ยอดนักรบจอมราชัน – ตอนที่ 456 ตอนจบที่ไม่สมบูรณ์

อ่านนิยายจีนเรื่อง ยอดนักรบจอมราชัน ตอนที่ 456 ตอนจบที่ไม่สมบูรณ์ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 456 ตอนจบที่ไม่สมบูรณ์

“ฟึบๆๆๆ” เสียงของเฮลิคอปเตอร์ก็ค่อยๆ ดังเข้ามาจากระยะไกลพร้อมกับเหล่าทหารติดอาวุธหนักบนเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังโรยตัวจากเชือกลงมา

หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและรู้สึกสบายใจเพราะในที่สุดเหล่าทหารก็มาสักที ไม่เช่นนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรดี เพราะถ้าขืนปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองล่ะก็เกรงว่ามันจะต้องมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากอย่างแน่นอนเพราะฝ่ายตรงข้ามมีทหารรับจ้างอย่างจิ้งจอกหิมะอยู่ด้วย ดังนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจึงต้องขอให้เหล่าทหารจากเขตทหารเมืองเสิ่นหยวนมาเสริมกำลังเพราะเขาเชื่อว่าทหารเหล่านี้สามารถรับมือกับเซอร์เก้วิชพุชกินได้เป็นอย่างดี

ผู้บัญชาการกองร้อยที่รับผิดชอบปฏิบัติการครั้งนี้ก็รีบเดินมาที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนและกล่าวคำทักทายแบบทหารและพูดว่า “หัวหน้าครับ! ..ทหารกองร้อยทั้งหมดเตรียมพร้อมแล้ว..โปรดสั่งการมาได้เลยครับ!”

หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและจับมือกับเขาและพูดว่า “คุณมาได้ตรงเวลามาก..อีกฝ่ายมีคนงานก่อสร้างประมาณห้าสิบคนและทหารรับจ้างอีกหนึ่งโหล..เป้าหมายคือชาวต่างชาติคนนี้..ผมหวังว่าเขาจะยอมจำนน..ส่วนคนอื่นๆ ถ้าหากพวกเขาต่อต้านล่ะก็..อนุญาตให้ทำการวิสามัญพวกเขาได้เลย” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดขณะที่เขาหยิบรูปถ่ายของเซอร์เก้วิชพุชกินออกมาจากกระเป๋าของเขาและแสดงให้เขาเห็น

ผู้บัญชาการกองร้อยก็พยักหน้าและพูดว่า “หัวหน้าไว้วางใจได้เลยครับ..ผมรับรองเลยว่าภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วง” เมื่อรับรูปถ่ายจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วผู้บัญชาการกองร้อยก็หันกลับมาและเดินกลับไปแล้วแสดงรูปถ่ายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาดูแล้วเขาก็อธิบายแผนการรบทันที ซึ่งสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างซับซ้อนและถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งก็ตามเพื่อป้องกันไม่ให้เซอร์เก้วิชพุชกินหลบหนีเขาจึงต้องกระจายกำลังคนออกไปล้อมรอบเขาทุกทิศทาง

ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้บัญชาการกองร้อยนั้นได้สั่งการให้เหล่าทหารแยกย้ายกันไปล้อมรอบพื้นที่ไซต์ก่อสร้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งคำสั่งทั้งหมดได้รับการสื่อสารผ่านทางวิทยุโดยทำการบุกตีวงแคบไปอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหลบหนีออกมาได้

หลังจากที่ได้ยินเสียงของเฮลิคอปเตอร์แล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันทีและเมื่อมองไปที่กองทหารที่โรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เช่นนั้นเซอร์เก้วิชพุชกินก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มขนหัวลุกเพราะเขากลัวว่าวันนี้จะเป็นค่ำคืนที่ไม่ดีอีกต่อไปแล้วและมันจะไม่ง่ายเลยที่จะหลบหนีไป อย่างไรก็ตามยิ่งมีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่รอดมากเท่าไหร่เซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่ต้องการที่จะตายอยู่ที่นี่มากเท่านั้น ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าถ้าหากถูกคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนจับตัวไปล่ะก็เขาจะอยู่ในสถานะสายลับและตั้งตนเป็นอาชญากรระดับนานาชาติทันทีและแม้แต่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

เซอร์เก้วิชพุชกินก็ไม่สนใจอะไรอีกต่อไปในขณะที่การปิดล้อมของอีกฝ่ายยังไม่เข้ามาใกล้มากนักเขาก็รีบสั่งให้ทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะช่วยคุ้มกันและปกป้องเขาเพื่อหลบหนีออกไป

ไม่นานหลังจากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้น

ขณะที่อยู่ในห้องพักของโรงแรมเย่เชียนก็กำลังฟังเพลงอยู่อย่างสบายใจเฉิบโดยสวมหูฟังพลางเอานิ้วเคาะโต๊ะเป็นครั้งคราวราวกับว่าเขากำลังเพลิดเพลินไปกับดนตรีที่ไพเราะอย่างยิ่ง ถ้ามันไม่ผิดพลาดอะไรเย่เชียนก็เชื่อว่าสิ่งต่างๆ มันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วใช่มั้ย? เย่เชียนก็คิดอย่างลับๆ ว่าถึงแม้ว่าการแสดงออกของเขาจะสงบแต่เขาก็ยังคงกังวลเล็กน้อยในใจเพราะนี่เป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ในการจัดการกับเซอร์เก้วิชพุชกิน ดังนั้นเย่เชียนจึงฝากความหวังเอาไว้ที่หลินเฟิงเพราะเย่เชียนเชื่อว่าหลินเฟิงจะไม่ยอมให้เขาต้องผิดหวังใช่ไหม?

อีกด้านหนึ่งของไซต์ก่อสร้างนั้นได้เป็นสู่สมรภูมิที่ดุเดือดกันแล้วเพราะเมื่อคนงานก่อสร้างเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นทหารติดอาวุธหนักพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะต่อต้านและหมอบลงพร้อมกับก้มหน้ายอมจำนนทันที ซึ่งสมาชิกทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็สูญเสียไปเจ็ดถึงแปดคนในการปะทะที่ดุเดือดและเหลือเพียงแค่ห้าหรือหกคนเท่านั้น

อย่างไรก็ตามสมาชิกของจิ้งจอกหิมะต่างก็มีความรับผิดชอบในหน้าที่และใจสู้อย่างมากเพราะท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็ยังคงปกป้องเซอร์เก้วิชพุชกินและไม่ปล่อยให้เขาได้รับอันตรายใดๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะทหารกองร้อยได้รับคำสั่งจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนว่าให้จับเป็นเซอร์เก้วิชพุชกิน

ทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะในครั้งนี้ได้เผชิญกับความสูญเสียครั้งใหญ่และการสูญเสียนั้นก็ไม่ได้น้อยเลยเพราะพวกเขาหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและอีกสองคนถูกยิงศีรษะโดยตรงและเสียชีวิตในทันที และความตึงเครียดของทั้งสองฝ่ายถูกกระตุ้นให้รุนแรงยิ่งขึ้นและพวกเขาก็ต้องการที่จะฆ่าอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความเลือดเดือดของชายชาติทหารและแต่ละคนก็ต้องการที่จะฆ่าอีกฝ่ายหนึ่งให้สิ้นซาก

เพียงแค่จำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นก็แตกต่างกันมากเกินไปแล้วและถึงแม้ว่าทหารรับจ้างของจิ้งจอกหิมะเหล่านี้จะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีแต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็ไม่สามารถใช้ทักษะเฉพาะตัวได้เลย เนื่องจากไซต์ก่อสร้างนั้นเป็นพื้นที่เปิดมากเกินไปและยิ่งไปกว่านั้นทหารกองร้อยของกองทัพก็ยังเป็นทหารมืออาชีพอีกด้วยเพราะพวกเขาทั้งหมดเป็นทหารจริงๆ และเทียบไม่ได้กับตำรวจธรรมดาๆ และถึงแม้ว่าจะมีความเสียหายมากก็ตามแต่ถึงยังไงประสิทธิภาพในการรบก็ไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อยและในทางตรงกันข้ามเนื่องจากความโกลาหลจากเข้าปะทะของพวกเขาจึงทำให้พวกเขายิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม

ไม่นานหลังจากการเข้าปะทะก็ทำให้สมาชิกจำนวนหลายสิบคนของทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเสียชีวิตไปและเหลือเพียงเซอร์เก้วิชพุชกินกับผู้คุ้มกันเพียงคนเดียว ซึ่งผู้คุ้มกันคนนั้นก็ยังคงทุ่มเทอย่างมากโดยคอยคุ้มกันเซอร์เก้วิชพุชกินมาโดยตลอดและถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวก็ตามแต่เขาก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้โดยการทิ้งเซอร์เก้วิชพุชกินแล้วหนีไปแต่อย่างใด

ผู้คุ้มกันก็ดึงเซอร์เก้วิชพุชกินให้ไปซ่อนตัวอยู่ที่หลังสิ่งกีดขวางและพูดว่า “หัวหน้า..คุณหนีไปก่อน..เดี๋ยวผมจะดึงดูดความสนใจของพวกเขาเอง”

การเห็นความจริงท่ามกลางความทุกข์ยากนั้นจะสามารถรู้ได้ว่าใครจริงใจกับเราหรือเสแสร้งนั้นมันสามารถแสดงออกได้ดีที่สุดในขณะนี้ ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินก็ตบบ่าของผู้คุ้มกันเบาๆ แล้วพูดว่า “จำเอาไว้ว่าคุณต้องกลับมาหาผมแบบยังมีชีวิตอยู่..ผมสัญญากับคุณเลยว่าในอนาคตตราบใดที่ผมไม่สิ้นเนื้อประดาตัวผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณต้องลำบากอีกต่อไป”

ในขณะนี้จู่ๆ ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งร่างพุ่งเข้ามาหาพวกเขาทั้งสองคนจนผู้คุ้มกันถึงกับผงะและรีบยกปืนขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่ทว่าก่อนที่เขาจะยกปืนขึ้นมานั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นที่หน้าผากของเขาโดยมีปากกระบอกปืนกดลงบนหน้าผากของเขาเอาไว้

Sergeyevich Pushkin ถึงกับผงะ แต่เขาก็โล่งใจเมื่อเห็นการแต่งกายของผู้มาเยือนอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าบุคคลที่นี่ไม่ใช่กลุ่มของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีน ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขามีผิวขาวและความงามแบบผู้หญิงในท่าทางของเขา

“มิสเตอร์พุชกินไม่ต้องกลัวไป..คุณเย่สั่งให้พวกเรามาช่วยชีวิตคุณ!” ชายหนุ่มในคราบของหญิงสาวพูด

เซอร์เก้วิชพุชกินก็ถึงกับตกตะลึงอย่างมากและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมคุณเย่ถึงคิดที่จะช่วยผม?”

“ผมก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน..แต่งานของเราคือการพาคุณออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย..ส่วนเรื่องอื่นๆ คุณก็สามารถถามเขาได้เมื่อคุณได้พบกับเขาในอนาคต” ชายหนุ่มในคราบของหญิงสาวพูด หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าไปและชำเลืองมองไปที่ผู้คุ้มกันของเซอร์เก้วิชพุชกินและโบกมือให้ผู้คุ้มกันและสั่งให้เขาวางปืนลงและหลังจากนั้นก็พูดว่า “ตอนนี้คุณถูกล้อมรอบเอาไว้ทุกด้านแล้ว..ถ้าคุณต้องการที่จะช่วยหัวหน้าของคุณล่ะก็จงไปดึงดูดความสนใจของคนเหล่านั้นซะเพื่อที่เราจะได้มีโอกาสพาหัวหน้าของคุณหลบหนีไป”

ผู้คุ้มกันก็มองไปที่เซอร์เก้วิชพุชกินและกัดฟันพร้อมกับรีบวิ่งหนีออกไป แน่นอนว่าสายตาของบุคลากรจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็จะดึงดูดเขา อย่างไรก็ตามหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันมีบางอย่างผิดปกติไปในขณะนี้เพราะเมื่อเขากำลังตกตะลึงอยู่นั้นเซอร์เก้วิชพุชกินและอีกสามคนก็หายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิดอย่างลับๆ ว่า “จะเป็นเย่เชียนได้หรือไม่..แต่เขาก็บอกว่าเขาจะไม่แทรกแซงเรื่องนี้” อย่างไรก็ตามตามความเข้าใจของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นคราวนี้อาจจะเป็นสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าแต่ถึงยังไงก็ไม่ใช่เย่เชียนอยู่ดีและยิ่งไปกว่านั้นเหล่าสมาชิกเขี้ยวหม่าป่าก็ไม่มีใครที่ประจำการอยู่ทางดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเลยและเย่เชียนเองกย็กำลังพักอยู่ในโรงแรมเช่นกันโดยมีคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติคอยจับตาเฝ้าดูอยู่ ซึ่งถ้าไม่ใช่เย่เชียนแล้วจะเป็นใครไปได้? เป็นคนของหรือไม่?

ในไม่ช้าผู้คุ้มกันของเซอร์เก้วิชพุชกินก็ถูกยิงเสียชีวิตในทันที แต่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยังไม่พอใจเพราะเขาไม่สามารถจับเซอร์เก้วิชพุชกินได้ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่างานในครั้งนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แบบเพราะมีกลุ่มคนที่คอยช่วยเซอร์เก้วิชพุชกินอยู่ ซึ่งมันทำให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนปวดหัวอย่างมากเพราะเขาพยาบามคิดว่าคนคนนั้นจะเป็นใครไปได้?

ถึงแม้ว่าภารกิจจะไม่เสร็จสมบูรณ์แบบแต่ถึงยังไงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ต้องแสดงความขอบคุณต่อเหล่าทหารที่มาจากกองร้อยเมืองเสิ่นหยวน ซึ่งความล้มเหลวของภารกิจนี้นั้นไม่สามารถตำหนิหรือติเตียนพวกเขาได้เพราะมันเป็นหน้าที่ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่จะต้องตามสืบว่าบุคคลปริศนาเหล่านั้นจะปรากฏตัวขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไรและช่วยเหลือเซอร์เก้วิชพุชกิน

ในกรณีนี้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ได้โทรไปหาผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาที่มาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติซึ่งทำหน้าที่จับตาของเย่เชียนอยู่ทุกย่างก้าวซึ่งคำตอบก็คือเย่เชียนนั้นอยู่ในโรงแรมมาโดยตลอดและไม่เคยออกไปข้างนอกเลยสักครั้ง ถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่องนี้ แต่เขาก็รู้สึกคลุมเครือว่าเหตุการณ์นี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเย่เชียนอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นเย่เชียนจะอยู่ในโรงแรมได้ผ่อนคลายมาหลายวันได้อย่างไร? นี่ดูไม่เหมือนตัวตนของเขาเลย ซึ่งคำอธิบายเดียวก็คือเย่เชียนได้จัดเตรียมบุคลากรเอาไว้แล้วและการที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจโดยเจตนาและสร้างหลักฐานว่าเขานั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย

อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแต่เพียงผู้เดียว แต่ถ้าหากไม่มีหลักฐานใดๆ เขาก็ไม่คิดที่จะไปถามเย่เชียนเลยแม้แต่น้อย ส่วนเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นก็ต้องรอให้เรื่องนี้คลี่คลายก่อนแล้วจึงค่อยหาทางแก้ไขผ่านช่องทางระหว่างประเทศได้นั่นเอง

เรื่องการตามเช็ดตามล้างทำความสะอาดสิ่งต่างๆ นั้นก็ได้ส่งมอบให้กับเหล่าตำรวจในเมืองเสิ่นหยวน โดยหวงฟู่ชิงเตี๋ยนได้โทรไปยังสำนักงานเทศบาลเมืองเสิ่นหยวนและขอให้พวกเขาระดมบุคลากรเพื่อปิดผนึกสถานที่เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปได้ เพราะสิ่งที่เหลืออยู่ก็คือการเข้าสู่สถานการณ์ทางการเมืองและไม่ใช่ขอบเขตของมติของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติแต่อย่างใด

จื้อจุนและเซียวหวันก็เตรียมพร้อมสำหรับการทำสิ่งต่างๆ ส่วนหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นก็มักจะถอนหายใจอย่างหดหู่ใจเป็นครั้งคราว ส่วนเฮลิคอปเตอร์ของทหารก็บินกลับไปยังเขตทหารเสิ่นหยวนทันที อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะเคลื่อนพลกลับเขาก็ให้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติทำการสอบสวนและตรวจสอบแหล่งกบดานของเซอร์เก้วิชพุชกินทันที

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด