นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 1 ตอนที่ 22.2 เลเจนดารี่ [2]
เมื่อเห็นสีหน้าหงุดหงิดของมินนี่ สตีเว่นก็กล่าวต่อว่า “หากข้าได้เป็นศิษย์ฝึกหัดของท่านชารอนแล้ว ข้าคงจะมีเรื่องให้เจ้าช่วยอีกเยอะเพระความรู้เกี่ยวกับดีพบลูของข้ามีอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น”
เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่งเพื่อสังเกตท่าทีของมินนี่ เมื่อเห็นว่านางไม่แสดงสีหน้าท่าทีใด ๆ เขาจึงพูดต่อว่า “ข้าว่าเราสามารถปรับปรุงความสัมพันธ์ของเราให้ดีขึ้นและเชื่อมต่อซึ่งกันและกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นได้ เช่นการแต่งงาน”
สิ้นคำพูดของสตีเว่น มินนี่ก็เกิดอาการสั่นเทาขึ้นมา นางมองไปทางสตีเว่นและกำลังจะอ้าปากพูด แต่ทว่านางกลับเลือกที่จะเงียบแทน หน้าอกของนางเคลื่อนไหวตามแรงหายใจด้วยความประหม่า ทันใดนั้น นางก็ตั้งสติ หายใจเข้าลึก ๆ สองสามครั้งก่อนจะยกเท้าขึ้นจากโซฟา นางลุกขึ้นพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นี่เป็นการเจอกันเพียงครั้งแรก เจ้าและข้าต่างก็ไม่รู้เรื่องของกันและกันมาก่อน เจ้าลืมเรื่องที่ข้าจะชอบเจ้าไปได้เลย เหอะ นี่เจ้าไม่คิดว่าเจ้าออกตัวแรงไปหน่อยรึไง ?”
สตีเว่นหัวเราะออกมาพร้อมกับกล่าวว่า “มิสมินนี่ที่น่ารักของข้า เจ้าควรจะรู้ว่านะว่าในฐานะผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียง การแต่งงานไม่ได้ต้องการความรัก มันจะไม่เป็นไรเลยตราบใดที่เราไม่ได้เกลียดกัน เราเพียงแค่ผูกพันกันทางผลประโยชน์ของครอบครัวและความสนใจร่วมกันเท่านั้นแหละ
หากเจ้าอยากจะพูดเกี่ยวกับการเข้าใจกันและกัน ข้าเชื่อว่าข้ารู้จักเจ้าดีพอ แรนดอล์ฟได้เรียนรู้เกี่ยวกับเจ้ามาอย่างดีแล้ว ข้าเองก็ได้ข้อมูลเหล่านั้นมาด้วย และแน่นอนมีคนให้ข้อมูลของเจ้ามามากกว่านั้น ข้ามั่นใจว่าเจ้าเองก็ได้ยินเรื่องของข้าอยู่ไม่น้อย แม้อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยแต่เจ้าก็จะรู้จักข้าได้ดียิ่งขึ้นเอง
เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลไนออลและตระกูลโซแลมที่เป็นพันธมิตรกันดูเหมือนจะมีความต้องการเกี่ยวกับการแต่งงานของทั้งสองตระกูล และดูเหมือนว่าเป้าหมายในการจัดงานแต่งงานของตระกูลเจ้าก็คงจะเป็นเจ้า เจ้าคิดอย่างไรล่ะ ? ถ้าไม่เป็นข้า งั้นเจ้าก็คงจะแต่งงานกับพี่น้องของข้าแทนงั้นสิ ?”
“แต่ข้าเลือกที่จะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น !” มินนี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
สตีเว่นยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า “นั่นดูเหมือนจะไม่ค่อยให้เกียรติกันสักเท่าไหร่นะ หากเจ้าปรารถนาจะทำเช่นนั้น มีเพียงทางเดียวคือเจ้าคงต้องเดินออกจากตระกูลไนออลไป และถ้าเจ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากมาร์ควิสของเจ้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีปัญญาหาหาเงินมาจ่ายได้แม้แต่ 1 ใน 5 ของที่ข้าทำได้ ข้าได้ยินมาว่าท่านชารอนเกลียดการที่จะให้คนอื่นมาใช้เงินของนางเป็นที่สุดเลยล่ะ”
เมื่อเห็นมินนี่กำลังคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ยักไหล่พร้อมกับพูดว่า “ดูสิ ข้าไม่ได้เป็นคนน่ารังเกียจสักหน่อย โดยเฉพาะกับเจ้า มิสมินนี่มันยากนะที่จะหาใครมาเป็นภรรยาได้ดีไปกว่าเจ้า ข้าแนะนำว่าเจ้าลองเอาข้อเสนอนี้กลับไปคิดดูอีกครั้ง ข้าไม่รีบอะไรหรอก ข้อดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมจอย่างเราคือ พวกเรามีเหตุผลและสงบ”
ทันใดนั้น เสียงของชารอนก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกห้องประชุม “แน่นอนว่านั่นเป็นข้อดีของเมจ แต่วอล็อคไม่ใช่เมจ เพราะพวกคนเหล่านั้นมีความบ้าคลั่งฝังลึกอยู่ในกระดูก”
ชารอนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเคลื่อนกายเข้ามา นางนั่งลงบนโซฟาประจำตัวและดึงผ้าสีแดงที่อยู่ข้าง ๆ ลง เสียงกริ่งดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องประชุมที่เปิดออก ทาสจำนวน 6 คนเดินเรียงแถวเข้ามาภายในห้องพร้อมกับนำโต๊ะกาแฟสีแดงพิเศษและชามทองคำหรูหราสะดุดตาที่ภายในนั้นเต็มไปด้วยอาหารว่างของเลเจนดารี่เมจมาวางไว้บนโต๊ะ
เมื่อทุกอย่างวางอยู่ตรงหน้าแล้ว นางก็เอ่ยปากสั่งต่อว่า “เรียกแบล็คโกลด์มา”
อโคไลท์รีบเดินออกไปตามคำสั่ง เพียงชั่วครู่คนแคระแบล็คโกลด์ก็เดินเข้ามาภายในห้อง เขาผู้นี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า แบล็คโกลด์ซาเวคสตรอมแฮมเมอร์ เผ่าสตรอมแฮมเมอร์เป็นเผ่าขนาดใหญ่ของคนแคระเกรย์ซึ่งมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะมีอาณาจักรเป็นของตนเอง แบล็คโกลด์มีความสามารถพิเศษมากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับการประเมินแร่และอัญมณี ไม่เพียงเท่านั้น เขายังมีความสามารถในด้านของเวทมนตร์เป็นอย่างดี ซึ่งเวทมนตร์ที่ใช้ก็มักจะเกี่ยวกับทองคำ ความสามารถในการประเมินสมบัติเหล่านี้ทำให้เขาได้เข้ามาอยู่ในฐานะเหรัญญิกของเลเจนดารี่เมจ
สตีเว่นเลือกที่นั่งด้านข้างพร้อมกับนั่งลง สีหน้าของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม แต่เขาก็ดูออกจะซีดเซียวเล็กน้อย
ชารอนก้มลงมองข้อมูลในมือของนางพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเมินเฉยว่า “ดราก้อนวอล็อค อืม ไม่เลว ดูเหมือนจะหายาก เป็นสายเลือดดราก้อนแบบไหนกัน ? ”
“เรดดราก้อน” สตีเว่นตอบกลับอย่างมีมารยาทพร้อมกับสีหน้าที่ซีดลง
สายตาของชารอนกวาดมองดูที่บรรทัดข้อความเล็ก ๆ ที่แบล็คโกลด์ขีดเน้นเอาไว้ ใบหน้าที่น่ากลัวของนางดูสดใสขึ้นพร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ข้าเคยรังแกและฆ่ามังกรยักษ์เป็นจำนวนมากมาก่อน เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนั้นมักจะสะสมทำให้เกิดออร่า และออร่าของข้าก็ทำให้พวกมังกรกลัว ส่วนเจ้านั้นเป็นผู้ที่มีเลือดของมันอยู่ในตัว เจ้าคงจะไม่ได้รู้สึกดีเมื่ออยู่ข้าง ๆ ข้าสินะ”
“ท่านน่าชื่นชมอย่างมาก !” สตีเว่นกล่าวด้วยความรู้สึกที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจของเขา ออร่านี้จะต้องเกิดจากการก่อตัวขึ้นจากคำสาปที่สะสมของมังกรหลายตัวที่ตายไป คำสาปจะไม่สามารถทำอันตรายนางได้ แต่ออร่าเชิงลบนี้จะไม่ช่วยนางในการต่อสู้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น มันมีจุดประสงค์เพื่อเตือนมังกรตัวอื่น ๆ ให้ระวังตัวจากนางไว้ มังกรทุกตัวที่เริ่มเข้าใกล้ชารอนในระยะ 100 กิโลเมตรจะรับรู้ถึงการมาของนางในทันที… ต้องฆ่ามังกรไปสักกี่ตัวนะถึงจะทำให้ออร่าก่อตัวขึ้นบนร่างกายของนางได้มากขนาดนี้ ?
แบล็คโกลด์เน้นข้อความย่อหน้าสุดท้ายไว้ว่าเป็นจุดสำคัญ เขาเขียนลงไปด้วยมือของเขาเองซึ่งเป็นไอเท็มและค่าใช้จ่ายของดยุกโซแลมที่เขาจะจ่ายให้กับดีพบลูเพื่อให้ชายหนุ่มผู้นี้ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ เมื่อชารอนกวาดตามองดูจนถึงบรรทัดสุดท้ายแล้ว ใบหน้าของนางก็สดใสขึ้นราวกับพระอาทิตย์ นางแทบอยากจะหัวเราะร่าออกมาในตอนนั้น ทว่าก็ทำได้เพียงข่มความดีใจเอาไว้ เพราะนี่เป็นสิ่งสำคัญที่นางจะต้องรักษาภาพลักษณ์ในฐานะของเลเจนดารี่เมจ
“เอาล่ะ…สตีเว่นใช่ไหม ? มานั่งนี่สิ ผลไม้พวกนี้รสชาติดีมาก เจ้าลองกินได้นะ !” ในตอนนี้ชารอนอารมณ์ดีขึ้นจากตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด เพราะค่าใช้จ่ายที่ดยุกโซแลมจ่ายมาคือเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่ง ไม่ได้เพิ่มเพียงแค่ครึ่งเดียวตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ !
สตีเว่นเข้าใกล้ชารอนมากขึ้นเมื่อได้ยินนางพูดเช่นนั้น ทว่าเขาก็รู้ดีว่าไม่ควรจะแตะต้องผลไม้แม้ว่าจะมีบางอย่างในนั้นที่เขาอยากลิ้มชิมอย่างมากก็ตาม
เมื่อดูข้อมูลในมือ 2-3 ครั้งแล้ว ชารอนก็ส่งกระดาษกลับไปให้แบล็คโกลด์ ในที่สุดนางก็เงยขึ้นมาและจ้องมองสตีเว่นอย่างจริงจังและถามเขาว่า “โซแลมเป็นอย่างไรบ้างล่ะช่วงนี้ ? เขาก้าวเข้าสู่ระดับเลเจนดารี่รึยัง ? ข้าเดาว่าเขาคงจะทำสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ ”
สตีเว่นยืดตัวขึ้น ดูเหมือนว่าเขารอคำถามนี้อยู่นานแล้ว “บิดาของข้าได้เลื่อนระดับเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ตอนนี้ท่านเป็น — ชาโดว์แอนติเมจแล้ว”
ชาโดว์แอนติเมจเป็นคลาสที่ผสมผสานระหว่างพลังทางกายภาพกับพลังเงาซึ่งเป็นพลังที่จะต้านทานต่อเวทมนตร์ทุกประเภทได้มาก พวกเขามีภูมิคุ้มกันต่อคาถาที่มีอันดับต่ำ ๆ มากมาย แม้ว่าการโจมตีทางกายภาพของพวกเขาจะไม่ใช่สิ่งที่ทรงพลังเท่าไหร่นัก แต่ความเร็วในการโจมตีและการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นไม่เป็นรองใครแม้แต่กับธีฟที่ทรงพลังก็ตาม พวกเขาสามารถใช้สกิลระยะใกล้ได้ในเวลาอันสั้นที่สุดเมื่อสามารถไปใกล้ศัตรูได้ นี่ทำให้พวกเขากลายเป็นความหายนะของเหล่านักร่ายคาถา ด้วยความโดดเด่นนี้จึงกลายมาเป็นชื่อเรียกว่า — ชาโดว์แอนติเมจ — ในที่สุด
แม้ว่าโซแลมจะเพิ่งได้รับการเลื่อนระดับเพียงไม่นาน แต่สตีเว่นก็เชื่อว่าข้อดีของคลาสของบิดาเขาทำให้สามารถเป็นคู่ต่อสู้ที่อันตรายสำหรับชารอนได้ อีกทั้งโซแลมก็ยินยอมที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายถึงสองเท่าให้กับนาง พลังที่ยิ่งใหญ่บวกกับความอ่อนน้อมถ่อมตนทำให้ชารอนปฏิบัติต่อเขาในฐานะบุคคลสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามสตีเว่นก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดบิดาของเขาจึงตัดสินใจจะจ่ายเงินจำนวนมากเช่นนี้ให้กับชารอนแม้ว่าก่อนหน้านี้จะตกลงจำนวนกันไว้แล้วก็ตาม
เมื่อได้ยินว่าโซแลมได้กลายเป็นเลเจนดารี่แล้ว ชารอนก็ตะลึงขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับถามย้ำอีกรอบว่า “เจ้าบอกว่าเขาได้เลื่อนระดับเป็น ชาโดว์แอนติเมจ แล้วงั้นรึ ? ”
“ใช่ ข้ายืนยันได้”
ชารอนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมา “เขาไม่ได้เป็นพาลาดินเหมือนที่เขาควรจะเป็นหรือนี่ ! โอ้ โซแลม ดูเหมือนว่าที่ข้าทำกับเจ้าในวันนั้นจะทำให้เจ้าเจ็บแค้นอยู่ไม่น้อย ฮ่า ๆ ๆ เขาคิดว่าการที่เขาได้เป็น ชาโดว์แอนติเมจ จะทำให้เขาแก้แค้นได้งั้นสิ ? ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสอนเขาให้เรียนรู้บทเรียนที่น่าจดจำยิ่งขึ้นเพื่อให้เขารู้ว่าแม้แต่เลเจนดารี่ก็ต้องยอมสยบต่อหน้าข้า ! ฮ่า ๆ ดูเหมือนว่าจะรอไม่ได้อีกต่อไปแล้วสิ !”
เลเจนดารี่เมจมักจะตัดสินใจอย่างรวดเร็วเสมอ ชารอนลุกขึ้นยืนขณะที่นางกำลังพูดอยู่พร้อมกับสั่งคนให้เตรียมเก็บกระเป๋าให้นางเพื่อเดินทางไปหาโซแลมในเวลานั้น พร้อมกับเดินออกจากห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่นางเหยียบกระเบื้องสีแดงเข้มบนลาน นางก็นึกบางอย่างขึ้นได้จึงหันไปหาสตีเว่นและกล่าวว่า “เจ้าเป็นนักเรียนของข้าแล้ว ตอนนี้ข้ายุ่ง เลยยังไม่มีเวลาที่จะสอนอะไรให้กับเจ้าในตอนนี้ ข้าจะกลับมาในอีก 10 วัน ใช้เวลานี้ให้คุ้นชินกับดีพบลูซะ และหากเจ้าต้องการอะไรก็บอกมินนี่ ข้าไปล่ะ!”
ชารอนกลายเป็นดาวหางบนท้องฟ้าพร้อมกับพุ่งไปยังท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ทิ้งสตีเว่นที่กึ่งนั่งกึ่งยืนอยู่ภายในห้องประชุมราวกับรูปปั้นของตัวตลก ท่าทางของเขาดูเหมือนอยากจะเรียกนางให้กลับมา ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยอะไร นางก็จากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้เขากล่าวอะไรต่อจากนั้น
ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมดยุกโซแลมจึงยอมจ่ายค่าเล่าเรียนถึง 2 เท่าให้กับนาง และเพราะเหตุใดเขาจึงเตือนไม่ให้เปิดเผยเรื่องการเลื่อนขั้นนี้ให้ชารอนรู้
คอมเม้นต์