นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 1 ตอนที่ 93 ข้อเสนอที่ไม่คาดคิด ตอนที่ 1
อุปกรณ์อื่น ๆ ในห้องปฏิบัติการห้องนี้คล้าย ๆ กับสิ่งของที่เขามีอยู่แล้ว แต่มันมีคุณภาพต่ำกว่าอย่างน้อย 3 ระดับ ริชาร์ดอดคิดไม่ได้ว่าเพียงแค่โต๊ะทำงานตัวเดียวในดีพบลูก็ดูเหมือนว่าจะมีมูลค่ามากกว่าห้องปฏิบัติการบนเกาะนี้ 3 ห้องรวมกันซะอีก
เขามีผู้ช่วยทดลอง 2 คน โดยเป็นผู้หญิง 1 คน และผู้ชายอีก 1 คน พวกเขาอายุมากกว่า 20 ปีและในตอนนี้ก็กำลังเตรียมความพร้อมอยู่ด้านในห้องปฏิบัติการ คนที่เป็นชายหนุ่มนั้นเป็นเมจระดับ 8 ขณะที่หญิงสาวอยู่ในระดับ 10 และเมื่อริชาร์ดเดินเข้าไปนั้น เขาก็เห็นพวกนั้นกำลังทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้ทุกอย่างในห้องอยู่กับหญิงสาววัยรุ่นอีกคน
เขาพยายามเพ่งมองดูและรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้คุ้นตาอย่างน่าประหลาดขณะที่มองนางจากข้างหลัง และเมื่อนางหันมองมาก็ทำให้เขาตกใจมาก “โกโก้ ?”
ครั้งสุดท้ายที่เขาเจอโกโก้ก็คือวันงานเลี้ยงที่เขาเข้าร่วมเพื่อเลือกคู่ครอง คืนนั้นแสงค่อนข้างสลัวทำให้ความเคร่งขรึมและท่าทางสง่างามของนางที่ขัดกับฉากหลังของภูเขาไฟโรแมนติกนั้นทิ้งความประทับใจไว้ให้เขา อย่างไรก็ตาม หลังจากงานวันนั้นเขาก็ลืมนางไปเสียสนิท เพราะในแง่ของความประทับใจที่น่าจดจำ นางยังเทียบเดมี่หรือเวนิก้าไม่ได้เลย
การได้เจอโกโก้อีกครั้งทำให้เขาประหลาดใจมาก ดูเหมือนว่าพ่อของนางไม่สามารถสนับสนุนนางได้เต็มที่นัก ตระกูลอาเครอนให้ทรัพยากรสนับสนุนหลายอย่างเมื่อส่งทายาทเข้ามาอยู่ที่เกาะนี้ ทว่าส่วนใหญ่แล้วทรัพยากรเหล่านั้นมักถูกใช้ไปในรูปแบบของการฝึกฝนและไม่ได้เหลือไว้ใช้สำหรับเรื่องอื่น ๆ ในแต่ละวันมากนัก
แม้ว่าสิ่งของภายในเฟาสต์จะมีมูลค่าถูกกว่าดีพบลูแต่ก็ยังแพงกว่าที่อื่น ๆ ในสหพันธ์ เครื่องใช้ในดีพบลูมีราคาสูงจนเกินจริงเพราะพวกเขาขายแต่สินค้าคุณภาพดีเท่านั้น ทุกอย่างสามารถเรียกได้ว่าเป็นสินค้าหรูหราได้เลยแต่ในทางกลับกัน สิ่งของจำเป็นพื้นฐานอย่างเช่นอาหารและเสื้อผ้าถูกตั้งราคาไว้อย่างไม่สมเหตุสมผลในเมืองเฟาสต์แต่นั่นก็เป็นเพราะเฟาสต์ถูกล้อมรอบไปด้วยเพลนนิรันดรซึ่งไม่ได้มีความอุดมสมบูรณ์มากพอที่จะสามารถทำการเกษตรได้ อาหารต่าง ๆ ถูกขนส่งมาจากที่ห่างไกลไปจนถึงด้านบนยอดเขาซึ่งค่าขนส่งนั้นแพงมากแล้วไหนจะค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก มันจึงไม่แปลกอะไรหลาย ๆ อย่างจะแพงขึ้นมา
โกโก้มีท่าทางกังวลเมื่อเห็นริชาร์ด นางก้าวถอยหลังราวกับต้องการซ่อนอยู่หลังหนึ่งในผู้ช่วยทว่าด้วยความคับแคบของห้องทำให้นางชนเข้ากับชั้นวางโพชั่นทันที หลอดทดลองประมาณ 10 หลอดที่ด้านหน้าของชั้นโอนเอนไปมาอย่างน่าหวาดเสียวและบางส่วนก็เกือบจะตกลงมา
เมจสาวขมวดคิ้วและพูดอย่างเข้มงวด “โกโก้ ! ทำไมเจ้าถึงซุ่มซ่ามแบบนี้ ต่อให้เจ้าอยากจ่ายค่าหลอดทดลองเหล่านี้ เจ้าก็ไม่มีปัญญาจ่ายหรอก ทางตระกูลให้โอกาสเจ้าได้มาทำงานที่นี่ เพราะงั้นก็อย่าคิดทะนงตัวอยากทำเรื่องใหญ่กว่านั้น อย่างเจ้าน่ะ ไม่มีทางไต่เต้าจนได้เป็นคู่ครองของมาสเตอร์ริชาร์ดหรอก !”
“ข้าขอโทษ ! ข้าขอโทษจริง ๆ !” โกโก้หน้าซีดขณะที่โค้งคำนับไม่หยุดหย่อน น้ำตารื้นขึ้นในดวงตาของนางแต่นางก็พยายามฝืนเอาไว้ นางพูดตะกุกตะกักขณะพยายามอธิบายในสิ่งที่เมจหญิงสาวพูดกล่าวหา “คือว่าไม่ใช่ ! ข้าไม่เคยคิดแบบนั้นเลยจริง ๆ นะ !”
“เจ้าแน่ใจรึ ? ฮ่า !” เมจหญิงสาวคนนั้นประชดประชันขณะที่เมจชายหนุ่มขมวดคิ้วและยังคงเงียบอยู่ ริชาร์ดเป็นหนุ่มโสดที่มีคุณสมบัติโดดเด่นที่สุดในตระกูลอาเครอนอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นเป้าหมายของหญิงสาวทุกคนไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวที่ผู้คนปรารถนามากที่สุดอย่างเดมี่และเวนิก้า ในขณะที่สายเลือดเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ความสามารถ โอกาสในอนาคต และรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของริชาร์ดล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน หลังจากค่ำคืนของการพิจารณาคดี ข่าวเกี่ยวกับการที่เขากำลังจะเป็นสมาชิกแกนหลักของตระกูลนั้นแพร่กระจายไปทั่ว แม้ว่าเขาจะก้าวหน้าในด้านลำดับชั้นของตระกูลอย่างรวดเร็ว แต่มันอาจจะเร็วไปสักหน่อยที่จะพูดถึงพลังอำนาจที่เขามี และเมื่อในตอนนี้เขายังอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น จึงเหมือนกับว่าทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง
สำหรับโกโก้แล้ว ด้วยลำดับชั้นภายในตระกูลที่นางมีทำให้นางไม่สามารถเลือกหรือปฏิเสธคู่ครองได้เลย ผู้ช่วยทั้งสองจึงคิดว่าคำพูดของนางที่บอกว่าไม่มีความคิดที่จะอยากเป็นคู่ครองของริชาร์ดเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก อาเครอนทุกคนที่เดินทางมายังเกาะนี้ต่างก็มีจุดประสงค์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว พวกเขาล้วนต้องการความก้าวหน้าในตระกูล ซึ่งสำหรับโกโก้นั้น ริชาร์ดก็เหมือนกับเป็นทางลัดในการก้าวหน้าของนางได้อย่างดี
ในทวีปนัวแลนด์ ความแข็งแกร่งของคนจะมาจากสภาพร่างกาย ในขณะที่พลังอื่น ๆ ของพวกเขาจะมาจากปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่สายเลือด พื้นฐานครอบครัว การศึกษา การฝึกฝน และอบิลิตี้ส่วนบุคคล ซึ่งโดยปกติแล้วการพิจารณาคุณค่าของหญิงสาวจะดูจากปัจจัยเหล่านั้นเช่นกัน และสำหรับโกโก้นั้น นางถือว่ามีคุณลักษณะส่วนบุคคลที่ดี ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่สวยงามและการวางตัวของนางก็จัดว่าสง่างามมาก ทว่าภายในตลาดทาสขนาดใหญ่นั้นสามารถหาสาววัยรุ่นครึ่งเอลฟ์ที่เป็นคู่แข่งด้านนี้กับโกโก้ได้อย่างสบาย นั่นจึงทำให้คุณสมบัติข้อนี้ของนางแทบจะไม่มีใครในตระกูลมองเห็นเลย นอกจากนี้ร่างกายที่อ่อนแอของนางและสถานะในปัจจุบันที่นางเป็นเพียงแค่อีลลูชั่นนิสท์ระดับ 2 นั้นหมายความว่านางไม่มีความสามารถพิเศษใด ๆ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะกลายเป็นผู้หญิงที่โดดเด่นขึ้นมาได้ หากนางยังไม่สามารถแม้แต่จะร่ายคาถาอีลลูชั่นระดับ 2 ได้ นางจะสามารถร่ายคาถาอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกันซึ่งต้องใช้เวทมนตร์และความรู้ที่ละเอียดอ่อนมากขึ้นได้อย่างไร ? แม้ว่านางจะมีข้อดีตรงที่มีความจดจำเป็นเลิศ แต่นางก็ยังเสียเปรียบอยู่ดีเมื่อเทียบกับเมจที่มีความสามารถทางปัญญาแบบที่คนทั่วไปได้แค่ใฝ่ฝันถึง ส่วนความสามารถทางด้านศิลปะของนางน่ะเหรอ… ใครจะสนใจกันเล่า ?
ผู้ช่วยทั้งสองคิดว่าโกโก้ไม่เหมาะสมกับงานนี้ อีกทั้งทักษะในการป้องกันตัวหรือแก้ต่างของนางก็เรียกได้ว่ายังต่ำมากอีก และดูเหมือนว่าในตอนนี้โกโก้เองก็จะตระหนักถึงสิ่งนี้ได้เช่นเดียวกัน นางจึงหยุดพยายามอธิบายตัวเองและก้มศีรษะลงและรอความเมตตาจากเมจสาว รวมถึงยินยอมให้เมจสาวคนนั้นตำหนินางต่อไปด้วย เพียงแต่ครั้งนี้น้ำตาที่นางพยายามฝืนไว้ได้ไหลลงมาอาบทั่วใบหน้าเรียบร้อยแล้ว งานนี้สำคัญกับโกโก้มาก นั่นคือเหตุผลที่นางไม่โต้แย้งใด ๆ หรือกลับออกไปโดยไม่บอกกล่าว ทั้งที่คำพูดของเมจหญิงสาวคนนั้นไม่ได้นุ่มนวลเลย ในสถานเช่นนัวแลนด์ที่มีความแตกต่างอย่างเด่นชัดระหว่างสถานะและพลังอำนาจนั้น การเดินหนีออกไปจากสถานการณ์เช่นนี้จะไม่แค่ทำให้นางสูญเสียงานไปเท่านั้น แต่คุณค่าของนางในตระกูลก็จะยิ่งตกต่ำลงไปอีก
ริชาร์ดขมวดคิ้วและพยายามจะลดความตึงเครียดของสถานการณ์ตรงหน้าลง “เอาล่ะ พอเถอะ เราไม่ได้มีอะไรเสียหายสักหน่อย ข้าจะเริ่มทำการทดลองแล้ว ช่วยจัดเตรียมโต๊ะทำงานให้ข้าที”
เมจชายหนุ่มเริ่มฉีดมานาเข้าไปในโต๊ะขณะที่ริชาร์ดยื่นรายการสิ่งของที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ให้กับเมจหญิงสาวเพื่อให้นางไปนำมาจากคลังเก็บของ ขณะรอให้โต๊ะพร้อมใช้งานนั้น โกโก้เองกำลังจะออกไปนำวัสดุในคลังสินค้ามาให้เขา เมื่อนางยื่นสมุดบันทึกเล็ก ๆ ให้เขาและกำลังจะออกไปอีกครั้งนั้น เขาก็มอบรายการเครื่องมือที่เขาเขียนไว้เพื่อเตรียมไว้ใช้ในภายหลังให้กับนาง
โกโก้มองเขาด้วยท่าทางที่สับสนทันทีก่อนจะรีบพยักหน้าอย่างจริงจังและทำงานของตัวเองอย่างแข็งขัน นางรู้ว่านี่เป็นการปกป้องอย่างหนึ่ง หากนางสามารถทำตามที่ริชาร์ดสั่งได้ดี นางก็จะได้รับการจัดสรรงานที่มากขึ้นไปโดยปริยาย ในสถานที่เช่นนี้ หลาย ๆ คนเต็มใจที่จะมีโอกาสได้ทำงานมากขึ้น ใคร ๆ ต่างก็เกรงกลัวว่าจะไม่มีงานทำ สรุปง่าย ๆ ก็คือเมื่อริชาร์ดยินดีใช้งานนาง นางก็จะไม่ถูกคนอื่นสั่งให้ออกไปจากห้องปฏิบัติการหากไม่มีเหตุผลที่สมควรอย่างแน่นอน
ขณะที่เมจหญิงสาวกำลังเตรียมวัตถุดิบอยู่นั้น ริชาร์ดก็อ่านรายชื่อสิ่งของในคลังและถอนหายใจออกมา คุณภาพของวัตถุดิบในคลังสินค้าของอาเครอนนั้นแตกต่างจากในดีพบลูอย่างมาก แม้แต่จำนวนก็ยังเทียบไม่ได้ เขาแทบไม่พบวัตถุดิบระดับ 2 ในรายการนั้นเลย เพราะงั้นไม่ต้องนึกถึงระดับ 3 หรือ 4 วัตถุดิบในนัวแลนด์ถูกจำแนกในแบบเดียวกับรูน ซึ่งรูนที่มีระดับสูงก็ย่อมต้องใช้วัตถุดิบหลักที่มีคุณภาพในระดับเดียวกัน
เมื่อมองดูสิ่งที่มีในตอนนี้ ริชาร์ดก็ตระหนักได้ว่าทรัพยากรที่เขามีมันไม่มากพอแม้แต่จะสร้างรูนพื้นฐานด้วยซ้ำ ยิ่งการออกแบบรูนที่ยังไม่สมบูรณ์ของเขานั้นก็ยิ่งลืมไปได้เลย ในด้านของทรัพยากร ตระกูลอาเครอนเป็นตระกูลที่ยากจนที่สุดในบรรดา 40 ตระกูลในเฟาสต์ เทียบไม่ได้แม้กับขุนนางชั้นเล็กที่ไม่มีเกาะเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ วินาทีนั้น เขาก็นึกย้อนกลับไปถึงคำพูดแรกที่สตีลร็อคพูดถึงพวกเขา
‘พวกเขายากจน !’
ส่วนความคิดที่ 2 ที่ผุดเข้ามาในหัวของเขาก็คือวัตถุดิบรูนที่เวนนิงตันเอามาให้เขาเมื่อไม่กี่วันก่อน ถ้าของพวกนั้นไม่ได้มาจากคลังเก็บของของอาเครอน งั้นก็อาจหมายความว่า…
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้อยากใส่ใจความคิดนั้นมากนักจึงรีบโยนความคิดเรื่องนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
คอมเม้นต์