นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 1 ตอนที่ 75 ความภาคภูมิ
ความสุขของกาตอนเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผลเสมอ
แม้ว่ารูนไนท์ทั้ง 20 คนเหล่านั้นจะติดตั้งอุปกรณ์ที่เป็นรูนระดับพื้นฐาน ทว่าริชาร์ดก็ต้องสร้างรูนขึ้นมาอย่างน้อย 100 อันเป็นอย่างต่ำ เมื่อนับจาก 3 ปีที่เขาได้กล่าวไว้ เขาจะต้องสร้างรูนอย่างน้อย 3 อันต่อเดือนในทุก ๆ เดือนจึงจะทำตามเป้าหมายของเขาได้
แน่นอนว่ารูนมาสเตอร์ไม่ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างรูนของพวกเขาเสมอไป แม้แต่เกรทรูนมาสเตอร์ก็ต้องเจอกับความล้มเหลวในการสร้างอยู่บ่อยครั้ง ตามปกติแล้วค่าเฉลี่ยในการประสบความสำเร็จนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30% สำหรับรูนระดับ 1 แม้ว่าแกรนด์รูนมาสเตอร์จะเก่งกาจกว่า แต่พวกเขาเองก็มีโอกาสพลาดในการสร้างรูน 30% เท่ากันกับมือใหม่
แม้ว่าการสร้างรูนพื้นฐานจะสามารถทำผลงานออกมาได้ภายใน 2–3 วันไปจนถึง 1 เดือน ทว่ากระบวนการเหล่านั้นก็ไม่สามารถบีบรัดให้รวดเร็วได้ เวลาส่วนใหญ่ในการสร้างรูนจะสูญเสียไปกับการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดจากการวาดวงเวทย์รวมไปถึงการเพิ่มและแก้ไขสิ่งเหล่านั้น และโอกาสที่จะผิดพลาดก็มักขึ้นอยู่กับความแม่นยำในการวาดรูน มันเป็นคุณสมบัติหลักของรูนมาสเตอร์ที่จะต้องมี สำหรับริชาร์ดแล้ว คุณสมบัตินี้ถือเป็นจุดเด่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขา
เขาใช้เวลาน้อยกว่า 7 วันในการสร้างรูนขั้นพื้นฐานตามค่าเฉลี่ยที่คาดคะเนไว้ก่อนหน้านี้ โดยที่เขาเจอกับความผิดพลาดอยู่ที่ประมาณ 10–20% เท่านั้นจากทั้งหมด ซึ่งสถิตินี้เป็นตัวเลขที่สามารถเทียบเท่าได้กับระดับของเซนต์รูนมาสเตอร์ได้เลย ก่อนหน้านี้เคยมีคนกล่าวไว้ว่า: ไม่มีเซนต์รูนมาสเตอร์คนใดภายในทวีปที่จะทนเบื่อหน่ายกับการสร้างรูนระดับพื้นฐานได้ ทว่าสำหรับเขาแล้ว เขาคิดว่าการสร้างรูนระดับพื้นฐานก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายเหตุผลหลักที่ทำให้รูนของเขาในช่วงที่ผ่านมามีราคาสูงเกินความคาดหมายนั่นก็คือ เขามีความสามารถในการปรับแก้ไข และความสำเร็จของเขาก็เป็นจำนวนครั้งที่มากเกินกว่าค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็น
เขาค้นพบว่าการใช้วัสดุเดียวกันในการสร้างจะช่วยลดความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นได้ และวัสดุชิ้นเดียวก็สามารถใช้สร้างรูนออกมาได้ 2–3 อันในเวลาเดียวกัน นั่นทำให้ระยะเวลาในการสร้างลดลงจากเดิม อีกทั้งยังมีส่วนที่จะทำให้ราคาขายที่สามารถขายสู่ตลาดได้ให้กำไรเพิ่มมากขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้ในปีที่ผ่านมา เขาจึงได้รับเงินทองเกินกว่า 1,000,000 เหรียญ และมันก็เป็นเหตุผลที่เขากล้าเข้าร่วมกับอาเครอนที่กำลังจะทำสงครามกับเพลนจำนวนนับไม่ถ้วน
อย่างที่กาตอนบอกก่อนหน้านี้ว่าการเดินทางไปยังเพลนอื่น ๆ จำเป็นต้องมีกองทัพร่วมไปกับเขาด้วย แม้ว่าความกล้าหาญภายในตัวของเขาจะมีอยู่มากจนแทบจะเรียกได้ว่าเต็มร้อย แต่มันก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินได้ สำหรับเรื่องนี้นั้น ดูเหมือนว่าจะมีเพียงคนอย่างชารอนเท่านั้นที่จะได้รับการยกเว้น เพราะนางสามารถเปลี่ยนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวเป็นแบบทีมได้ด้วยตัวของนางเอง กองทัพที่มีรูนไนท์ระดับ 1 จำนวน 10 คนบวกกับรายได้ของริชาร์ดที่สามารถขายรูนได้ทำให้เขามีกำลังมากพอที่จะสร้างกองทัพขนาดเล็กของตัวเองเพื่อออกเดินทางไปสำรวจเพลนระดับต่ำบางแห่ง
เพลนมีลักษณะที่ไร้ขอบเขตและไม่สิ้นสุด ไม่มีใครรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเพลนที่ไม่มีคนรู้จักเหล่านั้น ข่าวลือถูกแพร่ออกไปว่ามีคนที่โชคดีบางคนสามารถค้นพบวัสดุอันมีค่าในเพลนขนาดเล็กที่ไม่ได้มีชื่อเสียง และในขณะเดียวกันก็มีผู้กล้าหาญที่ยอมสละจิตวิญญาณของตัวเองเพื่อต่อสู้และครอบครองเพลนที่มีขนาดใหญ่เพื่อหวังให้ตระกูลได้สุขสบาย ทว่าพวกเขากลับพบแต่ความแห้งแล้งและไร้ซึ่งของมีค่าให้ได้ครอบครอง
กาตอนติดอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมา เขาพึมพำกับตัวเองก่อนพูดขึ้นเสียงดังว่า “ในเมื่อเจ้าเป็นคนมีความสามารถ งั้นเราก็คงจำเป็นต้องเตรียมการอะไรบางอย่างล่วงหน้าก่อนที่เจ้าจะเข้าสู่เพลนเสียแล้ว ข้าจะเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ให้กับเจ้า และเจ้าเองก็ต้องไปที่ค่ายของอาเครอนเพื่อเลือกผู้พิทักษ์สักสองสามคนให้กับตัวเจ้าเอง รวมถึงเลือกคนที่มีเลือดอาเครอนอันบริสุทธิ์มาเป็นคู่ครองของเจ้าด้วย ซึ่งถ้าหากเจ้าสนใจมากกว่า 1 คน เจ้าก็สามารถเลือกเพิ่มอีกสักสองสามคนได้ตามใจเจ้าเพราะนี่เป็นสิทธิพิเศษสำหรับเจ้า เอาล่ะ ถ้าเจ้าอยากจะสร้างรูนไนท์จริง ๆ เจ้าก็เดินหน้าจัดการได้ แต่ในตอนนี้จัดการสร้างรูนขึ้นมาเพียงแค่อันเดียวก็พอ ไม่ต้องทำมากไปกว่านั้น ข้าจะจัดการหาผู้สมัคร ไนท์ และวัสดุในการสร้างให้กับเจ้าเอง หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะจัดเตรียมเครื่องสังเวยเพื่อให้เจ้าเข้าไปทำพิธีกรรมในวิหารมังกรนิรันดรด้วย แล้วเราจะได้รู้กันว่าเจ้าจะได้รับพรอะไรจากเทพเจ้ามังกร”
ริชาร์ดจดทุกอย่างที่เขาต้องทำอย่างตั้งใจ กาตอนหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อไป “ตอนนี้ชารอนยังเป็นหนี้ข้าอยู่ ก่อนหน้านี้นางสัญญากับข้าไว้ว่านางจะช่วยเหลือหากจะทำพิธีสังเวยในวิหารมังกรนิรันดร ตอนนี้ข้าเองยังไม่มีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องไปขอพรจากวิหารนั้น ข้าก็เลยจะใช้โอกาสนี้กับเจ้าก็แล้วกัน ! ข้าจะเขียนจดหมายไปหานาง… ดูซิว่านางจะช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ยังไง
อืม… ข้าคิดว่าคงจะไม่มีอะไรแล้ว ที่พักของเจ้าถูกจัดเตรียมให้เจ้าไว้เรียบร้อยแล้วและเจ้าเองก็สามารถเดินสำรวจเฟาสต์ได้ตามต้องการ ภายในนี้ไม่มีพื้นที่ต้องห้ามสำหรับเจ้า แต่จงระมัดระวังตัวด้วยหากเจ้าคิดที่จะเข้าไปในเมือง ศัตรูของพวกเราซุกซ่อนอยู่ทุกที่ และเจ้าก็ไม่ควรจะไปมีปัญหากับคนพวกนั้นในพื้นที่สาธารณะด้วย พวกคนแก่เหล่านั้นอาจจะเจ้าเล่ห์มาก แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่เต็มใจจะเสี่ยงชีวิตของพวกเขาเพื่อการต่อสู้ อีกอย่างที่ควรระวังคืออย่าหลงกลหญิงสาวที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า และอย่าเปิดโอกาสให้พวกนางพาเจ้าไปตามตรอกซอกซอยที่ดูลึกลับ” เมื่อพูดจบกาตอนก็หัวเราะออกมาแต่ก็หยุดหัวเราะในทันทีเมื่อเห็นว่าริชาร์ดไม่ได้มีอารมณ์ขันร่วมไปกับเขาด้วย เขากระแอมในคอก่อนกล่าวต่อไป “เรื่องสุดท้ายซึ่งสำคัญที่สุด เจ้าอย่าลืมใช้เวลามองหาพี่สาวน้องสาวของเจ้าภายในนี้ด้วย ส่วนใหญ่พวกนางจะยังอยู่บนเกาะ ตราบใดที่พวกนางยังไม่มีคู่ครอง เจ้าก็สามารถเลือกพวกนางคนใดก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ”
ริชาร์ดขมวดคิ้วก่อนจะถามว่า “เราหยุดเรื่องนี้ไว้ก่อนได้หรือไม่ ?”
กาตอนเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ได้ นี่เป็นหน้าที่ของอาเครอนทุกคนที่จะต้องปฏิบัติตาม แต่ถึงยังไงคู่ครองเหล่านี้ก็ไม่ได้มีข้อจำกัดใด ๆ กับเจ้า เจ้าสามารถทำมันตาม… จะว่ายังไงดี ก็ตามธรรมเนียมเพื่อสืบทอดสายเลือดก็เท่านั้น”
“แต่ข้าไม่ใช่อาเครอน” ริชาร์ดตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
“เจ้าไม่สามารถละทิ้งสายเลือดของเจ้าได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ติดตัวไปกับเจ้าในทุกที่ และมันก็อยู่ในจิตวิญญาณทุกส่วนของเจ้าแล้วด้วย ตัวเจ้าเองก็รู้ว่านอกจากเลือดของซิลเวอร์มูนแล้ว เลือดของอาเครอนก็อยู่ในตัวของเจ้าเช่นกัน อีกอย่างข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีสิทธิ์ปฏิเสธหน้าที่ของตัวเอง” กาตอนกล่าวเสียงเรียบ คำพูดของกาตอนเตือนสติของริชาร์ดอีกครั้งว่าในความเป็นจริงแล้วเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของกาตอนได้เลย เพราะความเป็นจริงนี้จึงทำให้ริชาร์ดเลือกที่จะเงียบโดยไม่พูดอะไรต่อไป
……
เมื่อริชาร์ดมาถึงที่พักของเขา เขาก็โยนตัวเองลงบนเตียงทันที เขาจ้องมองเพดานที่อยู่เหนือศีรษะของเขาอย่างเหม่อลอยก่อนที่จะนึกขึ้นภายในใจว่าทุกครั้งที่เขาเจอกับกาตอน เขามักจะต้องได้ยินเรื่องที่เขาไม่อยากจะฟังอยู่เสมอ และไม่ว่าเขาจะเจอกับกาตอนในเหตุการณ์ใด เขาก็ต้องเจอกับเรื่องที่ไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเลยสักครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่เขามองเห็นกาตอน มันทำให้เขานึกถึงภาพบ้านเก่าของเขาที่ถูกเผาไหม้ไปด้วยเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงในครั้งนั้นขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เขามีคำถามอยู่ในหัวของเขาเสมอว่าทำไมมารดาของเขาจึงอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านรูสแลนด์มาตลอดทศวรรษ เหตุใดนางจึงยอมเผาร่างของตนเองแทนที่จะมาพบหน้ากาตอน ? เมื่อย้อนคิดถึงเรื่องวัยเด็กของเขารวมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเขาในตอนนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะมารดาของเขารักกาตอนมาก
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขายอมรับข้อตกลงของกาตอนแม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะทำก็ตาม มีเพียงโอกาสนี้เท่านั้นที่เขาจะสามารถเข้าใจความหมายของความปรารถนาของมารดาที่สั่งเสียไว้กับเขาก่อนที่นางจะจากไปได้
เอเลน่ายังคงปรารถนาที่จะอยู่เคียงข้างกับกาตอน วิธีการที่นางเลือกใช้นั้นแตกต่างออกไปจากคนอื่น ๆ เพราะความปรารถนาของนางเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม ความภาคภูมิใจของนางก็ไม่ได้มีน้อยไปกว่าเหล่าอาเครอนเลยแม้แต่น้อย ธรรมเนียมทั้ง 3 ข้อของอาเครอนได้ถูกขจัดออกจากความคิดของเขาก่อนที่มันจะขยับเข้ามาอยู่ภายในหัวใจของเขาแทน เขารู้สึกราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นเปลวเพลิงและเลือดที่เกิดจากฉากการต่อสู้ของเหล่าอาเครอนในยุคก่อน ๆ ที่ผ่านมาได้ ผู้คนล้มลงเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วนทว่าพวกเขาก็ยังสามารถลุกขึ้นมาได้ใหม่อีกครั้ง ความเก่าแก่และความลึกลับภายในสายเลือดของพวกเขาได้ปลุกให้คนเหล่านั้นตื่นอีกครั้งหลังจากที่ต้องเจอสภาพการต่อสู้ที่ย่ำแย่ และมันก็เป็นเช่นนั้นอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น นี่เป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความดิ้นรนและการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ สายเลือดแห่งอาเครอนยังคงแพร่กระจายออกไปอย่างต่อเนื่องราวกับภูเขาไฟที่ปะทุลาวาออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เหตุผลเดียวที่มีหลุมฝังศพเพียงไม่กี่หลุมบนภูเขาไฟนั่นก็คือมีเพียงแค่อาเครอนเท่านั้นที่สามารถรู้แจ้งด้วยพลังแห่งเลือด จึงทำให้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะนำกระดูกของพวกเขามาฝังไว้ในสุสานตระกูลแห่งนี้ได้ สำหรับคนที่ถูกฝังอยู่ด้านบนนั้นคืออาเครอนทั้ง 6 คนที่มีชื่อแห่งอาเครอนที่แท้จริง พวกเขาเป็นวีรบุรุษแห่งอาเครอนมาตลอดทั้งชีวิตแม้ว่าจะไม่ได้มีการบันทึกใด ๆ บนหลุมฝังศพให้ได้เห็น ทว่าการที่ได้ฝังอยู่ชั้นสูงสุดก็สามารถอธิบายถึงความยิ่งใหญ่ได้อย่างชัดเจน
เช่นเดียวกับกาตอน
ในเวลานี้ท้องฟ้าด้านนอกมืดมิดลงแล้ว ดวงจันทร์ดวงที่ 4 ที่มีสีฟ้าจาง ๆ ได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้ แสงสีฟ้าส่องผ่านหน้าต่างที่ทั้งสูงและแคบภายในห้องของเขา ต้นไม้และภูเขาที่อยู่ด้านนอกก็ดูเหมือนว่าจะถูกแสงสีฟ้าจากแสงจันทร์สาดส่องปกคลุมลงมาเช่นเดียวกัน
ในเวลานี้ดาบไร้ชื่อที่เขาเพิ่งได้รับมาถูกวางไว้ข้างตัวของเขา ใบมีดของมันสะท้อนแสงจันทร์สีฟ้า ดูเหมือนว่าดาวระยิบระยับบนฟากฟ้าพร้อมที่จะกระโดดเข้าหาเงาของใบมีดที่อยู่ข้างตัวเขาอยู่ตลอดเวลา ภาพตรงหน้าเป็นเหมือนภาพลวงตาที่เกิดจากพลังแห่งดวงจันทร์สีฟ้า การปรากฏตัวของดวงจันทร์อย่างฉับพลันส่งผลให้เลือดเอลฟ์ซิลเวอร์มูนที่อยู่ในร่างกายของเขาถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ทันตั้งตัว
เขาเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงได้ไวต่อดวงจันทร์สีฟ้ามากเป็นพิเศษ เมื่อกาตอนใช้สกิลลับของดวงจันทร์ที่ 4 —— แอนนิฮิเลชั่น มันทำให้เขาเห็นถึงความโศกเศร้า ทว่ามันกลับสวยงามจนทำให้รู้สึกราวกับว่าเอเลน่ากลับมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง กาตอนเคยกล่าวว่านี่เป็นสกิลดาบที่เขาเคยเห็นเอเลน่าใช้ เขาจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าสถานการณ์เช่นใดที่สามารถทำให้มารดาของเขาตัดสินใจจบทุกอย่างลงด้วยการทำลายซึ่งกันและกันเช่นนี้ ?
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในวันนี้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไปท่ามกลางแสงจันทร์ที่ยังสาดส่องลงมา
และเมื่อเขาหลับลงก็เกิดความฝันขึ้น ! เขามองเห็นดวงจันทร์สีรุ้งอยู่ภายในฝัน และเขาก็ได้มองเห็นการปะทุขึ้นของภูเขาไฟ อาเครอนวิ่งผ่านร่างของเขาไปทีละคนโดยเปล่งเสียงคำรามขึ้นภายในสนามรบไปด้วย พื้นดินที่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาเต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณมากมาย มันส่งสีแดงฉานราวกับเป็นแม่น้ำแห่งเลือด บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยหมอกขาวทั่วทั้งเพลน และหลังจากที่เพลนลอยผ่านการมองเห็นของเขาพร้อมด้วยคนจำนวนมากมายที่ยอมเสี่ยงชีวิต เพลนก็ได้ระเบิดออกก่อนที่ทุกอย่างจะยุบตัวลงต่อหน้าเขาโดยกวาดเอาทุกอย่างให้จมลงสู่ก้นบึ้งของนรกที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
ไม่มีท้องฟ้า ไม่มีโลกอีกต่อไป เพลนได้สร้างการสังหารหมู่ขึ้นจนในตอนนี้หลงเหลือไว้แต่เพียงความว่างเปล่า…
เขาสะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันและขยี้ตาก่อนที่จะมองเห็นแสงอาทิตย์ที่กำลังสาดส่องอยู่ด้านนอกหน้าต่าง ความยากลำบากในการหลบหนีของเขาจากความฝันที่วุ่นวายทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาเหนื่อยล้าราวกับว่าเขายังไม่ได้ผ่านการนอนหลับพักผ่อนเลย
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว และวันนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นวันที่เขาจะได้พบกับพี่น้องของเขาอีกครั้ง…
คอมเม้นต์