ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 37 : หนวกหู!

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ตอนที่ 37 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 37 : หนวกหู!

ทันทีที่ซูอานได้ยินเสียงดังคล้ายคนทะเลาะกันอยู่ในห้องประชุม เขาก็รีบเดินตรงเข้าไปด้านในทันที

ทันทีที่ซูอานเดินไปถึงหน้าประตูที่เปิดค้างไว้ เขาก็เห็นร่างของฉีเสี่ยวจือที่ดูคล้ายกำลังจะเป็นลมหมดสติ จึงรีบวิ่งเข้าไปโดยไม่เคาะประตูให้สุ้มให้เสียงตามมารยาท และทันทีที่เข้าไป เขาก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวที่ดูเย็นชา และกำลังยืนโอนเอนใบหน้าซีดเซียวผู้นี้ก็คือประธานหญิงแห่งยู๋ไห่กรุ๊ป

เจียงเหวินเหวินอ้อนวอนขอร้องให้ซูอานช่วย และหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของเจียงเหวินเหวิน เขาก็ตกลงใจที่จะช่วยทันที

เวลานี้ใบหน้าของฉีเสี่ยวจือซีดขาวราวไก่ต้ม และดูเหมือนอาการของเธอจะไม่สู้ดีนัก เพราะแม้แต่ริมฝีปากที่สั่นระริกนั้นยังไร้ซึ่งสีเลือด..

ซูอานเห็นเช่นนั้นจึงรีบตรงเข้าไปจับข้อมือของฉีเสี่ยวจือเพื่อตรวจชีพจรให้กับเธอทันที!

บรรดาผู้ถือหุ้นที่นั่งนิ่งเฉยอยู่ภายในห้อง ไม่เพียงจ้องมองฉีเสี่ยวจืออย่างไม่รู้สึกเห็นใจ สายตาของพวกเขายังบ่งบอกว่าไม่ใช่เรื่องของตนเองอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นบางคนยังถึงกับพูดจาถากถางขึ้นมา

โธ่เอ๊ยคิดเหรอว่าแกล้งป่วยแบบนี้แล้วพวกเราจะสงสาร!”

ไม่สบายก็กลับไปได้เลย เรื่องแค่นี้พวกเราในฐานะกรรมการบริษัท ก็สามารถตัดสินใจเองได้!”

นั่นสิรีบๆเซ็นต์สัญญาซื้อขายบริษัท แล้วก็กลับไปพักผ่อน!”

ทุกคนต่างก็พากันบีบคั้นให้ฉีเสี่ยวจือเซ็นต์สัญญาซื้อขาย เพราะหลังจากนั้นพวกเขาก็จะได้เงินก้อนโตพร้อมกับตำแหน่งกรรมการเช่นเดิม

ใครบางคนถึงกับเอ่ยออกมาว่า “ถ้าเธอไม่รับเงื่อนไขของคุณชายเว่ย ก็เซ็นต์สัญญาซื้อขาย แล้วรับเงินหนึ่งร้อยล้านไป เงินจำนวนนี้จะทำให้เธออยู่ได้อย่างสบายเลยล่ะ ทำไมยังต้องดื้อดึงอีก?”

เจียงเจิ้งไล๋ที่นิ่งฟังไม่พูดไม่จาอยู่นาน เวลานี้ถึงกับโกรธจนตัวสั่นเทิ้มไปหมด เขาคิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะหน้าด้านไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้!

พวกคุณ.. พวกคุณทำไมถึงได้ไร้ยางอายกันแบบนี้!”

เจียงเจิ้งไล๋ยกมือขึ้นชี้หน้าบรรดาผู้ถือหุ้น พร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ท่านประธานไม่สบายขนาดนี้ พวกคุณไม่เพียงไม่สงสารเห็นใจ แต่กลับบีบคั้นเธอต่างๆนานา จิตใจของพวกคุณทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนี้?”

กรรมการทั้งหมดที่อยู่ภายในห้องประชุมถึงกับหน้าเสียขึ้นมาทันที พวกเขาคิดไม่ถึงว่าแม้แต่เจียงเจิ้งไล๋ยังกล้าขึ้นเสียง และตำหนิพวกเขาเช่นนี้!

เจียงเจิ้งไล๋คุณเป็นเพียงแค่ผู้จัดการเท่านั้นนะ ลืมตัวหรือยังไงถึงได้กล้าขึ้นเสียงกับพวกเราแบบนี้!”

เจียงเจิ้งไล๋คุณถูกไล่ออกแล้ว นับจากวันนี้ไปไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก!” ผู้ถือหุ้นใหญ่คนหนึ่งร้องตะโกนบอกเจียงเจิ้งไล๋ด้วยความโมโห

สีหน้าของเจียงเจิ้งไล๋ถึงกับเปลี่ยนไปทันที และเหงื่อเม็ดโตก็เริ่มผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เมื่อครู่เขาโมโหขาดสติจนไม่ทันได้คิดถึงผลที่จะตามมา จึงได้กล้าตะโกนด่าผู้ถือหุ้นไปเช่นนั้น!

แต่ตอนนี้เจียงเจิ้งไล๋ได้สติ และไม่กล้าเหิมเกริมแบบนั้นอีกแล้ว จึงได้แต่ก้มหน้านิ่งไม่พูดไม่จาอีกเลย!

เขารู้ว่าตราบใดที่ยู๋ไห่กรุ๊ปถูกขายไป อนาคตในการทำงานของเขาก็ต้องจบลงทันทีเช่นกัน แต่คำพูดของเขาเมื่อครู่ทำให้ตัวเขาต้องหมดอนาคตเร็วขึ้นอีกนิดหน่อย!

ซูอานยังคงตรวจชีพจรของฉีเสี่ยวจืออย่างละเอียด และเวลานี้คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันแน่น เพราะอาการของฉีเสี่ยวจือนั้นนับว่าหนักหนามากกว่าที่เขาคิด และเขาจำเป็นต้องทำการรักษาเธอโดยเร็วที่สุด!

ซูอานรีบโอบร่างของฉีเสี่ยวจือที่จวนเจียนจะล้มมิล้มแหล่นั้น พร้อมกับใช้เท้าถีบเก้าอี้ว่างตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวออกไป โดยไม่สนใจใยดีต่อสายตาของผู้คนภายในห้องเลยแม้แต่น้อย

เก้าอี้ว่างตัวนั้นพุ่งตรงเข้าไปกระแทกกับเก้าอี้ว่างที่ใกล้กับผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง จากนั้นซูอานจึงรีบอุ้มร่างที่อ่อนระทวยของฉีเสี่ยวจือไปวางพาดไว้บนเก้าอี้ทั้งสองตัวทันที

เจ้ามาช่วยข้าทางนี้ ข้าจะต้องรีบทำการฝังเข็มให้นางโดยด่วน!” ซูอานหันไปสั่งเจียงเจิ้งไล๋ที่นั่งอยู่

ทันทีที่ได้ยินคำสั่งของซูอาน เจียงเจิ้งไล๋ก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที

เจ้าช่วยกดจุดหลิงซวี(1)ของนางไว้!”

ซูอานหันไปสั่งเจียงเจิ้งไล๋ซึ่งเป็นทั้งผู้จัดการและผู้ช่วยส่วนตัวของฉีเสี่ยวจือ และเขาเองก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของซูอาน

ในขณะนั้น เหล่ากรรมการภายในห้องประชุมต่างก็ยังคะยั้นคะยอ และบีบคั้นฉีเสี่ยวจือเรื่องสัญญาซื้อขายอยู่ไม่หยุด..

ฉีเสี่ยวจือ.. ถ้าเธอเห็นแก่บริษัทจริง ก็รีบๆเซ็นต์สัญญาซะ!”

หนึ่งในผู้ถือหุ้นถึงกับเดินถือสัญญา พร้อมปากกาและตราบริษัท เดินเข้าไปหาฉีเสี่ยวจือที่ยังคงนอนอ่อนระทวยอยู่บนเก้าอี้

ฉีเสี่ยวจือที่ดูเหมือนว่าอาการค่อยๆดีขึ้นนั้น เมื่อหันไปเห็นกรรมการที่ต่างพากันบีบบังคับให้เธอเซ็นต์สัญญาเขา ร่างกายของเธอก็ถึงกับสั่นเทิ้มรุนแรงอีกครั้ง

เร็วๆเข้า รีบๆเซ็นต์ให้จบๆ อย่าลืมว่าเธอมีหุ้นในมือแค่ 20%!”

กรรมการคนนั้นร้องตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงดุดัน เขารู้ว่าเพียงแค่ฉีเสียวจือเซ็นต์สัญญาฉบับนี้เสีย เงินทองและผลประโยชน์มากมายก็จะลอยเข้ามาในกระเป๋าของตนเอง

เมื่อเห็นท่าทางของกรรมการผู้นั้น เจียงเจิ้งไล๋ก็ถึงกับโกรธจนลืมตัวอีกครั้ง “อย่ารุมข่มเหงรังแกท่านประธานมากนัก หากท่านประธานถูกบีบบังคับจนเป็นอะไรไป พวกคุณทั้งหมดต้องรับผิดชอบ!”

หึจะมากล่าวหาว่าพวกเราข่มเหงประธานของคุณได้อย่างไรกันพวกเราแค่เรียกร้องให้เธอเซ็นต์สัญญาซื้อขาย ส่วนประธานของคุณก็จะได้ส่วนแบ่งหลังจากขายกิจการเหมือนกัน!”

ความจริงแล้วซูอานก็คร้านที่จะใส่ใจกับคนพวกนี้ แต่ในเมื่อเขาเข้ามาในห้องนี้แล้ว และได้ยินหมดแล้วว่าคนพวกนี้กำลังต้องการอะไร?

ซูอานหันไปมองกรรมการคนนั้นพร้อมกับสั่งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก “กรุณาหุบปากของเจ้าได้แล้ว!”

ซูอานพูดกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพและมีมารยาทมากแล้ว และเขาก็คิดว่าอีกฝ่ายควรจะทำตามคำขอของตน

แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่ออีกฝ่ายได้ยินคำพูดของซูอาน เขาก็ยกมือขึ้นชี้หน้าซูอานพร้อมกับร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล

เมื่อครู่เธอพูดอะไร?!”

“….”

ฉันถามว่าแกพูดอะไร?!”

ข้าสั่งให้เจ้าหุบปาก!” ซูอานย้ำอีกครั้ง

คนนอกอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ต่อหน้าฉัน แล้วเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไงกันออกไปเดี๋ยวนี้!”

จากนั้นกรรมการคนนั้นก็ร้องตะโกนเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยด้วยความโมโห “รปภรปภอยู่ที่ไหนใครก็ได้ไปเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาลากตัวเด็กนี่ออกไปเดี๋ยวนี้!”

เวลานี้พนักงานรักษาความปลอดภัยต่างก็พากันมายืนอออยู่หน้าประตูห้องประชุมกันหมดแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปข้างในเลย เพราะรู้ดีว่าหากเข้าลากตัวซูอานออกมา พวกเขาคงต้องเจ็บหนักอย่างแน่นอน!

ซูอานกวาดสายตามองไปทางกลุ่มผู้ถือหุ้นทั้งหมด จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชายิ่งกว่าเดิม

ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายหุบปาก!”

แววตาของซูอานดุดันอย่างมากทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับเย็นยะเยือกไปถึงแผ่นหลัง บรรดากรรมการที่ได้เห็นสายตาของซูอาน ต่างก็พากันหุบปากเงียบและไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีกเลย ต่างคนต่างก็รู้สึกหวาดกลัว..

ระหว่างนั้นซูอานก็หันไปมองฉีเสี่ยวจือ เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดคู่นั้นอย่างเห็นใจ และพูดออกไปว่า

เพื่อช่วยให้เจ้าปลอดภัย ขอภัยที่ข้าต้องล่วงเกิน!”

หลังจากบอกกับฉีเสี่ยวจือแล้ว ซูอานก็ได้เดินลมปราณของตนไปที่นิ้วมือของตัวเอง แล้วทำการจี้ลงไปที่จุดชี่ชง(2)ของฉีเสี่ยวจือทันที

จากนั้นซูอานก็ได้ทำการจี้จุดอีกสองตำแหน่งบนร่างให้กับฉีเสี่ยวจือ การจี้จุดทั้งสามตำแหน่งพร้อมกันนั้นช่วยทำให้เธอผ่อนคลายจากอารมณ์โกรธ คลายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบริเวณท้องน้อยอย่างเฉียบพลัน และยังช่วยรักษาโรคประจำตัวของเธอไปพร้อมกันด้วย

หากเป็นชีวิตก่อนของซูอานแล้วล่ะก็ ในฐานะที่เป็นถึงจักรพรรดิแห่งเซียน เขาจะมีพลังปราณมากพอที่จะรักษาฉีเสี่ยวจือให้หายได้ในทันที แต่เวลานี้เขายังมีพลังปราณที่ไม่มากพอ จึงทำได้เพียงแค่กดจุดฝังเข็มให้เธอรู้สึกดีขึ้นชั่วคราวเท่านั้น

แต่ถึงกระนั้น.. การกดจุดฝังเข็มของซูอานนั้น ก็ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมถึงกับตกใจไม่น้อย โดยเฉพาะการกดจุดชี่ชงซึ่งเป็นตำแหน่งจุดฝังเข็มที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนมาก!

เว่ยฉีหยวนที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมาโดยตลอด เวลานี้ใบหน้าของเขาได้เปลี่ยนจากแดงก่ำเป็นเขียวคล้ำเพราะความโกรธ ฉีเสี่ยวจือปฏิเสธเขา แต่เหตุใดซูอานจึงทำเช่นนี้ได้?

เว่ยฉีหยวนลุกขึ้นยืน และเดินดุ่มไปหาซูอานทันที พร้อมกับร้องตะโกนสั่งเสียงดัง “หยุดเดี๋ยวนี้!”

ซูอานไม่สนใจและไม่แม้แต่จะหันไปมองเว่ยฉีหยวน เพราะเวลานี้เขากำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการกดจุดให้กับฉีเสี่ยวจือ และเขายังคงต้องกดที่จุดชี่ชงค้างอยู่เช่นนั้น เพื่อที่จะทำให้อาการที่เป็นอันตรายของฉีเสี่ยวจือจางคลายลง

เมื่อเห็นซูอานยังคงนิ่งทำเหมือนไม่ได้ยินเช่นนั้น เว่ยฉีหยวนก็ถึงกับกำหมัดแน่นด้วยความโมโหสุดขีด แล้วร้องตะโกนใส่หน้าซูอานว่า

คนกระจอกอย่างแกอย่างมากเป็นได้แค่คนระดับล่างของสังคม แกกล้าแตะเนื้อต้องตัวเสี่ยวจือแบบนี้ รู้มั๊ยว่ากำลังรนหาที่ตาย!”

ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของเว่ยฉีหยวนนั้น บ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจอย่างมาก!

เวลานี้ลูกน้องซึ่งเป็นชายวัยฉกรรจ์ของเว่ยฉีหยวน ต่างก็เดินเข้าไปล้อมร่างของซูอานเตรียมพร้อมไว้แล้ว เหลือเพียงแค่รอคำสั่งของเว่ยฉีหยวนเท่านั้น

แต่ซูอานยังคงเมินเฉยและไม่ใส่ใจเว่ยฉีหยวนเช่นเคย เขาทำราวกับว่าเว่ยฉีหยวนเป็นอากาศธาตุ และนั่นยิ่งทำให้เว่ยฉีหยวนโกรธจนถึงขีดสุด!

คุณชายเว่ย.. คนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องพูดดีด้วย ต้องใช้กำลังเท่านั้น!”

นั่นสิคนแบบนี้ต้องเจอของแข็ง มันไม่เข้าใจภาษาคนหรอก!”

เว่ยฉีหยวนจ้องมองซูอานด้วยสายตาดุดัน และพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง เอามือออกจากร่างของฉีเสี่ยวจือเดี๋ยวนี้ แล้วก็คุกเข่า…”

แต่ยังไม่ทันที่เว่ยฉีหยวนจะพูดจบดี ซูอานก็หันกลับไปจ้องเว่ยฉีหยวนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดเสียงห้วนว่า

หนวกหู!”

—–

(1) จุดหลิงซวี หมายถึงจุดฝังเข็มบริเวณหน้าอก ตรงช่องซี่โครงที่ ห่างจากแนวกึ่งกลางลำตัวตามแนวระนาบ ชุ่น

(2) จุดชี่ชง หมายถึงจุดฝังเข็มบริเวณร่องขาหนีบ อยู่ระดับเดียวกับขอบบนของกระดูกหัวหน่าว ห่างจากแนวกึ่งกลางลำตัวตามแนวระนาบ ชุ่น บริเวณที่คลำได้ชีพจร

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด