เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ – ตอนที่ 380 เป็นเขา
มู่เฉียวตกตะลึง ความสนใจทั้งหมดของเธออยู่ที่คำว่าหมั้น เขากลับตระกูลโม่สิ่งนี้เธอไม่แปลกใจ แต่ว่าโม่หานหมั้นแล้ว?
เธอเม้มปาก หัวใจที่สงบของเธอยังคงสั่นไหวอยู่บ้าง
“ฟังสิ คนอื่นเขาหันกลับไปก็หมั้นแล้ว มีแต่เธอเนี่ยแหละที่เหมือนคนโง่ ที่ยังยึดติดกับเขา…….”
“เสี่ยวซิน ฉันไม่ได้ยึดติด”เธอพูดขัดคำเธอ เธอไม่ได้ยึดติดอยู่กับเขา
“งั้นเธอก็แต่งงานสิ? ถ้าไม่ใช่เพราะใจของเธอยังมีเขา เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธเฮ่อเทียน”
มู่เฉียวไม่พูด
ตกดึก
“แม่ โม่หานหมั้นแล้ว”
“เฉียวเอ๋อ ลูกยังไม่ลืมเขาเหรอ?”
“แม่ เฮ่อเทียนบอกว่าเขาจะขอหนูแต่งงาน”
อีกด้านของผนัง ปลายนิ้วของชายคนนั้นจิกเข้าที่ฝ่ามือตัวเอง เลือดหยดลงบนพื้นอีกครั้ง
“เฉียวเอ๋อ ในชีวิตนี้ ผิดครั้งแรกสามารถพูดได้ว่ายังเด็กอยู่ไม่มีประสบการณ์ แต่ผิดครั้งที่สอง มันไม่ควรมากๆ”
“แม่ แม่คิดว่าหนูกับเฮ่อเทียนอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องที่ผิดเหรอคะ?”
นิ้วของแม่สอดเข้าไปในผมของเธอ ถอนหายใจ “ผิดไม่ผิด คนนอกไม่รู้ เฉียวเอ๋อ เรื่องการแต่งงานลูกต้องใช้ความรู้สึกตัวเอง ความสุขของลูก ไม่เคยอยู่ที่สายตาคนอื่น แต่มันอยู่ในใจลูก”
“อื้ม หนูรู้ แม่”
ต่อมา สื่อรายใหญ่ๆรายงานข่าวเรื่องการฟื้นคืนชีพของโม่หานอย่างบ้าคลั่ง เหตุการณ์ในอดีตของเขาบางส่วนก็ถูกดึงออกมาอีกครั้งเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจ คือเรื่องการแต่งงานของเขากับมู่เฉียว กลับไม่ถูกพูดถึง
สิ่งนี้ทำให้มู่เฉียวโล่งใจ
ส่วนเฮ่อเทียน ก็ร่วมมือกับตู้เสี่ยวซิน พูดเล่าเรื่องงานกับพ่อแม่และน้องเธอ
พ่อกับแม่ ก็ค่อยๆเอียงไปทางเขา พูดถึงเฮ่อเทียนต่อหน้าเธอหลายครั้งมากขึ้นเรื่อยๆ
ขนาดเสี่ยวโยวก็ถูกเฮ่อเทียนซื้อใจได้สำเร็จ
ในความฝันทุกคืนจะละเมอเรียก “คุณอาเฮ่อ”
มู่เฉียวรู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ทุกคนในบ้านจะเคยชิน สถานการณ์ไม่ถูกต้อง ดังนั้นก็นัดเฮ่อเทียนออกไป อยากจะคุยด้วยดีๆ
“เฮ่อเทียน ฉันยังคงพูดคำเดิม พวกเราไม่มีทางเป็นไปได้”
เฮ่อเทียนแลกจานสเต็กที่หั่นเสร็จแล้วให้กับมู่เฉียว “มู่เฉียว ถ้าหากความสามารถและเงื่อนไขข้ออื่นๆของผม กลายเป็นภาระของคุณ ผมละทิ้งมันได้นะ”
คำพูดนี้ทำให้มู่เฉียวตกใจ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรจะพูด ยิ่งกว่านั้นยังไม่สามารถหลบซ่อนที่ไหนได้อีก เฮ่อเทียนที่เป็นแบบนี้ ทำให้เธอกดดัน
ตกดึก
“แม่ แม่ว่าหนูแต่งให้เฮ่อเทียน มันผิดไหม?”
“เฉียวเอ๋อ
……
“เฉียวเอ๋อ โม่หานไม่ใช่คนที่เหมาะสม”
“หนูเองก็ไม่ใช่ ไม่ใช่เหรอคะ?”
อีกด้านของผนัง ชายคนหนึ่งยิ้มบางๆที่มุมปาก มู่เฉียว วินาทีนี้ ผมมีความคาดหวังที่เห็นแก่ตัวมากว่าคุณจะรอผม
“แต่ เขาหมั้นกับคนอื่นแล้ว”
“แล้วยังไงล่ะคะ หนูเองก็แต่งงานกับเขาแล้ว? ก็หย่ากันแล้วนี่ไงคะ?”
“โอเคค่ะ แม่ หนูพูดเล่นน่ะ ตอนนั้นเขาก็ไม่มองหนู ตอนนี้เขาจะมามองได้ยังไงจริงไหมคะ?”
“แล้วเฮ่อเทียน……”
“แม่ นอนเถอะ”
ปิดไฟแล้ว ชายในชุดสูทและรองเท้าหนังเดินออกมาจากบ้านข้างๆ บางทีเขาคงจะต้องเร่งความเร็วขึ้นแล้ว
ตระกูลโม่
“ลูก ไปไหนมา? ดึกขนาดนี้ยังไม่กลับ แม่มาหลายรอบแล้ว”แม่พูด แล้วดึงมือโม่หาน เห็นว่าเสื้อของเขาเปื้อนโคลน “ลูกล้มเหรอ?”
โม่หานดึงแม่เข้ามากอด “แม่ ผมไม่เป็นไร”
“ดี ถ้าอย่างนั้นก็ดี แม่แค่เป็นห่วงลูก ลูกไม่เป็นไร แม่ก็โอเค” โม่หาน‘ฟื้น’ขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่คุณนายโม่มีต่อเขาแม้แต่ลมพัดใบหญ้าไหวก็เป็นกังวลเอามากๆ
ในที่ไกลออกไป ร่างที่แข็งแกร่งของชายคนหนึ่ง มองมาทางนี้ ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความอ่อนโยนที่หายาก
แต่โม่หานกลับมองเขาอย่างซับซ้อน สิ่งที่เขาทำกับโม่หาน แม่ไม่รู้ แม้ว่าแม่จะไม่ได้เป็นคนดี แต่โม่หานก็ไม่อยากให้เธอมีภาระทางจิตใจมากเกินไป
“แม่ เข้านอนเร็วหน่อยนะครับ” นี่มันก็เช้าแล้ว
จากนั้น โม่หานไม่ได้เลือกที่จะไปโม่กรุ๊ป ยิ่งกว่านั้นไม่ได้ไปบริษัทไหนๆของตระกูลโม่
กลับเลือกที่จะยืนหยัดด้วยตนเอง เขาเริ่มกลายเป็นคนที่ร้ายมากขึ้น ไม่มีผลประโยชน์ไหนที่ไม่หวังผล นอกจากนี้ยังใช้ความสัมพันธ์ทางการเมืองของตระกูลเหอ กวาดซื้ออุตสาหกรรมที่ทำกำไรมากมายในเมืองa ตอนแรกเขาทำการแข่งขันอย่างเป็นทางการ เมื่อไม่ได้มาในสิ่งที่เขาอยากได้ เขาจะใช้วิธีที่ไม่ธรรมดา ยังไงซะ ขอเพียงเป็นสิ่งที่เขาสนใจ แม้ว่าต้องเจอกับเทพก็จะฆ่าเทพ เจอพระก็ฆ่าพระ เพียงชั่วครู่เดียว ที่เมืองa ทุกคนต่างพากันหวาดกลัว และไม่มีใครกล้ารุกรานเขา ไม่มีใครกล้ายั่วเขา เขาแทบจะทำทุกอย่างเพื่อหาเงินและขยายอุตสาหกรรมของตัวเอง พยายามทุกวิถีทาง เพื่อการบรรลุเป้าหมาย ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งปี ทำให้MYกรุ๊ปที่อยู่ในมือเขา ได้พัฒนาเป็นบริษัทที่มีความสามารถเทียบเท่ากับบริษัทตระกูลโม่
ในร้านเสริมสวยแห่งนี้
“เหอเจี๋ย ฉันได้ยินมาว่าคู่หมั้นของเธอ ซื้อบริษัทหลายแห่งเลย”
เหอเจี๋ยจัดทรงผมของเธอ สไตล์หลากหลาย “เขากลัวว่าฉันจะรำคาญ จึงไม่เคยพูดถึงเรื่องธุรกิจต่อหน้าฉันเลย อีกอย่าง เรื่องของผู้ชาย ฉันก็ไม่ชอบยุ่งอยู่แล้ว”
ทุกคนประจบสอพลอ คางของผู้หญิงคนนั้นค่อยๆยกขึ้น ดวงตากลับดูกลวงขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้เอง มือถือที่อยู่ในกระเป๋าดังขึ้น เธอมองแวบหนึ่ง สายตาก็นิ่งลง ออกไปรับสายข้างนอก
“เดี๋ยวสักพักไปหาเหล่าผู้อำนวยการกับผม”
เหอเจี๋ยอดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ “โม่หาน ฉัน……วันนี้ฉันไม่ค่อยสบาย”
“คนขับรถอยู่ห่างจากสถานที่ที่คุณอยู่ ยังมีเวลาอีกห้านาที คุณไม่ไปก็ได้ ผมไม่มีปัญหา งานเลี้ยงอาหารค่ำครอบครัววันเสาร์ ผมไม่มีทางร่วมงาน”
“โม่หาน คุณ……”เสียงโทรศัพท์ ‘ตึง’ เหมือนว่ามีข้อความเข้ามา
สายตาที่เย็นชาของโม่หาน รู้สึกอบอุ่นขึ้นทันที
“ยังเหลืออีกสี่นาที เตรียมตัวเถอะ”
วางสายไป เขามองที่หน้าจอโทรศัพท์ ผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กคนหนึ่ง เข้าร่วมกิจกรรมพ่อแม่ลูก เพียงแต่ ใบหน้าของเขาก็นิ่งลงเมื่อเห็นผู้ชายที่อยู่ตรงมุมของภาพ
เหอเจี๋ยกลัวโม่หาน เพราะเธอต้องการสิ่งน่าหลงใหลที่ชายผู้นี้นำมาให้เธอ ยิ่งกว่านั้นยังปรารถนาตำแหน่งคุณนายรองตระกูลโม่
ถึงแม้ เธอจะรู้อยู่ในใจ ว่าโม่หานไม่มีความรู้สึกต่อเธอเลย เขากำลังใช้เธออย่างสมบูรณ์แบบ
แต่เธอก็ยังหยุดไม่ได้ ติดอยู่กับมัน
เมื่อเธอมาถึง โม่หานกำลังดูมือถืออยู่ ความอบอุ่นในดวงตาของเขา ทำให้เธอสงสัยว่าตัวเองตาฝาดไป
เธอพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “โม่หาน”
โม่หานได้ยินแบบนั้น ก็เก็บมือถือ มองเหอเจี๋ย งอแขนเล็กน้อย เหอเจี๋ยเองก็วางมือเรียวของเธอไว้ที่แขนของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้ม แฟลชกล้องข้างๆก็ดังขึ้น
เหอเจี๋ยรู้ว่าวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์จะต้องลงข่าว โม่หานและลูกสาวของนายกเทศมนตรี รักกันมากขึ้น
แต่ว่า มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ในใจ ว่าชายคนนี้เย็นชามากแค่ไหน เพื่อผลประโยชน์แล้ว เขาสามารถทำเป็นว่ารักเธอ ดีกับเธอ ต่อหน้าคนอื่น แต่แค่หันกลับไป ก็เป็นความสัมพันธ์ที่เย็นชา
แน่นอน เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าตระกูลเหอจะไม่รู้ แต่ใครบอกให้พ่อเธอก็เป็นผู้ชายที่แสวงหาผลกำไลด้วยล่ะ?
คอมเม้นต์