ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 26 : ไม่กลัว!
อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ตอนที่ 26 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
บทที่ 26 : ไม่กลัว!
สายตาของซูอานที่จ้องมองเสือหัวโล้นเวลานี้ไม่เพียงแค่เย็นชาเท่านั้น แต่ยังเจือไว้ด้วยร่องรอยของการดูถูกเหยียดหยัน เวลานี้ทุกคนในห้องต่างก็สัมผัสแววตาดูถูกของซูอานได้ และต่างก็รู้สึกว่าซูอานเป็นคนที่แข็งแรงและแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยพบเจอมา
เจียงเหวินเหวินรีบลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปหาซูอานทันที พร้อมกับร้องถามออกมาด้วยความตื่นเต้น “ซูอาน.. นี่นายกลายเป็นคนเก่งแล้วก็แข็งแกร่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ข้าแข็งแกร่งเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว..” ซูอานตอบกลับเสียงเบา และน้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้บ่งบอกว่ากำลังโอ้อวดเลยแม้แต่น้อย
“ไม่จริง.. เมื่อก่อนนายไม่เคยเป็นแบบนี้?”
เจียงเหวินเหวินกำลังพูดถึงซูอานคนเดิมเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หรือแม้กระทั่งเมื่อสองสามปีก่อน เมื่อก่อนนี้ซูอานเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อ่อนแอแล้วก็ขี้ขลาด..
“นายเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก แต่แบบนี้ยิ่งทำให้ฉันชอบนายมากขึ้นไปอีก!”
ซูอานฟังแล้วก็ได้แต่คิดในใจว่า เขาไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจริงๆ!
เสือหัวโล้นยังคงจ้องมองซูอานด้วยแววตาหวาดผวา และตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกหวาดกลัวซูอานมากยิ่งขึ้น แต่ด้วยความโกรธภายในใจที่มีมากกว่า เขาถึงกับบีบแก้วชาในมือจนแตกพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“เจ้าหนู นี่แกคิดว่าแกเอาชนะซ่งปิงได้แล้วฉันจะต้องหวาดกลัวแกมากหรือยังไง?”
“เจ้าไม่กลัวงั้นรึ?!”
ซูอานเอ่ยถามพร้อมกับจ้องมองเสือหัวโล้นด้วยแววตาเย็นชาเช่นเคย และได้แต่คิดในใจว่า ‘หากเจ้าไม่หวาดกลัว ข้าจะทำให้เจ้าหวาดกลัวเอง..’
เมื่อจ้องลึกลงไปดวงตาที่เย็นชาของซูอาน เสือหัวโล้นก็ยิ่งตระหนกตกใจมากขึ้น เพราะแววตาเช่นนี้ไม่ควรเป็นแววตาของเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆคนหนึ่ง แววตาที่เลือดเย็นเช่นนี้น่ากลัวยิ่งกว่าแววตาของนักฆ่ามืออาชีพเสียอีก!
แต่เพื่อรักษาชื่อเสียงของแก๊งพยัคฆ์ในเจียงโจวไม่ให้เสื่อมเสีย เสือหัวโล้นจึงต้องทำใจแข็งและพูดข่มซูอานกลับไปว่า
“เจ้าหนู.. แกรู้มั๊ยว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันจะบอกอะไรให้ ด้วยฐานะของฉันเวลานี้ ถ้าแกยังขืนพูดจาเพ้อเจ้ออีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะทำให้แกตายไร้ดินกลบหน้าเลยทีเดียว!”
ซูอานได้ฟังถึงกับจ้องหน้าเสือหัวโล้นตาไม่กระพริบ แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นดุดันและเอาเรื่องมากขึ้นกว่าเดิม
เสือหัวโล้นเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของซูอานก็ถึงกับใจขึ้นมาทันที และแววตาสังหารที่เป็นประกายวูบขึ้นมาในดวงตาของซูอานนั้น ก็ทำให้ร่างกายของเขาถึงกับสั่นสะท้านจนไม่อาจควบคุมได้
“เจ้ารู้จักคุณชายอู๋หรือไม่?”
ในที่สุดเสือหัวโล้นก็เปิดไพ่ตายในมือของตนเองออกมา และผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังแก๊งพยัคฆ์ก็คืออู๋ซินนั่นเอง
เมื่อทุกคนได้ยินชื่อนี้ สีหน้าของพวกเขาต่างก็เปลี่ยนไปทันที และทุกคนก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความกลัวอีกครั้ง ดูเหมือนคำว่า ‘คุณชายอู๋’ จะตราตรึงแน่นอยู่ในความทรงจำของทุกคนในห้องนี้
กัวเว่ยเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “หมายถึงอู๋ซินยู๋?”
“ถูกต้อง!”
สีหน้าของเสือหัวโล้นบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจเมื่อเอ่ยถึงชื่อของชายผู้นี้ และหลังจากนั้นความหวาดกลัวเมื่อครู่ก็ได้มลายหายไปจากจิตใจของเขาทันที เขาพ่นควันโขมงออกจากปากด้วยสีหน้าสบายอกสบายใจ
หลังจากที่ได้ยินชื่ออู๋ซินยู๋ ทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจออกมา และเริ่มคาดเดาบางอย่างในใจได้..
อู๋ซินยู๋เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คนในเมืองเจียงโจวอย่างมาก ทุกคนต่างเรียกเขาสั้นๆว่าคุณชายอู๋ หรือไม่ก็อู๋ซิน เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเปิดบริษัทที่ชื่อว่า ‘ข้วยเล่อเทคโนโลยี’ และมีมูลค่าในตลาดสูงถึงหนึ่งร้อยล้านหยวนเลยทีเดียว
แต่อู๋ซินไม่ได้มีเปิดบริษัทนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น เขายังลงทุนในธุกิจอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจสีเทาทั้งสิ้น และแก๊งพยัคฆ์ก็เป็นเพียงหนึ่งในแก๊งอิทธิพลที่เขาจ้างไว้ดูแลธุรกิจสีเทาของตนเอง
และที่อู๋ซินประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาคือลูกชายของอู๋ไคฟานั่นเอง
อู๋ไคฟาเป็นใครงั้นหรือ? เขาก็คือผู้ว่าการของเมืองเจียงโจวนั่นเอง และเป็นผู้ที่มีอำนาจอิทธิพลอย่างมากในเมืองนี้!
กัวเว่ยเป็นคนแรกที่ร้องอุทานออกมาว่า “อู๋ซิน.. อู๋ซินที่เป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองเจียงโจวใช่มั๊ย?”
เสือหัวโล้นพยักหน้าทันทีพร้อมกับตอบไปว่า “ใช่แล้ว! คืออู๋ซินที่เป็นหนึ่งในสี่คุณชายใหญ่แห่งเมืองเจียงโจว!”
สีหน้าของเสือหัวโล้นเวลานี้บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจที่ได้บอกกับทุกคนว่าตนมีสัมพันธ์ที่ดีกับอู๋ซิน แม้เขาจะทำงานหนักให้กับอู๋ซิน แต่อู๋ซินก็ให้ผลตอบแทนที่ไม่เลว เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างก็ได้ผลประโยชน์เป็นที่พอใจ
อีกหนึ่งฉายาที่หลายคนในเจียงโจวใช้เรียกอู๋ซินก็คือ คุณชายสี่แห่งเจียงโจว!
จางเฉียงเองก็มีฉายาว่าคุณชายสี่แห่งตงเฉิง ส่วนอู๋ซินก็มีฉายาคุณชายสี่แห่งเจียงโจว แต่ถึงแม้ทั้งคู่จะถูกขนานนามว่าคุณชายสี่เหมือนกัน แต่บารมีของทั้งคู่นั้นยังห่างไกลกันมาก..
ต่อให้จางเฉียงต้องการจะให้รองเท้าอู๋ซินสักคู่ ก็ยังต้องดูว่าอู๋ซินอยากจะรับหรือไม่?
“ซูอาน.. รีบขอโทษเสือหัวโล้นเร็วเข้า!”
กัวเว่ยรีบหันไปทางซูอานพร้อมกับตะโกนบอกให้เขาเอ่ยขอโทษเสือหัวโล้นทันที
“เจ้าคู่ควรที่จะใช้น้ำเสียงเช่นนั้นพูดกับข้างั้นรึ?”
ซูอานหันไปมองกัวเว่ยด้วยแววตาที่เจือด้วยประกายสังหาร พร้อมกับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น..
กัวเว่ยเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับชะงักไปทันที เขายืนนิ่งด้วยความตกตะลึงกับแววตาและน้ำเสียงที่ทรงอำนาจของซูอานอยู่ครู่ใหญ่ กว่าที่จะกลับคืนสู่สภาพเดิม..
กัวเว่ยข่มความกลัวไว้ภายใน และอธิบายให้ซูอานฟังว่า “ถึงนายจะสามารถสู้พวกเขาได้ แต่นายรู้มั๊ยว่าอู๋ซินเป็นใคร? คนอย่างอู๋ซินใครก็ไม่กล้าที่จะมีปัญหาด้วย!”
“ใช่แล้วซูอาน! อย่าไปมีเรื่องกับอู๋ซินจะดีกว่า!”
เจียงเหวินเหวินร้องบอกซูอานด้วยสีหน้าเป็นห่วง และเธอเองก็ไม่คิดว่าแก๊งพยัคฆ์จะมีคนหนุนหลังที่มีอำนาจอิทธิพลมากอย่างอู๋ซิน!
แต่ซูอานกลับทำสีหน้าไม่สนใจ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ใจนัก “ในโลกใบนี้ไม่มีผู้ใดที่คนอย่างซูอานไม่ควรไปมีเรื่องด้วย!”
แม้น้ำเสียงของซูอานจะไม่ดังนัก แต่ก็หนักแน่นและทรงพลัง ราวกับสายฟ้าที่ฟาดเปรี้ยงลงกลางจิตใจของทุกคนที่อยู่ในห้อง
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอีกครั้ง เพราะคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ได้ยินชื่ออู๋ซินแล้ว ซูอานจะยังคงห้าวหาญและผยองได้อีก อีกทั้งยังไม่แสดงวี่แววของความหวาดกลัวออกมาให้คนอื่นเห็นเลยแม้แต่น้อย
“ดี! เยี่ยม! เก่งมาก! ฉันหวังว่าแกจะเก่งแล้วก็จองหองอย่างนี้ให้ได้ตลอดนะ!”
เสือหัวโล้นจ้องมองซูอานพร้อมกับเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่เคยอ้างชื่ออู๋ซินกับผู้อื่นบ่อยนัก เพราะหากอ้างบ่อยจนเกินไป ก็จะทำให้ขาดความน่าเกรงขามลงไป
แต่ในเมื่อซูอานสามารถเอาชนะซ่งปิงได้ ตัวเขาเองจึงนับว่าตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก จึงไม่มีทางเลือกอื่น และจำเป็นต้องอ้างชื่ออู๋ซินให้ทุกคนหวาดกลัว..
เสือหัวโล้นคิดว่าซูอานคงจะต้องหวาดกลัว และลนลานจนต้องคุกเข่าร้องขอความเมตตาจากตน หลังจากที่จัดการเย้ยหยันและสร้างความอับอายให้กับซูอานจนพอใจแล้ว เขาก็จะให้ซูอานต้องจ่ายให้กับความจองหองของตัวเอง
แต่ความจริงกับตรงข้ามกัน.. ซูอานไม่เพียงไม่หวาดกลัวอู๋ซิน มิหนำซ้ำยังพูดจายะโสโอหังยิ่งกว่าเดิม ทำให้เขาต้องเสียหน้ามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!
“เอาล่ะ.. ข้าจะพาคนกลับไปได้หรือยัง?”
ซูอานหันกลับไปถามเสือหัวโล้นด้วยคำถามเดิมอีกครั้ง และไม่มีสีหน้าท่าทางหวาดกลัวให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว จากนั้นจึงหันไปมองจางเฉียงที่นอนหมดแรงอยู่ที่พื้น และบอกกับเขาว่า
“เจ้านับเป็นชายชาตรี ไม่เสียแรงที่เสี่ยวเอ้อม๋อมีใจให้กับเจ้า นางกับข้าเคยพบกันหนึ่งครั้งจึงนับว่าเป็นคนรู้จัก และเหตุผลแค่นี้ก็เพียงพอให้ข้าต้องยื่นมือช่วยนางแล้ว!”
จากนั้นซูอานจึงหันไปพยักหน้าให้กับเสี่ยวเอ้อม๋อเป็นการส่งสัญญาณให้นางลุกขึ้นมา เสี่ยวเอ้อม๋อรีบลุกขึ้น แล้วเดินร้องห่มร้องไห้เข้าไปหาซูอาน ปากก็พร่ำว่า
“ขอบคุณ! ขอบคุณมาก!”
เสี่ยวเอ้อม๋อพูดได้เพียงแค่นั้น เธอไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่านี้..
ในระหว่างนั้น จางเฉียงก็ได้ผงกหัวขึ้นมองซูอานด้วยแววตาซาบซึ้งใจ เพราะเสี่ยวเอ้อม๋อนั้นเปรียบเสมือนดวงใจของเขาเลยก็ว่าได้ เขารักหญิงสาวคนนี้ด้วยความจริงใจ
“ไม่เป็นไร.. วันข้างหน้าเจ้าต้องดูแลนางให้ดีล่ะ!”
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอด้วยชีวิต!”
เสี่ยวเอ้อม๋อย่อตัวลงโอบกอดจางเฉียงไว้แน่น จางเฉียงเองก็โอบกอดร่างของเสี่ยวเอ้อม๋อไว้แนบแน่นเช่นเดียวกัน!
ซูอานรู้สึกสะท้อนใจไม่น้อย เขาคิดไม่ถึงว่ามดปลวกบนดาวเคราะห์ดวงนี้ จะสามารถทำให้เขารู้สึกสะเทือนใจได้ถึงเพียงนี้ แต่ก็เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นก็จางหายไป
เขาเองก็เริ่มจากมดปลวก กว่าจะก้าวขึ้นจุดสูงสุดของเทวโลกที่ยิ่งใหญ่ ผ่านความรักมานับครั้งไม่ถ้วน จึงสามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี..
“พวกเจ้าทั้งหมดลุกขึ้นแล้วไปด้วยกัน!”
ซูอานเปลี่ยนใจ เขาหันไปบอกกับกลุ่มของเด็กหนุ่มสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ เพราะหลังจากใคร่ครวญดูแล้ว หากเขาจากไปพร้อมกับหญิงสาวทั้งสองคนเพียงลำพัง เด็กกลุ่มนี้อาจต้องถูกเสือหัวโล้นทำร้ายเพื่อระบายความแค้นก็เป็นได้
เขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นต้องมาแบกรับในสิ่งที่ตนเองทำ แม้ว่าเด็กกลุ่มนี้จะไม่ค่อยเป็นมิตรกับเขาตั้งแต่แรกก็ตาม!
เมื่อได้ยินคำพูดของซูอาน เด็กหนุ่มสาวต่างก็ประหลาดใจไม่น้อย แต่ก็รีบช่วยกันให้ลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะได้รีบออกไปจากร้านซิงยู๋ KTV นี้เสียที
เจียงเหวินเหวินยังคงนั่งนิ่ง และรอให้ซูอานมาพยุงตนเองให้ลุกขึ้น แต่กลับได้ยินเสียงซูอานพูดขึ้นว่า
“นี่! ถ้าเจ้ายังไม่รีบลุกขึ้นมา ข้าจะไม่สนใจอีกแล้ว!”
เจียงเหวินเหวินได้ยินถึงกับตกใจ เพราะหากซูอานไม่สนใจและทิ้งเธอไว้ที่นี่จริงๆ เธอคงต้องถูกเสือหัวโล้นฆ่าตายแน่!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจียงเหวินหวินจึงรีบลุกขึ้น และวิ่งตามทุกคนไปทันที!
เมื่อทุกคนลุกขึ้นยืนและเดินเข้ามาหาซูอานแล้ว เขาจึงหันไปพูดกับเสือหัวโล้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“หากเจ้าไม่พอใจ ก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ!”
“ไม่ต้องห่วง คุณชายอู๋ต้องไปหาแกในไม่ช้าแน่!”
“ข้าจะรอ!”
ซูอานยกมือขึ้นจัดแจ้งเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินนำทุกคนออกไปจากร้านซิงยู๋คาราโอเกะอย่างสง่างาม
และทันทีที่ซูอานก้าวเท้าออกไปจากห้อง เสือหัวโล้นก็ร้องตะโกนเสียงดัง เส้นเลือดมากมายปูดขึ้นเต็มขมับและศรีษะของเขา
“โทรหาคุณชายอู๋เดี๋ยวนี้!”
คอมเม้นต์