นครแห่งบาป City of Sin – เล่ม 1 ตอนที่ 27.2 พลังเปลี่ยนโลก [2]
รุ่งสาง
ดวงอาทิตย์โผล่พ้นภูเขาน้ำแข็ง ณ ปลายสุดของอ่าวโฟลก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนขึ้นไปสู่ท้องฟ้ากว้าง แสงอาทิตย์สว่างจ้าทะลุผ่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้องและเจือแสงของเวทมนตร์ให้อ่อนลง แสงสว่างที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้ดวงตาที่เหนื่อยล้าของริชาร์ดรู้สึกระคายเคือง เขาขยี้ตาเล็กน้อยก่อนนำรูนไปเก็บเข้าที่ทันทีที่ฟ้าสว่างและรีบเร่งออกจากห้องพักอย่างรวดเร็วเพื่อไปตามหาเฟย์ ผู้ซึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนการวาดวงเวทย์ให้กับเขา เขาอยากจะเรียนรู้บทเรียนต่อไปเต็มทีแล้ว
เฟย์ดำเนินชีวิตอย่างสมฐานะของแกรนด์เมจ เขาคือเมจระดับ 19 ที่มีความรู้ลึกซึ้งมากคนหนึ่งและมีความสามารถในการสร้างสรรค์ปรัชญาใหม่ ๆ เกี่ยวกับเวทมนตร์ อีกทั้งยังเป็นคนที่ยึดหลักความถูกต้องและยุติธรรม ตอนนี้เขาเป็นศาสตราจารย์ในด้านวงเวทย์ และเขาก็มีโอกาสได้สอนริชาร์ดสร้างรูน
การสร้างรูนนั้นเกี่ยวข้องกับหลาย ๆ ปัจจัยจึงต้องใช้องค์ความรู้ที่มากและศาสตร์ในหลาย ๆ ด้าน ทว่าการสร้างรูนไม่มีวิธีการที่ตายตัว — กว่าหลายพันปีของการวิจัยได้จำแนกรูนออกเป็น 7 ระดับ ซึ่ง 4 ระดับแรกถือเป็นมาตรฐานชี้วัดที่สำคัญ ผู้ที่สร้างรูนระดับ 1 ได้นั้นยังไม่ถือว่ามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นรูนมาสเตอร์ ตำแหน่งนี้มีไว้สำหรับผู้ที่สามารถสร้างรูนระดับ 2 ขึ้นไปเท่านั้น ผู้ที่สามารถสร้างรูนระดับ 3 และ 4 ได้คือเกรทรูนมาสเตอร์ ในขณะที่ผู้ที่สามารถสร้างรูนระดับ 5 ได้จะนับว่าเป็นเซนต์รูนมาสเตอร์ ส่วนรูนระดับ 6 และ 7 ในตอนนี้ยังเป็นเพียงระดับในทางทฤษฎีเท่านั้น —
ขณะนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ จึงมีเพียงน้อยคนที่เข้าออกดีพบลูในเวลานี้ ริชาร์ดพยายามข่มใจไม่ให้ดีใจจนออกนอกหน้าขณะที่เขากำลังเดินออกจากวงเวทย์เทเลพอร์ตตรงหน้าทางเข้าเขตพื้นที่ของชารอนที่อยู่ชั้นบน
ที่ประตูใหญ่นั้นมีทองแดงกั้นอยู่ตรงทางเข้า แต่ประตูนั้นมันก็เปิดตลอดเวลาอยู่แล้วไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน มีหุ่นเวทมนตร์ 2 ตัวตั้งอยู่ 2 ด้านของประตู หุ่นตัวหนึ่งหันดวงตาสีทับทิมพร้อมปล่อยรังสีสีแดงก่ำมายังตัวเขา ซึ่งสัญลักษณ์ตรงเสื้อคลุมของเขาก็สว่างวาบขึ้นมาเป็นการตอบสนอง แสงในดวงตาของหุ่นเวทมนตร์สลัวลงขณะที่มันหันกลับไปและวางท่าปกติตามเดิม
ที่ชั้นบนของของดีพบลูมีไว้สำหรับเลเจนดารี่เมจเท่านั้น ขณะที่ชั้นล่างถูกจัดสรรไว้ให้แกรนด์เมจจำนวนหนึ่งเพื่อแสดงถึงความกรุณา ความไว้วางใจ และความพึงพอใจของชารอน ชีวิตประจำวันของแกรนด์เมจทั้ง 17 คนโคจรไปรอบ ๆ ภายในบริเวณนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งของหอคอย 5 ชั้น ซึ่งเฟย์ก็เป็นหนึ่งในแกรนด์เมจเหล่านั้น
กว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่เขตของศาสตราจารย์เฟย์ได้นั้น เฟย์ก็เพิ่งจะเสร็จจากการทำสมาธิในช่วงเช้าพอดี
แกรนด์เมจหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมก่อนเดินออกมา แสงออร่าของธาตุหนาแน่นกระจายออกมาจากตัวเขา ด้วยความสัมพันธ์ของมวลธาตุในร่างกายทำให้ความเข้มข้นของมานารอบ ๆ ตัวเขานั้นมีปริมาณเหนือกว่าบริเวณอื่น ๆ ใครก็ตามที่ได้ฟังเขาพูดก็ถือว่าส่งผลดีในระยะยาวในด้านของการสร้างมานาแล้ว แต่เฟย์มักจะปล่อยรังสีออร่าของเขาออกมาใน 2 กรณีเท่านั้น นั่นคือหลังจากที่เขาทำสมาธิเสร็จ และในเวลาที่เขาสอนวิชาให้กับนักเรียนคนที่สำคัญที่สุดของเขา
ร่องรอยของความอนุญาตเล็ก ๆ ที่ยากจะเห็นได้ปรากฏขึ้นในแววตาของเฟย์ทันทีที่เขาเห็นริชาร์ด เขาชี้เก้าอี้ใกล้ ๆ เพื่อเป็นการบอกริชาร์ดให้นั่งลงพลางหยิบมานาขึ้นมาจิบ
อย่างไรก็ตาม ริชาร์ดไม่ได้นั่งลงแต่กลับหยิบเอาแผ่นหนังอสูรที่มีรูนเขียนอยู่ออกมาโชว์ให้แกรนด์เมจได้เห็นแทน “ท่านศาสตราจารย์ นี่คือสิ่งที่ข้าได้รับแรงบันดาลใจให้เขียนเมื่อคืนนี้ ท่านดูสิ”
รูปแบบที่ซับซ้อนและกระชับที่เห็นนั้นทำให้เฟย์รู้ได้เลยว่านี่คือวงเวทย์ขั้นสูง รอยยิ้มที่หาได้ยากของเฟย์เผยออกมาแวบหนึ่งก่อนที่เขาจะซ่อนมันไว้ ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยชมลูกศิษย์นั้น จู่ ๆ ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป เขาเพ่งดูให้แน่ชัดอีกสองสามครั้งก่อนที่ร่างของเขาจะเริ่มสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้
แกรนด์เมจลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แขนเสื้อของเขาปัดไปถูกขวดมานาที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งซึ่งมีมูลค่ากว่า 2,000 เหรียญทองตกลงบนพื้นจนแตกละเอียด
โดยปกติแล้วเฟย์เป็นผู้ที่ประหยัดมัธยัสถ์ทว่าตอนนี้เขากลับไม่ได้สนใจขวดมานานั้นเลย เขาเหลือบมองริชาร์ดขณะที่ในดวงตาเต็มไปด้วยประกายมานา มวลธาตุเริ่มกระจายอยู่รอบตัวเขาแล้วซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเขาเพิ่งก่อพายุมวลธาตุออกมาภายในห้องนี้ !
“เจ้าพูดว่าเจ้าเขียนขึ้นมาเมื่อคืนนี้งั้นรึ !? เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร ?” เขาถามออกมาอย่างดุดัน
พายุมวลธาตุบ้าระห่ำที่เกิดขึ้นทำให้ริชาร์ดรู้สึกหายใจไม่ออกจนแทบจะยืนไม่อยู่ แต่เขาก็ยังตอบกลับไปอย่างสงบ “มันคือรูนขั้นพื้นฐานธรรมดา ๆ [อจิลิตี้ขั้นพื้นฐาน] มันค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว”
เป็นครั้งแรกที่เฟย์รู้สึกราวกับว่าเขาไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เขาค่อย ๆ รวบรวมพลังของธาตุที่เขาทำให้กระจัดกระจายไปทั่วกลับคืนมาก่อนจ้องมองที่แผ่นหนังอสูรในมือและพูดขึ้นช้า ๆ “ค่อนข้างจะอย่างนั้นหรือ ? ฮ่า ใช่แล้วล่ะ เทียบกับรูนแล้วมันแทบจะไม่ถึงระดับมาตรฐานเลยด้วยซ้ำ แต่มีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่จะสร้างรูนระดับมาตรฐานขึ้นมาได้ก่อนอายุครบ 13 ปี ! ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ได้โกหก แต่มันช่างดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย บทเรียนของเจ้ายังไม่ปะติดปะต่อกันด้วยซ้ำ… น่าจะมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เจ้าหยั่งรู้และเข้าใจระบบของเวทมนตร์ได้กระจ่างขนาดนี้ หากว่าเจ้าไม่ติดขัดอะไร จงบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าไปเจออะไรมา ? มันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตัวเจ้าเองในอนาคต”
แกรนด์มาสเตอร์เฟย์เป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่องนับถือ และริชาร์ดไม่มีความรู้สึกใด ๆ ในด้านลบต่อเขาเลยแม้แต่นิด อีกประการหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและอันตรายก็คือการมีคนเก่ง ๆ สักคนช่วยชี้แนะแนวทาง ริชาร์ดจึงเริ่มต้นเล่าเรื่องราวย่อ ๆ ของเหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาได้เจอมาจากนอกห้องเรียนในปีที่แล้ว ถึงแม้เขาจะปิดบังเรื่องราวในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเอริน แต่เขาก็ไม่ได้ปิดบังในส่วนของการเล่าเรียนวิชาจากนายา
เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ดวงตาของเฟย์ถึงกับเบิกโพลง ตามสัญชาตญาณแล้วเขาอยากจะลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำแต่เขาก็ควบคุมตัวเองให้นั่งพิงพนักเก้าอี้ไว้ได้ เขายกมือขึ้นปรามให้ริชาร์ดหยุดพูดและเงยหน้ามองเพดานพลางใช้ความความคิดอย่างหนัก
และครู่หนึ่งเขาก็พูดขึ้นมา “มันก็เป็นเขานั่นเอง ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตอนนี้ใบมีดแห่งภัยพิบัตินั่นจะอาศัยอยู่ในดีพบลู อืม… เขาใช้ชื่อนายาแล้วอย่างนั้นรึ ? นั่นล่ะคือชื่อจริงของเขา มันเป็นชื่อที่เขาแทบไม่เคยใช้เลย การสอนวิชาของเขาน่าจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เจ้าสามารถทลายกำแพงของวิชาความรู้ที่แตกต่างกันได้ การสังหารและการสร้างนั้นเป็นเสมือนเหรียญคนละด้าน แต่ทั้งสองอย่างต่างก็ต้องใช้ความรู้จากหลาย ๆ ด้านเข้ามาช่วย”
ริชาร์ดลังเลก่อนถามออกไป “ข้ายังเรียนวิชากับเขาต่อไปได้หรือไม่ ?”
เฟย์ถอนหายใจครู่ใหญ่ก่อนตอบ “ดูจากท่าทางแล้ว ได้ ใบมีดแห่งภัยพิบัติ ไม่สิ ตอนนี้เขาชื่อนายาแล้ว เขาเคยเป็นผู้ที่มีอิทธิพลมากในหมู่อาชญากร เขาแทบจะเปลี่ยนการสังหารให้เป็นเหมือนศิลปะ อย่างน้อยเขาก็น่าจะสอนเจ้าต่อไปได้อีกหลายปีเชียวล่ะ แต่ข้าชักสงสัย เหตุใดเจ้าจึงสนใจอยากจะเรียนรู้ศิลปะของการสังหารล่ะ ?”
“เพราะการที่ข้าจะสร้างรูนไนท์ที่ทรงพลังมากขึ้นได้นั้น ข้าจำเป็นต้องรู้วิธีการสังหารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดให้ได้เสียก่อน” ริชาร์ดตอบกลับไป
คอมเม้นต์