นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 2 ตอนที่ 143 การระดมพล

อ่านนิยายจีนเรื่อง นครแห่งบาป City of Sin ตอนที่ 143 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ท้องขนาดใหญ่ของบรู๊ดมาเธอร์เริ่มขยับทันทีที่มันพูดจบ มันวางไข่ 3 ฟองอย่างรวดเร็วซึ่งแต่ละฟองมีความสูงกว่า 1 เมตร โดยที่เปลือกไข่เป็นสีเขียวซีดและทันทีที่เปลือกสัมผัสกับพื้น ไข่ทุกฟองก็เริ่มสั่น สัตว์ทรงพลังระเบิดตัวออกมาเพียงชั่วพริบตาเดียวก่อนที่มันจะเริ่มกินเปลือกของตัวเองอย่างรวดเร็วและดุเดือด และทันทีที่มันจัดการทุกอย่างกันเสร็จสิ้นแล้ว พวกมันก็มายืนกันเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ บรู๊ดมาเธอร์

ริชาร์ดรู้สึกว่ามีลมเย็นซึมซาบเข้ามาในความคิดของเขารวมถึงรู้สึกได้ว่ามีจุดพลัง 3 จุดที่เพิ่มเข้ามาอยู่ในการรับรู้ของเขา ในเวลานี้แร็พเตอร์ ทั้ง 3 ตัวได้เชื่อมต่อเข้ากับการรับรู้ของเขาแล้ว

 

‘มานี่สิ’ เขาพยายามสั่งพวกมันผ่านการเชื่อมต่อซึ่งทันทีที่เขาออกคำสั่งไปพวกมันก็รีบวิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว พวกมันใช้ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมองมาด้วยความตั้งใจขณะที่มีอากาศที่เป็นพิษพ่นออกมาทางจมูกของพวกมันอยู่เรื่อย ๆ

 

ขนาดของแร็พเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงมาแล้วเหล่านี้จะใหญ่และแข็งแกร่งมากกว่าปกติ ความสูงของพวกมันนั้นสูงพอ ๆ กับความสูงของริชาร์ดในขณะที่เขายืนอยู่ และด้วยความแข็งแกร่งของมันก็ทำให้แม้แต่ดาบขนาดใหญ่ก็ทำให้มันบาดเจ็บได้ยาก ถ้าจะทำให้มันสาหัสจริง ๆ คงจะต้องเป็นขวานที่ถูกใช้โดยวอริเออร์ระดับสูง

 

‘หมุน… หยุด… เร่งความเร็ว… โจมตี !’ ริชาร์ดทดลองออกคำสั่งโดยใช้การเชื่อมต่อกับพวกมันผ่านทางจิต ทั้ง 3 ตัวนี้ทำตามที่เขาสั่งโดยไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าพวกมันจะง่ายต่อการควมคุมแต่นี่ก็คงเป็นเพราะตอนนี้พวกมันมีจำนวนเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้น หากมีจำนวนมากกว่า 100 ตัว เขาก็อาจไม่สามารถควบคุมพวกมันได้ในเวลาพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เขารับรู้แล้วว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นถึง 1,000 กว่าตัวได้ในอนาคตอันใกล้

 

ทว่าสิ่งหนึ่งที่เขาไม่รู้ในตอนนี้คือเขาจะจัดการกับบรู๊ดมาเธอร์อย่างไรดีเพราะมันสามารถเคลื่อนตัวได้เพียง 5 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นและดูเหมือนว่าอุปสรรคในเรื่องความเชื่องช้าของมันจะทำให้เกิดความยากลำบากที่จะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ ความเร็วของมันถือว่าช้ามาก ! แต่มันก็ถือว่ามีความสามารถในการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่เมนต้าเองหากได้คืนชีพกลับมาอีกครั้งเขาก็อาจจะตายในทันทีที่ถูกพิษของมัน

 

‘ข้าอยู่ที่นี่ได้มาสเตอร์ ท่านนำเหล่าลูกสมุนไปกับท่านเถอะ พวกมันจะเป็นวอริเออร์ที่ซื่อสัตย์ที่สุด’ บรู๊ดมาเธอร์บอก

 

‘แล้วความปลอดภัยของเจ้าล่ะ ?’ เขายังคงกังวลเกี่ยวกับมัน สัตว์เหล่านี้ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสำคัญของมันเขาจึงไม่อยากสูญเสียมันรวมถึงไม่อยากให้มันได้รับอันตรายจากการโจมตีด้วย

 

‘ท่านไม่ต้องกังวล ไม่มีศัตรูบริเวณนี้ ที่นี่มีเพียงอาหารเท่านั้นและข้ายังมีลูกสมุนทำงานอีก 9 ตัวที่ช่วยคุ้มกันให้ข้าอยู่ อีกอย่าง ข้าก็จะได้รับผู้คุ้มกันเพิ่มในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทำลายศัตรู ข้าคิดว่าเมื่อไรก็ตามที่ศัตรูถูกกำจัดออกไปจนหมด พวกเราก็จะปลอดภัย’

 

ริชาร์ดพยักหน้ารับก่อนยื่นมือไปลูบที่ตัวมันเบา ๆ แล้วจึงนำสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งเกิดใหม่ 3 ตัวออกไปพร้อมกับเขาในทันที

 

เช้าวันรุ่งขึ้นริชาร์ดรวมกองกำลังของเขาแล้วเริ่มต้นกล่าวกับทุกคนว่า “บัดนี้ เรามายังเพลนต่างแดน การต่อสู้ของเราในครั้งก่อนได้สร้างความสูญเสียให้กับพวกเรามาก ซึ่งนั่นทำให้เราต้องทนทุกข์กับการต่อสู้ที่นองเลือดอย่างต่อเนื่องถึง 2 ครั้งจนเป็นบ่อเกิดที่ทำให้เราต้องสูญเสียพี่น้องของเราไปถึง 3 คน ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ด้วย ! ดังนั้นในเวลานี้มันจึงถึงเวลาที่เราจะสั่งสอนคนเหล่านั้นบ้างแล้ว !”

 

เสียงของริชาร์ดทั้งทรงพลังและชัดเจนจนทำให้เห็นถึงความตั้งใจและความแข็งแกร่งของเขาได้เป็นอย่างดี บางทีอาจจะเป็นเพราะเลือดเอลฟ์ที่อยู่ในตัวเขาจึงทำให้ความสง่างามและความหล่อเหลาของเขาปกปิดออร่าอันโหดเหี้ยมที่อยู่ในตัวของเขาไปจนหมด

 

“ดูดีมากกว่าครั้งแรก” โฟลว์แซนด์เอ่ย “การพูดปลุกใจในครั้งนี้ถือว่าพอรับได้”

 

แม้โฟลว์แซนด์จะยังไม่ได้ชื่นชมริชาร์ดอย่างเต็มที่แต่ในเวลาเดียวกันแกงดอร์กลับรู้สึกประทับใจริชาร์ดมาก เขาลูบเคราของตนเองและพูดขึ้นบ้าง “นั่นเป็นการปลุกใจที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ มาสเตอร์ !”

 

ได้ยินเช่นนั้นริชาร์ดก็สับสนว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี ดูเหมือนว่าในเวลานี้ความพยายามของเขาที่จะกล่าวถึงความทุกข์ระทมของสงครามได้ถูกทำลายลงทันทีที่ความเห็นของแกงดอร์หลุดออกมาจากปากของเขา

 

อย่างไรก็ตาม เขากระแอมเล็กน้อยก่อนกลับมาทำหน้าเคร่งขรึม ด้วยการตอบโต้ที่สำคัญเช่นนี้ เขาได้เตรียมแผนการต่อสู้ไว้อย่างละเอียดแล้ว แม่ทัพผู้มีชื่อเสียงเกือบทุกคนในประวัติศาสตร์จะทำการระดมกองกำลังทหารก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทำสงครามเพื่อเป็นการปลุกระดมและเพิ่มพลังใจให้กับคนในกองทัพของตนเอง แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีทหารแค่ 10 กว่าคน สัตว์ที่เกิดใหม่ 3 ตัว และบรู๊ดมาเธอร์อยู่ภายใต้บัญชาการซึ่งถือเป็นเพียงแค่กองทัพเล็ก ๆ เท่านั้น แต่การพูดเพื่อปลุกระดมของกองกำลังก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง

 

ริชาร์ดตระหนักได้ในทันทีว่าเขายังต้องเรียนรู้การเป็นผู้นำกองทัพในการต่อสู้ให้มากขึ้นอีกหากเขาอยากจะมีรอดชีวิตกลับไปยังนัวแลนด์ เขาใช้เวลายามว่างที่เขามีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพยายามนึกถึงการต่อสู้ในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง รวมถึงชีวประวัติของแม่ทัพที่ได้รับความเคารพนับถือเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ และ 99% ของหนังสือที่เขาอ่านคือหนังสือเวทมนตร์ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับสงครามและประวัติศาสตร์นั้นเขาอ่านมาเพียงน้อยนิดจนน่าสังเวช  เขาจะทำอย่างไรได้เมื่อเขามีเวลาอ่านหนังสือเหล่านั้นไม่มากนักโดยได้อ่านแค่ในช่วงเวลาที่เร่งรีบขณะที่เขาเดินทางมาถึงเฟาสต์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลย เพราะเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ความพยายามครั้งแรกของเขาในการระดมพลจะล้มเหลว

 

จู่ ๆ เขาก็นึกถึงกาตอนขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ กาตอนเป็นชายผู้มีความเคร่งขรึมและดื้อรั้นแต่มาพร้อมกับสเน่ห์อันเหลือล้น และไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่ใต้คำสั่งของกาตอน คนเหล่านั้นก็ล้วนเชื่อมั่นและรู้สึกมั่นใจในตัวกาตอนเสมอ ซึ่งตัวเขาเองก็เช่นกัน หากนึกย้อนไปถึงพิธีบูชาในคืนนั้น แม้ว่าเขาจะมองเห็นแค่เพียงแผ่นหลังของบิดาทว่าเขากลับรู้สึกได้ถึงความสบายใจ

 

สีหน้าเขินอายของเขาทำให้แกงดอร์หัวเราะออกมา “มาสเตอร์ ที่จริงแล้วท่านไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับพวกเรามากนักหรอก พวกเรารู้สิ่งเหล่านั้นดี ถ้าท่านอยากจะให้พวกเราทำอะไร ท่านก็แค่สั่งมาว่า…”

 

ทันใดนั้นเขาก็กำหมัดขึ้นแล้วชกเข้าไปที่โต๊ะไม้พร้อมทั้งคำรามเสียงดังขณะที่แววตาก็แสดงออกถึงความชั่วร้าย “ฆ่าไอ้พวกบ้านั่นให้หมด !”

 

ริชาร์ดตกอยู่ในความรู้สึกระหว่างขำขันและโศกเศร้าก่อนจะถามขึ้นว่า “แล้วไงต่อ ?”

 

“ฆ่าพวกมันให้หมด จะทำยังไงก็ได้ตามที่พวกเจ้าต้องการ !” แกงดอร์ตอบกลับราวกับกำลังรับหน้าที่แทนริชาร์ด

 

ริชาร์ดดูเคร่งเครียดขณะที่เขาแย้งขึ้นมา “แต่เราต้องมั่นใจในดินแดนแห่งนั้น ทั้งจำนวนศัตรูและแผนการในการต่อสู้ก่อนที่จะเราจะเข้าสู่การทำสงครามไม่ใช่รึ ?”

 

“ไม่ใช่ว่าท่านได้ไตร่ตรองถึงเรื่องนั้นมาก่อนแล้วหรอกหรือ ?”

 

“ก็ใช่ แต่…”

 

ริชาร์ดทำท่าเหมือนจะกล่าวอะไรออกมาแต่ทันใดนั้นเองแกงดอร์ก็แทรกขึ้นว่า “งั้นก็ทำตามที่ท่านว่า พวกเราไม่มีใครมีปัญหา !”

 

เมื่อเห็นว่าหมดหนทาง ริชาร์ดก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง “แต่การตัดสินใจของข้าก็อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป”

 

แกงดอร์ได้ยินเช่นนั้นก็พูดขึ้น “ไม่เลยมาสเตอร์ ความคิดและการตัดสินใจของท่านถูกต้องเสมอ ! ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ไม่มีใครในที่นี้ที่จะรู้สถานการณ์ในสนามรบดีไปกว่าท่านอีกแล้ว คำสั่งของท่านในการต่อสู้เมื่อไม่กี่วันก่อนน่ะเจ๋งสุด ๆ ไปเลย ! ทุกครั้งที่ข้าคิดอยากจะยอมแพ้ ท่านก็มักจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมนำข้าไปเจอกับทางออกรวมถึงส่งโฟลว์แซนด์มารักษาบาดแผลให้กับข้าจนหายราวกับปาฏิหาริย์ ! ท่านต้องเห็นหน้าของเมนต้าในตอนนั้น จนตรอกสุด ๆ ! ข้าไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวที่ได้มาอยู่กับท่าน ข้าเชื่อว่าท่านเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำและความสามารถของท่านก็ฉายแววขึ้นมาในตอนนี้แล้วด้วย !”

 

ริชาร์ดหน้าแดง เขาได้เปลี่ยนแปลงสถานการณ์ภายในสนามต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าก็จริง ทว่านั่นไม่ใช่เพราะความสามารถในด้านศิลปะแห่งการทำสงครามของตัวเขา แต่มันเป็นเพราะพรีซิชั่นของเขาได้บอกเขาให้ตัดสินใจบางอย่างในทันทีที่เกิดเรื่องเร่งด่วนจนทำให้เขาสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งเขายังสามารถที่จะรับรู้ตำแหน่งของคนที่ทำสัญญากับเขาได้โดยเฉพาะในสถานที่เล็ก ๆ อย่างเช่นสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้ยากเลยที่เขาจะสามารถรับรู้ได้ว่าคนของเขาอยู่ตำแหน่งใดกันบ้าง การรวมกันของทั้ง 2 อย่างนี้รวมไปถึงโชคของเขาและการช่วยเหลือจากคาถาของโฟลว์แซนด์ล้วนทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ เป็นเพราะการรวมกันของสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปาฏิหาริย์จนทำให้แกงดอร์กล่าวชื่นชมเขาในฐานะของผู้นำที่เก่งกาจ

 

และแกงดอร์ยังคงชื่นชมต่อไป “ยิ่งตอนที่ท่านเรียกพวกเรามารวมกันในตอนท้าย มันเป็นอะไรที่เยี่ยมสุด ๆ !”

 

ผู้ที่สามารถรวบรวมกลุ่มและโจมตีศัตรูได้ ไม่ได้มีเพียงแค่เมจและผู้นำที่สามารถทำได้เท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วเหล่าอันธพาลข้างถนนก็ยังสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ ขณะที่ริชาร์ดกำลังตกอยู่ในสภาวะอึดอัดใจกับสิ่งที่ได้ยิน แกงดอร์ก็ถามขึ้นมาว่า “มาสเตอร์ หากท่านอยากจะระดมพลก่อนที่จะเริ่มทำสงครามจริง ๆ ทำไมท่านถึงไม่บอกว่าเรากำลังจะไปต่อสู้เพื่ออะไรและเราจะได้รับอะไรจากการที่เราได้รับชัยชนะล่ะ ?”

 

หลังจากที่ได้ยินคำถาม ริชาร์ดก็รีบตอบกลับไปในทันที “แน่นอนว่าสิ่งที่จะได้รับคือการได้กลับไปยังนัวแลนด์ !”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแกงดอร์ก็ยักไหล่ “การกลับไปที่นั่นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ดีไปกว่าการได้อยู่ที่นี่สักเท่าไหร่ อีกอย่าง หากให้พูดตรง ๆ เป้าหมายของเราดูเหมือนว่าจะไกลเกินไปด้วยซ้ำ ท่านต้องบอกถึงสิ่งที่จะได้รับเร็ว ๆ นี้และเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ ไม่จำเป็นต้องมากมายหรือยิ่งใหญ่อะไรก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นข้าสามารถเอาชนะชายผู้หนึ่งในค่ายแห่งความตายเพื่อขโมยอาหารของเขา หรือการที่ชนะการต่อสู้กับผู้หญิงคนหนึ่งจึงทำให้ข้าสามารถได้ตัวนางไปนอนด้วยตลอดทั้งคืน หรืออาจจะเป็นข้าสามารถส่งแผ่นป้ายได้ภายในเวลา 1 เดือนก็จะได้รับโพชั่นชนิดพิเศษถึง 2 ขวดเพื่อเป็นรางวัล มันง่ายมากเลยนะท่าน และมันก็ได้ผลดีมาก ๆ ด้วย”

 

คำพูดของแกงดอร์ทำให้ริชาร์ดตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่ง ขณะที่ริชาร์ดกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่นั้นแกงดอร์ก็ร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่แปลกประหลาดก่อนที่จะกระโดดข้ามโต๊ะเพื่อวิ่งไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว คนป่าผู้นี้อาจจะมีขนาดตัวที่ใหญ่และกำยำทว่าความเร็วและความว่องไวของเขานั้นเพียงพอที่จะสามารถหลบหนีผู้ที่ซุ่มโจมตีเขาได้อย่างรวดเร็ว

 

ทุกคนหันไปมองแกงดอร์ทว่าคนที่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนกลับแสดงสีหน้านิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น การกระทำนั้นทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ภาพลวงตาและแกงดอร์ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวไปจากจุดเดิมแต่อย่างใด

 

ทว่าการสูญเสียความสงบเสงี่ยมของเขาทำให้ทุกคนรู้ได้ว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าขณะที่เขากำลังพูดอะไรอยู่นั้นจะมีอะไรบางอย่างแหย่ไปที่ก้นของเขาก่อนที่จะเคลื่อนลงไปเรื่อย ๆ สัญชาตญาณของเขาเกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตรายที่แท้จริง และแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ได้มีเวลาที่คิดเรื่องอื่นเมื่อตกอยู่ในอันตราย สิ่งเดียวที่ตอบสนองการหลบหลีกการโจมตีได้ดีที่สุดสำหรับเขาคือสัญชาตญาณในการเคลื่อนตัวหลบหนี

 

วอเตอร์ฟลาวเวอร์ที่กำลังกอดดาบในมือของนางก้มหน้าลงต่ำพร้อมทั้งหรี่ตาลงครึ่งหนึ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางได้เรียนรู้ศิลปะการพรางตัวภายในไม่กี่วันหลังจากออกจากค่ายแห่งความตายของอาเครอนและดูเหมือนว่าเมื่อครู่นางเพิ่งจะแหย่แกงดอร์เล่น ๆ

 

ทันใดนั้นบรรยากาศตอนนี้ก็ทำให้รู้สึกว่ามีชีวิตชีวาขึ้นจนทำให้ริชาร์ดหลุดจากอาการเขินอายก่อนหน้านี้ไปได้ *ปัง !* ริชาร์ดทุบโต๊ะอย่างแรงเพื่อเป็นการเลียนแบบแกงดอร์ แม้ว่าเสียงทุบจะดูเหมือนกับขาดพลังทว่ามันก็ดังมากพอสำหรับเมจผู้ใช้ชีวิตอยู่กับพรีซิชั่นแต่พยายามที่จะเดินตามสายของวอริเออร์ที่เต็มไปด้วยความเข้มงวดและความไม่ราบรื่น

 

หลังจากทุบโต๊ะแล้วเขาก็ประกาศออกมาเสียงดัง “การโจมตีครั้งนี้ก็เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินและผู้หญิง !”

 

“ไม่เลว !” แกงดอร์เปล่งเสียงออกมาด้วยความพอใจในขณะที่สายตาของโอล่าก็เปล่งประกาย “เรากำลังจะชิงตัวผู้หญิงเหรอ ? เยี่ยม ข้าชอบ ข้าชอบ !”

 

ทว่าทันใดนั้นโฟลว์แซนด์ก็ยิ้มออกมาก่อนพูดขึ้นบ้าง “ข้าก็ชอบเช่นกัน”

 

เอลฟ์บาร์ดหยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่จะหันไปมองโฟลว์แซนด์จนทำให้เขารู้สึกว่ายากที่จะพูดถึงหัวข้อนี้ต่อไป แม้ว่าน้ำเสียงของนางจะสื่อออกมาในเชิงเรื่องขบขันทว่ามันก็เป็นเรื่องพิสดารของเหล่าชนชั้นสูง โอล่าเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือพูดเพียงเพื่อเหน็บแนมพวกเขา แต่ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นเขาก็เงียบเสียงลง การต่อสู้ในอนาคตยังคงอีกยาวไกลและยากลำบาก มีเพียงคนฉลาดเท่านั้นที่จะรู้ว่าควรจะอยู่ห่างจากปัญหาและหลีกเลี่ยงการกระทำผิดต่อพรีสต์สาวผู้นี้

 

ในส่วนของโอเกอร์นั้น แน่นอนว่าย่อมไม่ได้มีความคิดที่ลึกซึ้งเหมือนกับเอลฟ์ เพราะเมื่อได้ยินมีเดียมแรร์ก็รีบตะโกนตามออกมาในทันที “ไปหาผู้หญิงให้กับโอเกอร์กันเถอะ !”

 

“แน่นอน ! ถ้าเจอเราก็สามารถแย่งชิงมาได้มากเท่าที่เราต้องการ !” ริชาร์ดตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

ในที่สุด การระดมพลที่วุ่นวายก็ได้สิ้นสุดลง…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด