บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 48 เยี่ยมบ้าน

อ่านนิยายจีนเรื่อง บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 48 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 48

เยี่ยมบ้าน

 

“พี่ชิง พี่เฉิน”หลังจากรับปากกับเหม่ยหลิน ไป๋จูเหวินก็เดินกลับมาหาต้าชิงกับต้าเฉินเพราะทั้งสองยืนรอมันอยู่ที่ข้างทาง แถมพอเห็นมันเดินเข้าไปทักทายสาวงามพวกมันก็พากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางคาดเดากันไปต่างๆนาๆเสียแล้ว

“ขะ ขอรับนายน้อย”ต้าเฉินรับคำพลางเหล่มองเหม่ยหลินที่อยู่ข้างหลัง นางมองมาทางนายน้อยของมันโดยไม่ได้เดินไปไหนราวกับรอให้นายน้อยมาคุยกับพวกมันก่อน

“พวกพี่ช่วยรอข้าที่เมืองนี้สักอาทิตย์หนึ่งได้ไหม”ไป๋จูเหวินถามด้วยสีหน้าลำบากใจ

“ได้ขอรับ แต่นายน้อยจะไปไหนเหรอ”ต้าชิงถามอย่างประหลาดใจ เรื่องความปรอดภัยของไป๋จูเหวินตอนนี้เรียกได้ว่าไม่ต้องพึ่งพาต้าชิงต้าเฉินเลยแม้แต่น้อย การจะแยกทางกันสักระยะหนึ่งจึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไร

“ข้ามีธุระที่เขตอสูร…พอดีเรื่องมันค่อนข้างยาว”ไป๋จูเหวินยังคงมีสีหน้าลำบากใจ เพราะจะให้เล่าตั่งแต่วันที่มันออกไปกับเฟิงชิวก็รู้สึกแปลกๆ

“เข้าใจแล้วขอรับนายน้อย พวกเราจะอยู่ที่เมืองนี้จนกว่านายน้อยจะกลับมา”ต้าชิงเห็นนายน้อยไม่อยากเล่าก็ไม่อยากจะคาดคั้นอะไร มันเป็นบ่าวย่อมต้องทำตามหน้าที่อยู่แล้ว อย่าว่าแต่ไป๋จูเหวินไม่จำเป็นต้องขอร้องพวกมันแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน”ไป๋จูเหวินว่าพลางหันไปหาเหม่ยหลิน พอทั้งสองจากไปต้าชิงและต้าเฉินก็หันมาถกเถียงกันว่าเกิดอะไรขึ้นแทนที่จะหาที่พักเสียอย่างนั้น

การเดินทางจากเมืองกล้วยไม้หยกไปยังเขตอสูรใช้เวลาราวๆ 2 วันด้วยฝีเท้าของทั้งสอง ต้องบอกว่าสมแล้วที่เหม่ยหลินมีพลังวิญญาณเหนือกว่าอู๋หมิงหลายเท่า วิชาตัวเบาของนางจึงสามารถติดตามไป๋จูเหวินได้อย่างไม่ยากเย็น หรือให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือไป๋จูเหวินยังช้ากว่านางเสียอีก

ตลอดทางจนมาถึงผาไร้ก้นไป๋จูเหวินไม่ค่อยได้คุยกับเหม่ยหลินนักเพราะมัวแต่เร่งรีบเดินทาง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้คุยเลย มันได้ทราบว่าเหม่ยหลินเป็นบุตรีของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร นั่นคือสาเหตุที่ทุกคนในหลุ่มนักล่าอสูรเรียกนางว่าคุณหนู ส่วนหยวนหยวน อสูรแมวที่ไป๋จูเหวินเคยเจอแต่เดิมเป็นอสูรเลี้ยงของมารดา แม้ไม่ทราบอายุจริงๆแต่พี่หยวนหยวนแก่กว่ามารดาของเหม่ยหลินเสียอีก ส่วนหมิงฮุ่ยเป็นอสูรเลี้ยงของท่านตาที่ส่งทอดมาเช่นเดียวกัน ราวกับทั้งสองเป็นพี่เลี้ยงที่คอยดูแลเหม่ยหลินมาตลอดตั่งแต่จำความได้

พอพูดถึงหมิงฮุ่ยใบหน้าของเหม่ยหลินมักจะเศร้าหมองลงทันที เพราะนางพึ่งเคยแยกจากพี่ๆทั้งสองมาไกลขนาดนี้ แต่เพราะเป็นห่วงพี่หยวนหยวนมากจริงๆนางถึงยอมมากับไป๋จูเหวินที่สามารถนำทางมาได้ ไม่ทราบป่านนี้พี่หมิงฮุ่ยจะเป็นห่วงมากแค่ไหนแล้ว

“ไปกันเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางกระโดดลงไปในผาไร้ก้น ด้วยวิชาตัวเบาของไป๋จูเหวินในยามนี้มากพอจะไต่ลงผาไร้ก้นได้โดยง่าย แน่นอนว่าเหม่ยหลินเองก็สามารถขึ้นลงผาไร้ก้นได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นกัน

หมับ.. ทันทีที่ลงมาในผาไร้ก้น มือของเหม่ยหลินก็แอบมาดึงชายเสื้อของไป๋จูเหวินเอาไว้ราวกับเด็กน้อยที่กลัวว่าจะหลงทาง แต่จะว่านางก็ไม่ได้เพราะเขตอสูรสำหรับนางแล้วช่างมีแต่ความทรงจำที่โหดร้ายเหลือเกิน ข้างนอกนางเป็นถึงบุตรีของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูร แต่ที่นี่นางแทบไม่ต่างจากเด็กตัวน้อยที่ไร้การป้องกันเลย

กลับกัน ไป๋จูเหวินที่เดินอยู่ข้างหน้านางกลับเดินอย่างสบายใจราวกับเป็นบ้านของตนเอง อาจจะเพราะความมั่นใจนั้นก็ได้ นางถึงได้เกาะชายเสื้อของเขาเอาไว้เพราะนางกลัวที่นี่เหลือเกิน ในห้วงลึกของจิตใต้สำนึกนางกำลังให้ไป๋จูเหวินคอยบังความหวาดกลัวต่อเขตอสูรให้นางอยู่

“ทะ ทางนี้แน่เหรอ”เหม่ยหลินถามพลางมองไปรอบๆ วันนั้นนางเข้ามาก็เจอป่าแล้ว แต่ที่ๆไป๋จูเหวินพามากลับมีแต่พื้นที่รกร้างไม่มีแม้แต่สัตว์อสูรเลยสักตัว

“ไม่ผิดหรอก”ไป๋จูเหวินว่าพลางพาเหม่ยหลินมาที่ถ้ำแมงมุม ที่นี่แทบไม่มีอสูรตนไหนมาเลยนอกจากพวกท่านน้า แต่ในถ้ำกลับมีพลังอสูรแค่จุดเดียวเท่านั้น

“จูเอ๋อ”ไม่ต้องเดินเข้าไปข้างใน ร่างของจิ้งจอกเหมันต์ในคราบมนุษย์ก็โผเข้ามากอดร่างของไป๋จูเหวินเอาไว้แน่นด้วยความคิดถึง

“เจ้าไม่เปลี่ยนไปเลย นี่เจ้าจากไปกี่ปีแล้วนะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางจับสองแก้มของไป๋จูเหวินอย่างถนุถนอม กลับกันเหม่ยหลินที่เมื่อครู่ยังเกาะชายเสื้อไป๋จูเหวินก็ผงะออกไปเพราะเธอสัมผัสได้ถึงพลังของหญิงสาวตรงหน้า นางมีพลังพอๆกับพยัคฆ์ตนนั้นเลย

“ท่านน้า ข้าพึ่งออกไป 2 เดือนเท่านั้น ท่านกังวลเกินไปแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางจับข้อมือของน้าจิ้งจอกเอาไว้ก่อนที่แก้มของมันจะถูกหยิกจนแดง

“อะ อ่อ 2 เดือนเองงั้นเหรอ แล้ว…..”น้าจิ้งจอกเหลือบมองที่ด้านหลังของไป๋จูเหวิน ทันทีที่เห็นหญิงสาวเผ่ามนุษย์ดวงตาของนางก็เบิกกว้าง แถมตัวที่ขาวอยู่แล้วก็แทบจะซีดจางเป็นกระดาษ แต่พอสัมผัสพลังอสูรจากตัวเหม่ยหลินได้ ก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่านางคงเป็นอสูรตนหนึ่งที่จำแลงมาเป็นมนุษย์กระมัง

“นางชื่อเหม่ยหลิน”ไป๋จูเหวินแนะนำตัวพลางผายมือไปทางเหม่ยหลิน

“โอ้ นางเป็นอสูรอะไรล่ะ”น้าจิ้งจอกถามพลางเพ่งมองเหม่ยหลินพลางพยายามแยกแยะว่านางเป็นอสูรชนิดใดกันแน่

“นางเป็นมนุษย์ท่านน้า”ไป๋จูเหวินตอบทำเอาดวงตาของน้าจิ้งจอกกระพริบถี่ๆ

“มนุษย์ แต่…นางมีพลังอสูรนี่”น้าจิ้งจอกยังคงพยายามจะเปลี่ยนเหม่ยหลินเป็นอสูรให้ได้

“นางเป็นเหมือนข้า เป็นมนุษย์ที่กลืนแก่นอสูรลงไป”ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของน้าจิ้งจอกก็มองไปทางเหม่ยหลินตั้งแต่หัวจรดเท้า นางไม่ทราบว่ามนุษย์นั้นมองความสวยงามที่ใด แต่นางสามารถติดตามไป๋จูเหวินมาที่แดนอสูรได้ย่อมได้รับความไว้วางใจจากไป๋จูเหวินแน่ เพียงแต่…

“ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะหาสะใภ้ให้น้าได้รวดเร็วเช่นนี้ เจ้าโตแล้วจริงๆ”น้าจิ้งจอกว่าพลางเอาผ้าเช็กหน้าจากไหนไม่ทราบออกมาเช็ดน้ำตาที่ซึมออกมา ความจริงนางก็ทำใจเอาไว้ตั้งแต่ให้ไป๋จูเหวินออกไปข้างนอกแล้ว ถึงจะเร็วไปหน่อยแต่ในฐานะน้าของจูเอ๋อแล้วนางควรจะจัดพิธีฉลองให้เป็นเรื่องเป็นราวสิ

“ขะ ข้าไม่ใช่….”เหม่ยหลินพยายามจะปฏิเสธ แต่เพราะพลังของอีกฝ่ายมากมายเหลือเกินนางเลยไม่กล้าเถียงออกไปรตรงๆ

“ท่านน้าเข้าใจผิดแล้ว”ไป๋จูเหวินว่าพลางถอนหายใจออกมา พอเป็นเรื่องของตนเองทีไรพวกท่านน้ามักจะคิดมากกันเสมอ

“มะ ไม่ใช่เหรอ”น้าจิ้งจอกได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมา

“แล้ว…เจ้าพานางมาที่นี่ทำไมล่ะ”พอโล่งใจแล้วน้าจิ้งจอกก็กลับมาเป็นหญิงงามผู้มีท่าทีสง่างามอีกครั้ง ไม่เหลือท่าทีราวกับแม่ที่ลูกชายกำลังจะออกเรือนไปแบบเมื่อครู่เลย

“เมื่อหลายวันก่อนนางเกินทางมาที่เขตอสูรแล้วโดนพวกพี่หมาป่าขนเงินล้อมเอาไว้”ไป๋จูเหวินเริ่มเล่าเรื่องจากที่เหม่ยหลินเล่าให้ตนฟังระหว่างทาง

“หลายวันก่อน จะว่าไปก็มีผู้บุกรุกเข้ามานี่นา”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางนึกถึงวันที่พยัคฆ์อัสนีรีบร้อนออกไปป้องกันเขตแดน นานๆจะมีผู้บุกรุกสักทีนางเลยจำได้ดีเชียวล่ะ

“นั่นคือพวกของเหม่ยหลินเองขอรับ แต่วันนั้นท่านน้าพยัคฆ์จับตัวอสูรเลี้ยงของนางไป ข้าเลยพานางมารับคืน”ได้ยินไป๋จูเหวินพูดเช่นนั้น จิ้งจอกเหมันต์ก็นึกถึงเจ้าลูกบอลที่พยัคฆ์อัสนีถือกลับมา ท่าทางเรื่องที่ไป๋จูเหวินเล่ามาคงเป็นความจริงแน่ๆ

“ตอนนี้แมวตัวนั้นไม่อยู่ที่นี่น่ะสิ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางส่ายหัวเบาๆ

“ไม่อยู่?”เหม่ยหลินขมวดคิ้วอย่างสงสัย ไม่อยู่ที่นี่นั่นหมายความว่าพี่หยวนหยวนยังไม่ตายใช่หรือไม่

“อืม นางออกไปกับพยัคฆ์อัสนี แต่ถ้าสัมผัสพลังของจูเอ๋อได้ก็คงกลับกันมาเองนั่นล่ะ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางเดินพาไป๋จูเหวินเดินเข้าไปในถ้ำ

“เจ้าเองก้เข้ามาสิ”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางมองมาทางเหม่ยหลินที่ยืนกล้าๆกลัวๆอยู่หน้าถ้ำแมงมุม เพื่อนของจูเอ๋อย่อมเป็นแขกของพวกมัน พวกมันก็ต้องต้อนรับอยู่แล้ว

“เอ๊ะ….ค่ะ”เหม่ยหลินเหมือนจะยังไม่หายงงกับสถาณการณ์ตรงหน้า นางนึกว่าไป๋จูเหวินจะพานางแอบลักลอบเข้าปาพาตัวพี่หยวนหยวนกลับออกมาเสียอีก ใครจะไปคิดล่ะว่าจะเหมือนมันพานางมาเที่ยวบ้านของตนอย่างนี้ แต่อย่างน้อยพี่หยวนหยวนก็ยังมีชีวิตอยู่ เรื่องนั้นทำให้นางผ่อนคลายลงมาก

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด