ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 391 กริชดาวตก ตอนที่ 2

อ่านนิยายจีนเรื่อง ยอดนักรบจอมราชัน ตอนที่ 391 กริชดาวตก 2 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 391 กริชดาวตก ตอนที่ 2

กริชดาวตกเล่มนี้คือกริชกลืนกินเลือดเนื้อในตำนานมีเสน่ห์เฉพาะตัวซึ่งกริชทั้งเล่มดูเหมือนจะเปล่งออร่าแปลกๆ ออกมาเผยให้เห็นความอำมหิตและน่าเกรงขามอย่างมาก

เย่เชียนก็พยายามระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้แต่ทว่าถึงยังไงความตื่นเต้นของเขาก็ไม่สามารถที่จะปกปิดเอาไว้ได้เพราะในดวงตาคู่นั้นของเขากำลังจดจ่ออยู่กับอ่อร่าที่เปล่งประกายออกมาด้วยพลังงานบางอย่างจนเย่เชียนอยากจะยื่นมือออกไปสัมผัสมันจริงๆ แต่เพื่อที่ไม่เป็นการขัดขวางกงห่าวนั้นเย่เชียนก็ต้องจำใจยับยั้งชั่งใจเอาไว้

กงห่าวจับกริชดาวตกและมองมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างระมัดระวังรวมไปถึงทุกรายละเอียดของมันและไม่มีใครที่สามารถรู้ได้เลยว่าความตื่นเต้นในใจของกงห่าวในขณะนี้นั้นไม่ได้น้อยไปกว่าเย่เชียนเลย หากความโปรดปรานของเย่เชียนที่มีต่อกริชดาวตกเป็นดั่งศาสตราวุธแล้วสำหรับกงห่าวก็คือความสุขที่ได้เห็นของในตำนานที่รอคอยมานานแสนนานนั่นเอง

ทุกคนมักจะมีสิ่งที่โปรดปรานและงานอดิเรกด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งจุดอ่อนของกงห่าวก็อยู่ที่นี่เพราะถ้าหากใครต้องการให้กงห่าวร่วมมือด้วยก็แค่ต้องใช้ของเก่าและของโบราณที่สามารถดึงดูดเขาได้เช่นเดียวกับความชอบของหวังปิงที่ชื่นชอบการประดิษฐ์ตัวอักษรและภาพวาด เหมือนกับการที่เย่เชียนโน้มน้าวและมอบภาพโบราณให้กับหวังปิงจนก่อให้เกิดการร่วมมือที่สมบูรณ์แบบ

หลังจากนั้นไม่นานกงห่าวก็ค่อยๆ เก็บกริชดาวตกเอาไว้ในกล่องและหลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้อง

เย่เชียนก็เหลือบมองแจ็คและพูดว่า “แจ็คนายกลับไปก่อนเถอะ..ฉันจะส่งมอบกริชดาวตกให้ตรงเวลาภายในสามวันเพื่อให้แน่ใจว่าการประมูลจะเป็นไปตามปกติ..เท่าที่ฉันรู้มาน่ะกริชดาวตกได้ดึงดูดความสนใจชาวยุโรปเป็นจำนวนมาก..ฉันคิดว่ามันต้องมีพวกพ่อค้าจำนวนมากที่อยากเห็นมันก่อนวันการประมูล..เพราะงั้นนายจะทำยังไงก็ได้ให้ดูเหมือนมีกริชดาวตกอยู่ในตู้เซฟให้ได้”

แจ็คก็พยักหน้าเบาๆ เพราะเขานั้นเข้าใจความหมายที่เย่เชียนพูดเป็นอย่างดีซึ่งมันหมายความว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีกริชดาวตกอยู่ในตู้เซฟก็ตามถึงยังไงเขาก็ต้องสร้างภาพลวงตาให้คนอื่นเห็นว่ามันมีกริชดาวตกอยู่ในนั้น ซึ่งด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะไม่กระตุ้นความสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น “รับทราบครับบอส! ..ผมรู้ว่าต้องทำยังไง!” แจ็คพูดต่อ “ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะบอส!”

เย่เชียนก็พยักหน้าและมองไปที่หวังหูแล้วพูดว่า “ไอ้เสือ..นายกลับไปพร้อมกับแจ็คได้เลย..ฉันจะอยู่ที่นี่ก่อน” จากนั้นเย่เชียนก็หันไปพูดกับแจ็คว่า “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็แจ้งให้ฉันทราบโดยเร็วที่สุด!”

แจ็คและหวังหูก็พยักหน้าและหันหลังเดินออกไปจากบ้านของกงห่าว

หลังจากนั้นไม่นานกงห่าวก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับกล้องจุลทรรศน์ในมือและวางมันลงบนโต๊ะและกงห่าวก็หยิบกริชดาวตกออกมาอย่างระมัดระวังและวางมันลงและตอนนี้ในหัวของกงห่าวนั้นมีแต่เรื่องของกริชดาวตกเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับการจากไปของแจ็คและหวังหูเลยแม้แต่น้อย

กงห่าวก็กำลังเฝ้าดูอย่างระมัดระวังและขยับทีละนิดทีละหน่อยและเขาก็ไม่ละเว้นแม้แต่ส่วนเดียวของตัวกริช ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ เช่นกันเขาเพียงเฝ้ารออย่างระมัดระวัง

เวลาผ่านไปนานสักพักหนึ่งกงห่าวก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “มันเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ ..ตามวัสดุของมันเนี่ยมันไม่ใช่เหล็กธรรมดาๆ แน่นอนและมันก็แตกต่างจากอุกกาบาตด้วยเช่นกัน..องค์ประกอบภายในน่ะถูกทำขึ้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและดูเหมือนว่ามันจะมีเลือดไหลเวียนอยู่ในนั้นด้วย..เอ็งอยากลองดูมั้ย?”

เย่เชียนถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและรีบพูดว่า “ได้ครับ!” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็ลุกขึ้นและเดินไปข้างหน้ากงห่าวและมองไปที่กล้องจุลทรรศน์และเป็นดั่งที่กงห่าวพูดเอาไว้เลยเพราะมันมีเลือดไหลเวียนอยู่ในใบมีดเหมือนกับเลือดมนุษย์อย่างไงอย่างงั้น ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่รู้เลยว่ามันเป็นเหล็กชนิดใดหรือทำมาจากวัสดุใดกันแน่

“มันมาจากการรวมตัวของโมเลกุลเพชรงั้นหรอ?” เย่เชียนถามอย่างสงสัยและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้รู้เรื่องโครงสร้างโมเลกุลของเพชรก็ตามแต่เขาก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนดังนั้นเขาจึงคาดเดาประมาณนี้

กงห่าวก็ส่ายหัวและพูดว่า “มันไม่ใช่โครงสร้างโมเลกุลของเพชรอย่างแน่นอนเพราะโครงสร้างโมเลกุลของเพชรจะคล้ายกับคาร์บอนมีรูปร่างหกเหลี่ยมและถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย..แต่โครงสร้างโมเลกุลของเจ้ากริชดาวตกเนี่ยมันเป็นรูปสามเหลี่ยมและที่สำคัญกว่านั้นก็คือฉันกลัวว่าด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันมันอาจจะไม่สามารถปลอมแปลงเจ้ากริชดาวตกเล่มนี้ได้เลย..อารยธรรมของมันที่สืบทอดกันมานั้นมันนานเกินไปและอารยธรรมพวกนั้นมันก็สูญหายกันไปหมดแล้ว..แต่ฉันบอกได้เลยนะว่าเครื่องบินรบและปืนใหญ่น่ะไม่สามารถทำลายกริชดาวตกได้เลย..เชื่อมั้ยว่าต่อให้เอ็งใช้ขีปนาวุธระเบิดมันก็ตามถึงยังไงเอ็งก็ไม่สามารถทำลายมันได้อยู่ดี”

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะถ้าหากใครได้ครอบครองสิ่งนี้ล่ะก็คนคนนั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด? ซึงคนคนนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถอยหนีเลยและสามารถเผชิญหน้าศัตรูได้โดยตรงเลยด้วยซ้ำ “อาจารย์กงสามารถทำมันให้เสร็จสมบูรณ์ภายในสามวันได้หรือเปล่า?” เย่เชียนถามอย่างกังวลเพราะสิ่งที่กงห่าวพูดในตอนนี้นั้นมันลึกลับเกินไปและเย่เชียนก็รู้สึกได้ว่าในต้องมีความยากลำบากในการลอกเลียนแบบกริชดาวตกเล่มนี้อย่างมากแน่นอน

กงห่าวก็ขมวดคิ้วแน่นแล้วถามว่า “มีนักประเมินราคาโบราณวัตถุคนไหนเคยเห็นมันบ้างไหม..ถ้าพวกเขาเคยเห็นมันกับตาล่ะก็พวกเขาจะจำโครงสร้างโมเลกุลนี้ได้อย่างชัดเจน..มันจึงเสี่ยงมากเพราะฉันเองก็ยังนึกไม่ออกเลยมันว่ามีโครงสร้างโมเลกุลแบบนี้อยู่ด้วย..ถ้าพวกเขาเห็นว่ามันไม่คล้ายกันล่ะก็พวกเขาก็จะรู้ว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอม..โดยการดูเพียงแค่โครงสร้างโมเลกุลนี้เท่านั้น”

“ไม่มีครับ” เย่เชียนพูด “เนื่องจากความล้ำค่าของมันกริชดาวตกจึงถูกเก็บเอาไว้ในตู้เซฟนิรภัยและไม่มีนักประเมินราคาโบราณวัตถุคนไหนที่เคยเห็นมันกับตา..เพราะพวกเขาต้องรอจนกว่าจะถึงเวลาการประมูลจึงจะมีสิทธิ์ประเมินวัตถุครับ”

กงห่าวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “ถ้างั้นมันก็ง่ายมาก..แต่ที่ยากก็คือโครงสร้างโมเลกุลของมันเนี่ยแหละ..เพราะการเลียนแบบโครงสร้างที่เหมือนกันนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย..เอาล่ะ! ..สามวันต่อจากนี้ฉันรับปากเลยว่าฉันจะสร้างกริชดาวตกของปลอมให้เอ็งอย่างสมบูรณ์เท่าที่ทำได้”

“แต่ผมกังวลว่านักประเมินราคาโบราณเหล่านั้นจะทำการทดสอบน่ะสิ..และในจุดนั้นผมเชื่อว่าเขาจะทดสอบกริชดาวตกเพื่อพิสูจน์ความทรงพลังของมันน่ะ!” เย่เชียนพูด

“นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร..มันเป็นเพียงภาพลวงตามันไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้นหรอก..เพราะฉันจะใช้ไทเทเนียมอัลลอยด์ในการสร้างใบมีดเพราะฉันเชื่อว่ามันสามารถรับมือกับเครื่องตัดเหล็กได้และมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร..และนอกจากนี้กริชดาวตกก็มีค่าถึงขนาดนี้..ดังนั้นการทดสอบต่างๆ เหล่านักประเมินราคาจะไม่ทำอะไรโง่ๆ หรือทดลองอะไรที่มันร้ายแรงกว่านั้นหรอก..ไม่เช่นนั้นถ้าหากเกิดความเสียหายล่ะก็มันจะทำให้กริชดาวตกหมดคุณค่าไปน่ะ” กงห่าวพูดต่อ “ไม่ต้องกังวลไป..ฉันน่ะรู้จักนักประเมินราคาโบราณวัตถุเหล่านั้นเป็นอย่างดี..เชื่อใจฉันเถอะ!”

“ถ้างั้นผมต้องขอขอบคุณอาจารย์กงล่วงหน้าเลยครับ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สำหรับค่าตอบแทนน่ะ..อาจารย์กงบอกมาได้เลยนะครับ”

กงห่าวก็ยิ้มจางๆ และพูดว่า “เอ็งก็ดูถูกฉันเกินไป..ที่ฉันรับปากว่าจะช่วยเอ็งน่ะมันไม่ใช่เพื่อเงินหรอก..มันคือสิ่งที่เป็นคุณค่าทางใจแบบเดียวกับฉันนั่นแหละ..อีกอย่างฉันเองก็ยังอยากจะลองดูว่าฉันจะสามารถสร้างบางสิ่งให้เหมือนในตำนานได้หรือเปล่า..นี่เป็นความท้าทายที่ต้องประสบความสำเร็จสำหรับฉันด้วย!”

เย่เชียนเองก็ไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์แบบนั้นเพราะเนื่องจากกงห่าวพูดเช่นนี้เย่เชียนก็จะไม่คัดค้านใดๆ เพราะเย่เชียนนั้นรู้ดีว่าในสายตาของคนบางคนเงินไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการเลยเพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือการยืนยันตัวเองและจุดยืนของตัวเองและการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่านั่นเอง ก็เหมือนกับกงห่าวที่อาจพูดได้เลยว่านี่เป็นชีวิตที่สองของเขาและก็ได้มีโอกาสที่จะเลียนแบบสิ่งที่เป็นดั่งตำนานได้เพราะนี่คือสิ่งที่เขาภาคภูมิใจที่สุดเช่นเดียวกับแจกันใบนั้นในตอนนั้นที่ทำให้เขาต้องเข้าคุกเพราะถ้าหากไม่ใช่เพราะกงห่าวถูกจับล่ะก็พ่อค้าของโบราณคนนั้นก็จะยังคงบังคับขู่เข็ญเขาให้เลียนแบบของโบราณจำนวนมากเพื่อทำกำไรต่อไปเป็นแน่

สามวันที่เหลือนั้นมันสั้นเกินไปและถึงแม้ว่ากงห่าวจะบอกว่าเขาจะมอบกริชดาวตกปลอมให้กับเย่เชียนภายในสามวันก็ตามแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็ไม่แน่ใจว่ากริชดาวตกปลอมที่กงห่าวทำขึ้นนั้นจะสามารถซ่อนจากสายตานักประเมินราคาโบราณวัตถุเหล่านั้นได้จริงหรือไม่ เพราะพวกเขาเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญและเย่เชียนก็ไม่สามารถกำจัดนักประเมินราคาเหล่านั้นในคราวเดียวได้เพราะถึงยังไงก็ยังมีบุคคลที่ทรงพลังซ่อนอยู่และในกรณีที่มีบางอย่างเกิดขึ้นในการประมูลล่ะก็มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เย่เชียนต้องการเลย ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องยืนกรานที่จะต้องทำเช่นนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆ

“ถ้างั้นผมจะแวะมาใหม่นะ..ผมขอตัวก่อน” เย่เฉียนพูด

“เอ่อเอ่อ!” กงห่าวตอบสองครั้งเพราะเขาไม่มีเวลามาร่ำลากับเย่เชียนมากนักเพราะเขาแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะเริ่มทำงานของเขา

เย่เชียนก็ไม่ได้ใส่ใจต่อท่าทีของกงห่าวแต่อย่างใดเพราะเขาเข้าใจดีดังนั้นเย่เชียนจึงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากบ้านของกงห่าวและหลังจากออกจากบ้านของกงห่าวแล้วเย่เชียนก็ได้โทรไปหาม่อหลงซึ่งเขายังคงอยู่ในเมืองเศี่ยงอยู่ ดังนั้นเย่เชียนจึงขอให้ม่อหลงมาหาเขาในทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับกงห่าวซึ่งเย่เชียนก็ไม่ได้รู้จักเขาเลยแม้แต่น้อยและไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัยหรือฝีมือนั้นเย่เชียนก็ไม่รู้เลย ซึ่งถึงแม้ว่ากงห่าวจะบอกว่าโครงสร้างโมเลกุลของกริชดาวตกนั้นแปลกมากก็ตามแต่เย่เชียนก็ไม่เข้าใจอะไรเลย และมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากกงห่าวพูดโกหก แล้วเขาจะสามารถสร้างวัสดุที่มีโครงสร้างโมเลกุลเช่นนี้ได้หรือไม่? ในเวลานั้นถึงแม้ว่ากงห่าวจะทำของปลอมออกมาสำเร็จแล้วและนำของจริงไปซ่อนก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลย

เงินและยศถาบรรดาศักดิ์นั้นไม่สามารถซื้อกงห่าวได้เลย แต่สำหรับกริชดาวตกแล้วก็ไม่สามารถรับประกันได้เลยว่ากงห่าวจะทำอะไรหรือกงห่าวคิดจะทำอะไรเกี่ยวกับกริชดาวตก

อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ยังไม่รู้สึกโล่งใจเพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีคนนอกรู้ก็ตามแต่ถ้าเป็นพ่อค้าของเก่าที่เคยก่อกวนกงห่าวมาก่อนล่ะ? ถ้าพวกเขาพบกริชดาวตกพวกเขาก็คงจะแย่งชิงมันไปอย่างแน่นอนและหลังจากนั้นเย่เชียนก็จะเป็นผู้แพ้ครั้งใหญ่โดยการมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้คนอื่น ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องหาคนคอยเฝ้าระวังและคอยคุ้มกันกงห่าว ซึ่งม่อหลงก็เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด

ไม่นานนักม่อหลงก็มาที่นี่และเย่เชียนก็บอกเขาถึงรายละเอียดต่างๆ และบอกให้ม่อหลงคอยเฝ้าระวังและคุ้มกันกงห่าวจนถึงวันที่กริชดาวตกของปลอมเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำล่ะก็เขาก็คงทำเองไปเสียแล้ว แต่ทว่าเย่เชียนก็ยังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำอีกมากมายดังนั้นเขาจึงต้องให้ม่อหลงมาทำหน้าที่นี้แทนนั่นเอง

.

.

.

.

.

.

.

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด