บุตรอสูรบรรพกาล – บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 181 หนีอย่างโจ่งแจ้ง
บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 181 หนีอย่างโจ่งแจ้ง
หนีอย่างโจ่งแจ้ง
โครม! ร่างของเหล่าอสูรที่กําลังทะยานออกไปด้วยความรวดเร็วทําเอาเหล่ากลุ่มนักล่าอสูรแห่งอาณาจักรชูถึงกับหน้าซีดเผือด เพราะเหล่าอสูรที่พากันวิ่งออกมานั้นไม่มีตัวไหนเป็นอสูรธรรมดาเลยแม้แค่ตัวเดียว
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” เหล่านักล่าอสูรแห่งอาณาจักรชูโวยวายเสียงดังลั่นเมื่ออสูรระดับตํานานทั้งฝูงวิ่งผ่านหน้าพวกตนไป พวกมันมีท่าที่ดุร้ายและบ้าคลังอย่างมากแถมพวกมันยังวิ่งทําลายกําแพงไปเรื่อยๆอีกต่างหาก
“หยุดนะเจ้าพวกอสูร” ชายคนหนึ่งวิ่งตามเหล่าอสูรมาด้วยท่าที่โกรธจัด ในมือของมันนั้นถือแส้เอาไว้หมายจะเฆี่ยนตีเหล่าอสูรที่พากันหลบหนี
ตุม!! โดยไม่ได้ระวังตัว อสูรหมีขาวที่วิ่งมาเป็นตัวสุดท้าย ยกแขนขึ้นตะปบใส่ชายที่คิดจะเอาแส้ตีพวกมันจนล้มตัวติดดิน
“ไปกันต่อเลย” อสูรหมีขาวสั่งพลางกระโดดเข้าโจมตีเหล่านักล่าอสูรที่คิดจะมาขวาง ด้วยกําลังเทียบเท่าระดับเทียนเซียนขั้นที่ 9 การโจมตีของหมีขาวนั้นช่างรุนแรงและน่าเกรงขามอย่างมาก
กรรรร!! หมีขาวคํารามก่อนจพ่นน้ําแข็งออกมาจากปาก อย่างน้อยการแช่แข็งพวกมันในที่เดียวก็ง่ายกว่าการไล่ทุบไปเรื่อยๆ
“เจ้าหมี เจ้าไปก่อนเลย” อสูรเต่าพูดพลางมองเหล่านักล่าอสูรที่เริ่มวิ่งตามมาหมายจะจัดการพวกมัน
“ได้”อสูรหมีขาวว่าพลางกระโจนไปข้างหน้า ปล่อยให้อสูรกบรั้งท้ายอยู่ด้านหลัง
“ถ้าเป็นเรื่องจํานวนละก็อสูรกบพึมพําพลางบังคับให้ ดอกไม้สีเหลืองบนหลังของมันบานออกพริบตานั้นละอองสีทองก็ลอยตลบไปทั่วพื้นที่
“อย่าสูดมันเข้าไป”นักล่าอสูรบางคนก็รู้ตับรีบกลั้นหายใจเอาไว้ก่อน แต่ส่วนใหญ่กลับคิดช้าไป เพียงพริบตาเดียว ละอองสีทองก็ทําให้เหล่านักล่าอสูรล้มลงไปนอนกับพื้นเป็นจํานวนมาก
ฟุ่บ!! รากไม้และเถาวัลย์บนหลังของอสูรกบพุ่งเข้าเล่นงานนักล่านักล่าอสูรที่เหลืออยู่ ทําเอาเหล่านักล่าอสูรที่รอดจากละอองพิษมาได้ก็โดนจัดการในพริบตา
ฟุบ. ทันทีที่จัดการพวกปลาชิวปลาสร้อยเสร็จ อสูรกบก็กระโดดถีบตัวเองออกมาทันที ตอนนี้ยังไม่มีพวกยอดฝีมือออกมา พวกมันต้องรีบจัดการและรีบไป
ตูม!! อสูรกบยังตามกลับมาหากลุ่มไม่ทันถึงร่างของหมีขาวตรงหน้ามันก็กระเด็น เข้ามากระแทกตัวมันเองจนทั้งสองลอยไปชนกับอาคารหลังหนึ่ง
“มาจนได้” หมีขาวพูดพลางกัดฟันเอาไว้แน่น แม้จะไม่ใช่ราชาอสูร แต่พวกมันทําเสียวอดวายขนาดนี้ต้องมีคนออกมารับมืออยู่แล้ว
ตูม! ร่างของหมีขาวเข้าปะทะกับชายที่เข้ามาขวางในทันที แต่ด้วยพลังระดับเทียนเซียนขั้นที่ 9 ของผู้มาใหม่ทําให้หมีขาวไม่อาจตัดสินชี้ขาดได้ในเวลาอันสั้น
“กรรรหมีขาวคํารามก่อนจะปล่อยไอเย็นออกมารอบๆ ทําเอาพื้นและอาคารใกล้ๆกลายเป็นน้ําแข็งจนหมดรวมทั้งบนร่างกายของหมีขาวเองก็ปรากฏเกราะที่สร้างจากน้ําแข็งเช่นกัน
“กรร” หมีขาวชิงเป็นฝ่ายเข้าโจมตีก่อนในทันที ด้วยร่างกายใหญ่โตของมัน ทําให้การโถมเข้าโจมตีของหมีขาวดูน่ากลัวจริงๆ
ผัวะ! ชายที่คาดว่าจะเป็นรองหัวหน้ากลุ่มใช้พลองยาวในมือหวดใส่กรงเล็บของหมีขาวในทันที แต่ดูเหมือนกําลังของหมีขาวจะเยอะกว่าทําให้พลองของรองหัวหน้าเป็นฝ่ายโดนตบทิ้งไป
“กรรรร” หมีขาวชิงโอกาสนี้โจมตีใส่รองหัวหน้าด้วยการกัดเข้าที่ไหล่ของรองหัวหน้าเสียจมเขี้ยว
ผั๊วะๆ รองหัวหน้าพยายามใช้พลองกระทุ่งใส่ร่างของหมีขาวอย่างรุนแรง แต่เพราะผิวหนาๆของมันทําเอามันแทบไม่กระเทือนเลย
ผลัก!! อยู่ๆที่ด้านหลังของหมีขาวก็ปรากฏร่างของชายคน หนึ่งเข้ามาโจมตีด้วยดาบขนาดใหญ่ทําเอาด้านหลังของหมีขาวปรากฏรอยแผลยาวขึ้นมาทันที
“กรรร” หมีขาวคํารามด้วยความเจ็บปวด ปกติแล้วผิวหนังของมันทั้งหนาและแข็ง หากไม่มีพลังพอก็ไม่อาจทําร้ายมันได้ ทําให้มันแทบไม่ต้องเดาเลยว่าอีกฝ่ายคือรองหัวหน้าอีกคนนั่นเอง
“เจ้าเดรัจฉาน” รองหัวหน้าที่โดนกัดว่าพลางถีบร่างของหมีขาวออก ทําให้เห็นว่าไหล่ของมันโดนกัดจนเกิดแผลกว้างทีเดียว
“กรรร” หมีขาวคํารามก่อนจะหันไปหวดกรงเล็บใส่รองหัวหน้าที่ฟันหลังมัน
ตั๋ว! ทันทีที่หันไปโจมตีรองหัวหน้าอีกคน รองหัวหน้าที่มันฟังกัดไปก็โจมตีมันจากข้างหลังทันที แม้หมีขาวจะรับมือกับรองหัวหน้าคนหนึ่งได้ แต่หากเป็น 2 คนมันเองก็คงไม่ไหวเช่นกัน
“โจมตี”ไป๋จูเหวินว่าพลางกระโดดเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคน แถมนอกจากไป๋จูเหวินแล้วยังมีเหล่าอสูรและต้าชิงต้าเฉินเข้ามาช่วยอีกต่างหาก
“บ้าเอ้ย” รองหัวหน้าที่ใช้ดาบโจมตีหมีขาวกัดฟันพลางมองเหล่าอสูรที่ตรงเข้ามาเล่นงานตนเอง แน่นอนว่าพวกมัน สู้รองหัวหน้าไม่ได้อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็ต้องถ่วงเวลาให้หมีขาวเอาชนะให้ไวที่สุด
“อากก” หลังจากรุมรองหัวหน้าอีกคนอยู่นาน ในที่สุดหมีขาวก็สามารถเอาชนะรองหัวหน้าที่มันปะทะมาแต่แรกลงได้สําเร็จ พริบตานั้นรองหัวหน้าที่ใช้ดาบก็กัดฟันแน่นพยายามไล่อสูรระดับตํานานทั้งหมดให้ถอยออกไป
“เกิดอะไรขึ้น”ยังไม่ทันจะรีบรุมรองหัวหน้าอีกคนให้จบๆ ในที่สุดคนที่ไม่อยากให้มาที่สุดก็ปรากฏกายขึ้นเสียที่ “นายน้อย ระวังด้วย” ต้าชิงว่าพลางกระโดดเข้ามาขวางระหว่างไป๋จูเหวินกับชายผู้มาใหม่เอาไว้
“มันคือราชาอสูรงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองชายร่างใหญ่ที่สวมผ้าคลุมสีแดงสดเอาไว้บนหลังด้วยท่าทางกังวล ไม่ว่าจะมองอย่างไรมันก็เป็นผู้มีพลังระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 อย่างไม่ต้องสงสัย
“ขอรับ”ต้าชิงพยักหน้าพลางตั้งท่ากระบี่อย่างจริงจัง ตลอดนับปีที่ผ่านมามันฝึกวิชากระบี่สู่สวรรค์จนเชี่ยวชาญ ทําให้ฝีมือของมันเทียบเท่าคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 5 เลยทีเดียว แต่เมื่อต้องเจอกับราชาอสูรที่อยู่ขั้นที่ 10 แล้วพลังของมันคงทําอะไรมากไม่ได้
“หัวหน้า พวกมัน 2 คนทรยศพวกเราขอรับ แถมพวกมันกําลังจะพาอสูรของพวกเราหนีไปด้วยอีกต่างหาก” อาวุโสที่โดนหมีขาวซัดจนสลบรายงานพลางกุมแขนที่ขาดของตน เอาไว้
“อย่างนี้นี่เอง” ราชาอสูรว่าพลางเรียกหอกของตนออกมา พริบตานั้นกลิ่นอายพลังเซียนของมันก็แผ่พุ่งออกมาอย่างน่ากลัว
เปรี้ยง!! อยู่ๆราชาอสูรก็ต้องหอกขึ้นมาป้องกันการโจมตีที่มาจากไหนก็ไม่ทราบ กระสุนวายุที่ยิงใส่มันช่างรุนแรงจนน่าตกใจ
ครืดดดด!! ร่างของราชาอสูรถอยไปหลายก้าวหลังจากรับกระสุนวายุของอสูรปักเป้า ทําเอาเห็นได้ชัดเลยว่าผู้ใช้กระสุนวายุนั้นมีพลังเหนือกว่าราชาอสูรอยู่หลายขั้นเลยทีเดียว
“ออกมา”ราชาอสูรว่าพลางปาหอกในมือออกไปในทิศทางที่กระสุนวายุยิงออกมา
อีก! เสียงกระทบกันของหอกกับวัตถุบางอย่างดังไปทั่วท้องฟ้า ก่อนที่หอกของราชาอสูรจะร่วงตกลงมา แต่กลับไม่มีวี่แววสิ่งที่หอกเข้าไปกระแทกเลย
“กิ้ว”เสียงของอสุรปักเป้าดังขึ้นพร้อมร่างเท่าลูกบอลที่ลอยลงมาอยู่ตรงหน้าของราชาอสูร เพียงแต่ดวงตาของมันค่อนข้างโกรธทีเดียวหลังจากโดนหอกปาใส่อย่างจัง
“อะไร…”ราชาอสูรมองอสูรปักเป้าด้วยสีหน้างงๆ เจ้าลูกปลาตัวนี้มันกําลังโกรธอยู่งั้นเหรอ
“กิ้ว” อสูรปักเป้าส่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิม พลางปล่อยหนามที่มันเก็บเข้าไปก่อนหน้านี้ออกมา พริบตานั้นพลังอสูรของมันก็เอ่อล้นออกมาทําเอาเหล่าอสูรที่อยู่บริเวณนั้นตัวสั่นสะท้าน
“หนี”ไป๋จูเหวินคํารามพลางตรงเข้าไปอุ้มร่างของหมีขาวออกมา แต่เพราะมันค่อนข้างหนักเลยวิ่งไปได้ช้ามากทีเดียว
“พี่หมีขาว ช่วยจําแลงกายเป็นมนุษย์ให้ข้าหน่อย”ไป๋จูเหวินว่าพลางเหล่มองอสูรปักเป้า พลังอสูรในร่างของมันกําลังเข้ามารวมอยู่ในท้องของมันเรื่อยๆแล้ว หากมันเดาไม่ผิดขืนยังอยู่ตรงนี้ต่อไปคงอันตรายแน่ๆ
ตุบ! ร่างของหมีขาวที่มีขนาดใหญ่กว่าบ้านเสียอีกกลายเป็นลูกหมีขนาดเท่าลุกสุนัขได้ในพริบตา แม้มันจะกลายร่างเป็นมนุษย์ไม่เป็น แต่หากย่อขนาดตัวก็สามารถทําได้ไม่ยาก
วี้ดดด ไป๋จูเหวินเปาปากเรียกอสูรแมงมุมทั้ง 3 กลับมาหาตน แล้วบอกให้หลินหลินกลายร่างเป็นแมงมุมเพื่อหนีออกไปให้ไวที่สุด
วูบ! เสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลังไป๋จูเหวิน เพียงแต่ยามนี้ไป๋จูเหวินตั้งหน้าตั้งตาหนีออกมาเท่านั้นไม่ได้ หันหลังกลับไปมองเลย สิ่งเดียวที่พออธิบายว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างคือเศษซากเมืองที่ลอยไล่หลังไป๋จูเหวินมาเท่านั้น
“คิ้ว”อสูรปักเป้าบินกลับมาหาไป๋จูเหวินราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทําให้ไป๋จูเหวินทราบว่ามันโจมตีเสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมยังเก็บหนามไปแล้วอีกต่างหาก
“…”ไป๋จูเหวินเงียบไปครู่หนึ่งพลางหันไปมองด้านหลังของตน ยามนี้เมืองกว่าครึ่งหายไปในพริบตา แทบไม่ต้องถามถึงเขตของกลุ่มนักล่าอสูรเลย ตอนนี้มันเหลือแต่เพียงหลุมขนาดใหญ่ราวมีอุกกาบาตรตกลงมาก็ไม่ปาน หากให้ไป๋จูเหวินเดา ท่าทางเมื่อครู่อสูรปักเป้าจะขยายร้างออกครั้งหนึ่งกระมัง
คอมเม้นต์