ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 398 การต่อสู้ที่ลึกลับ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ยอดนักรบจอมราชัน ตอนที่ 398 การต่อสู้ที่ลึกลับ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 398 การต่อสู้ที่ลึกลับ

แจ็คนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้เพราะโอกาสนี้เป็นโอกาสที่หายากมากเพราะถึงแม้ว่าทักษะของหมาป่าผีไป๋ฮวยจะสูงก็ตามแต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเผชิญหน้ากับเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดและเย่เชียนไปพร้อมๆ กัน เพราะตราบใดที่หมาป่าผีไป๋ฮวยกถูกกำจัดไปก็จะเป็นผลดีต่อพี่น้องเขี้ยวหมาป่าคนอื่นๆ อย่างมาก

อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ได้เลือกเช่นแล้วซึ่งทำให้แจ็คต้องแอบถอนหายใจที่เย่เชียนนั้นใจดีเกินไปเพราะในฐานะทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแล้วในแง่ของการควบคุมอารมณ์แจ็คก็จะดูเย็นชากว่าเย่เชียน อย่างไรก็ตามโดยพื้นฐานแล้วเย่เชียนก็ไม่ได้จัดการเรื่องต่างๆ ของเขี้ยวหมาป่ามากนักเพราะแจ็คมักจะจัดการทุกอย่างด้วยมือของเขาเอง ดังนั้นถ้าหากแจ็คมีอารมณ์อ่อนไหวมากเกินไปล่ะก็เขาจะจัดการกับสิ่งต่างๆ ได้ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นักถ้าไม่เด็ดขาด

กลุ่มหรือองค์กรใดๆ ก็ล้วนมีความขัดแย้งระหว่างบุคลากรภายในทั้งนั้นซึ่งเขี้ยวหมาป่าเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะถ้าหากแจ็คนั้นเคร่งมากเกินไปสมดุลมันก็จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอนเพราะในการจัดการกับเรื่องแบบนี้ถ้าผิดพลาดไปมันอาจจะทำให้ภายในของเขี้ยวหมาป่าแตกสลายได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นแจ็คจึงมีทัศนคติและมุมมองหลากหลายเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมและเขาก็มักจะวิเคราะห์ทุกอย่างได้อย่างรอบคอบและจากจุดยืนของเขี้ยวหมาป่านั้นก็ชัดเจนอย่างมาก อย่างในกรณีของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นแจ็คเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องความสัมพันธ์อะไรมากนักเพราะถ้าหากเป็นเรื่องของพี่น้องเขี้ยวหมาป่าที่ยังอยู่ด้วยกันแล้วแจ็คก็จะไม่ลังเลที่จะหยุดหมาป่าผีไป๋ฮวยเลย และนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าแจ็คเป็นคนเลือดเย็นแต่อย่างใดแต่เป็นเพราะว่าเขานั้นมักจะมีสติอารมณ์ที่มั่นคงเสมอในการทำสิ่งต่างๆ และถึงแม้ว่าในใจของเขาจะมีอารมณ์และความคิดส่วนตัวบ้างก็ตามแต่ถ้าหากเป็นเรื่องของเขี้ยวหมาป่าแล้วแจ็คก็จะเลือกสิ่งที่ถูกต้องที่สุดและยิ่งไปกว่านั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ได้ทำร้ายและคร่าชีวิตพี่น้องเขี้ยวหมาป่าคนอื่นๆ ไปมากมาย ดังนั้นการที่แจ็คโกรธเกรี้ยวนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเย่เชียนออกคำสั่งแล้วแจ็คจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตาม อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็เป็นถึงผู้นำของเขี้ยวหมาป่า แต่แจ็คก็แอบตัดสินใจอย่างลับๆว่าถึงแม้ว่าเย่เชียนจะกันไม่ให้เหล่าพี่น้องคนอื่นๆของเขี้ยวหมาป่าจัดการกับหมาผ่าผีไป๋ฮวยก็ตามแต่ถ้าหากเย่เชียนหรือพี่น้องคนอื่นๆต่อสู้เผชิญหน้ากับหมาป่าผีไป๋ฮวยจริงๆล่ะก็แจ็คก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้อยู่ดี อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้คิดว่ามุมมองของเย่เชียนนั้นผิดไป แต่เขาแค่ไม่ยอมรับที่หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นทรยศต่อพี่น้องเขี้ยวหมาป่าเพียงเท่านั้น

หลินเฟิงนั้นก็รู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเย่เชียนและหมาป่าผีไป๋ฮวย แต่เมื่อเขาเห็นสถานการณ์เช่นนี้เขาก็ถึงกับอ้าปากค้างและประโยคๆ เดียวก็ทำให้ทุกคนหันมาสนใจหน้าจอกล้องวงจรปิดกันและปรากฏว่าเป็นดั่งที่หลินเฟิงพูด นั่นก็เพราะว่าการต่อสู้ในห้องปิดตายนั้นได้สิ้นสุดลงแล้วและในห้องก็เต็มไปด้วยซากศพอันไร้วิญญาณและมีเพียงชาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียวในเวลานี้ที่เหลือรอดอยู่ โดยร่างกายของเขานั้นเต็มไปด้วยบาดแผลนั่งกำลังนั่งอยู่บนพื้นอย่างเหนื่อยล้า

ชายชาวญี่ปุ่นคนนี้คือผู้ชายที่เย่เชียนตามไปที่โรงแรมเมื่อคืนนี้ซึ่งเป็นคนที่ไปพบกับอาซูกะนากาจิมะและเป็นสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างเรดซัน ซึ่งในห้องปิดตายนั้นเขาสามารถอยู่รอดได้ในสถานการณ์เช่นนี้และถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากเพราะท้ายที่สุดแล้วในสถานการณ์นั้นมันไม่ใช่การต่อสู้แบบตัวต่อตัวหรือการประลองเพราะเราสามารถโดนแทงจากข้างหลังได้เสมอตลอดเวลา

“แผนการของคุณเย่เนี่ยช่างยอดเยี่ยมมากเลย..การหลอกล่อศัตรูเข้าไปในห้องปิดตายและให้ศัตรูฆ่าฟันกันเองแบบนี้มันช่วยประหยัดเวลาและไม่ต้องเปลืองแรงเลย” หลินเฟิงพูด

“มันเป็นเพราะว่าพวกเขานั้นโลภเกินไปและขาดสติและจิตสำนึกของมนุษย์ไป..เพราะถ้าพวกเขาไม่โลภล่ะก็พวกเขาจะติดกับกลอุบายที่หลอกง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง” เย่เชียนพูด

“ทุกๆ แผนการจะบรรลุไม่ได้ถ้าหากขาดการคาดการณ์ที่ดีไป..ทั้งเวลา..ทั้งสถานที่..และต้องเข้าถึงความคิดของอีกฝ่ายด้วย” หลินเฟิงพูดต่อ “แผนของคุณเย่น่ะมันก็เต็มไปด้วยข้อบกพร่องก็จริงแต่มันก็ได้ดึงดูดความโลภของพวก..และนั่นแหละคือจุดอ่อนที่สุดของมนุษย์”

“บอส! ..ให้ผมไปจัดการมั้ย?” แจ็คถามพลางใช้มือทำท่าเชือดคือ

เย่เชียนก็ส่ายหัวเบาๆ เพราะเมื่อสิ่งต่างๆ มาถึงจุดนี้แล้วเย่เชียนก็ควรที่จะหยุดเพราะเขาไม่ควรทำให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนขุ่นเคืองเพราะเรื่องการเก็บกวาดขยะที่เย่เชียนทิ้งเอาไว้ให้เขา อย่างไรก็ตามชายชาวญี่ปุ่นคนนี้ก็เป็นบุคคลที่ติดต่อกับอู๋หยางเฉิงเขาจึงยังมีประโยชน์ต่อหวงฟู่ชิงเตี๋ยนอยู่

“ไหนๆ พวกเราก็ได้พบกันแล้ว..ทำไมพวกเราไม่ไปดื่มด้วยกันสักหน่อยล่ะ?”

“ได้สิ!” หลินเฟิงตอบ

หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน..และหลังจากดื่มกันเสร็จเราก็มาลองกันสักตั้งดีกว่า”

เย่เชียนและหลินเฟิงต่างก็มีรอยยิ้มที่มุมปากซึ่งเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดออกมานั้นมันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเขาอยู่แล้ว ความแตกต่างก็คือครั้งนี้จะเป็นการสู้เพื่อวัดฝีมือเพราะไม่มีใครร่วมมือกับใครอย่างแน่นอนและนี่ก็ไม่ใช่การต่อสู้แบบเอาชีวิตเพราะมันเป็นเพียงการต่อสู้วัดฝีมือและพวกเขาทั้งสามก็เข้าใจเรื่องนี้กันดี

แจ็คก็แน่นิ่งไปชั่วขณะและอ้าปากเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็ถูกเย่เชียนโบกมือห้ามเอาไว้ เพราะเย่เชียนนั้นรู้ว่าแจ็คต้องการจะพูดอะไร เพราะแจ็คนั้นต้องการเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้ด้วยแต่ทว่าการที่เย่เชียนเป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่านั้นเขาไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้เพราะมันจะเป็นการต่อสู้ที่อิสระระหว่างทั้งสามเท่านั้น

ทั้งสามคนก็มองหน้ากันแล้วยิ้มจากนั้นก็เดินออกไปอย่างช้าๆ และค่อยๆ หายไปในความมืดพร้อมๆ กัน

สถานการณ์เช่นนี้โดยปกติแล้วพวกเขาทั้งหมดที่เหลือก็จะรีบตามพวกเขาทั้งสามไปอย่างแน่นอน เพราะใครๆ ก็ต้องการรับชมการต่อสู้ที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้เพราะการต่อสู้นี้จะเป็นศึกระหว่างนักรบที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม อย่างไรก็ตามราชาหมาป่าเย่เชียน,หมาป่าผีไป๋ฮวยและผู้นำในตำนานหลินเฟิงก็ไม่ได้คิดที่จะเปิดเผยการต่อสู้ครั้งนี้กับผู้อื่น เพราะการต่อสู้ครั้งนี้นั้นถูกกำหนดให้เป็นการต่อสู้ของคนสามคนและไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาแทรกแซงเป็นอันขาด

นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ไม่ได้รับการบันทึกเอาไว้ในพงศาวดารของประวัติศาสตร์และเป็นการต่อสู้ที่ลึกลับและเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครทราบได้และไม่มีใครรู้แม้แต่ผลลัพธ์ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีกำแพงที่ผ่านไม่ได้ในโลกของความจริงอยู่ดี เพราะว่าการต่อสู้ของทั้งสามนั้นได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วในโลกของทหารรับจ้างและโลกของเหล่านักฆ่าและการคาดเดาผลลัพธ์ก็มีทุกประเภทและถาโถมกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

บ้างก็คาดเดากันว่าเย่เชียนจะต่อสู้กับหลินเฟิงเป็นหลักและหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ฉวยโอกาสและชนะไป บ้างก็คาดเดากันว่าหลินเฟิงสามารถเอาชนะได้ทั้งเย่เชียนและหมาป่าผีไป๋ฮวย บ้างก็คาดเดากันว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะเป็นผู้ชนะที่สมบูรณ์แบบ บ้างก็คาดเดากันว่าเย่เชียนจะเป็นผู้พลิกแพลงและชนะในที่สุด และบ้างก็คาดเดากันว่าทั้งสามคนนั้นสูสีกันและไม่มีแม้แต่ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ใดๆ ซึ่งภายในระยะเวลาสั้นๆ ก็มีการคาดเดาทุกประเภทเกิดขึ้นแต่ก็ไม่มีใครอาจรู้ได้เลยว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงนั้นคืออะไรและเป็นอย่างไร

สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้ก็คือหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้จบลงแล้วหมาป่าผีไป๋ฮวยและหลินเฟิงนั้นทั้งคู่จะออกจากประเทศจีนทันที อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเย่เชียนนั้นจะชนะหมาป่าผีไป๋ฮวยและหลินเฟิง เพราะมันไม่มีอะไรที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เลย

เกี่ยวกับข่าวลือเหล่านี้พวกเขาทั้งสามคนต่างก็ยิ้มและเพิกเฉยต่อการคาดเดาต่างๆ นาๆ เพราะเดิมทีนี่เป็นการต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสามคน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องบอกให้คนอื่นรู้เพราะถึงยังไงพวกเขาทั้งสามคนก็รู้อยู่แก่ใจของตัวเอง

แต่ผลลัพธ์ตอนจบนี้ก็ทำให้แจ็คโล่งใจเป็นอย่างมากเพราะท้ายที่สุดแล้วเย่เชียนก็ไม่ได้เป็นอะไรไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแจ็คก็สงสัยมากเช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นกันแน่และอะไรที่ทำให้คนอย่างหมาป่าผีไป๋ฮวยและหลินเฟิงต้องออกจากประเทศจีนไป?

นี่คือเป็นความลับดังนั้นเย่เชียนก็จะไม่บอกกับแจ็คและเขาก็จะไม่ประกาศออกไป เพราะสำหรับเย่เชียนแล้วผลลัพธ์เช่นนี้เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพราะถ้าหากเขาและหมาป่าผีไป๋ฮวยและหลินเฟิงสู้กันจริงๆ ล่ะก็มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากในตอนท้ายมันจะมีจุดจบแบบใดถึงยังไงก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้เลย

เช้าวันรุ่งขึ้นเย่เชียนก็ถูกซ่งหลันดึงขึ้นมาจากห้วงนิทราและเมื่อดวงตาที่หลับใหลอยู่ถูกเบิกกว้างออกมาเย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และมองไปที่ซ่งหลันและหลินโรวโร่วที่อยู่ข้างหลังเธอแล้วพูดอย่างงุนงงว่า “อะไรกันเนี่ย? ..ทำไมปลุกผมแต่เช้าเลยล่ะ?”

“มาคุยกันเดี๋ยวนี้เลย..เมื่อคืนนายไปทำอะไรมา..ฉันเห็นนายกลับตั้งดึกๆ ดื่นๆ แล้วยังเมาอีกด้วย!” ” ซ่งหลันถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่อันที่จริงเธอก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าเย่เชียนไปทำอะไรมาและถึงแม้ว่าเขาจะไปไนท์คลับและไปเที่ยวผับบาร์ก็ตามถึงยังไงเธอก็ไม่สนใจเรื่องนี้เลย

อย่างไรก็ตามซ่งหลันก็รู้ดีเพราะเธอเห็นเย่เชียนยืนอยู่ที่หน้าต่างและเธอก็รู้ได้ว่ามันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเขาถึงได้กังวลมากเช่นนี้จนทำให้เขาเหนื่อยล้า

“เอ่อคือ..ผมไปดื่มกับพี่ไป๋ฮวยและหลินเฟิงมาเมื่อคืนนี้..แล้วก็ทะเลาะกันนิดหน่อยน่ะ” เย่เชียนพูดอย่างง่ายดาย

“คุณ..คุณเป็นอะไรหรือเปล่า..คุณบาดเจ็บมั้ย?” หลินโรวโร่วรีบวิ่งไปข้างหน้าและจับตัวของเย่เชียนและเมื่อเธอได้ยินเธอก็กวาดสายมองไปรอบๆ ตัวของเย่เชียนเพราะเธอกลัวว่าเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บ

“ไม่เป็นไรๆ ..ผมสบายดี” เย่เชียนยิ้มและพูด

“หลินเฟิง?” ซ่งหลันถึงกับขมวดคิ้วแน่นและพูดว่า “นี่นายกำลังพูดถึงหลินเฟิงผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลน่ะเหรอ? ..ทำไมเขาถึงมาที่จีนกันล่ะ..หรือเป็นเพราะกริชดาวตก?”

“เขาบอกแค่ว่าเขาอยากเห็นมันกับตาตัวเองเฉยๆ” เย่เชียนพูด “แต่มันไม่สำคัญหรอก..เพราะเขากับไป๋ฮวยออกจากจีนกันไปแล้ว”

ซ่งหลันก็ถึงกับตกใจเล็กน้อยเพราะว่าเธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้ออกจากประเทศจีนไป ซึ่งมันก็ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เมื่อคืนนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามซ่งหลันก็ไม่ได้คาดเดามากมายเหมือนคนอื่นๆ เพราะในความคิดของเธอนั้นเธอก็เข้าใจว่าเย่เชียนนั้นไม่มีทางเอาชนะทั้งหมาป่าผีไป๋ฮวยและหลินเฟิงในเวลาเดียวกันได้ ซึ่งมันต้องมีสิ่งที่ไม่รู้เกิดขึ้นในเรื่องนี้ แต่ทว่าเนื่องจากเย่เชียนไม่ได้พูดอะไรซ่งหลันก็เลยไม่ได้ถามอะไรต่อ

“เอาเถอะ..ถ้างั้นนายก็พักผ่อนต่อซะ” ซ่งหลันเหลือบมองไปที่หลินโรวโร่วและพูดว่า “โรวโร่ว..เธออยากจะลาพักผ่อนและตรวจร่างกายเขาที่นี้มั้ย?”

เมื่อเห็นการแสดงออกที่ตรงไปตรงมาของซ่งหลันแล้วใบหน้าของหลินโรวโร่วก็เปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่ได้ตั้งใจและเธอก็รีบลุกขึ้นยืนและพูดว่า “ไม่ค่ะ..ให้เขาไปที่โรงพยาบาลเถอะ..ถ้าเขาเป็นอะไร”

“ไม่นะ! ..โอ๊ย! ..ทำไมตรงนี้มันปวดมากเลยก็ไม่รู้..คุณช่วยตรวจดูอาการให้ผมที..ถ้าเกิดอะไรขึ้นมันคงไม่ดีแน่” เย่เชียนแสร้งทำเป็นเจ็บปวดมากและวิงวอน

“ไหนคุณบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง..ให้ฉันดูหน่อย!” หลินโรวโร่วนั่งลงข้างๆ เย่เชียนและถามด้วยความห่วงใย

.

.

.

.

.

.

.

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด