ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 25 : เอาชนะซ่งปิง
อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ตอนที่ 25 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
บทที่ 25 : เอาชนะซ่งปิง
ทุกคนในห้องต่างก็จ้องมองซูอานด้วยแววตาขุ่นเคือง..
ก่อนหน้านี้.. บรรดาเด็กหนุ่มที่ถูกนำตัวเข้ามาในห้องวีไอพี ต่างก็เข้ามาด้วยอารมณ์เดือดดาล แต่เมื่อได้รู้ว่าคนที่อยู่ในห้องคือเสือหัวโล้น ทุกคนต่างก็เปลี่ยนเป็นตกใจกลัว และหวาดผวาแทนทันที!
เด็กหนุ่มสาวที่ถูกนำตัวเข้ามาในห้องนี้ ล้วนเป็นเพียงแค่นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และเด็กนักเรียนเท่านั้น ส่วนชื่อเสียงของเสือหัวโล้นและแก๊งพยัคฆ์นั้น ทุกคนต่างก็เคยได้ยินได้ฟังมานาน เพียงแค่ได้ยินชื่อก็ทำให้เด็กหนุ่มสาวกลุ่มนี้ถึงกับหวาดกลัวอย่างมากแล้ว แต่นี่ต้องมาอยู่ต่อหน้าจึงถึงกับกลัวจนปากคอสั่น
แก๊งพยัคฆ์เป็นผู้มีอิทธิพลและมีธุรกิจมากมาย แม้ฐานะครอบครัวของเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้จะร่ำรวย แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับรายได้ของแก๊งพยัคฆ์เลยแม้แต่น้อย
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแก๊งพยัคฆ์นั้นก็คือคนใหญ่คนโตแทบทั้งนั้น!
การที่ซูอานทำตัวเป็นปรปักษ์กับแก๊งพยัคฆ์เช่นนี้ มีหรือที่เด็กหนุ่มสาวที่อยู่ภายในห้องจะทนนิ่งเฉยได้อีก..
“ซูอาน! แกหุบปากไปเลย แล้วก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับพวกเราสักที!”
เด็กวัยรุ่นสวมแว่นตาคนหนึ่งร้องตะโกนออกมาพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว เขาจ้องมองซูอานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เมื่อครู่เสือหัวโล้นอุตส่าห์เมตตาปล่อยพวกเราไปแล้ว แต่เป็นเพราะแก.. ถ้าแกไม่พูดอะไรออกมาพวกเราก็ได้กลับบ้านแล้ว นี่.. นี่แกทำร้ายพวกเราชัดๆ!”
“ต้องโทษเจียงเหวินเหวินคนเดียวเลย! ถ้าเธอไม่พาซูอานมาด้วย ป่านนี้พวกเราก็ได้กลับบ้านกันหมดแล้ว!”
เด็กสาวคางแหลมคนหนึ่งจ้องมองเจียงเหวินเหวินด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก พร้อมกับโยนความผิดทั้งหมดให้เธอ
“นั่นสิ! เป็นเพราะเจียงเหวินเหวินคนเดียว เป็นความผิดของเธอ!”
เจียงเหวินเหวินจ้องมองเพื่อนๆด้วยความตกใจกลัว เพราะเวลานี้ทุกคนต่างก็มองเธอด้วยสายตาขุ่นเคืองพร้อมกับชี้นิ้วมาทางเธอเพียงคนเดียว
“ฮือๆๆ ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นนี่? ฉันไม่รู้จริงๆ!”
เจียงเหวินเหวินพูดไปก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย ตอนนี้เธอทั้งรู้สึกหวาดกลัวและเสียใจไปพร้อมๆกัน
คิ้วทั้งสองข้างของซูอานเริ่มขมวดเข้าหากัน การที่ได้เห็นเจียงเหวินเหวินร้องไห้เสียใจเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาเล็กน้อย แม้เขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเจียงเหวินเหวิน แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นเด็กสาวที่ดีคนหนึ่ง!
ซูอานเดินตรงเข้าไปหาเจียงเหวินเหวิน พร้อมกับยื่นฝ่ามือที่ขาวราวหยกนั้นออกไปตบบ่าของเธอเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลม และทำให้เธอหยุดร้องไห้
“ไม่ต้องตกใจ.. เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า แล้วก็ไม่ต้องกลัวพวกมันด้วย!”
หลังจากที่ปลอบประโลมเจียงเหวินเหวินแล้ว ซูอานจึงหันไปทางเสือหัวโล้นพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก
“ข้าจะพาผู้หญิงสองคนนี้กลับไป”
ที่ซูอานยืนกรานจะนำหญิงสาวทั้งสองคนกลับไปนั้น เพราะผู้หญิงอีกคนที่นั่งขดอยู่มุมห้องนั้น แท้จริงก็คือพนักงานเสริฟสาวที่ชื่อว่าเสี่ยวเอ้อม๋อนั่นเอง
เพราะหากจะพูดไป เสี่ยวเอ้อม๋อก็นับเป็นคนรู้จักของเขาแล้ว ซูอานจึงไม่ต้องการเห็นนางถูกชายที่ชื่อหัวหน้าคิมนี้ทำลาย
เสือหัวล้านได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความโมโห เขาจ้องมองซูอานด้วยความสนอกสนใจ เพราะหลายปีมานี้ไม่เคยมีผู้ใดกล้าพูดจาโอหังต่อหน้าเขาเช่นนี้มาก่อนเลย
“เจ้าหนู.. แกท่าทางจองหองอวดดีไม่น้อยเลยนะ ฉันเองก็อยากจะรู้นักว่าแกจะมีปัญญามากแค่ไหน?”
เสือหัวโล้นพูดจบ ก็หันไปพยักหน้าให้กับชายร่างใหญ่หลายคนในห้อง แล้วทั้งหมดก็ตรงเข้าไปล้อมร่างของซูอานไว้ทันที!
เจียงเหวินเหวินถึงกับตกอกตกใจและกระวนกระวายมากยิ่งกว่าเดิม แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนั่งดูเพียงอย่างเดียว..
ซูอานนั้นต้องเผชิญกับชะตากรรมที่โชคร้ายมามากพอแล้ว เจียงเหวินเหวินไม่ต้องการเห็นซูอานถูกนักเลงพวกนี้ฆ่าตายอีก..
กัวเว่ยที่ยืนอยู่ข้างเสือหัวโล้นเห็นเช่นนั้น จึงรีบพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและท่าทางที่เคารพนบนอบ
“เสือหัวโล้น เขาไม่ได้มากับพวกเราจริงๆ อย่าไปถือสาคำพูดของเขาเลย!”
ในขณะที่จางเฉียงเองก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คิดจะให้ฉันทิ้งแฟนไว้ที่นี่แล้วหนีไป พวกแกฆ่าฉันทิ้งเลยดีกว่า!”
หัวหน้าคิมได้ยินจึงลุกขึ้นเดินไปเตะเข้าที่ร่างของจางเฉียงเข้าหลายที จนจางเฉียงถึงกับจุกจนพูดอะไรไม่ออก
กัวเว่ยเห็นเช่นนั้นจึงร้องบอกจางเฉียงด้วยสีหน้ากระวนกระวายใจ “เจ้าเฉียง! ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ นายยังจะทำตัวเป็นพระเอกอยู่อีกหรือไง?”
“เสี่ยวเอ้อม๋อเป็นแฟนของฉันนะพี่เว่ย พี่จะให้ฉันทิ้งเธอไปได้ยังไง?”
ดวงตาของจางเฉียงแดงก่ำในขณะที่เหลือบมองไปทางเสี่ยวเอ้อม๋อที่นั่งขดอยู่มุมห้อง จิตใจของเขาเวลานี้เจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก เขาเป็นลูกผู้ชายแท้ๆ แต่กลับไม่สามารถปกป้องคุ้มครองแฟนสาวของตัวเองได้ ความรู้สึกเช่นนี้จึงเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ซูอานได้แต่พยักหน้าเล็กน้อย และนึกชื่นชมในความเป็นลูกผู้ชายของจางเฉียง เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียวในจุดนี้
“ซ้อมมันจนกว่าจะตาย!”
สิ้นคำสั่งของเสือหัวโล้น กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ล้อมซูอานอยู่ ก็พากันประเคนทั้งหมัดและเท้าเข้าใส่ร่างของเขาอย่างพร้อมเพรียงกัน และหากเป็นเช่นนี้ก็คงยากที่ซูอานจะมีชีวิตรอดกลับไปได้
แต่ไม่ว่าพวกมันจะทั้งเตะและต่อยเข้าใส่ร่างของซูอานรุนแรงมากเพียงใด พวกมันก็รู้สึกราวกับว่ากำลังเตะและต่อยหินแข็งก้อนหนึ่งเท่านั้น พวกมันต่างก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดทุกครั้งที่หมัดและเท้าสัมผัสเข้ากับร่างของซูอาน
บริเวณท้องน้อยของซูอานขยับไปมาเล็กน้อย และหากซูอานไม่รวบรวมพลังลมปราณไปทั่วร่าง ป่านนี้เขาก็คงต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย
เมื่อเห็นเหล่าชายฉกรรจ์ที่พากันถอยออกมาบ้าง ล้มลงไปกับพื้นบ้าง ต่างก็ร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด เสือหัวโล้นก็ถึงกับตกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับตนได้ถึงเพียงนี้
เสือหัวโล้นถึงกับใจสั่น และคิดว่าวิธีนี้คงจะไม่สามารถจัดการกับซูอานได้แน่!
ทางด้านเจียงเหวินเหวินและคนอื่นๆ ต่างก็พากันอ้าปากหวอ และแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง..
เวลานี้เจียงเหวินเหวินเริ่มเข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดซูอานจึงสามารถทำร้ายโจวไห่หวงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขนาดนั้นได้
ชายฉกรรจ์รูปร่างคล้ายทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกายเสือหัวโล้นเป็นฝ่ายพูดขึ้นว่า “เจ้านาย.. ให้ข้าจัดการกับมันเอง!”
เสือหัวโล้นได้ยินก็ถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข และรีบบอกกับชายฉกรรจ์ผู้นั้นว่า “ได้สิซ่งปิง! แกจัดการฆ่ามันทิ้งซะ แล้วฉันจะตบรางวัลให้อย่างงาม!”
สีหน้าของซ่งปิงนั้นนิ่งขรึมและเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น และที่เขาติดตามเสือหัวโล้นนั้นก็ไม่ใช่เพราะเงิน แต่เป็นเพราะเสือหัวโล้นได้ช่วยชีวิตของเขาไว้
อดีตซ่งปิงเคยเป็นทหาร หลังจากที่ออกจากราชการมา เขาก็ไปเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย และใช้ชีวิตมาอย่างสงบ จนกระทั่งไปมีเรื่องกับคนร่ำรวยคนหนึ่งเข้า
ชายร่ำรวยคนนั้นไม่เพียงดูถูกเหยียดหยามเขา แต่ยังกลั่นแกล้งและรังแกครอบครัวของเขาด้วย เขาจึงไปแก้แค้นและลงมือฆ่าชายคนนั้นตาย ท้ายที่สุดถูกศาลตัดสินให้รับโทษหนัก!
ความจริงแล้วซ่งปิงต้องได้รับโทษจำคุกมากกว่ายี่สิบปี แต่หลังจากที่เสือหัวโล้นรู้ข่าวเข้า จึงไปช่วยให้เขาได้ออกจากคุกทันที และนับตั้งแต่นั้นมาเขาก็จะปรากฏตัวอยู่ข้างกายเสือหัวโล้นตลอดเวลา
ซ่งปิงมีดวงตาที่โตและมีคิ้วที่หน้า ใบหน้าของเขามักเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธหรือว่าดีใจ อีกทั้งยังเป็นคนที่ไม่โอ้อวด รูปร่างของเขานั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ และลักษณะรูปร่างเช่นนี้ก็บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งและการมีพื้นฐานทางการทหารที่ดี..
“แกบังอาจเป็นศัตรูกับเสือหัวล้าน อย่าได้ตำหนิฉันเลยนะ!”
ซ่งปิงพุ่งเข้าไปหาซูอานทันที จากนั้นจึงจัดการชกเข้ากับร่างของเขา แม้เพลงมวยที่ซ่งปิงใช้นั้นจะไม่ใช่ชุดเพลงมวยที่มีชื่อ แต่ก็แข็งแกร่งมากทีเดียว และในฐานะที่เคยเป็นทหารเก่า ซ่งปิงย่อมเคยผ่านการฝึกฝนที่หนักหนาสาหัสมาอย่างมากมาย และย่อมต้องเคยผ่านการฝึกชี่กงมาด้วยเช่นกัน
ซูอานได้แต่ยืนพยักหน้าเล็กน้อย เมื่อเห็นซ่งปิงใช้เพลงหมัดชุดนี้!
หมัดของซ่งปิงนั้นทั้งแข็งแกร่ง รวดเร็ว และแหลมคม แต่ละหมัดที่ส่งออกมานั้นล้วนแล้วแต่มุ่งเอาชีวิตในทันที!
ทันทีที่หมัดของทั้งคู่ปะทะกัน ก็เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง แต่ทั้งคู่ต่างก็มีใครถอย ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายกำลังทดสอบพละกำลังของซึ่งกันและกันอยู่
ในขณะที่ร่างกายของซ่งปิงดูเกร็งขึ้นมากกว่าเดิม สีหน้าดูเคร่งเครียดมากขึ้น แต่ซูอานกลับยังคงมีท่าทีผ่อนคลายเช่นเคย..
เมื่อซูอานเข้าสู่ระดับเริ่มต้นของขั้นปรับพื้นฐานลมปราณแล้ว แน่นอนว่าร่างกายของเขาย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าซูอานที่มีรูปร่างผอมบางคนเดิม อีกทั้งตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนมานี้ ซูอานก็ได้ฝึกฝนร่างกายของตนเองมาโดยตลอด ร่างกายของเขาเวลานี้จึงนับว่าแข็งแกร่งกว่าซ่งปิงอย่างแน่นอน!
มือและแขนของซ่งปิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และเวลานี้เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นมาจนเต็มหน้าผากของเขา
ในที่สุดซูอานก็ยิ้มออกมา และพูดกับซ่งปิงว่า “เจ้ายังแข็งแกร่งไม่พอ..”
จากนั้นซูอานก็รวบรวมพลังปราณภายในจุดตันเถียนของตนเองอีกครั้ง เขาถ่ายเทพลังปราณไปที่หมัดของตน และชกเข้าใส่หมัดของซ่งปิงที่พุ่งเข้ามา พลังปราณที่พุ่งออกจากหมัดของซูอานกระแทกเข้ากับหมัดของซ่งปิงอย่างรุนแรง จนร่างของซ่งปิงลอยกระเด็นถอยหลังออกไป ก่อนจะร่วงลงกระแทกกับพื้นในที่สุด
สีหน้าของซ่งปิงเปลี่ยนไปทันที เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดที่มือเป็นอย่างมาก และรู้ได้ทันทีว่ากระดูกมือของตนเองน่าจะแตกละเอียด
นี่เป็นเรื่องที่ซ่งปิงคาดไม่ถึง เขาถึงกับนิ่งไปด้วยความตกใจ จนกระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่จึงได้พูดออกมาว่า
“พ่อหนุ่ม คิดไม่ถึงว่าเธอจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นี่เธอฝึกกำลังภายในด้วยรึ?”
“ถูกต้อง!”
“มิน่า..”
ซ่งปิงพยักหน้ารับรู้ และจากการประมือกันเมื่อครู่นั้น ทำให้ซ่งปิงได้รู้ว่าตนซึ่งฝึกกำลังภายในได้เพียงแค่ขั้นพื้นฐานนั้น ไม่อาจที่จะเอาชนะซูอานซึ่งอยู่ในขั้นกลางได้แน่ อีกทั้งซูอานยังสามารถควบคุมพลังปราณ และใช้งานได้เหนือกว่าตนมากนัก
เวลานี้ทุกคนในห้องต่างพากันนิ่งอึ้งไป ไม่มีใครคาดคิดว่าซูอานจะแข็งแกร่งได้มากมายถึงเพียงนี้ แม้แต่เสือหัวโล้นเองยังถึงกับพ่นชาที่กำลังดื่มออกจากปากด้วยความตกใจ พร้อมกับจ้องมองซูอานด้วยสีหน้าแววตาหวาดผวา
เขารู้ดีว่าซ่งปิงนั้นแข็งแกร่งและมีพลังมากเพียงใด แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับแข็งแกร่งกว่าซ่งปิง เช่นนี้แล้วจะไม่ให้เสือหัวโล้นรู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไรกันเล่า?
ซูอานหันไปมองเสือหัวโล้นด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก “ข้าจะพาคนไปได้หรือยัง?”
คอมเม้นต์