นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 2 ตอนที่ 149

อ่านนิยายจีนเรื่อง นครแห่งบาป City of Sin ตอนที่ 149 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ในเวลานั้นบรู้ดมาเธอร์กําลังเบียดร่างของมันผ่านผืนป่า มันมีพละกําลังที่มหาศาลจนสามารถล้มต้นไม้ทุกต้นในเส้นทางที่มันผ่านไปได้ขณะที่ทิ้งร่องรอยที่มองเห็นได้ชัดทั่วป่าเอาไว้ เมื่อต้นไม้ต้นสุดท้ายล้มลง ค่ายก็อบลินก็ปรากฏขึ้นจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

ตัวค่ายใช้พื้นบริเวณเนินเขาทั้งหมด ค่ายนี้ล้อมรอบด้วยรั้วกิ่งไม้ที่ทําหน้าที่เป็นรั้วหยาบ ๆ ทั่วพื้นที่เกลื่อนไปด้วยกระท่อมที่สร้างขึ้นอย่างหยาบ ๆ เช่นเดียวกับรั้ว และสิ่งที่น่าแปลกก็คือมีถ้ำไปสู่ใต้ดินอยู่ในนั้น ก็อบลินส่วนใหญ่เคยชินกับการอาศัยอยู่ในถ้ำ มีเพียงพวกที่ร่ํารวยและมีอํานาจมากที่สุดเท่านั้นที่จะพักอยู่ในกระท่อมอย่างหรูหราได้

 

มีก็อบลินมากมายเข้าออกจากถ้ำนั้นและบรู้ดมาเธอร์ก็พบว่านี่ไม่ใช่แค่ค่ายที่มีก็อบลินเพียงแค่ 200 ตัวอย่างที่มันคิดในตอนแรกทว่ามันเป็นชนเผ่าที่เต็มไปด้วยผู้อยู่อาศัยกว่า 1,000 ตัว !

 

แต่ถึงอย่างไรการโจมตีก็เริ่มต้นโดยไม่ลังเล ก็อบลินจํานวนนับไม่ถ้วนคํารามร้องและกวัดแกว่งอาวุธทุกชนิดขณะที่พวกมันรีบออกจากค่าย พวกมันขึ้นไปสู้กับลูกสมุนทํางานขนาดใหญ่ 9 ตัวซึ่งแต่ละตัวมีความยาวประมาณ 1 เมตรครึ่ง พวกมันมีความสามารถในการโจมตีที่ยอดเยี่ยมรวมไปถึงพิษอัมพาตและใบมีดที่คมกริบ ลูกสมุนทํางานสังหารพวกก็อบลินด้วยทุกการเคลื่อนไหวของพวกมันทว่าก็อบลินยังคงเหนือก ว่าในเรื่องของจํานวนที่มีมากมาย ลูกสมุนทํางานตัวหนึ่งตอบสนองช้าไปเพียงเสี้ยววินาทีเดียวมันจึงถูกก็อบลิน 2 ตัวซุ่มโจมตีและถูกก็อบลินที่ตามมานับสิบรุมสังหารจนตาย ช่วงเวลาที่มีลูกสมุนถูกสังหารนั้นบรู้ดมาเธอร์รู้สึกได้ว่าพลังชีวิตของมันกําลังหลั่งไหลออกไปภายใต้จิตสํานึก

 

เสียงต่ำดังก้องขึ้นในปาเมื่อแร็พเตอร์ที่ดุร้าย 3 ตัวพุ่งเข้าหาก็อบลินพวกนั้น มันเป็นการต่อสู้ที่นองเลือดทันที พวกนี้คือ “ลูกสมุนจู่โจม” ที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ซึ่งแตกต่างจาก ลูกสมุนทํางาน” ที่มีหน้าที่รวบรวมอาหาร แขนขาด้านหน้าที่แหลมคมเหมือนใบมีดของพวกมันสามารถตัดร่างของก็อบลินให้แยกออกจากกันได้อย่างง่ายดายและด้วยการเสริมความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นทําให้พวกมันสามารถฟันแยกชิ้นส่วนร่างของก็อบลิน 2-3 ตัวได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว นอกจากความดุร้ายแล้ว แร็พเตอร์ยังได้รับลักษณะอีกอย่างหนึ่งเพิ่มขึ้นมานั่นก็คือปากขนาดใหญ่อย่างผิดปกติของพวกมันที่สามารถฉีกร่างก็อบลินที่แข็งแกร่งที่สุดออกเป็นชิ้น ๆ ได้โดยไม่ ต้องออกแรงอะไรมากเลย

 

และยิ่งไปกว่านั้น แร็พเตอร์ทุกตัวล้วนมีร่างกายที่แข็งแกร่งและคล่องแคล่วมาก อย่างมากก็อบลินเหล่านี้จึงทําได้แค่สร้างบาดแผลบาง ๆ ให้กับมันเท่านั้นซึ่งก็สร้างความเสียหายได้ไม่มากนัก การโจมตีบางส่วนของพวกมันต้องพลาดไปเพราะแร็พเตอร์มีความรวดเร็วอย่างมาก

 

เมื่อมีแร็พเตอร์เพิ่มเข้ามาในการต่อสู้ พวกก็อบลินก็ต้องสูญเสียชีวิตไปเป็นจํานวนมาก อีกทั้งบรู้ดมาเธอร์ที่อยู่ด้านนอกค่ายก็ยิ่งทําให้สถานการณ์เลวร้ายลงมากยิ่งขึ้นอีก มันเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ได้ทําลายความมั่นใจที่ก็อบลินมีหลงเหลืออยู่ออก เป็นเสี่ยง ๆ ถึงแม้ว่าถึงตอนนี้พวกมันเพิ่งจะสูญเสียทหารไป แล้วแค่ประมาณ 200 ตัวก็ตาม

 

พวกก็อบลินเริ่มกระจัดกระจายกันไปทุกทิศทาง ทั้งวิ่งเข้าไปในปาและวิ่งไปทางด้านในค่าย แต่แน่นอนว่าบรู้ดมาเธอร์ที่เฉื่อยชาย่อมไม่สามารถตามได้ทัน สิ่งที่มันทําได้จึงเป็นการออกคําสั่งให้แร็พเตอร์และลูกสมุนทํางานกระจายกําลังกันออกไล่ล่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ก็อบลินจะมีความอ่อนแอในการต่อสู้ทว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่รวดเร็ว ด้วยเพราะแร็พเตอร์และลูกสมุนทํางานมีจํานวนไม่มากและต้องรักษาระยะห่างอยู่ในระยะที่ปลอดภัยจากบรัดมาเธอร์ทําให้พวกก็อบลินล้มตายเพิ่มขึ้นเพียง 100 ตัวเท่านั้น และบัดนี้การไล่ล่าก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

 

บรู้ดมาเธอร์ยังคงเดินหน้าเข้าไปในค่ายโดยไม่สนใจอาหาร ทุกอย่างที่เกลื่อนอยู่บนพื้น มันรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่น่าดึงดูดใจจากในค่ายก็อบลินแห่งนี้ซึ่งเป็นคลื่นพลังทางจิตวิญญาณที่พรรณนาไม่ได้

 

รั้วที่ล้อมรอบค่ายอยู่ไม่ต่างอะไรกับกิ่งไม้เที่ยวแห้งซึ่งทําให้บรู้ดมาเธอร์สามารถเดินผ่านพวกก็อบลินไปได้ง่าย ๆ มันเคลื่อนตัวไปยังศูนย์กลางของค่ายและหยุดลงที่ก้อนหินก้อนหนึ่งซึ่งดูเหมือนแท่นบูชา แท่นบูชา 2 เมตรแห่งนี้เป็นแหล่งกําเนิดของแรงดึงดูดลึกลับที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่สําหรับเหล่าก็อบลินนั้น แท่นหินนี้ถือว่าเป็นประติมากรรมที่มีโครงสร้างงดงาม

 

มีรูปปั้นหินที่ดูแปลกตาสร้างอยู่บนแท่นบูชาซึ่งทําเป็นรูปร่างของโนมส์หุ้มเกราะครบชุดกําลังถือขวานขนาดมหึมาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มันถูกแกะสลักอย่างประณีตและดูสมจริง แตกต่างจากรูปปั้นหยาบ ๆ และยุ่งเหยิงของก็อบลินบางอัน รูปร่างของมันสง่างามและแผ่ออร่าแห่งความตายออกมาจาง ๆ พวกก็อบลินไม่สามารถสร้างงานศิลปะที่วิจิตรบรรจงเช่นนี้ได้ แน่นอนทว่ากลับมีรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ ณ ที่นี่

 

การบูชาบรรพบุรุษ ! รูปปั้นนี้เป็นต้นแบบของบรรพบุรุษชาวก็อบลินที่ชนเผ่านี้เคารพบูชาและเป็นสิ่งที่ดึงดูดบรู้ดมาเธอร์อย่างมาก คงไม่มีใครคิดว่าก็อบลินจะสามารถทําอะไรแบบนี้ได้

 

รอยแตกและการกัดเซาะของรูปปั้นบ่งบอกว่ามันได้เผชิญ กับความเดือดดาลจากธรรมชาติมาเป็นเวลานานและดูเหมือนว่ามันมีอายุอย่างน้อย 200-300 ปี พวกก็อบลินบูชารูปปั้นนี้ มาตลอดระยะเวลาอันยาวนานซึ่งเป็นเหตุผลว่าทําไมมันถึงมีพลังเสมือนเทพ และพลังที่เหมือนเทพเหล่านั้นก็เป็นสิ่งที่ร้องเรียกบรู้ดมาเธอร์ให้มาใกล้

 

บรู้ดมาเธอร์ยืดตัวขึ้นพร้อมทั้งอ้าปากกว้างให้มากที่สุดเท่าที่มันจะสามารถอ้าได้ก่อนที่มันจะกลืนรูปปั้นนั้นลงคอไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มันยังไม่หยุดเพียงแค่นั้นโดยมันใช้ก้ามหนีบที่ปากของมันตัดแท่นบูชาให้แยกออกจากกัน แท่นบูชาหินนั้นแหลกละเอียดทันที่ราวกับเป็นขนมปังอบสดใหม่ และจากนั้นมันก็หยิบชิ้นส่วนที่เหลือกลืนลงคออย่างขี้เกียจ แม้ว่า มันจะไม่ได้เป็นเหมือนกับรูปปั้นทว่าแท่นบูชานี้ก็มีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่จาง ๆ เช่นกัน มันจะไม่ยอมปล่อยให้อะไรสูญเปล่าไปอย่างแน่นอน

 

ในขณะที่บรู้ดมาเธอร์เริ่มย่อยรูปปั้นนั้นอย่างรวดเร็ว จู่ ๆ ความเจ็บปวดที่ลุกโชนก็ปะทุขึ้นในร่างกายของมัน นี่คือผลลัพธ์ของพลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่กําลังถูกย่อยสลายและดูดซึมลงไป

 

“บรู้ดมาเธอร์ เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ ?? เสียงของริชาร์ดดังขึ้นในจิตใต้สํานึกของมันทันที เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของมันจึงถามด้วยความกังวล

 

“ข้าไม่เป็นไรมาสเตอร์ ข้าพบแท่นบูชาสําหรับการบูชาบรรพบุรุษที่ค่ายก็อบลิน มันเป็นสิ่งที่ข้ากําลังมองหาอยู่พอดี เพราะมันคือแหล่งที่มาของพลังงานอันน่ามหัศจรรย์ มันสามารถเพิ่มอบิลิตให้แก่ข้าได้มากมายข้าจึงกินแท่นบูชานั้นทั้งหมดไป ข้าแค่ต้องใช้เวลาสักหน่อยในการย่อยพลังอันยิ่งใหญ่ที่ท้าทายและเจ็บปวดนี้

 

“แท่นบูชาสําหรับบูชาบรรพบุรุษร ? เจ้าสามารถดูดซับพลังอันศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างนั้นหรือ ?” ริชาร์ดรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง

 

โอ้ ! พลังนี้ศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ ? ข้าไม่ได้รู้สึกว่ามันกว้างใหญ่ และลึกลับอะไรเท่าไหร่นัก มันต่างจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงที่ข้าเคยพานพบอย่างเช่นพลังของมิสโฟลว์แซนด์ ข้าไม่สามารถดูดซับพลังของมิสโฟลว์แซนด์ได้แม้แต่นิดเดียว” 

 

เมื่อได้ฟังเช่นนั้นริชาร์ดถึงกับหัวเราะออกมา “โฟลว์แซนด์มีพลังแห่งมังกรนิรันดรซึ่งเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่เทพเจ้าที่ทรงพลังที่สุดก็ยังไม่สามารถเทียบกับพลังของมังกรนิรันดร ได้แต่ไม่ว่ายังไงมันก็อาจจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่านี้บนเพลนนับไม่ถ้วนแค่ตอนนี้เรายังไม่รู้อะไรเลยว่าแต่ว่าเจ้าได้รับพลังอะไร จากแท่นบูชานั้น ?

 

“ข้ายังบอกไม่ได้เพราข้ายังไม่ได้ดูดซับพลังของมันอย่างเต็มที่ ในตอนนี้มันแค่ให้ความจุพลังงานที่เพิ่มมากขึ้นแก่ข้าเท่านั้นมาสเตอร์” บรู้ดมาเธอร์ตอบซึ่งในขณะนั้นริชาร์ดก็รู้สึกได้ว่า แถบพลังงานของมันกําลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในหัวของเขา มันเพิ่มขึ้นอย่างคงที่จนกระทั่งมันใหญ่ขึ้นมากกว่า 1 ใน 3 ส่วนของขนาดก่อนหน้านี้เล็กน้อย ซึ่งหมายความว่าหากได้รับอาหารอย่างเพียงพอ บรู้ดมาเธอร์จะสามารถดูแลแร็พเตอร์ได้มากถึง 12 ตัว

 

นอกจากนี้เขายังรู้สึกได้ถึงจุดที่มีแสงสลัวอยู่ลึกเข้าไปภายในร่างกายของบรัดมาเธอร์ด้วยแต่เขามองไม่เห็นว่า มันคืออะไร

 

เมื่อกินแท่นบูชาเข้าไปแล้ว บรู้ดมาเธอร์ก็เริ่มกินอาหารที่เหลือและพลังงานของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ

 

ตรงริมแม่น้ำห่างจากเมืองหลวงของบารอนประมาณ 10 กิ โลเมตรเป็นเมืองขนาดเล็กที่สวยงาม ที่นี่คือดินแดนของเซอร์โคแคทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ตั้งที่เหมาะสมที่สุดและอาหารพื้นเมืองของที่นี่ก็อร่อยพิเศษ ปลาแมคเคอเรลจากแม่น้ำมีความสดและมีรสกลมกล่อมดีซึ่งเป็นที่โปรดปรานบนโต๊ะอาหารค่ำของเหล่าขุนนาง และด้วยความมั่งคั่งในพื้นที่ของเขา โคแคทจึงสามารถสร้างปราสาทขนาดเล็กได้

 

ภายนอกปราสาทออกแบบในแนวคลาสสิคโดยมีกําแพงสูง และหน้าต่างทรงแคบ อย่างไรก็ตาม การตกแต่งภายในนั้นสวยงามและหรูหราอย่างมาก แต่ละห้องได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยม มีสไตล์ และเอื้อให้เกิดความรู้สึกสบายใจ เห็นได้ชัดว่านี่คือราชวังที่ไม่ได้มีไว้สําหรับต่อสู้

 

ส่วนบนของปราสาทก็แตกต่างจากประเพณีการก่อสร้างใน แบบอื่น ๆ เช่นกัน มีระเบียงครึ่งวงกลมอยู่ด้านบนทําให้เจ้าของสามารถชื่นชมทิวทัศน์รอบ ๆ ได้ในเวลาว่าง ซึ่งสิ่งนี้สอดคล้องกับสไตล์ของไนท์ผู้นี้ เขาชื่นชอบการใช้ทองคําและการเมืองเพื่อจัดการกับศัตรูของเขาเพราะเขาไม่เน้นใช้ความรุนแรง

 

อย่างไรก็ตาม ภายในห้องโถงที่เขารักมากที่สุด เซอร์โคแคทกําลังเกรี้ยวโกรธราวกับสิงโต เขาเดินไปมาไม่หยุดทว่านั่นก็ทําให้ความโกรธในใจของเขาลดลงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาเหวี่ยงมือออกไปปัดโดนแจกันที่ซับซ้อนจนมันลอยไปชนกับกําแพงและแตกเป็นเสี่ยง ๆ หัวหน้าพ่อบ้านตกใจมากเมื่อได้ยินเสียงแจกันตกแตกตัวเขาเริ่มสั่นเทาด้วย ความหวาดกลัวและเขาก็ไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบพุ่งออกไปให้ห่างจากประตูทันทีเพื่อจะได้ไม่ต้องได้ยินในสิ่งที่เขาไม่ควรได้ยิน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด