่ทราบทำไมหลังจากวันทดสอบพลักำลัง อาจารย์หู่กลับมาติดไป๋จูเหวินแจเช่นเดียวกับอาจารย์ลี่เสียอย่างนั้น ทำให้การฝึกของไป๋จูเหวินลำบากขึ้นไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นไป๋จูเหวินคงจะไม่ลำบากเท่าต้าชิงต้าเฉินนัก เพราะหลังจากโดนอาจารย์หู่ลงโทษด้วยการฝึกฝนร่างกายอย่างหนัก พวกมันก็พักผ่อนในห้องมาสักพักแล้ว
คอมเม้นต์