รันนิ่งแมนกับระบบครองโลก – ตอนที่ 9 สั่นสะเทือนวงการเสียงที่เต็มรูปแบบของลู่เฟย
หลังจากผ่านไปประมาณชั่วโมงหนึ่ง พวกเขาทั้งสามคนก็มาถึงร้านอาหารที่เบบี้จองไว้จันได้ จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มทานอาหารเย็น ใช้เวลาไปกว่าชั่วโมง
พอทานเสร็จก็พากันไป KTV เพื่อไปร้องเพลงด้วยกัน ลู่เฟยก็ร้องออกมาอย่างสบายอกสบายใจ
เพลงของนั้นสร้างความตื่นตกใจให้แก่เพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของเขาทั้งสองคน หยางอิ่งแหละหนีหนี่ตกใจมากกับความสามารถด้านการร้องเพลงของลู่เฟย
ทั้งสามกว่าจะกลับถึงบ้านกันก็ปาไปกว่าเที่ยงคืนแล้ว คืนนี้หนีหนี่นอนบ้านเบบี้ หลังจากลู่เฟยถึงบ้าน เขาก็นอนคิดอยู่คนเดียว และก็ได้ตัดสินใจบางอย่างในที่สุด
“คุณระบบ ฉันอยากจะแลกเปลี่ยนอะไรซักหน่อยได้ป่าว? นายอยู่ไหม? ระบบ?”
“ระบบอยู่นี่ คุณต้องการแลกเปลี่ยนอะไร?”
“ฉันต้องการแลกเปลี่ยนค่าเสน่ห์และทักษะสองอย่างของฉัน อย่างแรกคือความรู้พื้นฐานทางด้านดนตรี เช่นพวกทักษะการอ่านโน๊ต และอย่างที่สองฉันอยากจะเล่นกีต้าร์และเปียโนให้ได้”
จากการวิเคราะห์ของเขาแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเขาไม่มีทักษะเหล่านี้ระหว่างช่วงท้ายของการแข่งขัน
เพราะเพลงที่เขามีนั้นไม่มีในโลกคู่ขนาน เขาก็ต้องมีของพวกนี้เพื่อให้ดนตรีกับเพลงของเขาไปด้วยกันได้
“OK โฮสต์ สิ่งเหล่านี้ใช้คะแนนสะสมเพียง 50 คะแนน และคุณสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้ด้วยคะแนนสะสมที่มากขึ้นในอนาคต จะทำให้เสน่ห์ด้านนี้ของคุณเพิ่มโดยสมบูรณ์”
“อ้อ ใช่ ขอบคุณนะคุณระบบ”
“ด้วยความยินดี โฮสต์”
2-3 นาทีต่อมา ก็มีเสียงระบบดังแจ้งเตือนขึ้นมาเป็นระยะๆ และ 1 นาทีหลังจากนั้น ลู่เฟยก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวเขา เขาพบว่ามีความรู้มากมายด้านดนตรี
รวมไปถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกีต้าร์และเปียโน เขาไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญมีทักษะ
“ระบบได้ทำการและเปลี่ยนคะแนนสะสมเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันคะแนนสะสมของโฮสต์ถูกใช้ไป 50 คะแนน คะแนนสะสมของโฮสต์ถูกใช้ไปหมดแล้ว โปรดทำงานให้หนัก ระบบจะทำการพักผ่อนต่อไป”
“อื้อ โอเค บาย”
ปากของลู่เฟยระบายรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเขานึกถึงการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เดอะวอยช์จีน ฉันมาแล้วววว!!!
เวลาผ่านไปเหมือนวาปมา แล้วก็ถึงวันจันทร์ พริบตานั้น ทีวีดาวเทียมของเจ้อเจียงก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
คืนนี้ ตอนทุ่มตรง ซีซั่นแรกของ The Voice of China จะมีการบันทึกภาพและเสียงในสตูดิโอ ชั้นที่ 15 รายการกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
พิธีการหัวเฉ่า จะเริ่มจัดรายการในไม่ใช้ เขากำลังโฆษณาสินค้าของบริษัท JDB และแนะนำกฏของการแข่งขันเป็นครั้งแรก ในที่สุดเขาก็แนะนำเมนเทอร์ 4 คน
และเมนเทอร์ทั้ง 4 ของเดอะวอยช์ก็เป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ พวกเขาล้วนเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง ได้แก่ น่าหยิง หลูฮวาน หยูเฉิงฉิง หยางคุน
หลังจากแนะนำเหล่าเมนเทอร์เสร็จ การแข่งขันก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เก้าอี้หมุนของเหล่าเมนเทอร์หันหลังให้กับเวที
คนแรกที่ปรากฏตัวไม่ใช่ลู่เฟย ผู้เข้าแข่งขันคนแรกชื่อ หวนเฮ่อ ส่วนลู่เฟยอยู่ห้องรับรองด้านหลังเวที เขาเป็นผู้เข้าแข่งขันคนที่ 3
ในห้องรับรองนั้นลู่เฟยแต่งตัวหล่อมาก ข้างๆ เขามีหญิงสาวสองคน คือเบบี้แหละหนีหนี่
หยางอิ่งมองไปทางลู่เฟยอย่างจริงจัง : “เอาน่าลู่เฟยนายต้องเจ๋งที่สุด”
“ช่าย ลู่เฟย ไม่ต้องกังวลนะ อีกซักแปบโชว์ความพลังของนายให้เต็มที่เลย” หนีหนี่ยังให้กำลังใจ
“อ่า ฉันจะทำงานให้หนักนะ ดูได้เลย” ลู่เฟยหัวเราะอย่างมั่นใจ มีกีต้าร์อยู่ข้างๆ เขา กีต้าร์ตัวนี้ยืมมาจากทางสถานีอีกที เสร็จแล้วก็คืน
หัวหน้าผู้กำกับรายการจางเสี่ยวอิงก็อยู่ข้างๆ ลู่เฟยด้วยในตอนนี้ : “ลู่เฟย พอถึงตาคุณแล้วก็โชว์พลังที่จริงเลยนะ แล้วก็จำสิ่งที่คุณสัญญากับฉันไว้ด้วยนะ”
“ครับ ครับ ผู้กำกับจาง ผมจะทำตามสัญญา” ลู่เฟยพยักหน้าโดยคิดว่าเขาคงต้องเข้าร่วม Huayi Brothers ในอนาคต
แต่สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการชนะและมุ่งมั่นที่จะเป็นแชมป์รายการเดอะวอยช์
หลังจากผ่านไปได้สิบนาที ผู้เข้าแข่งขั้นคนที่สองก็จบลง ทั้งสองคนทำได้ดี ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ
ผู้ดำเนินรายการหัวเฉ่า เริ่มประกาศต่อหน้าผู้ชมสดมากกว่า 1,000 คน
รวมเมนเทอร์ทั้งสี่คนด้วย : “คนต่อไปคือผู้เข้าแข่งขันคนที่ 3 ของเรา”
หัวเฉ่า ถอยไปที่ขอบเวทีอย่างรวดเร็ว ลู่เฟยเดินออกไปที่กลางเวทีพร้อมกีต้าร์ ในขณะที่หยางอิ่งและหนีหนี่กำลังเฝ้าดูลู่เฟยจากตำแหน่งกลุ่มญาติและเพื่อนๆ
เมื่อลู่เฟยปรากฏตัวขึ้นมาเหล่าผู้ชมก็อดมองไปทางลู่เฟยไม่ได้ ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าทีสามารถแข่งขันกับเหล่าไอดอลเกาหลีชายได้อย่างสบายๆ ย่อมต้องดึงดูฝูงชนเป็นจำนวนมาก
แล้วพอเห็นหยางอิ่งและหนีหนี่ ผู้คนก็เริ่มตื่นเต้นเข้าไปอีก
เสียงดนตรีดังขึ้นตอนนี้ลู่เฟยเริ่มดีดกีต้าร์ของเขาอย่างชำนาญ เสียงกีต้าร์ก็ไพเราะยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ขยายเสียง
ลู่เฟยเริ่มร้องเพลง เขาค่อยๆ เปล่งเสียงออกมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผสานทำนองของเพลง ‘ทะเลกว้างและท้องฟ้า’ เพลงสุดคลาสสิกที่เคยบรรเลงในโลกก่อนของลู่เฟย แต่ไม่เคยปรากฏในโลกคู่ขนานนี้
! ! !
วันนี้ฉันเฝ้าดูหิมะโปรยปรายในคืนที่หนาวเหน็บ
ลอยไปไกลด้วยหัวใจที่เย็นชา
ไล่ตามลมและฝน
ท้องฟ้ากว้างคุณและฉันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ (ที่ไม่เปลี่ยนแปลง)
กี่ครั้งแล้วที่ต้องเผชิญกับสายตาเย็นชาและการเยาะเย้ย
ไม่เคยยอมแพ้อุดมคติในใจฉัน
รู้สึกหายไปในช่วงเวลาแห่งความมึนงง
ความรักในใจของฉันได้จางหายไปโดยไม่รู้ตัว (ที่เข้าใจฉัน)
ยกโทษให้ฉันสำหรับความรักและอิสระในชีวิตของฉัน
ฉันยังกลัวว่าวันหนึ่งฉันจะล้มลง
ใคร ๆ ก็ทรยศต่ออุดมคติของตนได้
แม้ว่าวันหนึ่งจะมีแค่เธอกับฉัน
… …
… …
! ! !
ป้าง
ป้าง
ป้าง
ป้าง
น่าหยิง ลู่ฮาน หยูเฉิงฉิง หยางคุน เมนเทอร์ทั้งสี่กดปุ่มสีแดงแล้วหันมาในเวลาไล่เลี่ยกัน เหล่าเมนเทอร์ทั้งสี่ตกใจมาก พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเพลงที่ดีขนาดนี้ ตอนนี้เหล่าผู้ชมมากกว่าพันคนยืนขึ้นโบกแท่งไฟในมือ คลอไปตามเพลงของลู่เฟย
ตอนนี้เมนเทอร์ทั้งสี่กำลังตั้งใจฟัง พวกเขากังวลว่าจะพลาดการร้องเพลงของลู่เฟยแม้ชั่วขณะ ลู่เฟยร้องเพลงเต็มไปด้วยอารมณ์
ใบหน้าของหัวเฉ่าที่ขอบเวทีแสดงถึงความอิจฉา และผู้กำกับจางเสี่ยวอิงก็แอบยิ้มในใจเช่นกัน
ผู้ชายคนนี้สามารถมีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกได้แน่ โชคดีที่เขาสัญญาว่าจะร่วมงานกับ Huanyi Brothers เธอไม่อาจปล่อยให้นักร้องยอดนิยมในอนาคตไปอยู่บริษัทอื่นแน่ จะปล่อยให้เขาหนีไปไม่ได้
ใบหน้าของหยางอิ่งและหนีหนี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น พวกเธอกำลังเชียร์ลู่เฟยโดยการโบกมือซ้ายขวาไปตามทำนองเพลงของลู่เฟย เพื่อให้กำลังใจลู่เฟยไปด้วย
ลู่เฟยรู้สึกได้ถึงความสนใจอย่างเปี่ยมล้นของบรรดาผู้ชม ตอนนี้เขากำลังร้องเพลง ‘ท้องฟ้าและทะเลกว้าง’ อย่างมีเสน่ห์ 5 นาทีผ่านไปเพลงก็จบลง
บรรยากาศของผู้ชมก็พุ่งสูงขึ้นทันทีที่เพลงจบ เสียงปรบมือดังกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง ผู้ชมทุกคนลุกขึ้นยืน ไม่มีใครนั่งอีกต่อไป พวกเขาส่งเสียงกรีดร้องเชียร์และปรบมือกินเวลายาวนาน
นานมาก
นานเกินไป
เสียงปรบมือกินเวลาไปกว่า 2-3 นาที โดยไม่สามารถหยุดได้เลย
==============
คอมเม้นต์