นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 2 ตอนที่ 131 สถานการณ์จนมุม ตอนที่ 1
เมนต้าเปลี่ยนไปใช้มอนิ่งสตาร์*แล้ว เขาหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้ายเมื่อเห็นศัตรูแบ่งกองกำลังของตน ทันใดนั้นเขาก็พุ่งไปข้างหน้าไปอยู่ในพื้นที่ด้านล่างของกำแพงในพริบตาก่อนกระโจนขึ้นไปโดยใช้ประโยชน์จากแรงผลักดันจนสามารถวิ่งขึ้นไปและกระโดดได้สูงกว่ากำแพงเสียอีก เสียงโหยหวนเกรี้ยวกราดดังขึ้นเมื่ออาวุธของเขาทุบลงไปที่ทหารคนหนึ่ง
มอนิ่งสตาร์* = อาวุธชนิดหนึ่งคล้ายกระบองสั้น ตรงปลายมีหัวเป็นลูกตุ่มหนาม
*เคร้ง !* โล่กำบังหนาในมือของทหารตกลงไปและตัวเขาก็ได้ถอยหลังไป 2 ก้าว เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้อีกและตกลงมาจากกำแพง
แกงดอร์ออกมาจากด้านข้างทันทีและใช้ขวานต่อสู้ของเขาฟาดที่น่องของเมนต้า มุมของการโจมตีนั้นยากที่จะรับมือได้และไม่ว่าอย่างไรเมนต้าที่อยู่กลางอากาศนั้นจะมีปัญหาในการรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน เขาพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อบิดตัวและใช้โล่ป้องกันการโจมตีนั้น ทว่าเขาถูกผลักให้สูญเสียความสมดุลจนตกจากกำแพงตามด้วยกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ทว่าถึงแม้จะมีอบิลิตี้ของเขาช่วยอยู่บ้าง แต่การตกลงจากที่สูงเช่นนี้ในขณะที่กำลังสวมชุดเกราะนั้นนับว่ารุนแรงมากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การโจมตีได้เปิดช่องว่างในแนวป้องกันของผู้บุกรุก ไนท์ฝึกหัดใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในการพุ่งตัวขึ้นไปตามกำแพง แม้จะมี 2 คนกระเด็นตกลงมาและทหารราบส่วนที่เหลือยังตั้งหลักอยู่บนพื้น ทว่ากองทหารที่มีประสบการณ์ก็ได้ปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้ว พวกเขาคว้าขอบของกำแพงด้วยการกระโดดครั้งเดียวและพลิกตัวข้ามมันอย่างไม่มีปัญหาใด ๆ
วอริเออร์อาเครอน 2 คนที่อยู่ด้านข้างพ่ายแพ้ไปในไม่ช้า ฮิวเบิร์ตเองก็รีบวิ่งขึ้นบนกำแพงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ต่อสู้บนกำแพงเหมือนกับพรรคพวกแต่กลับกระโดดลงจากกำแพงและมุ่งหน้าเข้าไปในฐานพร้อม ๆ กับกองทหารของเขาเนื่องจากพวกเขามีเป้าหมายที่มีค่ายิ่งกว่านั้นอยู่ด้านใน นั่นก็คือเมจที่ไม่มีมานาหลงเหลืออยู่อีกต่อไป ! ฐานนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับหมู่บ้านของคน 100 คน อาคารหน้าตาแปลกประหลาดขนาดแตกต่างกันจำนวน 10 หลังดูเหมือนจะถูกจัดวางอย่างสะเปะสะปะ แม้แต่ถนนก็โค้งและบิดเบี้ยวไม่ได้เป็นเส้นทางในระดับเดียวกันเลย ทว่าถึงอย่างนั้น สถานที่นี้ก็กว้างไม่มากและภูมิประเทศก็ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก
ฮิวเบิร์ตเลือกอาคาร 3 ชั้นที่ใหญ่ที่สุดก่อนเตะประตูเปิดออกและพุ่งเข้าไป ดูเหมือนว่าเขาจะมีโชคอยู่พอสมควรเพราะเขาพบเมจคนนั้นตั้งแต่ชั้นแรก ! ซึ่งนอกจากเมจแล้วยังมีหญิงสาวที่ดูแปลกประหลาดทว่างดงามยืนอยู่ในห้องโถงนั้นด้วย ในมือนางมีสิ่งของที่มีลักษณะเหมือนหนังสือเล่มใหญ่ถืออยู่และนางกำลังเปิดหน้าหนังสือออก
ฮิวเบิร์ตกวัดแกว่งดาบยาวของเขาไปมาพร้อมตะโกน “ยอมแพ้ซะเถอะเจ้าผู้บุกรุก ! ตามข้ามาที่แท่นบูชาของเทพแห่งความกล้าหาญและชำระบาปของเจ้าซะ ! ถ้าทำเช่นนั้นอาจจะต่อเวลาชีวิตอันชั่วช้าของพวกเจ้าได้ !”
อย่างไรก็ตาม ฮิวเบิร์ตเห็นริชาร์ดที่จู่ ๆ ก็ยืดมือออกพร้อมพึมพำเสียงเบา ๆ ไล่ไปจนเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เขาถึงกับงงงวยเพราะนี่มันเป็นเสียงของการร่ายคาถา !
พวกเขารอบคอบจนสังเกตเห็นประเภทและระดับของคาถาที่ผู้บุกรุกเคยร่ายออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมันก็คือไฟร์บอลและไอซิเคิลสตอร์ม… คาถาเหล่านี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ในระดับ 7 หรือ 8 เท่านั้น แล้วเหตุใดเขาจึงยังสามารถร่ายคาถาได้อีก !?
ความคิดแรกของฮิวเบิร์ตก็คือนี่เป็นเพียงกลอุบาย ศัตรูคงทำเพียงเพื่อถ่วงเวลาให้สามารถหลบหนีได้เท่านั้น ทว่าเมื่อมือของริชาร์ดเริ่มแผ่ลมหนาวออกมา เขาก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจที่กังวลของเขาหล่นวูบจนในวินาทีนั้น เขาไม่สนใจเรื่องคุณงามความดีในการจับผู้บุกรุกแบบเป็น ๆ อีกต่อไปและยกดาบของเขาขึ้นมาก่อนเหวี่ยงมันลงไปที่หัวของริชาร์ดอย่างแรง
ทันใดนั้นโฟลว์แซนด์ก็สวดบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ ลวดลายสีทองตรงระหว่างคิ้วของนางเปล่งประกายออกมาทันทีและมันทำให้รูปร่างของฮิวเบิร์ตเริ่มเบลอและบิดเบี้ยวไป
นี่ก็คือ —— เลนส์ออฟไทม์ !
ในสายตาของฮิวเบิร์ต ทุกสิ่งเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนคิดไม่ถึง ทั้งริชาร์ด โฟลว์แซนด์ และหญิงสาวในชุดสีขาวที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นเหนือเขาโดยที่เขาไม่ทันสังเกต ดาบยาวในมือของนางส่งกลิ่นแห่งความตายอย่างรุนแรงทำให้เขาจำเป็นต้องละทิ้งเป้าหมายของเขาและใช้ดาบเพื่อป้องกันดาบของหญิงสาวคนนั้นแทน
พลังของดาบสลัวเล่มนั้นดูไม่ได้ยิ่งใหญ่มากเท่าไรนักถึงขนาดที่ฮิวเบิร์ตรู้สึกว่าพลังของมันอ่อนแอ ทว่ามันกลับทิ้งรอยแตกไว้บนขอบอาวุธของเขาได้! ซึ่งนั่นหมายความว่าความแตกต่างด้านคุณภาพระหว่างอาวุธทั้งสองนั้นมีมากเหลือเกิน อีกทั้งการเคลื่อนไหวของหญิงสาวผู้นั้นก็เร็วราวกับสายฟ้าแลบและเมื่อการโจมตีล้มเหลว นางก็ใช้แรงผลักดันพุ่งตัวออกไปก่อนหยุดลงที่มุมห้องและหมอบตัวเหมือนหมาป่าที่พร้อมจะโจมตีศัตรูต่อไปอย่างรุนแรงได้ทุกเวลา
ฮิวเบิร์ตทำใจแข็งและเตรียมพร้อมที่จะสู้กลับทว่าหญิงสาวผู้นั้นรวดเร็วมากจนหัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้น ดาบอันน่าเหลือเชื่อ ความเร็วของนาง และพื้นที่แคบ ๆ มันช่างเหมาะกับสไตล์การต่อสู้ของนางอย่างยิ่ง… ตอนนี้ฮิวเบิร์ตไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรแล้วและจู่ ๆ เขาก็รู้สึกอยากถอยขึ้นมาด้วยซ้ำ
แต่แล้ว เขาก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันตามด้วยแรงกระแทกที่ส่งความเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย เกล็ดน้ำแข็งจำนวนมากที่เริ่มเกาะกันหนาขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆตรึงร่างกายของเขาไว้และยังมีน้ำแข็งที่มากกว่านั้นพุ่งผ่านเขาไปเพื่อหยุดทหาร 2 คนที่กำลังจะกระโจนตัวเข้ามาช่วยเหลือเขา ฮิวเบิร์ตเดินโซเซไปข้างหน้าทว่าเพียงในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั่วทั้งแผ่นหลังและไหล่ของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งทันทีก่อนที่มันจะขยายต่อไปที่บริเวณหน้าอกของเขาอย่างช้า ๆ
ฮิวเบิร์ตตกใจมาก เขากำลังถูกเบี่ยงเบนความสนใจโดยการคุกคามของหญิงสาวที่สวมชุดสีขาวจนลืมว่าเมจกำลังร่ายคาถาใส่เขาไปอย่างสิ้นเชิง ! แต่การที่นึกขึ้นได้ในตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเสียแล้ว การร่ายคาถาอันรวดเร็วของริชาร์ดทำให้เขาไม่มีเวลาปรับตัวให้รับมือกับสถานการณ์นี้ได้เลย
และเขายังรู้สึกอีกว่าอัตราการรวบรวมพลังงานของเขานั้นช้าลงอย่างมาก การแยกตัวออกจากพันธนาการโดยน้ำแข็งนั้นก็แย่มากพอแล้ว ทว่าหญิงสาวที่มุมห้องก็ยังจะพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมด้วยดาบในมือของนางอีก !
ฮิวเบิร์ตพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อยกดาบขึ้นมาป้องกันตัวเอง แต่เขาก็ทำได้เพียงมองอย่างทำอะไรไม่ได้เท่านั้นเมื่ออาวุธของคู่ต่อสู้แทงเข้าที่หน้าอกและหน้าท้องของเขา ในตอนนั้นเอง ด้วยอาคมชาร์ปเพนและอาเมอร์เพนเทชั่นที่ถูกเพิ่มเข้าไปนั้น ดาบอีเทอร์นอลเรสท์ก็ได้ทะลุผ่านโล่พลังงานของเขา ทำให้เกิดรูผ่านเกราะหุ้มหน้าอกและแทงลึกเข้าไปในช่องท้องของเขาทันที ส่วนปลายของดาบได้แทงทะลุและโผล่ออกบริเวณหลังส่วนล่างของเขา ! แผลฉีกขาดถูกทิ้งไว้ทั่วร่างและเมื่อหญิงสาวดึงดาบออกก็ทำให้เขาบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส
ในขณะดาบเล่มนั้นถูกดึงออกจากท้องของฮิวเบิร์ต วอเตอร์ฟลาวเวอร์ที่เท้าเปล่าเปลือยก็ถอยกลับอย่างรวดเร็วและไปอยู่ที่มุมห้องในพริบตา *ตึบ !* ชิ้นส่วนน้ำแข็งกระเด็นไปทั่ว ในที่สุดฮิวเบิร์ตก็หลุดออกจากพันธนาการของเขาได้ทว่าพลังงานที่ลุกโชนของเขาไม่สามารถปกปิดรอยแผลได้อีกต่อไป การจู่โจมของวอเตอร์ฟลาวเวอร์ได้ตัดผ่านช่วงเอวของเขาและเขาก็ไม่สามารถยืนอยู่ได้อีก เขาทรุดตัวลง เลือดและอวัยวะภายในไหลออกจากร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
ในตอนนั้นเองที่แสงสีทองรอบตัวฮิวเบิร์ตสลายไปและเขาตระหนักได้ว่ามันไม่ใช่พวกเขาที่เคลื่อนไหวเร็ว ทว่าเป็นตัวเขาเองที่เชื่องช้าไป
ในที่สุดคาถาไอซิเคิลสตอร์มของริชาร์ดก็จบลง มันผ่านประตูไปและแช่แข็งไนท์ฝึกหัดและทหาร 3 คนที่หมดหนทางเข้าสู่เส้นทางของพวกเขาได้อีก การได้เห็นฮิวเบิร์ตถูกล้อมรอบและถูกสังหารโดยริชาร์ดและวอเตอร์ฟลาวเวอร์ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีนั้นทำให้เหล่าไนท์ฝึกหัดหวาดกลัวขึ้นมา พวกเขาใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อเร่งพลังงานขณะที่พยายามปลดปล่อยตัวเองจนเป็นอิสระจากพันธนาการและสามารถหลีกเลี่ยงออกจากเส้นทางของไฟร์บอลที่กำลังมุ่งหน้ามาหาได้
คลื่นไฟร์บอลพัดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้ง ไม่ใช่เพียงแค่ทหาร 3 คนที่ถูกแช่แข็งที่ประตูเท่านั้น เพลิงไหม้ยังได้กลืนกินทหารอีก 2–3 คนของฮิวเบิร์ตไปด้วย วอริเออร์ธรรมดาเหล่านี้ไม่สามารถรับผลกระทบจากคาถาได้อย่างเต็มที่ พวกเขาเริ่มล้มลงและกลิ้งไปบนพื้นขณะที่เปลวไฟลุกโชนท่วมตัว เสียงโหยหวนอันน่าเวทนาดังก้องไปทั่วพื้นที่
สถานการณ์บริเวณด้านหน้าของฐานในขณะนี้เป็นความโกลาหลโดยสมบูรณ์ กำแพงได้สูญเสียการใช้งานทั้งหมดแล้วและแกงดอร์กับเหล่าทหารราบก็ได้ถอนตัวจากบนกำแพงเพื่อไปต่อสู้ภายในฐานกับศัตรูแทน พวกเขาร่วมมือกันอย่างดีโดยแบ่งออกเป็นกลุ่มและย้ายตัวจากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารหนึ่งและใช้ความคุ้นเคยของภูมิประเทศซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของพวกเขาเข้าช่วย
คอมเม้นต์