ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – Chapter 65: พลังปราณกว่าหนึ่งร้อยล้านปี!

อ่านนิยายจีนเรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything ตอนที่ 65 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เฉินเฉินได้ช่วยจ้าวเสี่ยวหยาพาขึ้นไปนอนบนเตียง

 

ในยามนี้ พลังปราณในร่างกายของเธอกลับมานิ่งสงบอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถก้าวข้ามเข้าสู่ระดับกลางของขั้นสร้างรากฐานได้ แต่ระดับการฝึกตนของเธอยังคงอยู่เหมือนเดิม

 

เมื่อมองไปที่จ้าวเสี่ยวหยาที่กำลังจ้องมาที่เขาจากบนเตียง เฉินเฉินก็ทำตัวเหมือนกับสุภาพบุรุษ

 

“ข้าได้แจ้งปู่ของเจ้าแล้ว เขาจะมาถึงในไม่ช้า ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีก ดังนั้นข้าขอตัวไปก่อนนะ”

 

“ศิษย์พี่เฉินเฉิน รอก่อนค่ะ..”

 

“หืม?”

 

“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ค่ะ ศิษย์พี่…”

 

“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ข้าแค่ผ่านทางมาแค่นั้นแหละ โชคดีนะ! ไปละ!”

 

หลังจากพูดเสร็จ เฉินเฉินก็เดินจากไป

 

ยังไงก็ตาม เขาแอบที่จะถอนหายใจออกมา

 

เมื่อใช้ชีวิตมาถึงสองชั่วชีวิตคนแล้ว เขาเข้าใจเกี่ยวกับผู้หญิงบ้างเล็กน้อย ตามปกติแล้ว ถ้าผู้หญิงเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สูงขึ้นกว่าปกติแล้ว นั่นหมายความว่าเธอนั้นเริ่มที่จะสนใจในตัวอีกฝ่ายแล้ว

 

นอกจากนี้แล้ว เสียงของจ้าวเสี่ยวหยายังแหลมมากอีก ก่อนหน้านี้เธอก็ได้มอบโสมแดงพิเศษให้กับเขาอีก นั่นหมายความว่าเธอนั้นสนใจในตัวเขาเข้าให้แล้วเนี่ยสิ!

 

‘แย่แล้ว! ข้าพึ่งจะ 16เองนะ แต่ข้าก็มีเสน่ห์ที่ไม่มีใครต้านทานได้แบบนี้แล้ว มันจะเกิดอะไรขึ้นกัน เมื่อข้าอายุ 20?’ เฉินเฉินคิดกับตัวของเขาเอง ก่อนที่จะเดินออกไปจากสวนอย่างรวดเร็ว

 

เขาไม่ได้มีความคิดเลยว่าจ้าวเสี่ยวหยาพึ่งจะกลับมามีสติได้ หลังจากที่เขาเดินจากไป

 

เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอพบว่าเธอนั้นตกอยู่ในความฝันเลย

 

ในเวลาเดียวกัน ความหลุ่มหลงในเคล็ดวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนก็ได้จางหายไป เมื่อมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาแทน

 

“ถ้าฉันไม่สามารถฝึกวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนได้ก็ไม่เป็นไร มันก็เหมือนกันแหละ ถ้าผู้ชายของข้าฝึกมันแทน….ข้าจะต้องเอาชนะหัวใจเขาให้ได้แล้ว!”

 

….

 

หลังจากที่เฉินเฉินได้ไปจากยอดเขาดาบสวรรค์แล้ว เขาสะดุ้งออกมาอย่างอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เขามองสังเกตไปทั่ว ก่อนที่เขาจะมุ่งตรงไปยังยอดเขาสวรรค์เงียบอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากที่พบกับจางจีแล้ว ทั้งสองก็ได้มาถึงใต้ตีนเขาของเขาหลัก

 

หูเซียงเอ๋อยังคงทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เธอปกป้องสถานที่แห่งนี้ไปด้วย มันมีนกวิญญาณหลายตัวนอนกองอยู่ข้างเธอ ซึ่งเธอได้ยิงมันตกลงมาได้สักพักหนึ่งแล้ว

 

“พักและฟื้นกำลังที่นี่คืนนี้กันก่อน เอ้า เอาอาหารไป ข้ารู้สึกหนาวเล็กน้อยแล้ว” เฉินเฉินพูดกับทุกคน

 

….

 

มันก็ผ่านไปยังเช้าวันใหม่

 

เฉินเฉินตื่นขึ้นมาจากการบ่มเพาะลมปราณและมองมาที่จางจีที่ยังคงบ่มเพาะลมปราณอยู่ด้านข้าง ตาของเขาหยีลงเล็กน้อย

 

“น้องชาย ผู้อาวุโสสูงสุดนักแปรธาตุบนยอดเขาน้ำอมฤตสวรรค์ได้ยั่วยุข้าไว้ก่อนหน้า ตอนนี้เขาอยู่บนยอดเขานั่นแหละ เมื่อข้าคิดถึงยามที่เขาได้ท้าทายข้าก่อนหน้านี้แล้ว มันทำให้ข้าต้องการที่จะตักเตือนเขาไว้บ้าง!”

 

“หือ? ผู้อาวุโสนี่นะครับ!” จางจีหน้าเสียลง เมื่อเขาได้ยินว่าเฉินเฉินต้องการที่จะตักเตือนผู้อาวุโสเช่นนี้

 

เฉินเฉินกลับหยิบสมุนไพรโชวูออกมาและวางลงมาบนมือของจางจี

 

“น้องชาย เมื่อถึงเวลาแล้ว เขวี้ยงเจ้านี่ลงไปในหม้อหลอมให้เขากลัวซะสิ”

 

“…จะดีหรอครับพี่?”

 

จางจีตกใจมาก เขาคิดว่า ‘การโยนของมั่วซั่วลงไปในเตาหลอมนี่ไม่น่าใช่เรื่องเล็กน้อยเลยนะ มันอาจทำให้ข้าโดนเตะออกจากสำนักก็ได้…”

 

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าจะปกป้องเจ้าเอง มันไม่มีใครกล้าที่จะทำอะไรกับเจ้าหรอก” เฉินเฉินพูดออกมา ในขณะที่ยืนเหรียญตราให้กับจางจี

 

แน่นอนว่าเขาไม่ได้ให้จางจีสร้างปัญหาอะไรหรอก เขากลับรู้สึกว่าเขาควรที่จะมอบโอกาสนี้ให้กับจางจีมากกว่า

 

ถ้าเขาบอกเจ้าทื่อจางจีนี่อย่างละเอียดแล้ว เขาอาจจะเชื่อแต่มันก็ดูเว่อวังเกินจริงมากไปอยู่ดี สุดท้ายแล้วนี่มันก็เกินกว่าการค้นหาสมบัติและเรื่องปกติที่คนจะทำกันแล้ว

 

“ครับ!” จางจีกัดฟันและตอบตกลง

 

นี่มันเป็นเรื่องอันตรายครั้งแรกที่เฉินเฉินขอให้เขาทำมัน เขาไม่สามารถที่จะปฏิเสธมันได้ เขาไม่ลังเลยสักนิด แม้ว่าเขาจะถูกไล่ออกจากสำนักเทียนหยุนก็ตาม!

 

“เยี่ยม! ไปซะ! จำด้วยว่ามันต้องขว้างลงมันถูกช่วงเวลาด้วยนะ! อย่าทำพลาดละ!”

 

เขาจ้องไปที่แผ่นหลังของจางจี รอยยิ้มของจางจีก็ปรากฏขึ้น

 

นี่คือสิ่งที่เขาทำได้ให้กับจางจี เขาได้ให้จางจีควรที่จะคว้าโอกาสนี้เอาไว้

 

หลังจากที่จางจีเดินจากไป เฉินเฉินมองไปดูผลงานที่เจ้าเหลืองกำลังขุดอยู่ เขาก็หันกลับไปมองยอดเขานภาที่อยู่สุดขอบหมู่เขาเทียนหยุน

 

เฉินเฉินได้ตรวจสอบไปที่หินงอกระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปี ซึ่งมันถูกพบขึ้นที่นั่น คุณค่าของมันไม่ได้ต่ำไปกว่าดอกบัวหัวใจสวรรค์เพลิงโลกาเลยสักนิด

 

ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว เจ้าสิ่งนี้กลับมีประโยชน์กับเขามากตอนนี้ ถึงแม้ว่าดอกบัวหัวใจสวรรค์เพลิงโลกาจะมีค่ามากก็ตาม เขาก็สามารถใช้มันได้หลังจากที่ระดับการฝึกตนของเขาสูงกว่านี้

 

ด้วยเหตุนี้แล้ว ท่ามกลางโอกาสนับพันโอกาส น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีนี่กลับล้ำค่ากับเขามากกว่า

 

เมื่อเฉินเฉินพุ่งตรงไปยังยอดเขานภา เขาก็รู้สึกถึงความตื่นเต้นที่หายไปนานแล้ว

 

หลังจากที่ได้พบสมบัติสวรรค์มามากมาย สมบัติธรรมดาทั่วไปมันก็ไม่สามารถทำให้เขาตื่นเต้นได้อีกแล้ว

 

ยังไงก็ตาม น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีมันแตกต่างออกไป ตามรายละเอียดที่อยู่ในหนังสือแล้ว มันสามารถที่จะเพิ่มระดับการฝึกตนของคนคนหนึ่งได้เลย รวมทั้งสามารถเปลี่ยนศักยภาพของร่างกายคนได้เลย…

 

สมบัติสวรรค์นี้เหมือนกับผลไม้บรรพกาลแห่งสวรรค์ มันหาได้ยากและมีเพียงอยู่ในตำนานเท่านั้น

 

หลังจากภายใจเข้าลึกๆแล้ว เฉินเฉินก็เริ่มขุดดิน

 

จางจีไม่มีทางที่จะหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูเขาเช่นนี้เจอหรอก

 

นอกจากภูเขาจะถล่มและก้อนหินมันละลายเข้าสักวันหนึ่ง เจ้าสมบัตินี้ก็จะถูกซ่อนเอาไว้ตลอดกาล

 

หลุมใหญ่ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินเฉินซึ่งอยู่ลึกลงไปประมาณ 20 เมตร

 

“นี่ไง!”

 

เฉินเฉินไม่สามารถที่จะอดกลั้นความตื่นเต้นของเขาไว้ได้ เขาเริ่มที่จะขุดดินลงไปต่อ แสงส่องประกายลอดออกมา

 

มันมีถ้ำอยู่ด้านในภูเขา ความกว้างของมันประมาณหนึ่งร้อยเมตร มันสูงกว่าสามเมตรและด้านบนยอดเขาต่างเต็มไปด้วยหินยอกหินย้อยสีขาวมากมายเต็มไปหมด มันเหมือนมีคลื่นทะเลอยู่ด้านบนถ้ำ

 

มันเหมือนกับมีทะเลย้อนกลับอยู่ในถ้ำแห่งนี้ มันเป็นภาพที่น่าตื่นตาใจมาก

 

ที่น่าตื่นตกใจไปกว่านั้นคือคลื่นมันเคลื่อนไหวจากขอบมุมถ้ำไปยังใจกลางถ้ำโดยไม่มีรูปแบบตายตัว

 

ด้านบนหินย้อยที่ใหญ่ที่สุดตรงใจกลาง มันมีหยดน้ำส่องประกายกำลังจะหล่นลงมาได้ทุกเมื่อ

 

“น้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปี…มันใช้เวลานานไม่รู้กี่ปีกว่าจะหยดลงมาได้สักหยด!”

 

เฉินเฉินประหลาดใจมาก เขารีบไปเลียมันทันที

 

ในความเป็นจริงแล้ว เขามุ่งตรงไปเลียที่หินย้อยด้วยตัวของเขาเองเลย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาพที่น่ารังเกียจไปเล็กน้อย มันก็เป็นเรื่องโชคดีที่ไม่มีใครเห็นเขา

 

แต่ว่าทันทีที่เขากำลังวิ่งไปถึง เจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีก็หยดลงบนพื้น

 

“เวรเอ้ย! อย่านะ!” เฉินเฉินอุทานออกมา ถ้ามันหยดลงบนพื้นแล้ว มันจะเป็นภาพที่น่ารังเกียจมากเกินไปสำหรับเขาที่จะเลียพื้นแบบนี้!

 

แต่ว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะหยุดเวลาได้ เจ้าน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีหยดลงบนพื้น

 

เมื่อมันหยดลงไป มันก็หายไปทันที

 

เมื่อเขาเห็นดังนี้ หัวใจของเฉินเฉินเย็นยะเยียบมาก เขาปรารถนาที่จะมีพลังพิเศษที่สามารถแลบลิ้นออกมาได้หลายเมตร

 

เฉินเฉินเดินตรงไปหาหินย้อยอย่างกังวลใจและเริ่มสังเกตมองไปบนพื้นดิน เพื่อที่จะดูว่ามันยังสามารถเลียได้หรือเปล่า

 

“มันหยดลงไปในหลุม..”

 

เมื่อสัมผัสไปบนผืนดินแล้ว เฉินเฉินรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

มันกลับกลายเป็นว่ามันมีหลุมที่อยู่ด้านใต้เจ้าหินย้อยวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีอยู่และเหตุผลที่มันหายไปก็เป็นเพราะว่ามันหยดลงไปในหลุม

 

“ข้าจะขุดมัน แม้ว่าข้าจะต้องขุดลึกลงไปนับร้อยเมตรก็ตาม”

 

เฉินเฉินไม่เศร้ากับโชคชะตาของเขาเลยสักนิด เขาหยิบพลั่วเหล็กออกมาและเริ่มขุดดิน

 

เพียงเวลาไม่นานเจ้าหลุมเล็กนี้ก็ขยายมาเท่ากับขนาดของอุ้งมือ

 

เขามองลึกลงไปในหลุมนั่น มันแทบจะทำให้เฉินเฉินเป็นลมเลยด้วยซ้ำ!

 

มันมีโลกใบใหม่อยู่ด้านใต้หลุมนั่น!

 

ด้านล่างของเขา มันมีบ่อน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์หนึ่งแสนปีที่มีขนาดหนึ่งลูกบาศก์เมตรอยู่…

 

ในเวลาเดียวกันนี้เอง เฉินเฉินอดที่จะนึกถึงโครงสร้างของสำนักเทียนหยุนไม่ได้

 

เส้นลมปราณของสำนักเทียนหยุนอยู่ใต้ยอดเขาหลักและมันอยู่ด้านขวาของยอดเขา ซึ่งมันยอดเขาที่มีพลังปราณจำนวนมากกักเก็บไว้อยู่ ลูกศิษย์ของสำนักเทียนหยุนส่วนใหญ่ต่างฝึกตนกันอยู่บนยอดเขาทางขวาของยอดเขาหลัก

 

ในทางกลับกัน พลังปราณมันกระจัดกระจายจนน้อยมากทางฝั่งซ้ายของยอดเขาหลัก

 

มันดูไม่สมเหตุสมผลมาก เนื่องจากว่าระยะทางระหว่างเส้นลมปราณทางฝั่งซ้ายและเส้นลมปราณทางฝั่งขวานั้นเหมือนกัน

 

ในตอนนี้ เฉินเฉินเข้าใจแล้ว

 

มันเป็นเพราะพลังปราณของยอดเขาหลักทางฝั่งซ้ายถูกดูดซึมโดยเจ้าสิ่งมหัศจรรย์นี้นี่เอง มันเปรียบดั่งกับค่ายกลสวรรค์และผืนปฐพี สุดท้ายแล้วมันก็หลอมรวมกลายเป็นหินย้อยระฆังวิญญาณสวรรค์

 

บ่อน้ำระฆังวิญญาณสวรรค์ที่อยู่ด้านล่างเปรียบดั่งกับผลลัพธ์ของการรวมตัวกันระหว่างพลังปราณจำนวนครึ่งหนึ่งของภูเขาเทียนหยุน ซึ่งมันได้กักเก็บไว้กว่าร้อยล้านปี!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด