ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – Chapter 7: ซุปปลาคาร์ฟ เสิร์ฟพร้อมเห็ดพิษ พืชทะเล และก้อนหิน
ที่ประตูหมู่บ้าน เฉินเฉินขุดเห็ดที่แผ่นจารึกหินออกมา
เห็ดนี้เป็นสีเขียวและเห็นชัดๆว่ามีพิษ แต่ด้วยความเชื่อใจในระบบ เฉินเฉินก็เก็บเห็ดเข้าไปในกระเป๋าของเขา
จากนั้นเขาก็ไปที่ทุ่งเพื่อเก็บพืชน้ำสีแดง
หลังจากเก็บทั้งสองสิ่งนี้ เฉินเฉินก็ไม่สนใจโอกาสอื่นๆที่อยู่ใกล้ตัวเขาแล้วมุ่งหน้าตรงไปที่แม่น้ำซึ่งอยู่ห่างออกไปสามกิโลเมตร
คนเราไม่ควรจะโลภมากเกินไปไม่อย่างนั้นอาจจะชวดรางวัลใหญ่ได้
โอกาสที่สำคัญที่สุดก็คือการกระโดดหน้าผาที่ผาลมทมิฬ (หน้าผาเฮยเฟิง) อย่างไรก็ตาม ด้วยระยะทางถึง 15 กิโลเมตร เวลาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากไม่ได้ไปในทิศทางที่ถูกต้อง เขาคงจะจับปลาคาร์ฟไม่ได้ด้วยซ้ำ
…
สามกิโลเมตรไม่ได้หนักหนาเลยสำหรับเฉินเฉิน ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านและวิ่งเล่นอยู่เป็นประจำโดยไม่ต้องมีเหตุผลเฉพาะ ในเวลาประมาณ 20 นาที เขาก็มาถึงอ่าว
เมื่อคำนวณเวลาดูแล้วก็พบว่าปลาคาร์ฟจะมาในอีกประมาณเจ็ดนาที เฉินเฉินนั่งรอบนหินก้อนใหญ่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ แล้วพักผ่อนอย่างเงียบๆ
“ระบบ ตอนนี้กี่โมงแล้วช่วยระบุเวลาที่แน่นอนมาให้หน่อยได้ไหม? ข้าไม่มีนาฬิกาอยู่กับตัว และไม่รู้ด้วยว่าเธอใช้เส้นแบ่งเวลาไหน”
“เที่ยงคืนสามสิบห้านาทีค่ะ”
เฉินเฉินรู้สึกโล่งอกมากในตอนที่ได้ฟังคำตอบจากระบบ
แต่ในตอนนั้นเอง พอมองไปที่กระแสน้ำเขาก็เริ่มขมวดคิ้ว
ตอนนี้มันเป็นเวลากลางคืน มันมืดมากจนไม่มีแสงให้เห็นเลย
ในสภาพการณ์แบบนี้ ปลาคาร์ฟสิบตัวเขายังไม่กล้ารับรองเลยว่าจะหาเจอ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงปลาคาร์ฟแค่ตัวเดียว!
ยอมถอดใจจากโอกาสนี้แล้วตรงไปที่หน้าผาลมทมิฬเลยจะดีกว่ารึเปล่านะ?
อย่าลืมว่าหน้าผาลมทมิฬนั้นอยู่ห่างออกไปตั้ง 10 กิโลเมตร!
ถ้าเขาพลาดช่วงเวลานั้น เขาได้กระโดดลงไปตายแน่
หลังจากพิจารณาอยู่ซักพัก เฉินเฉินก็เริ่มเดินลุยเข้าไปในอ่าว ในเมื่อตอนนี้เข้ามาอยู่ในอ่าวแล้ว อย่างน้อยเขาก็สามารถข้ามอ่าวได้ค่อนข้างเร็ว ต่อให้เขาจะจับปลาคาร์ฟไม่ได้ก็ตาม
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
“เที่ยงคืนสามสิบเจ็ดนาทีค่ะ”
พอได้ฟังเช่นนี้ เฉินเฉินก็ช้าลง
สองนาทีต่อมา เมื่อเวลาใกล้ถึงเที่ยงคืนสี่สิบนาที เฉินเฉินก็มองไปทางต้นน้ำ
เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ภายใต้ความมืดมิดข้างในแม่น้ำ มีปลาคาร์ฟกำลังว่ายอยู่ในอ่าว ร่างกายของมันเปล่งแสงออกมาเหมือนไฟประภาคาร ไม่ว่าใครก็ตามที่ยังมีดวงตาปกติดีก็คงจะมองเห็นถึงความพิเศษของมัน
‘ฉันโง่เองแหล่ะ ปลาคาร์ฟที่พิเศษขนาดนี้จะไปเหมือนกับปลาคาร์ฟทั่วๆไปได้ยังไงหล่ะ’ เฉินเฉินคิดในขณะที่เขารีบเข้าไปขวางเส้นทางของปลาคาร์ฟ
ในขณะที่ปลาคาร์ฟตัวนั้นกำลังว่ายมาหาเขา เขาก็พยายามจับมันโดยใช้แค่มือเปล่า ซึ่งเขาก็ต้องประหลาดใจอย่างมาก เพราะจู่ๆปลาตัวนั้นก็กระโดดขึ้นมา มันกระโดดขึ้นไปสูงเหนืออ่าวอยู่หลายฟุต
…
จากนั้นมันก็เข้าไปในหม้อของเฉินเฉินในทันที
“อะไรเนี่ย?”
ในขณะที่เขามองปลาคาร์ฟที่อยู่ข้างในหม้อ เฉินเฉินก็ถึงกับพูดไม่ออกและประเมินสถานการณ์ไม่ถูก
เขาเคยได้ยินเรื่องปลาที่ยอมจำนนกับชีวิตแล้วเข้าไปติดในใยแมงมุม แต่กับหม้อนี่ไม่เคยนะ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง แสงที่เหมือนกับประภาคารบนตัวปลาคาร์ฟก็หายไปหลังจากที่มันลงมาในหม้อ ผ่านแสงจันทร์ที่ส่องลงมาในตอนนี้ เฉินเฉินก็สังเกตเห็นหนวดสองเส้นที่ค่อนข้างแปลกของปลาคาร์ฟ หนวดพวกนี้ทำให้มันดูค่อนข้างน่ากลัว
“มันมีสำนวนว่า ‘ปลาหลีฮื้อ(ปลาคาร์ฟ)กระโดดผ่านประตูมังกร’ อยู่ใช่ไหม? เสียใจด้วยนะพวก ข้าเป็นประตูมังกรของเจ้ายังไงหล่ะ และเจ้าก็ข้ามผ่านข้าไปไม่ได้”
หลังจากคิดปลอบใจตัวเอง เฉินเฉินก็ห่อปลาคาร์ฟให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็วิ่งข้ามอ่าวไปและรีบไปที่หน้าผาลมทมิฬ
…
ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เฉินเฉินก็วิ่งไปได้หลายกิโลเมตรแล้ว
แม้ว่าในชีวิตนี้เขาจะหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เขาก็เริ่มเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย นี่ยังไม่พูดถึงความจริงที่ว่ากางเกงของเขาเปียกไปครึ่งนึงจากตอนที่เขาเดินข้ามอ่าว มันยิ่งถ่วงน้ำหนักเข้าไปอีก
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ เขาไม่สามารถวิ่งเข้าไปโดยไม่ใส่กางเกงได้
ถ้าเกิดถูกเห็นเข้า เขาก็จะถูกจำไปตลอดว่าเคยวิ่งไปทั่วโดยไม่ใส่กางเกงในวัยหนุ่ม
“ระบบ แถวนี้มีอะไรที่ช่วยป้องกันฉันจากความเหนื่อยในขณะที่วิ่งไหม?”
“ไม่มีค่ะ”
เฉินเฉินไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับคำตอบ เนื่องจากเขาสามารถตรวจจับไอเท็มได้แค่ในรัศมี 10 เมตรเท่านั้น ถ้าเกิดสามารถหาไอเท็มอะไรก็ได้ตลอดเวลามันก็คงน่าประหลาดใจแล้ว
ในตอนที่เขาเดินพ้นรัศมี 10 เมตร เฉินเฉินก็ถามอีกครั้ง เขาทำแบบนั้นซ้ำไปเรื่อยๆ จนเดินไปได้ไกลกว่าหนึ่งกิโลเมตร
ทันใดนั้นเอง ระบบก็ให้คำตอบที่ชัดเจนกับเขา
“ในทุ่งหญ้าห่างออกไปทางซ้ายเจ็ดเมตร มีสิ่งที่จะช่วยสงวนอาการเหนื่อยของผู้ใช้ในขณะที่วิ่ง”
เมื่อได้ฟังดังนี้ เฉินเฉินก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายในทันที
เขาตัดสินใจว่าจะกินทุกอย่างนอกจากอุจจาระถ้ามันช่วยเขาได้จริงๆ หลังจากที่วิ่งมาหลายกิโล เขาก็รู้สึกเหนื่อยพอสมควรแล้ว
ในขณะที่มองไปทางทุ่งหญ้า เขาก็เจอกับดวงตาสีเขียวที่ดูน่ากลัวเป็นพิเศษอยู่ในความมืดมิด
“กรรรร!”
เสียงคำรามโทนต่ำดังขึ้นในทันที และทำให้หัวใจของเฉินเฉินเย็นวาบ
มันคือหมาป่า! ระบบพยายามจะฆ่าเขา!
ก่อนที่หมาป่าจะได้กินเขา เฉินเฉินก็วิ่งออกไปแล้ว เขาวิ่งด้วยความเร็วที่สูงกว่าตอนที่เขาไปที่นั่นอีก
หมาป่าที่ถูกขัดจังหวะในระหว่างที่กำลังนอนฝันหวานนั้นค่อนข้างหงุดหงิดและวิ่งออกมาเหมือนกัน ไม่นานนักทั้งคนและหมาป่าก็หายเข้าไปในความมืด
…
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง
เฉินเฉินเอาตัวพิงต้นไม้ที่อยู่ก่อนถึงหน้าผาลมทมิฬ ในขณะที่ส่งเสียงหอบ
การถูกหมาป่าไล่นั้นทำให้เขารู้สึกกลัวจนลืมเหนื่อยจริงๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หยุดวิ่งเขาก็รู้สึกเหนื่อยจนแทบทรุด
“ระบบ ช่วยอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นกับข้าอีกนะ หัวใจที่อ่อนแอของข้ารับไม่ไหว”
“ระบบตรวจสอบมีความแม่นยำสูง ตราบใดที่ผู้ใช้เลือกคำสั่งได้เหมาะสม ก็จะไม่มีสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้เกิดขึ้น”
การโต้เถียงของระบบทำให้เฉินเฉินถึงกับพูดไม่ออก
ในขณะที่รู้สึกลำบากใจกับการถูกหมาป่าไล่ เฉินเฉินก็มาถึงหน้าผาลมทมิฬก่อนถึงเวลากระโดดประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสายลมหนาว ซึ่งพลอยทำให้หัวใจของเฉินเฉินหนาวสั่นไปด้วย
หน้าผาลมทมิฬมีความลึกกว่าหนึ่งกิโลเมตร นี่เขาพร้อมกระโดดแล้วจริงๆหรอ?
ถ้าเกิดเขาตายหล่ะ? ระบบจริงจังกับโอกาสนี้ใช่ไหม?
ด้วยการปัดเป่าคำถามทั้งหมดนี้ออกจากหัวไป เขาก็ทำได้แค่ถอนหายใจออกมา
“ช่างมันก่อนเถอะ เอาเป็นว่ามากินอาหารมื้อนี้ก่อนละกัน อย่างน้อยข้าก็จะได้กลายเป็นผีที่ดูสุขภาพดี”
เฉินเฉินลุกขึ้นแล้วเดินไปที่บ่อน้ำที่อยู่ใกล้กับหน้าผาลมทมิฬเพื่อทำความสะอาดปลาคาร์ฟและล้างพืชน้ำสีแดงพร้อมกับเห็ดสีเขียว
นอกจากของสองอย่างนี้ เขายังได้เพิ่มหินขนาดเท่านิ้วโป้งเข้าไปด้วย จากที่ระบบบอก หินนี้สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยได้ถ้าบริโภคมัน
ในเวลาแค่ไม่กี่นาที เฉินเฉินก็กลับมาที่หลังต้นไม้ เขาจุดไฟแล้วเริ่มทำอาหารเมนูปลา
หรืออธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ก็คือซุปที่ผสมเห็ดพิษ พืชทะเล ปลาคาร์ฟ และหินเข้าด้วยกัน
ณ จุดๆนี้ มารยาทผู้ดีไม่ใช่ปัญหาแล้ว ถึงยังไงหม้อนี้ก็เต็มไปด้วยของที่มีประโยชน์กับเขา
ด้วยเวลาประมาณเกือบสิบห้านาที ซุปก็เดือดในที่สุด โดยไม่ได้ตรวจสอบซุปซักเท่าไหร่ เฉินเฉินก็จิบคำแรกเข้าไปอย่างไม่มั่นใจนัก
ทันใดนั้นเองความร้อนก็แล่นไปทั่วทั้งร่างของเขา ความเหนื่อยหายไปแล้ว!
“รสชาติมันไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่มันเป็นของดีจริงๆ!”
ดวงตาของเฉินเฉินเป็นประกายในทันที เขาเป่าไล่ความร้อนออกแล้วซดซุปเข้าไปต่อ
ลมที่หน้าผาลมทมิฬมีแต่จะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่เฉินเฉินกำลังมีช่วงเวลาดีๆในการจิบซุปอยู่
และในระหว่างนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงต่อสู้ดังมาจากความมืดที่ห่างไกล และทำลายความเงียบสงัดยามค่ำคืน
คอมเม้นต์