บทที่ 224 – ไฟและมหาสมุทรเมฆา

 

 

 

 

 

หลี่เซียนเต่า ได้รับการฝึกฝนกับนักบวช เทพสงคราม จ้าวอู๋ตี้, เทพดาบ และ จงไป๋เซิง เพื่อทำความเข้าใจการบรรลุเต๋า ของพวกเขาและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเอง

 

การเพาะปลูกของเขาเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่เขากลืนเส้นเลือดมังกรอายุ 30,000 ปีและความสำเร็จของเต๋า ก็ไม่ได้ขาดเช่นกัน

 

หากผู้หนึ่งมีพลังมากเกินไป แต่ขาดความสามารถของเต๋า หนึ่งจะดูเหมือนยุ่งยาก

 

หากมีผู้บรรลุเต๋ามากเกินไปและขาดการฝึกฝนจิตวิญญาณและร่างกายของพวกเขาจะอยู่ในระดับที่แตกต่างกันและนั่นจะนำไปสู่ปัญหาอย่างแน่นอน

 

โชคดีที่ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับ หลี่เซียนเต่า

 

อาจกล่าวได้ว่าเขาได้ดูดซับนักบวช จ้าวอู๋ตี้, เทพดาบ และ จงไป๋เซิง ที่เข้าใจใน อาณาจักรตำนาน

 

แต่ หลี่เซียนเต่า ก็ยังไม่พอใจ เขากำลังฝึกฝนอย่างเงียบ ๆ คนเดียวและเขาก็จมอยู่กับความเข้าใจอย่างเต็มที่

 

การพลิกมหาสมุทรเป็นวรยุทธ์ดาบที่ หลี่เซียนเต่า ได้สร้างขึ้น มันแข็งแกร่งมากและพระชราก็เข้าใจเรื่องนี้เมื่อไม่นานมานี้

 

หลี่เซียนเต่า ยังมีทักษะ เพลิงแผดเผา

 

มันเกิดในเวลาเดียวกันกับการพลิกคว่ำมหาสมุทรและสามารถพูดได้ว่าพวกเขาต่อต้านกัน พวกเขาสองคนไม่สามารถจับคู่กันได้ แต่พวกเขาสนับสนุนซึ่งกันและกัน

 

หลี่เซียนเต่า เข้าใจการเคลื่อนไหวของดาบมากมาย แต่ตอนนี้เขาต้องการใช้ เพลิงแผดเผา เท่านั้น

 

พระชรามองด้วยความกลัว เขาเป็นคนที่หยิ่งผยองมั่นใจภูมิใจและทั้งหมดนี้ถูกนำไปโดย พลิกมหาสมุทรของหลี่เซียนเต่า

 

เมื่อ หลี่เซียนเต่า กดลงบนหน้าผากของเขาพระชราคิดว่าเขากำลังจะตาย

 

ถ้าดาบเล่มนั้นแทงลงพระชราตายแน่นอน ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้

 

โชคดีที่ หลี่เซียนเต่า ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่

 

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเศร้ามากขึ้นก็คือ หลี่เซียนเต่า มีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง !

 

แค่ฟังก็รู้แล้วว่ามันคล้ายกับพลิกมหาสมุทร พระชราใจสั่นและคราวนี้เขานั่งขัดสมาธิโดยตรงเพื่อใช้วรยุทธ์การบ่มเพาะ

 

วรยุทธ์พระกายทองคำ

 

พระชราเปลี่ยนเป็นพระพุทธรูปทองคำยืนรออยู่ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่สามารถทำให้มันแปดเปื้อนและไม่มีความทุกข์ยากใดมากเกินไปสำหรับมัน

 

เขาต้องการใช้วรยุทธ์คล้ายกระดองเต่านี้เพื่อสกัดกั้นดาบที่สองของ หลี่เซียนเต่า

 

หลี่เซียนเต่ามองไปที่มันแต่เขาไม่สนใจเลย

 

หากการเคลื่อนไหวที่เขาสร้างขึ้นหลังจากเข้าใจถึงการบรรลุของเต๋าจำนวนมากอาจถูกปิดกั้นโดยกระดองเต่าเขาก็จะแพ้ !

 

พลังปราณของหลี่เซียนเต่า ระเบิดกลายเป็นเปลวไฟที่สว่างไสวสะดุดตาที่หลอมรวมเข้ากับดาบ

 

ดาบออกจากฝักเหมือนลูกศรที่ปล่อยออกมาจากเชือกไม่มีทางกลับมา

 

ในวินาทีต่อมา เพลิงแผดเผา ก็พุ่งไปข้างหน้า

 

เพลิงแผดเผา ต่างจาก พลิกมหาสมุทร

 

ในแง่ของอายุ พลิกมหาสมุทร คือชายวัยกลางคนอายุ 40 ปีที่สงบนิ่งและมีมานะตั้งแต่กำเนิดและสามารถระเบิดได้ทุกเมื่อ

 

เพลิงแผดเผา เป็นเหมือนวัยรุ่นที่อารมณ์ร้อนและรอคอยที่จะสร้างความประหลาดใจ

 

หลังจากใช้ เพลิงแผดเผา ฟีนิกซ์เก้าตัวก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังพลังงานดาบ พวกเขาเรียงแถวกันเหมือนกำลังปกป้อง เพลิงแผดเผา

 

เพลิงแผดเผา ดูเท่และโดดเด่นมาก

 

ในวินาทีถัดมา เพลิงแผดเผา ได้กระแทกกระดองเต่าของพระชรา

 

วรยุทธ์การสร้างพระกายทองคำเป็นเพียงร่างกายสีทองเพื่อให้เขาฝึกฝนและหลีกเลี่ยงปัญหาภายใน รอ…

 

วรยุทธ์นี้เป็นวรยุทธ์ที่หายากจริงๆ !

 

ความหายากคือมันไม่มีพลังโจมตีเลยและความสามารถในการป้องกันของมันก็แข็งแกร่งมาก

 

พระชราเตรียมตัวดี

 

หลี่เซียนเต่า มองไปที่กระดองเต่าเหมือนร่างกายสีทองและเขาก็หัวเราะอย่างเย็นชา “ ภายใต้พลังดาบของข้าการป้องกันที่อยู่ยงคงกระพันเป็นแค่เรื่องตลก ! ”

 

เพลิงแผดเผา เป็นเหมือนเด็กที่หุนหันพลันแล่นในช่วงวัยแรกรุ่นที่ต้องการเข้าไปหาสาวน้อยอันเป็นที่รักของเขา แต่ถูกประตูปิดกั้น

 

โดยไม่ลังเลใด ๆ เพลิงแผดเผา ก็ทุบเข้ามา

 

จากนั้นข้าจะทำให้เจ้าแลหกสลาย !

 

เพลิงแผดเผา อารมณ์ร้อนมาก ช่างน่ากลัวยิ่งนักทำให้พระชราเหมือนจมกระแสเพลิง

 

ใครสนใจว่าการป้องกันของเจ้าน่าทึ่งแค่ไหน ? เพลิงแผดเผา ไม่กลัวเลย หลังจากพุ่งไปข้างหน้าเปลวไฟก็ทำให้ร่างสีทองแตกเป็นเสี่ยง ๆ

 

เขามองไปที่ดาบสีแดงเพลิงซึ่งอยู่ตรงหน้าหน้าผากของเขา

 

ดาบเล่มนี้กดลงบนมันในตำแหน่งเดียวกับ พลิกมหาสมุทร

 

แต่ความรู้สึกที่เขาได้รับนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง !

 

การพลิกมหาสมุทรเป็นสิ่งที่มีมา แต่กำเนิดและจะไม่ทำให้คนรอบข้างบาดเจ็บได้ง่ายๆ

 

แต่ เพลิงแผดเผา นั้นแตกต่างออกไป เผาแบบไม่ยั้งและทำให้ผิวพระชราไหม้เกรียม

 

“ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ !!!!” พระชรารับไม่ได้ก็ขอร้องแทน

 

เปลวไฟนี้เหี่ยวเฉาสลายไป

 

พระชรานอนลงบนพื้นและหายใจด้วยความสิ้นหวังในดวงตาของเขา

 

เขามองไปรอบๆความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นหลังจากร่างกายสีทองขนาดใหญ่ของเขาถูกทุบ พื้นรอบๆเป็นชิ้น ๆ

 

” เจ้าคือใคร ? ข้ารู้จักทุกคนในสิบแดนโลก แต่ข้าไม่เคยได้ยินชื่อเจ้า ? ” พระชราถือโอกาสอันมีค่าและถามด้วยความสิ้นหวัง

 

หลี่เซียนเต่า พูดอย่างเย็นชา “ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าข้าคือคนที่จะสังหารเจ้า ! ”

 

พระชราตกใจ เขารู้ว่า หลี่เซียนเต่า ตั้งใจที่จะสังหารเขาและจะไม่ปล่อยเขาไป เขาตัดสินใจทุบลูกปัดสมบัติของเขาและลูกปัด 18 เม็ดก็บินไปหาหลี่เซียนเต่า

 

พระชราเข้าใจเหตุมีโอกาสตาย 90%

 

เขาเสียชีวิตเก้าครั้งและครั้งนี้เขาหนีไปได้

 

“ นิกายพุทธของเรามีวรยุทธ์การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมากๆ ” พระชราหัวเราะลั่น เนื่องจากเขาไม่สามารถสังหาร หลี่เซียนเต่า ได้เขาจึงจะสร้างปัญหาให้กับเขา

 

“ นายท่าน ท่านเป็นอะไรไหม  ?  ” เทียนกวงหมิงถามด้วยความกังวล

 

“ ข้าจะไปจับเขา ” ลูซิเฟอร์เช็ดเลือดและพูดอย่างเย็นชา

 

“ ไม่จำเป็นข้ายังมีดาบที่สามอยู่ ” หลี่เซียนเต่า ส่ายหัวและเฉือนการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของเขา

 

นี่เป็นดาบเล่มที่สามที่ หลี่เซียนเต่า เข้าใจ

 

ภูเขาระดับเมฆ…จุดสำคัญของดาบนี้คือการปราบปรามศัตรู

 

ไม่ใช่การสังหาร แต่เป็นการปราบปรามทั้งหมด !

 

ดาบของ หลี่เซียนเต่า พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าทำให้เมฆในระยะไกลกลิ้งไปมาอย่างสง่าผ่าเผย

 

พระชราบินไปที่นั่นและเห็นมหาสมุทรเมฆที่กำลังหมุน การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปและเขารู้ว่าสิ่งต่างๆไม่ดีแน่แล้ว

 

ดาบที่สามของ หลี่เซียนเต่า อยู่ที่นี่แล้ว!

 

หลี่เซียนเต่า ปล่อยเขาไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพราะเขาเป็นพระที่วัดต้าหลินแต่เป็นเพราะ หลี่เซียนเต่า บอกว่าจะสังหารเขาสามครั้ง

 

พลิกมหาสมุทร เพลิงแผดเผา และตอนนี้สิ่งนี้

 

ภายในก้อนเมฆนั้นมีภูเขาขนาดใหญ่ที่กดลงมาและมันไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ เลย

 

ความรู้สึกของฟ้าถล่มเป็นยังไงนะ ?

 

พระชราไม่เคยทราบในอดีต แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว

 

ภูเขาเมฆขนาดยักษ์ล้อมรอบเขาและกดลง พระชราพยายามงัดออก แต่ไม่สามารถทำได้

 

พระชราร้องลั่นด้วยความสิ้นหวัง

 

เขาคงนึกไม่ถึงว่าอนาคตคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้

 

เขาควรจะตายที่กำแพงโลก

 

แต่ตอนนี้เขาถูกภูเขาที่ก่อตัวขึ้นจากก้อนเมฆมาบดบังเขาจนตาย

 

นี่คือมหาสมุทรเมฆาของ หลี่เซียนเต่า !