บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 158 รับศึก

อ่านนิยายจีนเรื่อง บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 158 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 158 

 

รับศึก

 

ตูม! ประตูที่กั้นระหว่างเขตที่ 4 กับ เขตกลางซึ่งเป็นที่ตั้งของวังมังกรถูกต่อยจนพังลงมาราวกับโดนเครื่องทําลายประตูกระทุ่งเสียจนหลุด เบื้องหลังของประตูที่ถูกทําลายปรากฏร่างลูกน้องคนหนึ่งของกลุ่มผานสิงซึ่งน่าจะเป็นคนทําลายประตู

 

“โอ้ ต้อนรับอบอุ่นจริงๆ”ผานสิงว่าพลางเดินเข้ามาในเขตประตูด้วยท่าที่สบายๆ รอบๆตัวมันไม่มีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่ระดับสูงกว่ามันเลย เรียกได้ว่าแม้แต่ระดับเทียนเซียนก็ยังไม่มีเสียด้วยซ้ํา เพียงแต่ยามนี้คนของกลุ่มนักล่าอสูรนับพันชีวิตกลับมายืนรอพวกมันอยู่ที่หน้าวังมังกรหมดแล้ว

 

“นี่ละนะจุดอ่อนของกลุ่มนักล่าอสูร”ผานสิงว่าพลางมองเหล่าผู้มาขัดขวางตนเอง

 

“อะไรเหรอหัวหน้า”ชายร่างผอมที่ยืนอยู่ข้างๆถามด้วยสีหน้างงงวย

 

“พวกมันรับงานที่ต้องเดินทางไกล สุดท้ายเลยเหลือคนเฝ้าเมืองอยู่แค่นี้ไงล่ะ” ผานสิงว่าพลางหัวเราะออกมาด้วย สีหน้าดูถูกความจริงกําลังรบของกลุ่มนักล่าอสูรมีมากกว่านี้นับสิบเท่า แต่เพราะงานที่ไป๋จูเหวินพึ่งเดินเมื่อเดือนก่อน ทําให้กลุ่มนักล่าอสูรส่วนใหญ่ลงพื้นที่ล่าและตามหาวัตถุดิบกันจนหมด ตอนนี้เลยเหลือแค่กลุ่มที่กลับมาจากงานพอดีเท่านั้น

“พวกเจ้า จัดการให้หมด” ผานสิงว่าพลางผายมือออกไปทั้งสองข้าง กําลังรบ 30 คนของมันยามนี้เหนือกว่ากําลังรบนับพันของกลุ่มนักล่าอสูรอย่างเทียบไม่ติดเลยก็ว่าได้เพราะระดับพลังฝีมือของพวกมันห่างกันเกินไปนั่นเอง

 

“กรรรร” ร่างของอสูรจํานวนหนึ่งพุ่งทะยานเข้ามาในสนามรบก่อนที่กลุ่มของผานสิงจะเข้าไปโจมตีคนของกลุ่มนักล่าอสูรเสียอีก โชคดีที่อสูรภายในเมืองร้อยแปดอสูรยังเหลืออยู่เป็นจํานวนมาก ด้วยการเรียกของไป๋จูเหวินนั้นไม่ใช่แค่อสูรแมงมุมเท่านั้นที่ตอบรับ

 

“สมกับเป็นนักล่าอสูร” ผานสิงยิ้มพลางปลดปล่อยไอเซียนออกมา แม้จะถูกเหล่าอสูรจํานวนมากล้อมเข้าโจมตี แต่ระดับพลังก็ยังห่างกันเกินไปอยู่ดี ลูกน้องของมันเพียงพริบตาเดียวก็จัดการอสูรไปได้คนละ 5 – 6 ตัวแล้ว

 

ตูม! ผานสิงกระทืบเท้าที่หนึ่ง แผ่นดินเบื้องหน้ามันก็ปรากฏเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่จะมีหนามหินงอกออกมาจากพื้นแทงใส่ร่างของอสูรและคนของกลุ่มนักล่าอสูรที่ขวางทางมันจนหมด

 

“หึหึ” ผานสิงหัวเราะในลําคอพลางมองศพของอสูรและคนของกลุ่มนักล่าอสูรที่โดนมันฆ่า ต้องบอกว่าพวกมันก็มีน้ําอดน้ําทนไม่เลวเพราะคนที่จายด้วยท่าเมี่อครูมีไม่กี่คนเท่านั้น

 

ตูม! อยู่ๆเบื้องหน้าของผานสิงก็ปรากฏเงาสีขาวเงาหนี้ งทะยานเข้ามาเบื้องหน้าของผานสิง พริบตาเดียวขาสีขา วราวหิมะของมันก็เตะใส่ผานสิ่งอย่างรุนแรงเพียงแต่ผานสิ่ง กลับยืนนิ่งไม่ขยับเลยแม่แต่ก้าวเดียว

 

ตูม!! หางของมังกรสีฟ้าสะบัดเข้าใส่ร่างของผานสิง จนมันต้องถอยไป 2 ก้าว เพียงแต่ร่างของผานสิงกลับไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากมายเลย

 

“ข้ารับมืออีกเจ้าผอมนั่นเอง”เสวียนอู่ว่าพลางกลายร่างเป็นเต่าดําพุ่งเข้าใส่ร่างของชายที่อยู่ข้างๆผานสิง

 

“งั้นข้าจัดการคนทําลายประตู” จูเซวี่ยตอบพลางพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของชายที่เป็นคนต่อยประตูจนพัง ร่างวิหคเพลิงของนางราวกับพุ่งเข้าไปเกาะร่างของชายคนนั้นเอาไว้พร้อมส่งแรงไฟเผาร่างของมันอย่างหนัก

 

“จัดการพวกลูกน้องก่อน”ไป๋จูเหวินสั่งพลางมองภาพตรงหน้าจากที่สูง พริบตาเดียวคนของมันก็ตายไปแล้วนับสิบ หากนับเหล่าอสูรที่เข้าไปสู้ก่อนด้วยพวกมันคงโดนจัดการไปแล้วกว่า 100 ตน นี่ล่ะคือสภาพสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างผู้มีระดับฝีมือต่างกัน มิน่า เล่าพวกสัตรูอาณาจักรอื่นถึงให้ความสนใจคนระดับเทียนเซียนมากกว่าจํานวนผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณทั้งหมด นั้นเพราะจํานวนไม่ใช่สิ่งที่ทําให้สงครามของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณจบลงได้เสียทีเดียว

 

ฟุบ! ใยแมงมุมสีขาวพุ่งเข้าไปพันร่างของชายคนหนึ่งเอาไว้ เพียงแต่ทันทีที่ใยแมงมุมเข้าไปเกาะร่างของมันก็ปรากฏ ไอเย็นเกาะกุมขาของมันเอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

“อะไร”ชายคนนั้นชะงักไปเล็กน้อยพลางมองใยแมงมุมที่ขาของตนเอง เพราะพลังของมันเหนือกว่าพลังของปีงบึง ทําให้ไอเย็นยังไม่สามารถทําอันตรายอะไรตัวมันได้

 

ฟุบ! ใยแมงมุมอีกสายพุ่งเข้ามาพันตัวของมันเอาไว้จากร่างของหลินหลินที่อยู่ข้างๆปิงปิง

 

ฉับโชายที่โดนยัยแมงมุมจับเอาไว้ใช้อาวุธวิเศษของมันตัด ใยแมงมุมของหลินหลินในทันที ก่อนจะก้มลงตัดใยแมงมุมของปิงปิงออกเช่นกัน เพียงแต่จังหวะที่กําลังลุกขึ้นมา มันก็สัมผัสได้ถึงเงาร่างที่อยู่ด้านหลังมันเสียก่อน

 

กึก…เขี้ยวของหงเยว่ปักลงไปในร่างของชายคนนั้นทันที ทําให้ชายคนนั้นตาลอยหมดสภาพต่อสู้ในพริบตา แม้พลังอสุรระดับหยกขาวจะอยู่ห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อยแต่หากโจมตีได้ก่อนก็ไม่ใช่ว่าจะชนะไม่ได้

 

“จับตัวมันเอาไว้”หงเยว่ว่าพลางสั่งให้เหล่าแมงมุมอสูรที่นางเก็บไว้เป็นลูกน้องห่อร่างของชายคนนั้นด้วยใยแมงมุมเอาไว้ ก่อนจะตรงไปต่อสู้กับลูกน้องคนอื่นๆของผานสิงต่อ

 

เคร๊ง! ดาบเล่มหนึ่งตรงเข้ามาหมายจะฟาดใส่ร่างของปิงปิงที่ตัวเล็กที่สุดในเหล่าแมงมุมของไป๋จูเหวิน แต่ขาของหลินหลินกลับตรงมาปกป้องน้องเล็กของนางเอาไว้ก่อน

 

“อะไร” ชายคนนั้นตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เพราะดาบในมือของมันก็เป็นดาบวิเศษเช่นกัน แต่มันกลับไม่ส มารถทําร้ายร่างกายของหลินหลินได้เลย

 

“อย่ารังแกปิงปิงนะ” หลินหลินว่าพลางหันไปโถมตัวใส่ร่างของชายคนนั้นในทันที

 

เครั้งๆๆๆ เมื่อเห็นเพื่อนของตนโดนทําร้าย เหล่าลูกน้องของผานสิงก็หันมาเล่นงานหลินหลินกันหลายคน แต่อาวุธของพวกมันกลับทําร้ายหลินหลินไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

 

“บ้าอะไรวะ” ชายที่โดนหลินหลินทับอยู่เบิกตากว้าง แม้หลินหลินจะมีพลังด้อยกว่าเหล่าลูกน้องของผานสิง แต่ด้วยแร่ที่น้าไก่ฟ้าหามาให้ทําให้เกราะของหลินหลินยามนี้ แข็งแกร่งที่สุดในเหล่าอสูรในที่นี่แล้วก็ว่าได้

 

ศึกหงเยว่กัดแขนของชายที่หลินหลินทับเอาไว้เพื่อปล่อยพิษเข้าเล่นงาน ทันทีที่มันตายเหล่าแมงมุมอสูรตัวน้อยก็เข้ามามัดร่างของมันในทันที

 

ตูม! “กรีดดด” เห็นสหายตนเองโดนฆ่าไป 2 คน เหล่าลุกน้องของผานสิงก็ไม่อยู่นิ่งอีกต่อไป คนที่มีพลังเกร่งกล้าหน่อยรีบเข้ามาโจมตีหงเยวในทันทีเพราะเห็นได้ชัดว่าคนลงมือสังหารคือหงเยว่นั่นเอง

 

“ไอ้พวกอสูร” ชายคนที่ซัดฝ่ามือใส่หงเยว่คํารามพลางง้างมือเตรียมจะโจมตีหงเยว่อีกครั้ง แต่ก่อนที่มันจะได้ใจมตีร่างของปิงปิงก็กระโดดขึ้นมาบนหลังก่อนที่นางจะหลับตาปีจนมองไม่เห็นอะไรเลย ท่าทางนางเองก็คงกลัวอยู่ไม่น้อย

 

“อากกกกก” ชายคนนั้นโดนไอเย็นจากร่างของปิงปิงจนร่างแข็งไปกว่าครึ่ง แม้จะยังพลังน้อยอยู่แต่นางก็เป็นบุตรของอสูรระดับมายา หากใช้พลังออกมาเต็มที่ต้องทําอะไรได้บ้างอยู่แล้ว

 

“เก่งมากปิงปิง” หงเยว่ชมพลางยิ้มให้ปิงปิงอย่างเอ็นดู

 

“อ๊ากกก” นอกจากทางฝั่งของเหล่าแมงมุมแล้ว อีกฝั่งหนึ่งก็เริ่มจะคุมสถานการณ์ได้เหมือนกัน โดยทางนี้คนลงมือคือเหม่ยหลินที่ถือกระบี่สีดําเอาไว้ในมือ แม้จะพึ่งฝึกได้ไม่นาน แต่กระบี่ดาวตกก็เป็นยอดวิชาของกลุ่มนักล่าอสูร แถมแต่เดิมเหม่ยหลินก็เป็นอัจฉริยะของกลุ่มนักล่าอสูรอยู่แล้ว เพียงแต่นางไม่ค่อยได้แสดงฝีมีอหรือไม่ก็เจอคู่ต่อสู้เก่งไปเท่านั้น

 

ฟุบๆๆ กระบี่ของเหม่ยหลินแทงใส่ร่างของชายคนหนึ่งจนล้มลงนอนกับพื้น แม้ไม่ตายแต่ก็เจ็บหนักเอาการ

 

ฉึก!! หมิงฮุ้ยเห็นเหม่ยหลินไม่ได้ลงมือสังหารมันเลยลงมีดซ้ําที่ไปที่คอของชายคนนั้นอย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ระดับทองเท่านั้นแม่หมิงฮุ้ยก็รู้ว่าตัวเองควรทําอะไรในการต่อสู้ที่วุ่นวายแบบนี้

 

“อย่าใจอ่อนคุณหนู พวกมันมาเพื่อสังหารก็ต้องเตรียมใจโดนสังหารเอาไว้ด้วย” หมิงฮุ้ยว่าพลางสะบัดเลือดออกจากมีดของมัน

 

“ขะ เข้าใจแล้ว”เหม่ยหลินว่าพลางกระชับกระบี่ในมือตนเองแน่น แม้จะฆ่าอสูรมาเยอะแต่เหม่ยหลินก็แทบจะไม่เคยสังหารคนมาก่อนเลย แต่โดนหมิงฮฺยตักเตือนไปนางก็คงต้องทําใจให้แข็งกว่านี้

 

กลุ่มของผานสิงที่มากัน 30 คนโดนจัดการไปทีละคนสองคนอย่างยากลําบาก แต่ยามนี้คนของผานสิงก็เหลือเพียง 10 คนเท่านั้นแล้ว แต่หากเทียบความเสียหายละก็ทางฝั่งกลุ่มนักล่าอสูรเสียหายเยอะกว่ามาก นอกจากคนของกลุ่มนักล่าอสูรที่ตายกันไปนับร้อยชีวิตแล้ว ยังมีชีวิตของเหล่าอสูรที่ทําตามคําสั่งของไป๋จูเหวินที่เข้าไปแลกชีวิตอีกนับพันตัว ความเสียหายเช่นนี้ช่างต่างกันเหลือเกิน

 

“ไอ้เจ้าศิษย์เอกนั้นอยู่ไหนกันนะ”ผานสิงว่าพลางใช้มือขวาบีบคอของไปหูเอาไว้ ส่วนเท้าซ้ายเหยียบหัวของชิงหลงเอาไว้ แม้จะยังไม่ตายเพราะทั้งสองเป็นอสูรระดับสูงแต่ก็ท่าทางจะเหลือพลังชีวิตอีกไม่มาก

 

“นั่นไงหัวหน้า มันยืนอยู่บนนั้น”ลูกน้องผู้มีรูปร่างผอมว่าพลางชี้ไปที่ทางเข้าวังมังกรที่ไป๋จูเหวินยืนอยู่ ไม่ใช่ว่ามันไม่อยากลงมาสู้ แต่เพราะพวกสื่อสูรบอกให้มันเก็บแรงเอาไว้สู้กับผ่านสิ่งต่างหาก

 

“ระดับแค่ชําระกระดูกจริงๆด้วย”ชายที่ต่อยประตู เมืองจนฟังว่าพลางโยนร่างของจูเชวี่ยลงพื้น ระดับของสื่ออสูรแห่งกลุ่มนักล่าอสูรต่างใกล้เคียงกับระดับเทียนเซียนกันทั้งนั้น การที่ผานสิงที่อยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 2 สามารถจัดการทั้งไปหูและชิงหลงได้ถือว่าเป็นเรื่องไม่แปลกนัก แต่ลูกน้องอีกสองคนที่จัดการจูเซวี่ยและเสวียนอู่ ได้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว บางทีพวกมันเองก็ใกล้จะขึ้นมาเป็นระดับเทียนเซียนเช่นกัน

 

“งั้นขอข้าไปแหยมันหน่อยแล้วกัน” ชายร่างผอมว่าพลางกระโดดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วิชาท่าเท้าของมันรวดเร็วมาก เพียงไม่กี่อึดใจก็ทะยานข้ามเหล่าคนของกลุ่มนักล่าอสูรทะลุไปยังที่ๆไป๋จูเหวินยืนอยู่ได้

 

“เจ้าสินะศิษย์เอก” ชายร่างผอมยิ้มพลางนํามีดออกมาจากมิติ พริบตานั้นมันก็ฟันมีดใส่คอของไป๋จูเหวินอย่างไม่พูดพร่ําทําเพลง แม้จะโดนบอกมาว่าห้ามฆ่าแต่หัวหน้าก็ไม่ได้บอกว่าไม่ฆ่าของมันนับรวมสภาพเกือบตายด้วยหรือไม่

 

เคร๊ง! มีดวิเศษในมือของชายร่างผอมโดนแขนของไป๋จูเหวินหยุดเอาไว้ ทําให้ชายร่างผอมยิ้มออกมา มันไม่ใช่คนระดับชําระกระดูกธรรมดาจริงๆด้วยเพราะไม่มีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณระดับชําระกระดูกคนไหนมองตามมีดมันทัน แถมยังรับได้อีกต่างหาก

 

ตู้ม! ฝ่ามือของไป๋จูเหวินเล็งเข้าที่หน้าของชายร่างผอมในทันที แต่อีกฝ่ายก็เหมือนจะอ่านทางเอาไว้อยู่แล้ว มันหลบไปด้านข้างของไป๋จูเหวินก่อนจะใช้มีดโจมตีใส่ไป๋จูเหวินอีกรอบ

 

เครั้ง! มีดของชายร่างผอมโจมตีใส่ร่างของไป๋จูเหวินอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็ยังติดการป้องกันของไป๋จูเหวินอยู่ดี

 

“หึหึ ศิษย์เอกของกลุ่มนักล่าอสูร…” ชายร่างผอมยิ้มก่อนจะปลดปล่อยไอเซียนออกมา

 

“ไม่เลวเลย….”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด