ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 458 เข้าพบหัวหน้าใหญ่

อ่านนิยายจีนเรื่อง ยอดนักรบจอมราชัน ตอนที่ 458 เข้าพบหัวหน้าใหญ่ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 458 เข้าพบหัวหน้าใหญ่

เซอร์เก้วิชพุชกินไม่แน่ใจว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไรเพราะพูดตามตรงเขานั้นยังไม่ใจเชื่อเย่เชียนมากนักและเขาก็ไม่แน่ใจว่าเย่เชียนนั้นมีบทบาทอย่างไรกับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีน ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่สามารถพาเย่เชียนไปหาหัวหน้าของเขาได้อย่างเด็ดขาด

ในฐานะสุนัขรับใช้แล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็ฉลาดและมีไหวพริบมากและสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือเขาจริงใจต่อเจ้านายหรือหัวหน้าของเขาอย่างยิ่งและไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเจ้านายของเขา

เย่เชียนเองก็รู้ดีว่าเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นกำลังสงสัยเขาอยู่ เมื่อคิดเช่นนั้นเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยแล้วพูดว่า “มิสเตอร์พุชกินไม่ต้องกังวลไป..ถึงคุณไม่เห็นด้วยผมกับแต่ผมก็ยังยินดีที่จะช่วยส่งคุณหลบหนีออกจากประเทศจีนไปได้อย่างปลอดภัยอยู่ดี..แต่ทว่าสถานการณ์ต่างๆ ยังคงวุ่นวายอยู่เพราะตอนนี้ทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติได้กำชับให้ตำรวจในท้องที่ตรวจตราอย่างเคร่งครัด..เพราะงั้นหนทางที่ดีที่สุดคืออย่าเพิ่งออกไปไหน..และคุณจะสามารถออกไปจากแผ่นดินจีนได้ก็ต่อเมื่อผมจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้ว”

“ก่อนหน้านี้ที่คุณเย่บอกว่าคุณกับพวกทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะมีความขัดแย้งกันน่ะ..ผมขอถามคุณเย่หน่อยว่าคุณจะไปประเทศรัสเซียเพื่อจัดการกับกลุ่มจิ้งจอกหิมะจริงๆ ใช่ไหม?”

“ใช่..พวกเขาฆ่าพี่ชายของผมไปแล้วถ้าผมไม่สามารถลบร้างความเกลียดชังนี้ออกไปได้ล่ะก็เขี้ยวหมาป่าของผมจะมีที่ยืนในโลกของทหารรับจ้างในอนาคตได้ยังไง” เย่เชียนพูด “ถึงแม้ว่าจะต้องรบกวนมิสเตอร์พุชกินก็เถอะ..คุณจะคิดว่ามันเป็นการไม่ไว้หน้าคุณก็ตามแต่นั่นก็เป็นความคิดและความตั้งใจจริงๆ ของผม”

เหตุผลที่เซอร์เก้วิชพุชกินถามเช่นนี้ก็เพราะว่าเขาต้องการเห็นปฏิกิริยาของเย่เชียนซึ่งถ้าหากเย่เชียนจงใจเข้าหาเขาด้วยเหตุผลเช่นนี้เขาก็จะเปลี่ยนทัศนคติไปทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องของทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ชอบสิ่งนี้และเขาก็ต้องการกำจัดกองกำลังทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะให้สิ้นซากจริงๆ ซึ่งคำตอบดังกล่าวทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินพอใจมากและยังสามารถยืนยันได้อีกว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้เข้าหาเขาโดยจุดประสงค์อื่น

ความคิดของเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นจะหลบซ่อนไปจากเย่เชียนได้อย่างไร ซึ่งเย่เชียนก็เดาได้ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นคิดอะไรอยู่เย่เชียนจึงให้คำตอบเช่นนั้น หลังจากที่หยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูด “อันที่จริงผมอยากรู้จักหัวหน้าของคุณผ่านทางมิสเตอร์พุชกิน..ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแค่นั้นแต่ยังรวมไปถึงการร่วมมือกันกับหัวหน้าของคุณอีกด้วย..เพราะจริงๆ แล้วผมน่ะชื่นชมมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟมานานแล้ว..ผมอยากรู้จักกับเขามานานแล้วแต่ผมก็ไม่มีโอกาสเลย”

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเย่เชียนเป็นราชาหมาป่าผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ดังนั้นแน่นอนว่าเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นก็มีความต้องการร่วมมือกับเย่เชียนไม่มากก็น้อย เพราะบุคคลเช่นเขานั้นแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงของเขี้ยวหมาป่าในทวีปตะวันออกกลาง ซึ่งที่นั่นก็คืออาณาจักรน้ำมันดังนั้นถ้าหากเขาสามารถร่วมมือกับเย่เชียนได้ล่ะก็มันจะเป็นสิ่งที่พวกเขารอคอยมานานแน่นอนใช่ไหม?

อย่างไรก็ตามเซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลอย่างมากถ้าหากเขาแนะนำเย่เชียนให้รู้จักกับหัวหน้าของเขา ซึ่งอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟอาจจะชื่นชมเขาถึงแม้ว่าการลงทุนและแผนการต่างๆ ในครั้งนี้จะล้มเหลวและสูญเสียเงินไปมหาศาลก็ตามแต่เมื่อพวกเขาได้ร่วมมือกับเย่เชียนล่ะก็มันจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัยเลบและบางทีหัวหน้าของเขาก็อาจจะเห็นด้วยอย่างยิ่งก็เป็นได้

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินก็พูดว่า “คุณเย่เป็นคนช่วยชีวิตของผมเอาไว้เพราะงั้นถ้าหากคุณเย่ต้องการที่จะพบกับหัวหน้าของผมล่ะก็ผมจะช่วยเอง..แต่ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะเห็นด้วยหรือเปล่า”

ด้วยรอยยิ้มเล็กยิ้มน้อยเย่เชียนก็พูดว่า “ตราบใดที่มิสเตอร์พุชกินช่วยแนะนำผมล่ะก็..ถึงมิสเตอร์อเล็กซานเดอร์จะปฏิเสธที่จะพบฉันก็ไม่เป็นไร..ผมจะถือว่านั่นคือโชคของผมและผมจะไม่โทษมิสเตอร์พุชกินอย่างแน่นอน”

“ครับคุณเย่..ถ้างั้นผมขอตัวไปติดต่อเขาสักครู่นะ” เซอร์เก้วิชพุชกินพูด

“เอ่อ..ถ้างั้นพวกเราจะไม่รบกวนมิสเตอร์พุชกินแล้ว..ถ้าคุณต้องอะไรก็บอกคุณหลินได้เลย..เดี๋ยวเขาจะจัดการให้คุณเอง” เย่เชียนพูด

“ใช่..อย่าลังเลที่จะถามถ้าคุณมีข้อสงสัยอะไรก็มาคุยกันได้!” หลินเฟิงก็พูดเสริมให้เย่เชียนหลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เดินออกไปจากห้อง

หลังจากปิดประตูแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็โทรไปที่หมายเลขของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟทันทีและเมื่อเชื่อมต่อสายโทรศัพท์แล้วเสียงของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ตะคอกว่า “นี่คือผลกำไรที่แกบอกจะทำอย่างงั้นเหรอ? ..มันไม่ใช่แค่สูญเสียเงินลงทุนไปตั้งมากมายมหาศาลเท่านั้น..แต่ฉันยังต้องตกเป็นเป้าหมายจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนอีก..แบบนี้แล้วฉันจะพัฒนาธุรกิจอะไรในจีนได้อีกในอนาคต!”

เซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้สึกหดหู่อย่างมากและแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะโต้เถียงอะไรใดๆ เมื่อหัวหน้าของเขาโกรธเกรี้ยวเขาต้องเป็นสุนัขรับใช้ที่เชื่อฟัง เมื่ออเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟตะคอกเสร็จแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็พูดว่า “ขอโทษครับหัวหน้าผมประมาทมากเกินไปในเรื่องนี้..หัวหน้าช่วยให้โอกาสผมอีกสักครั้งผมสัญญาว่าสิ่งที่สูญเสียไปผมจะนำมันกลับคืนมาให้ได้”

“แกจะสัญญาอะไร..แกจะรับประกันได้ยังไง..แกคิดว่าฉันยังจะเชื่อใจแกอยู่อีกเหรอ?” อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟพูด “เอาเถอะไม่ต้องพูดอะไรแล้ว..ตอนนี้แกรีบกลับมาหาฉันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เลย..สำหรับวิธีจัดการกับแกเดี๋ยวเราค่อยมาคุยกัน!”

“ขอบคุณเจ้านายขอบคุณเจ้านาย! ” เซอร์เกวิชพุชกินพูดอย่างรีบร้อน “แต่หัวหน้าครับคราวนี้ผมเจอเพื่อนคนนึงเขาบอกว่าเขาอยากที่จะเจอคุณ..ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะเขาผมคิดว่าผมคงไม่สามารถหลบหนีคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไปได้อย่างแน่นอน”

“เพื่อนของแกคือใคร” อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟถามอย่างสงสัย

“หัวหน้าก็เคยได้ยินชื่อองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าใช่ไหม? ..เขาเป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่านามว่าราชาหมาป่าเย่เชียน!” เซอร์เก้วิชพุชกินพูด

“เป็นเขาจริงๆ เหรอ?” อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ขมวดคิ้วแน่นแล้วพูดว่า “พาเขามาที่รัสเซียเลย..ฉันเองก็อยากจะเห็นจริงๆ ว่าบุคคลในตำนานและลึกลับเช่นนี้จะไม่ใช่พวกจอมปลอมแบบนั้น”

“ครับหัวหน้า” เซอร์เก้วิชพุชกินตอบอย่างรีบร้อน

หลังจากวางสายไปเซอร์เก้วิชพุชกินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะเมื่อฟังน้ำเสียงของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแล้วเหมือนเขาจะให้อภัยตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เชื่อใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปอย่างน้อยเขาก็ยังไม่รีบฆ่าตนและเขาก็ให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง ซึ่งตราบใดที่เขายังสามารถมีโอกาสนั้นเขาก็มีความมั่นใจที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมและได้รับความไว้วางใจจากอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟอีกครั้ง

เย่เชียนและหลินเฟิงก็ไม่ได้แอบฟังที่ประตูแต่อย่างใดและไม่ใช่ว่าพวกเขานั้นไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นแต่เป็นเพียงเพราะเขานั้นไม่เข้าใจเพราะว่าเซอร์เก้วิชพุชกินและอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟพูดภาษารัสเซียจึงทำให้พวกเขาทั้งสองไม่เข้าใจ

ทั้งสองคนก็เดินขึ้นบันไดไปและนั่งลงโดยไม่มีการวางตัวใดๆ ซึ่งถ้าหากเป็นคนที่ไม่รู้จักพวกเขาล่ะก็ต่างก็มองว่าพวกเขาเป็นพวกอันธพาลบนถนนอย่างแท้จริง ซึ่งเย่เชียนหยิบบุหรี่ออกมาแล้วคีบเข้าปากช้าๆ แล้วพูดว่า “พี่หลิน..พี่คิดยังไงกับเรื่องนี้? ”

“ฉันคิดว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนคงจะอธิบายเรื่องนี้กับเบื้องบนไม่ได้..และเขาก็ต้องหดหู่ใจอยู่แน่นอน” หลินเฟิงยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูด

เย่เชียนก็ส่ายหัวและพูดว่า “ตาเฒ่าคนนั้นไม่ได้โง่ขนาดนั้น..จากมุมมองของผมน่ะผมคิดว่าเขาคงจะเดาว่าผมเองที่เป็นคนสร้างปัญหาต่างๆ แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะมาโทษผม”

“น้องเย่ถ้านายทำแบบนี้นายจะไม่ทำให้คนเหล่านั้นเรียกนายว่าเป็นกบฏและตีตรานายว่าเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวมากที่สุดในประเทศหรอกเหรอ?” หลินเฟิงถาม

“คนทรยศเหรอ..ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย..ผมก็แค่ช่วยเซอร์เก้วิชพุชกินไว้แล้วผมจะถูกเรียกว่ากบฏได้ยังไง..ผมไม่ได้ทำอะไรที่มีผลกระทบต่อความลับของรัฐบาลและประเทศชาติเลย..และผมก็ไม่อยากที่จะเป็นเบี้ยและตัวหมากที่นักการเมืองเหล่านั้นหลอกใช้ผมต่อสู้เพื่อผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ แบบนั้น..เพราะสำหรับพี่น้องของผมแล้วมันไม่สำคัญว่าคนอื่นจะคิดยังไงและอย่างน้อยๆ ผมก็รู้ว่าพี่หลินเองก็คงจะไม่คิดแบบนั้นใช่ไหม?” เย่เชียนพูด

หลินเฟิงก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ฉันไม่สนใจหรอกว่านายต้องการจะทำอะไรตราบใดที่นายจ่ายเงินนายก็บอกมาได้เลยหากนายต้องการอะไรในอนาคตฮ่าๆ”

เย่เชียนก็เหลือบมองเขาอย่างหมดหนทางและพูดว่า “ดูพี่พูดสิ..เราเป็นพี่น้องกันเพราะงั้นการพูดเรื่องเงินมันจะทำให้รู้สึกเจ็บปวด”

“เอาหน่าพี่น้องก็ส่วนพี่น้อง..ส่วนเรื่องเงินก็ส่วนเงิน..เราจำเป็นต้องใช้” หลินเฟิงพูดอย่างจริงจัง

เย่เชียนก็หัวเราะและพูดว่า “ก็ได้ๆ ..แต่พี่ต้องลดราคาให้ผมด้วยนะ”

ทั้งสองมองหน้ากันแล้วฉีกยิ้ม ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องเงินและความมั่งคั่งก็ตามแต่จริงๆ แล้วทั้งสองฝ่ายก็ชัดเจนมากว่าอีกฝ่ายถือตัวเองเป็นเพื่อนและเป็นพี่น้องที่สามารถสละชีวิตให้ได้ ซึ่งเย่เชียนกับหลินเฟิงก็คิดเช่นเดียวกัน

นี่ยังถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือกันระหว่างเย่เชียนและหลินเฟิงผู้เป็นตำนานและนี่ก็เป็นโชคชะตา แต่ก็น่าเสียดายที่ยังขาดหมาป่าผีไป๋ฮวยอีกคน

หลังจากที่เย่เชียนได้พูดคุยกับหลินเฟิงไปสักพักเขาก็จากไป ส่วนเรื่องของเซอร์เก้วิชพุชกินก็ถูกส่งมอบให้กับหลินเฟิงนั่นก็เพราะว่าดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้นั้นเป็นฐานขององค์กรเซเว่นคิล ดังนั้นหลินเฟิงจึงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดีและมันจะง่ายกว่ามากที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้

สำหรับเรื่องการไปเยี่ยมเยือนฉินหยูและการกวาดล้างทหารรับจ้างเรดซันนั้นเขาจะทำหลังจากที่จบเรื่องของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟและโค่นล้มองค์กรจิ้งจอกหิมะเรียบร้อยแล้ว

.

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด