นครแห่งบาป City of Sin – เล่มที่ 2 ตอนที่ 151
ยามราตรีมาถึงขณะที่ความเงียบเริ่มปกคลุมริมทะเลสาบ เหล่าทหารและเชลยที่ถูกจับมาต่างก็พากันเหนื่อยล้าจากการทํางานหนักตลอดทั้งวัน ในเวลานี้พวกเขาเลือกที่จะเข้านอนเร็วกว่าปกติ มีเพียงสิ่งมีชีวิตเดียวที่ยังมีพละกําลังนั่นก็คือแร็พเตอร์ทั้ง 3 ตัวที่ทํางานหนักด้วยการออกไปหามื้ออาหารให้ตัวเองตลอดทั้งวัน หลังจากที่ทุกคนพักผ่อนแล้วมันจึงรับหน้าที่เป็นผู้ลาดตระเวนในยามค่ําคืน
หลังจากที่ริชาร์ดทําสมาธิจนมานาของเขาฟื้นฟูกลับมาอย่างเต็มที่แล้ว เขาก็เดินไปที่เต็นท์ของตนเองก่อนกวาดสายตามองไปยังทะเลสาบอย่างช้าๆ
ทันใดนั้น เขาก็มองเห็นเงาที่งดงามและเปล่งประกายของโฟลว์แซนด์ แม้ว่านางจะแทบไม่ได้นั่งสมาธิเลยแต่ดูเหมือนว่านางสามารถฟื้นฟูพลังมานาของตนเองได้รวดเร็วกว่าเขาเสียอีก ตอนนี้นางกําลังนั่งอยู่เงียบๆคนเดียวและจ้องมองไปยังด้านนอกทะเลสาบด้วยท่าทางที่ลึกลับ หนังสือแห่งกาลเวลาที่ถูกแขวนไว้ข้างเอวของนางกําลังเปล่งแสงออกมาเล็กน้อย และหมอกที่มาจากทะเลสาบก็ทําให้นางดูเหมือนหญิงสาวที่ปรากฏตัวขึ้นในความฝัน
เขาเดินไปหานางก่อนเอ่ยถามออกไป “มีอะไรอยู่ในใจเจ้าหรือ ?”
“เจ้าและข้า” นางตอบกลับมาด้วยน้ําหนักเสียงที่แผ่วเบา ราวกับขนนกแต่ฟังดูนุ่มนวลจนเขาต้องหยุดไอเพื่อแก้อาการเก้อเขินที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน โฟลว์แซนด์เป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากและมันก็มากพอที่จะทําให้เขารู้สึกแปลกๆกับคําตอบที่ชวนให้น่าสงสัยของนาง ก่อนหน้านี้เขามักจะถอยออกจากความอึดอัดใจเหล่านั้นทว่าในเวลานี้ดูเหมือนว่าเขาไม่สามารถทํามันได้อีกแล้วจึงถามออกไปเพื่อหวังจะได้คําตอบที่กระจ่างชัด “แล้วเรื่องระหว่างเราที่เจ้าว่าคือเรื่องอะไร
“ความสัมพันธ์ของเรา”
ริชาร์ดกัดฟันก่อนถามต่อไป “ความสัมพันธ์อะไร?”
ในเวลานั้นเขาก็คิดขึ้นมาได้ทันทีว่าคําถามที่หลุดออกจากปากเขาเป็นคําถามที่โง่เง่ามากแค่ไหน เขาไม่น่าถามออกไปเลยเพราะนั่นเป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาได้รับความพ่ายแพ้ในสถานการณ์เช่นนี้
โฟลว์แซนด์หันกลับมาก่อนที่นางจะจ้องมองลึกเข้ามายังนัยน์ตาของเขา “ข้าคิดมาตลอดว่าเราจะสามารถคงความสัมพันธ์เช่นนี้ไปได้อีกกี่ปี”
คําตอบของนางนั้นคลุมเครือและดูเหมือนว่าจะซ่อนอะไร บางอย่างเอาไว้ในคําพูด แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เหมือนกับว่านางไม่ได้ซ่อนความหมายอะไรเอาไว้เลย เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดว่า “อีกนาน ตราบใดที่เราสองคนยังมีชีวิตรอดอยู่”
นางยิ้มอย่างอ่อนโยนทันที “เราจะอยู่ด้วยกันเนิ่นนานเท่าที่เจ้าต้องการ”
คําตอบของนางทําให้เขาเกิดความประหลาดใจขึ้น “ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีความมั่นใจในตัวข้ามากกว่าที่ข้ามั่นใจในตัวข้าเองเสียอีกนะ”
“เจ้ามีความสามารถที่แปลกประหลาด ความลึกของสนามรบกลับกลายเป็นสิ่งที่โปร่งใสซึ่งเจ้ามองเห็นมันได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังมีบรู้ดมาเธอร์”
นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดต่อว่า “และเจ้าก็มีข้า”
ทุกอย่างที่นางพูดมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมด พรีสเทสที่อยู่ใต้แสงจันทร์ในเวลานี้ทําให้ริชาร์ดอดนึกถึงร่างกายที่ไร้ซึ่งเสื้อผ้าของนางไม่ได้ ดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่แสนจะยากลําบากสําหรับเขาในการควบคุมความรู้สึกที่เกิดขึ้น เพียงครู่เดียว เขาก็เอ่ยปากออกไปด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึม “เจ้าได้เห็นข้อมูลจากการสํารวจแล้ว ไม่จําเป็นที่พวกชนพื้นเมืองจะต้องเป็นศัตรูของพวกเราเสมอไป เราอาจมีโอกาสที่จะได้ทํางานร่วมกับเหล่าขุนนาง ข้าคิดว่าคนเดียวที่ต้องการทําลายพวกเราอย่างแท้จริงคือเหล่าเทพ”
โฟลว์แซนด์ได้ยินเช่นนั้นจึงตอบกลับไป “เพียงแค่การปรากฏตัวของเรานั้นก็ถือเป็นการละเมิดกฎของเพลนนี้แล้ว พวกเขาจะต้องหาทางกําจัดพวกเราอย่างแน่นอน แม้ว่าเจ้าจะได้ครอบครองทั้งเพลนแต่เหล่าขุนนางก็จะหาทางเข้ามาแทรกแซงและหาตําแหน่งให้กับตัวเองอยู่ดี”
ริชาร์ดพยักหน้าเห็นด้วย “ดังนั้นเรามีโอกาสสูงที่จะหาพันธมิตรที่ดีภายในที่แห่งนี้ซึ่งข้าคิดว่าเรามีตัวเลือกที่ดีอยู่ 2 คน คนแรกคือดยุกไดร์วูล์ฟที่อยู่ทางตะวันออก เขาเป็นผู้ที่มาจากตระกูลที่เชื่อในการบูชาบรรพบุรุษ และอีกคนคือเอิร์ลโอลิเวอร์ที่อยู่ทางตอนใต้ มีการพูดถึงเขาว่าเขาขลุกอยู่ในศาสตร์มืดเป็นเวลาเกือบ 20 ปีและเขามีสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับอบิส ข้าได้ยินมาว่าความลับของเขาคือการสร้างบ่อเลือด และเขามักจะฆ่านักโทษของตนเองเพื่อสังเวยเลือดของคนเหล่านั้น จากการกระทําของเขาบ่งชี้ว่าเขาพยายามเรียกเหล่าเดม่อนออกมา พวกเขาไม่ได้เป็นคนของเพลนแห่งนี้และพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในค่ายเดียวกันกับเทพแห่งความกล้าหาญด้วย
และที่น่าสนใจกว่านั้นคืออาณาเขตของพวกเขาอยู่ใกลออกไป ทว่าพวกเขายังสามารถที่จะดํารงอยู่ภายในเพลนแห่งนี้ได้ นั่นหมายความว่าพวกเขามีความสามารถมากพอที่ทําให้วิหารทําอะไรพวกเขาไม่ได้”
“หรือจะให้พูดตรงๆ พวกเขาก็คือทรราชที่ใช้ความรุนแรงและนักฆ่าที่บ้าคลั่งใช่ไหม” โฟลว์แซนด์พูดออกมาด้วยความหมายที่แทงใจดํา
ริชาร์ดพยักหน้า “ใช่ ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องร่วมมือกับเหล่านักฆ่าและทรราช”
“ระวังพวกเขาไว้ให้ดี พวกเขาอาจจะเขมือบเจ้า แม้ในเวลาที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ได้ !”
ริชาร์ดหัวเราะออกมา “ก็ลองดูสิ บางที่ฟันของพวกเขาอาจจะหักก็ได้” บทสนทนาปนขาขันดําเนินต่อไปครู่หนึ่งก่อนที่จะมีอะไรบางอย่างมาทําให้บทสนทนาของพวกเขาลดน้อยลง เขาจ้องมองทะเลสาบที่สงบนิ่งก่อนจะกล่าวออกมาว่า “เฮ้อ.. ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าข้าต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในการเพิ่มมานาของข้า ณ ที่แห่งนี้”
“นั่นเป็นเรื่องปกติ ยิ่งบนเพลนมีการจํากัดพลังมากเท่าไหร่ ความสามารถในการเพิ่มขึ้นก็จะช้าลงเท่านั้น เพลนหลักไม่มีข้อจํากัดเกี่ยวกับพลังซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่หลายๆคนสามารถเพิ่มการเติบโตของพวกเขาได้ การที่เดินทางไปยังเพลนขนาดเล็กทําให้เจ้าต้องสูญเสียอายุขัยของเจ้าไปส่วนหนึ่งเพื่อแลกกับทรัพยากรทั้งหลาย หากความทะเยอทะยานของเจ้ามีไว้เพียงเพื่อพลังของตนเอง เจ้าก็คงจะต้องอาศัยอยู่แต่ในเพลนหลักเพื่อฝึกฝนฝีมือของเจ้าต่อไป” โฟลว์แซนด์อธิบาย
“อ้อ… ข้าเกือบลืม เพลนแห่งนี้มีดวงจันทร์เพียงแค่ 2 ดวงเท่านั้น แต่ทําไมข้าถึงยังสามารถใช้พลังแห่งดวงจันทร์ทั้ง 7 ของดาบลับได้ล่ะ ?”
โฟลว์แซนด์ส่ายหน้า “กรณีนั้นข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน มันมีความลึกลับมากมายในเพลนแห่งนี้และความรู้ของข้าก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด สิ่งที่ข้ารู้คือความรู้ที่ได้จากความทรงจําของข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
ริชาร์ดถอนหายใจออกมาก่อนตอบกลับไป “เอาเถอะ ข้าเข้าใจแล้ว ช่วงนี้ข้ามีความคิดอยู่สองสามอย่าง รวมถึงความก้าวหน้าในการวิจัยเกี่ยวกับไฟร์บอลของข้า…”
“ไฟร์บอลอีกแล้ว ! คาถานั่นมีประโยชน์แค่ตอนที่เจ้าต้องการจะย่างหมูเท่านั้น!” โฟลว์แซนด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะรอยยิ้มของนางรวมถึงแสงจันทร์ที่สาดส่องมาที่เรือนร่าง ทําให้ในเวลานี้นางดูงดงามจนยากเกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคําพูดได้
“ไม่ มันมีช่องว่างให้ปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอ ข้าสามารถทําให้คาถาที่ร่ายออกมาระเบิดล่าช้าไปจากเดิมได้ 1 วินาที หากข้าปล่อยไฟร์บอล 3 ลูกออกมาในรูปแบบทรงสามเหลี่ยม ข้าก็จะสามารถทําให้พวกมันชะลอตัวลงก่อนที่จะให้มันระเบิดพร้อมกันได้” ริชาร์ดรีบนั่งย่อลงที่พื้นก่อนที่จะขีดเขียนบนพื้นดินริมทะเลสาบเพื่อประกอบการอธิบายของเขา
ในตอนแรกโฟลว์แซนด์ไม่นึกถึงสิ่งนี้ ทว่าหลังจากที่นางได้พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งแล้ว ความคิดของนางก็เปลี่ยนไป หากริชาร์ดสามารถควบคุมคาถาของเขาได้ถึงขนาดนั้น ศัตรูที่ถูกล้อมด้วยคาถาไฟร์บอลที่ร่ายออกมาในรูปแบบ ทรงสามเหลี่ยมก็คงไม่ต่างอะไรกับหมูที่ถูกย่าง นางไม่เคยได้ยินเรื่องการควบคุมเวทมนต์โดยเมจที่อยู่ในระดับต่ํากว่าเกรทเมจมาก่อน ริชาร์ดเป็นคนแรกที่พูดถึงเรื่องนี้
ตอนนี้ริชาร์ดยังคงเดินวนไปมาแต่ทันใดนั้นเขาก็จ้องมองออกไปยังสถานที่ที่ไกลออกไป และอาการตกตะลึงก็แสดงออกมาผ่านสีหน้าของเขา
“เกิดอะไรขึ้น ?” โฟลว์แซนด์ถาม
“ไม่มีอะไร พูดต่อเถอะ” เมื่อครู่ที่ริชาร์ดนิ่งไปนั้นเป็นเพราะบรู้ดมาเธอร์ได้ส่งข้อมูลมาให้เขาว่าในเวลานี้มันได้ค้นพบ หุบเขาที่มีทร็อกก์อาศัยอยู่ และตอนนี้มันก็ได้เข้าไปปิดปากทางออกของพวกทร็อกก์แล้วและกําลังเตรียมที่จะกินพวกมันเป็นอาหาร สําหรับเหล่าทร็อกก์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายกับก็อบลิน พวกมันเป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่มีความเฉลียวฉลาดซึ่งแม้ว่าจะยังฉลาดไม่เท่าเหล่าก็อบลิน แต่ความสามารถในการต่อสู้ของมันดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่ามาก ริชาร์ดรู้สึกกังวลถึงความปลอดภัยของบรู้ดมาเธอร์เล็กน้อยแต่เขาก็ขจัดความกังวลออกไปแทบจะในทันที เพราะดูเหมือนว่าการจู่โจมในครั้งนี้บรู้ดมาเธอร์คงจะมีความสามารถในการประเมินศัตรูของมันได้ด้วยตัวมันเอง
ดู hentai ได้ที่ hanimeza.com
ริชาร์ดพูดคุยกับโฟลว์แซนด์ต่ออีกครู่หนึ่งก่อนที่จะหันไปสนใจป่าที่อยู่ด้านหน้าของเขา เขาลุกขึ้นยืนและขมวดคิ้ว “นี่มันก็ดึกมากแล้ว ทําไมโอล่ายังวิ่งเข้าไปในป่าอยู่อีก 2 ราตรีนี้ เป็นหน้าที่ของเหล่าแร็พเตอร์ในการลาดตระเวนหนิ รีบตามไปดูกันเถอะ”
คอมเม้นต์