บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 174 พลาดโอกาส
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 174 พลาดโอกาส
หลังจากจบงานหมั้น อู่หมิงก็กลับมาที่วังหลวงตามที่มันสัญญาเอาไว้กับบิดาว่ามันจะรับตําแหน่งรัชทายาทอันดับ 1 เอาไว้เอง และเมื่อมันลั่นวาจาไปแล้วมันก็ต้องทําอย่างเต็มที่ ทําให้ทันทีที่กลับมามันก็ไปอยู่ที่วังส่วนขององค์ชาย 3 เพื่อเรียนรู้ตําราอย่างเคร่งเครียด โชคดีที่องค์ชาย 3 เป็นครูที่ไม่เลวเลย
“พี่ไป๋ ท่านจะกลับแล้วงั้นเหรอ” เทียนเหวินถามพลางเดินมาส่งไป๋จูเหวินที่หน้าประตูวัง เนื่องเพราะอาการขององค์จักรพรรดิเป็นปกติแล้ว ไป๋จูเหวินเลยฝากงานดูแลให้หัวหน้าแพทย์หลวงต่อและพายู่หยวนและเหล่าแมงมุมของตนกลับไปยังสมาคมแพทย์
“ครั้งนี้มีเรื่องเยอะทีเดียว ความจริงข้าควรจะแค่มารักษาอาการขององค์จักรพรรดิด้วยซ้ำไป๋จูเหวินว่าพลางถอนหายใจออกมา ไม่นึกเลยว่าตนที่เข้ามารักษากลับต้องเข้าไปเป็นผู้ชมในเรื่องการขึ้นครองราชย์เสียอย่างนั้น
“อ่านั่นสินะ” อู๋เทียนเหวินหัวเราะจางๆพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าที่สํานึกผิด จะว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะมันเองก็คงไม่ผิด
“เอาเถอะ ข้าได้เห็นเจ้าเป็นฝั่งเป็นฝาก็ดีแล้ว”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางนึกถึงครั้งแรกที่ไป๋จูเหวินได้เจอกับเทียนเหวิน ตอนนั้นมันยังเป็นแค่ศิษย์ใหม่ของกลุ่มนักล่าอสูรกับองค์ชายที่มาเยี่ยมชมเมืองเท่านั้นเอง
“นั่นสิ ข้าไม่นึกเลยว่าจะสมหวังเร็วแบบนี้ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพวกท่านเลยนะ”เทียนเหวินยิ้มร่าด้วยท่าทีเขินอาย พอหมั้นกันแล้วเหม่ยฮวาก็อ้อนมันเยอะขึ้น แม้จะยังไม่มีอะไรเกินเลยแต่มันก็แอบวาดหวังถึงคืนเข้าหออยู่เช่นกัน
“ที่เหลือก็เรื่องของท่านแล้วสิพี่ไป๋ เมื่อไหร่ท่านจะหมั้นบ้างล่ะ” เทียนเหวินถามพลางยิ้มอย่างทะเล้น จริงๆควรบอกว่าไป๋จูเหวินหมั้นหมายกับเหม่ยหลินไปแล้วเสียด้วยซ้ำเพราะเรื่องที่เทียนเหวินก่อขึ้นแท้ๆ แต่ก็ยังไม่มีอะไรเป็นทางการเสียทีเดียว
“เจ้าพูดเป็นเล่นไป ข้าจะไปหมั้นหมายกับใครได้กัน”ไป๋จูเหวินหัวเราะพลางเดินออกจากประตูวังไปอย่างช้าๆ
“ไม่ต้องทําเป็นไขสือหรอกน่า พี่ไป๋กับพี่เหม่ยหลินไปถึงไหนกันแล้วล่ะ” เทียนเหวินแหยพลางหยุดเดินตรงประตูเพราะมันแค่มาส่งไป๋จูเหวินเท่านั้น
“ข้ากับเหม่ยหลิน? เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน”ไป๋จูเหวินถามพลางหันกลับไปมอง แต่ประตูของวังหลวงกลับปิดลงเสียก่อน ทําให้คําตอบของมันไม่ทราบไปถึงเทียนเหวินหรือไม่
“หัวหน้า เหม่ยหลินนี่คือคุณหนูของกลุ่มนักล่าอสูรหรือเจ้าคะ”ยู่หยวนถามหลังจากเดินพ้นเทียนเหวินมาแล้ว อยู่ๆ หัวหน้าของนางก็สนิทสนมกับเชื้อพระวงก์เสียอย่างนั้น ทําเอายู่หยวนทําตัวไม่ถูกเลย
“ใช่ นางเป็นบุตรสาวของท่านหัวหน้าหวงหลงน่ะ”ไป๋จูเหวินตอบออกไปทั้งๆที่ในใจยังสงสัยกับคําถามของเทียนเหวินอยู่
“แล้ว ท่านกับนางเป็นอะไรกันหรือเจ้าคะ”ยู่หยวนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น หรือจริงๆแล้วหัวหน้าของมันจะเป็นลูกเขยของหัวหน้ากลุ่มนักล่าอสูรกันแน่
“ข้ากับนาง…ก็คงเป็นสหายกันธรรมดา ไม่คิดว่ามีอะไรอื่นหรอก”ไป๋จูเหวินตอบ แม้เหม่ยหลินจะเป็นสาวงามชนิดที่แม้แต่ไป๋จูเหวินยังทราบว่านางงดงามโดดเด่นจากหญิงอื่นมากจนทําให้ชายหนุ่มหลายคนต่างจ้องจะจีบนางให้ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องรวมไป๋จูเหวินเข้าไปในนั้นเสียหน่อย
“ได้ข่าวว่านางงดงามราวกับนางฟ้า ข้าเองก็อยากเห็นกับตาสักครั้ง”ยู่หยวนพูดด้วยน้ำเสียงเคลิ้มฝัน ตอนเข้าไปในวังนางก็เห็นคนสวยๆเต็มไปหมด แต่ก็ไม่มีใครที่สวยราวกับนางฟ้าอย่างที่มีคนลือถึงเหม่ยหลินเลย
“เท่าที่ข้ารู้ นางก็สวยที่สุดจริงๆ “ไป๋จูเหวินตอบพลางบอกให้หลินหลินกลายร่างเป็นแมงมุมเพื่อออกเดินทาง ทําเอายู่หยวนที่อยู่ด้านหลังตกใจจนตัวสั่น ทําเอาไป๋จูเหวินต้องอุ้มนางแกมบังคับขึ้นไปนั่งบนหลังหลินหลินอีกที่กว่าจะออกเดินทางได้
“หลินหลินเป็นอสูร..”ยู่หยวนพูดพลางมองร่างของหลินหลินด้วยร่างกายที่สั่นเทา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังคนนั้นจะเป็นอสูรแมงมุมตัวใหญ่ขนาดนี้ได้
“คนในกลุ่มนักล่าอสูรถือว่าการเลี้ยงอสูรเป็นเรื่องปกตินะ ถ้าเจ้าไปยังเมืองร้อยแปดอสูรจะได้เห็นอสูรเดินไปเดินมาราวกับสัตว์เลี้ยงธรรมดาเลย” หงเยว่ว่าพลางหัวเราะออกมากับท่าที่หวาดกลัวของยู่หยวน
“อย่างนายท่านเองก็มีพวกเราทั้ง 3 ตนเป็นอสูรเลี้ยงเช่นกัน” หงเยวว่าพลางหัวเราะเสียงใส เพราะยู่หยวนทําท่าช็อกเสียยิ่งกว่าเดิมอีก
“ท่านหัวหน้า” ทันทีที่ไป๋จูเหวินเดิน ทางมาถึงสมาคมแพทย์อยู่ๆรองหัวหน้าสมาคมก็กระโดดพรวดขึ้นมาบนหลังของหลินหลินในทันที
“ท่านทําไมไปนานนักเล่า การรักษามันเสร็จไปหลายวันแล้วไม่ใช่หรือ”รองหัวหน้าสมาคมแพทย์พูดด้วยท่าที่ร้อนรน
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางขมวดคิ้วสงสัย งานในสมาคมแพทย์ส่วนใหญ่ไป๋จูเหวินจัดการจนเข้าที่เข้าทางแล้ว ไม่น่ามีเรื่องด่วนอะไรนี่นา
“คุณหนูเหม่ยหลินมาหาท่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วขอรับ นางบอกว่ามีธุระกับท่าน”ได้ยินดังนั้นยู่หยวนที่อยู่ด้านหลังก็หูผึ่งทันที คุณหนูแห่งกลุ่มนักล่าอสูรเดินทางมาด้วยตัวเองเลยงั้นเหรอ
“เข้าใจแล้ว ข้าจะรีบไป”ไป๋จูเหวินว่าพลางกระโดดหลงจากหลังของหลินหลินอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตรงไปที่ห้องของหัวหน้าสมาคมแพทย์ในทันที
“พี่ไป๋ ท่านมาแล้ว” เหม่ยหลินที่นั่งอยู่ในห้องของหัวหน้าสมาคมเห็นไป๋จูเหวินเดินเข้ามาก็พลันลุกขึ้นยืนทันที นอกจากเหม่ยหลินแล้วในห้องยังมีจูเชวียอีกคน ท่าทางนางจะเป็นคนมาส่งเหม่ยหลินเป็นแน่
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสงสัย หรือจะมีเรื่องกับกลุ่มนักล่าอสูรกัน
“ปะ เปล่าข้ามาพาท่านกลับไปกลุ่มนักล่าอสูรเท่านั้นเอง” เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มบางๆ
“กลับไปที่กลุ่มนักล่าอสูร?”ไป๋จูเหวินขมวดคิ้วอย่างสงสัยหรือว่าจะมีเรื่องจริงๆ
“ค่ะ พอดีว่าหัวหน้าถังแห่งกลุ่มผู้ฝึกอสูรมาเที่ยวชมเมืองของพวกเรา ท่านอยากเจอพี่ไป๋ท่านพ่อเลยส่งข้ามาตามท่าน” เหม่ยหลินตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่นึกเลยว่าหัวหน้าถังจะมาเยี่ยมมันเช่นนี้ มิน่าเหม่ยหลินถึงอยู่รอบอกข่าวมันไม่รีบกลับเมืองไป
“เข้าใจแล้ว ข้าขอตรวจงานให้เสร็จก่อนแล้วจะออกเดินทางทันที”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มรับ จะว่าไปมันก็ไม่ได้เจอหัวหน้าถังมาสักพักแล้ว ออกจะรู้สึกคิดถึงสักหน่อย
“หัวหน้า ทําไมท่านรีบมาแบบนี้ละเจ้าคะ”ยู่หยวนที่วิ่งตามมาส่งเสียงหอบเบาๆพลางมองเข้ามาในห้องด้วยท่าที่อยากรู้ พอได้ข่าวว่าเหม่ยหลินมานางก็รีบตามไป๋จูเหวินมาเช่นกัน
“…”เป็นไปตามข่าวลือที่นางได้ยินมาทุกประการ หญิงสาวตรงหน้านางนั้นช่างเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ไม่มีผิด นางสวยชนิดที่ว่าตัวนางเองเป็นหญิงยังอดใจเต้นไม่ได้
“ยู่หยวน เจ้าตามข้ามา”ไป๋จูเหวินว่าพลางพายู่หยวนออกจากห้องไปในทันที แต่เหมือนเหม่ยหลินจะไม่อยากรอเสียเท่าไหร่เลยตามไป๋จูเหวินมาด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วไป๋จูเหวินจะไปตรวจสอบการผลิตยาและดูมาตรฐานของยาที่ส่งขาย และการรับสมุนไพรจากกลุ่มนักล่าอสูรเป็นหลัก นอกนั้นก็เรื่องภายในเล็กน้อยอย่างสภาพอาคาร ความเป็นอยู่ของเหล่าแพทย์เป็นต้น
“พี่ไป๋ รองหัวหน้าบอกว่าท่านควรจะกลับมาถึงก่อนหน้านี้นานแล้ว ทําไมท่านถึงกลับมาช้างั้นเหรอ” ขณะเดินทางดูรอบๆสมาคมอยู่นั้น เหม่ยหลินก็เป็นฝ่ายถามออกมาด้วยความสงสัย นางเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า
“ข้าเข้าไปพัวพันกับเรื่องของราชวงศ์นิดหน่อย ดูเหมือนตอนนี้อู่หมิงจะต้องขึ้นเป็นจักรพรรดิเสียแล้ว”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมา เพราะมันยังเสียดายกับเรื่องนี้ไม่หาย
“หมิง ไม่ใช่ว่ามันต้องออกเดินทางฝึกฝนวิชาแล้วปล่อยตําแหน่งให้รัชทายาทคนอื่นหรอกหรือ”เหม่ยหลินถามอย่างประหลาดใจ เพราะรเององค์ชายอันดับ 1 ไม่ได้สืบทอดบัลลังก์เป็นเรื่องที่คนทั่วไปทราบดีอยู่แล้ว
“เพราะมันอยากให้เทียนเหวินได้แต่งงานกับน้องของเจ้านะสิ”ไป๋จูเหวินตอบพลางถอนหายใจออกมา
“กับเหม่ยฮวาจริงสิ นางเป็นสามัญชนนี่นา” เหม่ยหลินว่าพลางมีท่าที่หดหูลงเช่นกัน ตอนแรกนางก็สนับสนุนความรักของทั้งสอง แต่นางก็กลัวเรื่องของเชื้อชาติเช่นกันว่าจะมีปัญหาหรือไม่
“ไม่ต้องห่วงไปหรอก เมื่อวันก่อนอู๋หมิงเป็นผู้ใหญ่ไปขอหมั้นหมายน้องเจ้ากับเทียนเหวินเรียบร้อยไปแล้ว คงไม่มีใครขัดขวางแล้วล่ะ”ไป๋จูเหวินตอบด้วยท่าที่ผ่อนคลาย เรื่องของเทียนเหวินนับเป็นเรื่องดีที่สุดแล้วในการเดินทางไปรักษาองค์จักรพรรดิในครั้งนี้
“หมั้นแล้ว…” เหม่ยหลินนิ่งไปครู่หนึ่งพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าที่หม่นหมอง
“ท่านจะบอกว่าเหม่ยฮวาจัดงานหมั้นกับเทียนเหวินแล้ว”เหม่ยหลินว่าพลางทําหน้าเหมือนจะร้องให้
“ใช่”ไป๋จูเหวินตอบออกไปตามตรงทําให้เหม่ยหลินยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่
“ทําไม่ท่านไม่บอกข้าล่ะ นางเป็นน้องสาวข้านะ”เหม่ยหลินพูดด้วยความเสียดาย นางเองก็อยากจะไปร่วมงานหมั้นของเหม่ยฮวาเหมือนกันนี่นา
“งานจัดในคืนเดียวเท่านั้นเอง ข้าเลยส่งข่าวไม่ทัน”ไป๋จูเหวินยิ้มเงื่อนๆพลางมองเหม่ยหลินที่มีท่าที่ผิดหวังอย่างมาก
“จริงสิ ก่อนกลับเมืองร้อยอสูรเราไปหาเหม่ยฮวากันดีไหม ถึงเจ้าจะไม่ได้ร่วมงานแต่ก็ไปแสดงความยินดีกับนางได้ไม่ใช่เหรอ”ไป๋จูเหวินเสนอเพราะเห็นท่าที่เหม่ยหลินจะผิดหวังมากทีเดียว
“อืม..”เหม่ยหลินตอบรับเสียงอ่อย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะพลาดงานสําคัญของน้องสาวไปได้
คอมเม้นต์