ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – Chapter 111: ขอโทษนะ ข้าไม่ได้
ในขณะที่มองแจ้งเตือนที่ได้รับจากระบบ เฉินเฉินก็เริ่มวางแผนในหัวอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากมีขีดจำกัดเรื่องระยะเวลาที่เขาสามารถอาศัยอยู่ในดินแดนลับได้ และเขาก็ยังต้องผ่านการทดสอบบางอย่างเพื่อให้ได้รับมรดกด้วย มันจะดีที่สุดถ้าเขาให้ความสำคัญกับมรดกที่มีค่ามากที่สุด
หลังจากร่างแผนการคร่าวๆ เฉินเฉินก็วิ่งไปยังมรดกเทพอสูร ซึ่งอยู่ไกลที่สุดโดยไม่ลังเล
จากการจัดเรียงของเขา เขาจะกลับมาเก็บมรดกของเจ้าสำนักรุ่นที่สองซึ่งอยู่จุดสูงสุดของวิญญาณแก่นแท้ หลังจากที่เก็บมรดกของเทพอสูร จากนั้นเขาก็จะมุ่งหน้าต่อไปเก็บมรดกที่ดีเป็นอันดับสอง
เขาจะทำการเก็บมรดกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาสิบวันนี้ ยิ่งมีมากก็ยิ่งสุขใจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากวิ่งอย่างบ้าคลั่งเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรและฆ่าสัตว์ร้ายไปสองตัวด้วยกริชร้อยพิษ เฉินเฉินก็รู้สึกสิ้นหวัง
มันเป็นเพราะเขาได้ผ่านมรดกของเจ้าสำนักอสูรรุ่นที่สอง
ไม่เหมือนกับมรดกชิ้นอื่นๆ มรดกของเจ้าสำนักอสูรรุ่นที่สองนั้นไม่ได้ซ่อนอยู่
มันมีอนุสาวรีย์ขนาดยักษ์อยู่บนยอดเขาที่บ่งบอกว่ามีมรดกอยู่ที่นั่น
นอกจากนั้น เจ้าสำนักไม่ได้ซ่อนการทดสอบหรือมีอะไรน่าประหลาดใจซ่อนเอาไว้เลย
การทดสอบนั้นชัดเจน เขาสามารถบอกได้ด้วยการมองแค่ปาดเดียว
ภูเขาที่เต็มไปด้วยหินคมๆ และจากระยะไกลๆ พวกมันดูเหมือนกับภูเขามีดเลย เท่าที่เฉินเฉินเห็น มีศพอยู่ประมาณเจ็ดหรือแปดศพ
นอกจากนี้ ยังมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ในพื้นที่ซึ่งกินรัศมีหนึ่งร้อยเมตรรอบอนุสาวรีย์หิน! พวกมันทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง!
มันเหมือนกับภูเขาเพลิง!
พอมองอุปกรณ์โทรมๆของเขา เฉินเฉินก็คิดว่าการลุยภูเขาเพลิงเพื่อให้ได้รับมรดกนั่นคงจะเป็นงานที่ยากลำบากมาก ต่อให้เขาได้มันมา เขาก็อาจจะไม่เหลือแรงที่จะใช้มันก็ได้
เมื่อเห็นแบบนี้ สีหน้าของเฉินเฉินก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแล้วเขาก็รีบเปลี่ยนใจ
ถ้าเขาเคลื่อนไหวตามแนวคิดก่อนหน้านี้ มันคงจะเหมือนกับผู้เล่นมือใหม่ไปท้าทายลาสบอสของเกมส์
มันคือการหาเรื่องตาย
หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมัน เฉินเฉินก็หันกลับไปแล้วเลี้ยวซ้าย
การทดสอบของเจ้าสำนักรุ่นที่สองยังน่ากลัวขนาดนี้ คงมีแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามรดกของเทพอสูรจะมีพลังพิเศษอะไรบ้าง แล้วถ้ามันให้การทดสอบที่เขาไม่สามารถผ่านได้หล่ะ?
‘ไม่ได้ ข้ายังต้องยกระดับตัวเอง!’
เฉินเฉินไม่ใช่คนโลเล หรือคนโลภ เขารู้ว่าเขาต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตัวเองตลอดเวลา
ครู่ต่อมา เขาก็มาถึงมรดกของผู้อาวุโสระดับจุดสูงสุดของก่อกำเนิดวิญญาณและผ่านการทดสอบด้วยความช่วยเหลือของระบบ เช่นเดียวกับการดำเนินการเพิ่มเติมนิดๆหน่อยๆ ดังนั้นเขาจึงได้รับมรดกมา
“เด็กแห่งโชคชะตาเอ๋ย เจ้าต้องสูญเสียเรี่ยวแรงและเลือดเนื้อไปไม่ใช่น้อยเลยสินะ? เจ้ารู้สึกเวียนหัวและแขนขายวบยาบบ้างรึเปล่า? ฮ่าฮ่า! ถ้าเจ้าอยากได้รับมรดก เจ้าก็ต้องผ่านความยากลำบากพวกนี้ ขวดที่อยู่ข้างๆมันเก็บเลือดแก่นมังกรที่แท้จริงเอาไว้ ซึ่งข้าได้รับมาโดยบังเอิญ ถ้าเจ้าดื่มมัน มันจะช่วยเจ้าจากสภาพขาดเลือด และจะช่วยให้เจ้าฝึกวิชาขัดเกลาเลือดอสูรนภาได้!”
เมื่อเห็นเนื้อหาที่ผู้อาวุโสระดับสูงสุดของก่อกำเนิดวิญญาณทิ้งไว้ เฉินเฉินก็พึมพำ “ขอโทษนะ ข้าไม่ได้เลือดออก แต่ข้าก็ยังต้องดื่มมัน”
หลังจากที่พูดจบ เฉินเฉินก็ดื่มเลือดแก่นมังกรที่แท้จริงเข้าไปในอึกเดียว จากนั้นคลื่นพลังงานเลือดขนาดยักษ์ก็พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา!
ในตอนที่สัตว์ร้ายรอบตัวเขาเห็นภาพนี้ พวกมันก็หวาดกลัวจนหันหลังหนีหายเข้าไปในป่าในเวลาไม่นาน
เฉินเฉินรู้สึกได้ถึงพลังกายที่เพิ่มขึ้นมา และโดยไม่พูดอะไรอีก เขาก็ทิ้งมีดไป ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาสามารถโค่นต้นไม้ต้นเล็กๆได้ด้วยมือเปล่า
…
ช่วงกลางดึก
เฉินเฉินได้มาถึงหน้ามรดกของเจ้าสำนักอสูรรุ่นก่อนด้วยสภาพโทรมไปทั้งตัว
“แด่ผู้ถูกโชคชะตากำหนด ข้าพนันได้เลยว่าตอนนี้กระดูกของเจ้าคงหักไปอย่างน้อย 30 ซี่ได้แล้วสินะ? แต่ว่าเจ้าก็ยังสามารถดึงดันถ่อมาจนถึงที่นี่ได้ เจ้าเป็นคนที่หาได้ยากยิ่ง กล่องที่อยู่ข้างๆเจ้าได้เก็บยาขี้ผึ้งที่ทำมาจากกระดูกของอสูรเสือระดับวิญญาณแก่นแท้ที่ข้าเคยสังหารเอาไว้ จงใช้มันทาตามร่างกายของเจ้าและเข้าญาณเป็นเวลาชั่วยามนึงเพื่อทำการรักษากระดูกที่หักของเจ้า”
“โอเค ขอบคุณมาก!”
เฉินเฉินหยิบหนังสือลับขึ้นมาแล้วนำขี้ผึ้งกระดูกเสือมาทาตามร่างกายของเขา ไม่นานนัก กระดูกในร่างกายของเขาก็เริ่มแตกและพองขึ้นเหมือนกับถั่ว
เฉินเฉินเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าและคำราม ในตอนที่เขาได้สติกลับมา เขาก็ตัวสูงขึ้นสองเซนติเมตร
วันต่อมา…
“แด่ผู้ถูกโชคชะตากำหนด ข้ามั่นใจเลยว่าตอนนี้เส้นเอนในร่างกายของเจ้าต้องขาดแล้วแน่ ๆ แต่อย่าได้หวาดกลัวไป…”
ในวันที่สาม…
“แด่ผู้ถูกโชคชะตากำหนด ข้าคิดว่าเจ้าคงทำให้ตัวเองเป็นหมันแล้วสินะ? อย่าได้ตื่นตระหนกไป…”
ในวันที่สี่…
…
ในวันที่แปด…
เฉินเฉินเดินไปด้วยความไม่มั่นคงเพราะเขาไม่ค่อยชินกับความแข็งแกร่งของร่างกายเขาในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการพัฒนาค่อนข้างเร็วในช่วงไม่กี่วันมานี้
ในส่วนของเชือกและอุปกรณ์อื่นๆ เขาได้ทิ้งพวกมันไปหมดแล้ว เหลือเอาไว้แค่กระเป๋าสะพายใบเดียว ซึ่งเก็บคู่มือลับของพวกเก่งๆเอาไว้ เช่นเดียวกับของขวัญอวยพรที่ยอดเยี่ยมบางส่วน
ในเวลานี้ เขาได้กลับมาที่มรดกของเจ้าสำนักอสูรรุ่นที่สองซึ่งอยู่จุดสูงสุดของวิญญาณแก่นแท้อีกครั้ง
ภูเขาไฟที่ดูน่ากลัวนี้ไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว
ในตอนที่เขาเหยียบเข้าไป หินที่ทั้งคมและสูงชันก็กลายเป็นขี้เถ้าในทันที เฉินเฉินไม่ได้ใช้ระบบด้วยซ้ำ
อันที่จริง ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ร่างกายของเขาได้รับภาระหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งมรดกผ่านการทดสอบและกับดักต่างๆ
ดังนั้นนี่คือสาเหตุที่เมื่อวาน เขาได้รับมรดกของยอดฝีมือระดับวิญญาณแก่นแท้แปดคนมาภายในวันเดียว
ตอนนี้ จากมรดก 28 ชิ้นที่ระบบตรวจจับได้ มีแค่ภูเขาเพลิงและรูปปั้นเทพอสูรที่เหลืออยู่
ตึง ตึง ตึง…
ในระหว่างทาง ก้อนหินได้พุ่งขึ้นฟ้าไปในขณะที่เฉินเฉินเดินผ่านภูเขา และมาถึงรัศมีไฟในเวลาไม่นาน
หลังจากลังเลอยู่พักนึง เฉินเฉินก็ก้าวเข้าไปในทะเลเพลิง
ความเจ็บปวดจากการถูกเผาที่เขาจินตนาการเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้น แต่เขารู้สึกว่าพลังงานเลือดในร่างกายของเขากำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว โดยไร้ซึ่งความลังเล เฉินเฉินก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และพุ่งออกไปเป็นระยะสิบเมตร
ตูม ตูม ตูม!
หลังจากเกิดระเบิดดังถึงสิบระลอก เฉินเฉินก็ข้ามทะเลเพลิงมาได้และมาอยู่ตรงหน้าอนุสาวรีย์หิน
ไม่มีโต๊ะหรือกล่องสมบัติอยู่ที่นี่ มันเป็นแค่พื้นที่ว่างเปล่า
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เฉินเฉินเหยียบเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ อนุสาวรีย์หินก็เปล่งแสงสว่างจ้า
หลังจากนั้นในทันที ภาพลวงตาของคนๆนึงที่สวมเสื้อคลุมสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าของเขานั้นไม่ค่อยชัดเจน แต่เฉินเฉินสามารถบอกได้ในชั่วพริบตาว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก
เจ้าสำนักรุ่นที่สองของสำนักอสูรเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา!
“เจ้าเด็กที่น่าสงสาร เจ้ายังต้องการที่จะแข็งแกร่งที่สุด ต่อให้ต้องตายเช่นนั้นเหรอ? ข้ารู้ว่าเจ้ามีร่างกายที่พิเศษเหมือนกับข้า ไม่อย่างนั้น เจ้าคงจะตายไปตั้งนานแล้ว
“เจ้ามีร่างกายที่แข็งแกร่งและมีจิตใจที่ไร้ซึ่งผู้ใดเปรียบ ต่อให้ร่างกายของเจ้าตาย เจ้าก็ยังต้องการกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น เจ้าหนู ข้าต้องยอมรับเลย เจ้าทำให้ข้าประทับใจ และเจ้าก็มีคุณสมบัติในการเป็นศิษย์ของข้า ปีศาจอมตะ เพราะฉะนั้นข้าจะสอนวิชาที่ไร้เทียมทานของข้าให้กับเจ้า วิชาอมตะไขว่คว้าสวรรค์!”
เฉินเฉินพูดไม่ออก คนๆนี้ดูเท่สำหรับเขาแต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่มีสติจริงๆอยู่
ไม่อย่างนั้นทำไมมันถึงบอกว่าเขาตายไปแล้วล่ะ?
นี่มันคือการโกหกหน้าด้านๆ!
‘เสียใจด้วยนะ ข้าไม่ได้ตาย’
ก่อนที่เฉินเฉินจะเย้ยหยันเขาจบ รัศมีแสงเส้นนึงก็ถูกยิงออกมาจากอนุสาวรีย์หินอีกครั้ง และส่องลงมาที่เฉินเฉิน
มีความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเฉินเฉินอย่างรวดเร็ว มันคือวิชาอมตะไขว่คว้าสวรรค์!
ในตอนนี้เอง คนๆนั้นได้พูดขึ้นอีกครั้ง
“จงถือกำเนิดใหม่ซะ เจ้าเด็กโง่ ในตอนที่ข้าตาย ข้าได้ทิ้งแก่นแท้ความเป็นอมตะจำนวนมหาศาลเอาไว้ ตอนนี้ เจ้าจะได้ทั้งหมดไป!”
ในทันทีที่เสียงของเขาสิ้นสุดลง หยดฝนสีทองก็เริ่มตกลงมาจากท้องฟ้า
ฝนนี้ทำให้ร่างกายของเฉินเฉินดูเหมือนกับถูกชุบด้วยทอง มันทำให้ร่างกายของเขาแผ่รัศมีแสงสีทองเปล่งปลั่งออกมา
ในตอนที่ฝนหยุดตก เฉินเฉินก็สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกระโดดลงมาจากภูเขา
ตูม!
ด้วยการต่อยธรรมดา เฉินเฉินได้ขยี้ก้อนหินใหญ่เท่าบ้านเป็นชิ้นเล็กๆ
ในตอนนี้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาสามารถสู้ด้วยตัวเองได้โดยใช้ร่างกายเพียงอย่างเดียว!
เขาได้ฝึกตนมาเป็นเดือนๆจนพัฒนาระดับการฝึกตนมาถึงขนาดนี้ แต่เขายังได้ขัดเกลาร่างกายมาเป็นเวลาแปดวันด้วย
หลังจากได้ประโยชน์มาจากยอดฝีมือคนนั้นบ้างคนนี้บ้าง เขาก็สามารถเพิ่มการฝึกตนของเขามาถึงระดับที่น่าหวาดหวั่นนี้ได้
คงไม่มียอดฝีมือคนไหนที่อยากให้การทดสอบที่ตัวเองออกแบบมาอย่างประณีตถูกคลี่คลายได้อย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของมนุษย์คนนึงที่พัฒนาขึ้นมาได้จนถึงขอบเขตที่น่าตกใจท่ามกลางดินแดนลึกลับนี้!
ไม่ต้องพูดถึงความยากในการตามหามรดกพวกนี้เลย แค่การเอาชีวิตรอดในป่าแห่งนี้ด้วยร่างกายมนุษย์ธรรมดาก็ต้องใช้เรี่ยวแรงมหาศาลแล้ว
การใช้เวลาสิบวันในการตามหามรดกที่พึงพอใจและทำการทดสอบให้ผ่านก็ถือว่ายากมากๆแล้ว
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าของขวัญส่วนใหญ่ที่ได้รับจากยอดฝีมือนั้นคงถูกใช้ไปกับการรักษาบาดแผลและอาการบาดเจ็บ ไม่ใช่การเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย
ถ้าพูดตามหลักเหตุผลแล้ว พวกเขาไม่น่าจะทำให้คนๆนึงพัฒนาได้อย่างพรวดพราดถึงขนาดนี้
“ขอโทษนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอก”
เฉินเฉินรู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างรู้กาลเทศะก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังรูปปั้นเทพอสูร
ด้วยความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาในตอนนี้ เขาได้โกงดินแดนลับอย่างแท้จริงแล้ว!
“ด้วยพรสวรรค์ประจำตัวของข้าและความได้เปรียบที่เพิ่มเข้ามา การจะได้มรดกของเทพอสูรก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหม?”
ด้วยความคิดเช่นนี้ เฉินเฉินก็มีความกล้าๆกลัวๆที่น้อยลงและมีความมั่นใจที่มากขึ้น
คอมเม้นต์