ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 447 แต่ละคนมีวิธีการของตัวเอง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ยอดนักรบจอมราชัน ตอนที่ 447 แต่ละคนมีวิธีการของตัวเอง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 447 แต่ละคนมีวิธีการของตัวเอง

“ใช่..ผมจะไป!” เย่เชียนตอบโดยไม่ลังเลใดๆ เพราะความรู้สึกของผู้ชายนั้นบางครั้งผู้หญิงก็ไม่สามารถเข้าใจได้และบางอย่างก็ไม่ชัดเจนมากนัก

แม่ม่ายดำจือเหวินก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและถอนหายใจแล้วพูดว่า “หืม..ผู้ชายทุกคนมักจะเลือกแบบนี้เสมอ..คุณเย่ช่วยบอกฉันหน่อยจะได้ไหมว่าทำไมคุณถึงเลือกแบบนั้น”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเย่เชียนก็พูดอย่างช้าๆ ว่า “ผู้หญิงไม่เข้าหรอกใจว่าทำไมพวกผู้ชายถึงได้ชอบดื่มกับเหล่าพี่น้องในตอนกลางคืน..นั่นก็เหมือนกับการที่ผู้ชายไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบซื้อของพวกกระเป๋าและเครื่องสำอาง..นั่นก็เหมือนกันเพราะความรู้สึกของผู้ชายน่ะผู้หญิงไม่มีวันเข้าใจหรอก..ดังนั้นการที่ผู้ชายและผู้หญิงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความอดทนมากที่สุด”

หลังจากผ่านไปสักพักแม่ม่ายดำจือเหวินก็พยักหน้าเล็กน้อยและเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “คุณเย่..ฉันขอบคุณที่คุณตอบคำถามนี้..ฉันหนักใจมานานแล้ว..ขอบคุณจริงๆ ที่ให้คำตอบฉัน”

เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ไม่จำเป็น..อันที่จริงคุณเองก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจแต่คุณแค่ไม่อยากยอมรับมัน..คุณแค่ไม่อยากเชื่อในตัวเอง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “เอาล่ะ..ไม่ต้องกังวลไปหรอก..ผมเองก็ต้องขอตัวเช่นกัน..เรื่องต่างๆ ในวันนี้ไม่เลวเลย..ขอบคุณ”

หลังจากนั้นเย่เชียนก็หยิบมีดคลื่นโลหิตหมาป่าออกมาและควงมีดต่อหน้าแม่ม่ายดำจือเหวินจากนั้นก็เดินออกไป ซึ่งการกระทำเช่นนี้ก็แทบจะเหมือนกับเหล่านักเลงข้างถนน

เมื่อเห็นเย่เชียนจากไปแล้วแม่ม่ายดำจือเหวินก็ถึงกับถอนหายใจและเธอก็รับรู้ถึงความรู้สึกแปลกๆ ในใจ ซึ่งสำหรับเธอนั้นเหมือนมีเงาของหยางเทียนอยู่บนร่างของเย่เชียนแต่ทว่าหยางเทียนไม่เคยทำพฤติกรรมแบบที่เย่เชียนเคยทำมาก่อนซึ่งในตอนนี้ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะมีเสน่ห์ติดตัวซึ่งเป็นเสน่ห์ที่สามารถทำให้ผู้หญิงตกหลุมรักได้

การปรากฏตัวของเย่เชียนทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินตกตะลึงอย่างมาก ซึ่งถ้าหากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของเย่เชียนล่ะก็เซอร์เก้วิชพุชกินก็คงจะกำจัดแม่ม่ายดำจือเหวินไปแล้ว เพราะในความเป็นจริงเมื่อแม่ม่ายดำจือเหวินปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็ได้ตัดสินใจที่จะฆ่าเธอแล้ว เพราะตราบใดที่เขากำจัดแม่ม่ายดำจือเหวินได้ล่ะก็เขาก็จะสามารถบรรลุข้อตกลงต่างๆ และแม้แต่การโอนที่ดินผืนนั้นและทำตามแผนต่างๆ ของเขาต่อ

อย่างไรก็ตามเนื่องจากการปรากฏตัวของเย่เชียนนั้นจึงทำให้เซอร์เก้วิชพุชกินต้องละทิ้งความคิดของเขาออกไปเพราะเมื่อพิจารณาจากทัศนคติของแม่ม่ายดำจือเหวินที่มีต่อเย่เชียนและการที่ทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะและพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ถูกเย่เชียนกำจัดแล้วล่ะก็แน่นอนว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ดังนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินจึงต้องพิจารณาสิ่งต่างๆ ใหม่ทั้งหมดไม่อย่างนั้นถึงแม้ว่าเขาจะสามารถฆ่าแม่ม่ายดำจือเหวินไปก็ตามแต่เขาอาจจะไม่ได้ที่ดินผืนนั้นมาครอบครองใช่มั้ย? และยิ่งไปกว่านั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็สังเกตท่าทีและการกระทำของเย่เชียนราวกับว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้รังเกียจตัวเองดังนั้นมันจึงมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะสามารถร่วมมือกัน

สำหรับการตายของเหล่าสมาชิกทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นไม่เกี่ยวกับเซอร์เก้วิชพุชกินเพราะกลุ่มทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะปฏิบัติภารกิจล้มเหลวเองและนอกจากนี้กลุ่มทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันแต่มันเป็นเพียงความสัมพันธ์ในการว่าจ้าง ดังนั้นมันจึงเป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับเงินเพียงเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาตอนนี้ก็คือการหารายละเอียดและข้อมูลของเย่เชียนเพื่อที่เขาจะได้ก้าวเข้าสู่แผนการต่อไป

สำหรับเรื่องการสังหารเหล่าสมาชิกทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นควรที่จะแก้แค้นก็ตามแต่ทว่านี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่ายใช่หรือไม่?

ในเวลานี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็กำลังรีบร้อนหลังจากคุยกับเย่เชียนแล้วเขาก็รีบเดินทางมายังดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์จากฐานทัพในเขตปักกิ่งบินตรงไปยังฐานทัพของเขตเสิ่นหยวน ซึ่งหลังจากลงจากเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์แล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ได้มอบคำสั่งให้กับผู้คุมและหัวหน้าของเขตทหารจำนวนหลายนาย จากนั้นเขาก็นั่งรถออกไปและมุ่งตรงไปที่เขตชานเมืองทันทีโดยระหว่างทางนั้นเขาได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติและหยุนเหลาและให้หยุนเหลารับผิดชอบในการจัดการประชุมระหว่างตนกับแม่ม่ายดำจือเหวินทันที

เดิมทีนั้นเขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะจัดการกับเซอร์เก้วิชพุชกินเลย แต่ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนการและสถานการณ์ต่างๆ จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องลงมือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง

ในขั้นต้นแผนการของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นก็คือให้เซอร์เก้วิชพุชกินใช้อำนาจของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่เพื่อเอาชนะแม่ม่ายดำจือเหวินและหลังจากนั้นสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็จะเข้ายึดอุตสาหกรรมน้ำมันทั้งหมดของเซอร์เก้วิชพุชกินในประเทศจีนและหลังจากนั้นก็จะดำเนินการโจมตีเต็มรูปแบบกับพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่อย่างเป็นทางการ ซึ่งด้วยวิธีนี้วงการใต้ดินของดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็จะถูกกวาดล้างไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับหยุนเหลาก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่ปล่อยแม่ม่ายดำจือเหวินเพราะเรื่องส่วนตัวไปอย่างแน่นอน ซึ่งเขานั้นมีอุดมการณ์และความยุติธรรมของคนรักประเทศชาติอย่างยิ่ง

มันไม่มีประเทศไหนที่สามารถกำจัดวงการโลกใต้ดินได้อย่างสมบูรณ์เลยแม้แต่ประเทศเดียว ซึ่งในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนนั้นก็เช่นกันเนื่องจากอำนาจและอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่และแม่ม่ายดำจือเหวินจึงทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลหลายคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะส่งกองทัพทางทหารไปกวาดล้างโดยตรงเลย ดังนั้นรัฐบาลจึงสนับสนุนให้มีการพัฒนาธุรกิจในวงการใต้ดินมาโดยตลอด แต่เพื่อควบคุมการพัฒนาของประเทศนั้นพวกเขาเหล่านั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้คุกคามระบอบการปกครองของประเทศโดยเด็ดขาด

เมืองเซี่ยงไฮ้นั้นก็เป็นเช่นนี้เพราะถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้กวาดล้างตงเซียงกรุ๊ปและแก๊งชิงและหงเหมินกรุ๊ปก็ตามถึงยังไงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็จะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว แต่ทว่าชายชราคนนี้จะไม่ใช้มาตรการที่รุนแรงเช่นนั้นเพื่อปราบปรามเพราะเขามักจะวิธีการเป็นของตัวเอง ซึ่งในครั้งนั้นการปรากฏตัวของเย่เชียนทำให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมองเห็นความหวังอีกครั้งดังนั้นเขาจึงใช้ความทะเยอทะยานของเย่เชียนในการจัดการองค์กรยักษ์ใหญ่ทั้งสามนี้ได้จนสำเร็จ

สำหรับผู้นำระดับสูงของประเทศจีนพวกเขาก็กังวลเช่นกันว่าอำนาจของเย่เชียนจะพัฒนาเร็วจนเกินไปและจะควบคุมได้ยากในอนาคต ดังนั้นพวกเขาจึงมอบหมายงานให้เย่เชียนและเบี่ยงเบนความสนใจของเขาไปแต่ทว่าพวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้คาดคิดว่าจู่ๆ เย่เชียนจะไปเยือนดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนเช่นนี้จนทำให้สถานการณ์ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือยุ่งเหยิงอีกครั้งจนพวกเขาต้องเปลี่ยนแผนการต่างๆ ไปอย่างสิ้นเชิง

สำหรับนักการเมืองและผู้นำระดับสูงแล้วพวกเขาไม่มีความไว้วางใจอย่างแน่นอนและมันก็ขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นมีคุณค่าและประโยชน์พอในการใช้งานหรือไม่ ซึ่งคุณค่าและประโยชน์ของเย่เชียนนั้นก็อยู่ในระดับสูง ดังนั้นตอนนี้แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นยังไม่คิดที่จะจัดการกับเย่เชียนในเร็วๆ นี้

ในความเป็นจริงแล้วถ้าหากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนึกถึงความรู้สึกส่วนตัวล่ะก็เขานั้นก็ไม่ได้ต้องการทำเช่นนี้ แต่ทว่าอย่างไรก็ตามในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเขาก็ต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างถึงแม้ว่าเขาจะไม่ต้องการก็ตาม ซึ่งถ้าหากวันหนึ่งรัฐบาลสั่งให้เขากำจัดเย่เชียนขั้นเด็ดขาดล่ะก็เขาก็ต้องทำเช่นนั้น

แน่นอนว่าตั้งแต่ที่เขาเห็นเย่เชียนเป็นครั้งแรกนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความพิเศษของเย่เชียน ซึ่งมันไม่ใช่ทักษะและความสามารถของเย่เชียนแต่มันเป็นเพราะร่างกายของเย่เชียนนั้นมีบางอย่างที่ยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาซึ่งถ้าหากมันตื่นขึ้นมาแล้วล่ะก็ต่อให้เป็นบุคคลระดับเบื้องบนของประเทศจีนที่ต้องการจัดการกับเย่เชียนพวกเขาก็จะต้องพิจารณาผลที่ตามมาให้ถี่ถ้วนเสียก่อน

หลังจากที่ได้รับสายโทรศัพท์จากเย่เชียนในตอนเช้าของวันนี้แล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็รู้สึกได้แล้วว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติไป แต่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่ได้กังวลอะไรมากจนเกินไปเพราะความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือภาวนาว่าเย่เชียนจะไม่ทำอะไรที่เลวร้ายมากจนเกินไป ไม่เช่นั้นมันจะยากที่จะจัดการและอย่างน้อยๆ ก็ต้องรอถึงเวลาที่เหมาะสมเช่นนั้นใช่ไหม?

สาเหตุที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนรีบมาที่ดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือขแงฉันนั้นก็เป็นเพราะเรื่องของเย่เชียนและอย่างที่สองเขาต้องการคุยกับเย่เชียนด้วยตะวเองเพราะเขากลัวว่าเด็กคนนี้จะบ้าคลั่งไปจริงๆ

ในความเป็นจริงเย่เชียนนั้นไม่ใช่คนที่บ้าคลั่งและไม่มีเหตุผลและเขาก็ไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร ดังนั้นเขาจะไม่โง่ถึงขนาดที่ต้องไปต่อสู้กับผู้นำระดับสูงและเบื้องบนของประเทศจีนและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ไม่ได้ต้องการมีความขัดแย้งใดๆ กับพวกเขาเพราะพวกเขายังคงเป็นผู้นำของประเทศจีนที่เป็นประเทศบ้านเกิดของเขาอยู่ดี

หลังจากออกจากบ้านของแม่ม่ายดำจือเหวินแล้วเย่เชียนก็กลับไปที่โรงแรมเพื่อนอนพักและระหว่างทางกลับเย่เชียนก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีใครบางคนกำลังติดตามเขาอยู่แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเพราะถ้าหากเขาเดาไม่ผิดคนเหล่านั้นต้องมาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอย่างแน่นอน

แจ็คได้ติดต่อไปหาเล้งยี่แล้วซึ่งตอนนี้กำลังพลเหล่าสมาชิกของทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็ได้เริ่มเตรียมที่จะไปเยือนประเทศรัสเซียแล้ว ดังนั้นเย่เชียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลอะไรเพราะเมื่อเขาพร้อมเขาก็สามารถเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อและยิ่งไปกว่านั้นทางด้านของหลินเฟิงและองค์กรเซเว่นคิลก็พร้อมแล้วเช่นกัน ซึ่งนี่เป็นการต่อสู้ตามพันธสัญญาครั้งแรกระหว่างเหล่าทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรนักฆ่าเซเว่นคิล ซึ่งมันต้องเป็นการต่อสู้ที่สวยงามและสมบูรณ์ไม่เช่นนั้นมันจะไม่ทำลายชื่อเสียงของทั้งสององค์กรนี้ใช่หรือไม่?

สำหรับเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นเย่เชียนก็ได้วางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาก็แค่รอให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนทำสิ่งตามๆ ตามแผนการของเขา

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มที่มุมปากและรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นมา

เนื่องจากรัฐบาลกลางและเบื้องบนของจีนนั้นต้องการหลอกใช้เขาดังนั้นเย่เชียนจึงต้องตอบโต้และหลอกใช้พวกเขากลับเสียบ้าง และทำให้พวกเขาตระหนักในสิ่งที่พวกเขาทำลงไปและอย่างน้อยๆ ก็ทำให้พวกเขามองตนด้วยความชื่นชมอย่างใจจริงและเมื่อเวลานั้นมาถึงล่ะก็ชื่อเขี้ยวหมาป่าก็จะสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้อย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เย่เชียนคิดไม่ตกก็คือทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากนี้ไปจะถูกหมาป่าผีไป๋ฮวยเข้ามาแทรกแซงหรือเปล่า เพราะพี่ชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นศัตรูกับเขาตลอดกาลและเย่เชียนเองก็ไม่รู้ว่าตอนจบมันจะเป็นเช่นไร

หลังจากที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมาถึงชานเมืองแล้วเขาก็ตรงไปที่บ้านของหยุนเหลาทันทีซึ่งในภายในบ้านของหยุนเหลานั้นก็มีแม่ม่ายดำจือเหวินและหยุนเหลากำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

ซึ่งแม่ม่ายดำจือเหวินก็ถามด้วยความประหลาดใจว่า “ผู้อาวุโสหยุนคะ..หวงฟู่ชิงเตี๋ยนเขากำลังวางแผนทำอะไรบางอย่างกับฉันหรือเปล่า? ..อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังจะดำเนินการครั้งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยการกวาดล้างวงการใต้ดินใช่ไหม?”

นี่คือสิ่งที่แม่ม่ายดำจือเหวินกังวลมากที่สุดเพราะทุกๆ สองสามปีนั้นจะมีเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับสูงของประเทศจีนสั่งจัดการปฏิบัติการกวาดล้างองค์กรใต้ดินครั้งใหญ่ ดังนั้นใครจะรู้ว่าการที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมาเยือนดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเวลานี้เพื่อทำเช่นนั้นหรือไม่

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด