Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – 13 – โรคทางพันธุกรรม
13 – โรคทางพันธุกรรม
เจ้าของร้านยิ้มเขาไม่รู้สึกหงุดหงิดแต่อย่างใดเขาแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องสนุก
นิสัยใจคอและของบุคคลมักจะน่าเชื่อถือมากกว่าคำพูดของเขา
“ ก็ไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่…………”
เสียงที่ชัดเจนมาพร้อมกับการยืดตัวเหมือนงูหลั่ง เจ้าของร้านเริ่มฉีกผิวหนังบนร่างกายของตัวเองออก
ในขณะเดียวกันโครงกระดูกของเขาก็ค่อยๆหดตัวลงร่างกายที่บึกบึนของเขาผอมลงเหมือนกับลูกโป่งแตก
ในที่สุดโจวเจ๋อก็เข้าใจแล้วว่าทำไมก๋วยเตี๋ยวชามนี้ถึงไม่ค่อยอร่อยนัก
“ การเปลี่ยนแปลง” ของอีกฝ่ายต้องใช้เวลาพอสมควร
เจ้าของร้านยังคงสวมผ้ากันเปื้อนและเสื้อผ้าชุดเดิม แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายกลายเป็นสีเขียวเล็กน้อย
มุมปากของชายหนุ่มมีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ดวงตาหวานเยิ้มของเขาสามารถทำให้ชายหนุ่มและหญิงสาวหลงใหลได้
การเรียกผู้ชายว่า“ เหม่ย”(น้องสาว) นั้นถือเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีของเขาอย่างยิ่ง แต่สำหรับคนแบบเจ้าของร้านนั้นโจวเจ๋อคิดว่าฝ่ายตรงข้ามคงไม่ถือสาเรื่องนี้สักเท่าไหร่
“ฉันน่ารักไหม?” เด็กหนุ่มถามโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อรู้สึกได้ว่าอาการคลื่นไส้ที่เขาระงับไว้หลังจากกินบะหมี่ได้กลับมาอีกครั้ง เขาโบกมือขอโทษและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้อาเจียนออกมา
หลังจากนั้นเจ้าของร้านนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับควงไฟแช็คให้หมุนวนไปมาอยู่ที่นิ้วเขา
“คุณหาฉันเจอได้อย่างไร?” เด็กหนุ่มอดถามออกไปไม่ได้
“ คุณไม่ใช่ผีเหรอ?” โจวเจ๋อตอบกลับด้วยคำถาม
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาคิดว่าโจวเจ๋อกำลังเสียดสีโดยบอกว่าเขาแกล้งทำเป็นผี แต่แท้จริงแล้วโจวเจ๋อมองว่าเขาเป็นผีมาตั้งแต่ต้น
โจวเจ๋อไม่ต้องการดูแลธุรกิจร้านหนังสือ คนที่นอนในตู้แช่เป็นประจำอย่างเขาจะต้องการเงินมากมายไปทำไม
แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่โจวเจ๋อหวาดกลัวมากที่สุดก็คือใครบางคนที่กำลังตามหาเขาอาจเจอเขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่ามี ‘คนประเภทเดียวกัน’ อยู่ข้างๆเขาจึงต้องการที่จะตัดปัญหาในเรื่องนี้
“ เล็บของคุณ” โจวเจ๋อกล่าว “ ความรู้สึกของผมค่อนข้างไวต่อเรื่องเล็บ”
ภรรยาเจ้าของร้านนำบะหมี่มาให้เขาด้วยตัวเอง ส่วนเจ้าของร้านยื่นบุหรี่ให้เขา เล็บถูกเสนอต่อหน้าต่อตาของโจวเจ๋ออยู่หลายครั้งทำให้เขาอดสังเกตไม่ได้
แม้ว่ามือของเจ้าของร้านและภรรยาของเขาจะมีความหยาบกร้านแตกต่างกัน แต่เล็บของทั้งสองนั้นกลับเหมือนกันอย่างน่าประหลาด
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โจวเจ๋อให้ความสนใจกับเล็บเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เล็บของเขาเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเล็บของคนอื่นด้วย
เขาไม่รู้ว่าเจ้าของร้านและภรรยาสามารถออกมาพร้อมกันด้วยวิธีไหน แต่ที่เขารู้แน่ๆคือทั้งสองคนคือคนเดียวกัน
สายตาของชายหนุ่มหรี่ลงเล็กน้อยและปรับสภาพร่างกายของตัวเองให้เข้าที่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาระมัดระวังตัวอยู่เสมอ แต่ในที่สุดก็มีคนค้นพบเรื่องนี้
“ คุณไม่ใช่ผีจริงๆ?” โจวเจ๋อถามอีกครั้ง
ถ้าฝ่ายตรงข้ามบอกว่าตัวเองเป็นคนเขาไม่ยอมเชื่ออย่างเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะมีผีจำนวนน้อยมากที่โจวเจ๋อได้เห็น
นอกเหนือจากการเดินทางในนรกแล้วผีที่เขาเห็นในโลกมนุษย์นั้นมีไม่กี่คนจริงๆ แต่เขามั่นใจจริงๆว่าฝ่ายตรงข้ามคือผีอย่างแน่นอน
“ ผิวหนังผืนนั้นถูกสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษตระกูลเรา” ชายหนุ่มลุกขึ้นจับมือของโจวเจ๋อมาวางไว้ที่หน้าอกของตัวเอง
“ มันไม่ถูกใช้มาหลายชั่วอายุคนแล้วจนกระทั่งฉันนำกลับมาใส่อีกครั้ง”
การกระทำนี้ค่อนข้างคลุมเครือและไม่สมเหตุผลแม้แต่น้อย แต่โจวเจ๋อก็อดไม่ได้ที่จะบีบหน้าอกข้างนั้นโดยไม่รู้ตัว
โจวเจ๋อไม่คิดว่าเป็นเพราะหมอหลินไม่อนุญาตให้เขาร่วมเตียงเขาจึงหันมาสนใจผู้ชาย แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะมีใบหน้าที่งดงามกว่าผู้หญิงก็ตาม แต่เรื่องนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่
“ไม่มีกระดูก?” ใบหน้าของโจวเจ๋อมีความประหลาดใจ “ ไม่ถูกต้องคล้ายกับโรคกระดูกอ่อนมากกว่า”
เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของกระดูกที่ไม่เป็นปกติ ทำให้กระดูกไม่แข็งแรง เกิดจากร่างกายขาดแร่ธาตุสำคัญที่ใช้ในการสร้างกระดูกคือแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่บริเวณแผ่นการเติบโต (growth plate) ส่งผลให้มีกระดูกลักษณะผิดรูป บิดเบี้ยวหรือหักได้ง่าย
โจวเจ๋อเคยเป็นหมอและรู้จักมาบ้าง แต่เช่นเดียวกับโรคหวัดสามารถแบ่งออกเป็นโรคต่างๆได้มากมาย โรคกระดูกอ่อนก็มีหลายประเภทและชายหนุ่มคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาควรจะเป็นโรคกระดูกอ่อนในลักษณะแบบสุดโต่ง
“ คุณควรเข้าใจว่านี่เป็นโรคทางพันธุกรรมก่อนหน้านี้ครอบครัวของฉันทุกคนไม่มีใครสวมชุดนั้นได้แต่เมื่อตกทอดมาถึงฉันก็อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ ”
ชายหนุ่มยิ้มและไม่พูดต่อ
“ แล้วคุณไม่ใช่ผีจริงๆเหรอ” โจวเจ๋อยังไม่ยอมแพ้
“ ฉันชื่อซูชิงหลาง” เด็กหนุ่มบอกชื่อของตัวเองโดยไม่ตอบคําถาม
“ งั้นตอนนี้คุณอยู่กับใคร” โจวเจ๋อถาม
“ พ่อแม่”
โจวเจ๋อพูดไม่ออกไปชั่วขณะจากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่น
ความเข้าใจผิดครั้งใหญ่
จากมุมมองของโจวเจ๋อเขาเข้าใจว่าฝ่ายตรงข้ามต้องเป็นผีที่เมื่อฆ่าคนแล้วก็จะลอกหนังของฝ่ายตรงข้ามออกมาสวมใส่ เหมือนกับละครที่เขาเคยดู
ความตั้งใจแรกของเขาคือจัดการกับฝ่ายตรงข้ามก่อนที่ซูชิงหลางจะเปิดเผยเรื่องของเขาออกไป
“ งั้น…ฉันขอโทษ”
โจวเจ๋อรู้สึกอับอายจริงๆในเรื่องนี้ เขาเกือบจะลงมือฆ่าฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว โชคดีที่ยั้งมือทัน
“ฉันไม่ได้โกรธ.” ซูชิงหลางกล่าวว่า“ แต่ฉันอยากรู้ว่าคุณปฏิบัติกับฉันเหมือนผีหมายความว่าอย่างไร คุณเคยเห็นผีเหรอ?” ซูชิงหลางถาม
“ ฉันเป็นผี!” โจวเจ๋อมองไปที่ซูชิงหลางและพูดอย่างจริงจัง สีหน้าของเขาเคร่งขรึมราวกับว่าทุกคำพูดออกมาจากใจ
ซูชิงหลางใบหน้าดำคล้ำ จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะสายตาที่เขามองไปยังโจวเจ๋อเหมือนกับกำลังมองคนปัญญาอ่อน
โจวเจ๋อพยักหน้า บางครั้งนั่นแหล่ะ คุณบอกความจริงกับคนอื่นแต่เขากลับคิดว่าคุณเป็นบ้า
“ ขอโทษที่ต้องถามนะแต่หนังผืนที่ห้อยอยู่มันถูกทำมาจากอะไรคงไม่ใช่ว่าถูกทำมาจากหนังมนุษย์หรอกนะ?” โจวเจ๋อพูดอย่างสงสัย
“ หนังงู” ซูชิงหลางตอบ “บรรพบุรุษของฉันเป็นชนเผ่าเฮ่อเจ๋อ
“
“ แล้วคุณขายก๋วยเตี๋ยวไปทำไม” โจวเจ๋อไม่เข้าใจ
“ ผมได้ยินมาว่าเสื้อผ้าหนังงูของชนเผ่าเฮ่อเจ๋อสามารถขายได้เงินเป็นจำนวนมาก และชุดหนังของคุณยังทำออกมาได้ปราณีตถึงขนาดนี้มันน่าจะขายได้หลายล้านหยวนอยู่?”
“ นั่นเป็นของตกทอดจากบรรพบุรุษของฉัน”
“ ถ้าอย่างนั้นคุณน่าจะรวยมาก” โจวเจ๋อกล่าว
“ ก็พอมีอยู่บ้าง” ซูชิงหลางไม่ได้ตอบตรงๆ“ มีคอนโดอยู่ 20 หลังพอดี”
“ …………” โจวเจ๋อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
โลกนี้ไม่มีความยุติธรรมจริงๆ เขาทำงานในโรงพยาบาลมาตลอดชีวิตและแทบจะไม่มีเงินเก็บเลย แต่คนขายก๋วยเตี๋ยวกลับมีคอนโดมากกว่า 20 หลัง
บ้านในตงเฉิงไม่ได้แพงเหมือนกับเซี่ยงไฮ้ แต่ราคาขายก็ไม่ได้น้อยไปกว่ากันเท่าไหร่
โจวเจ๋อส่ายหัว “ แล้วคุณมีน้ำบ๊วยรสชาติอื่นอีกไหม” โจวเจ๋อพยายามเปลี่ยนเรื่อง“ เช่นรสมะระ? รสองุ่น?”
“ สามารถทำให้คุณเป็นการเฉพาะได้” ซูชิงหลางตอบอย่างจริงใจ
“ดีมาก.” โจวเจ๋อเอื้อมมือมาตบไหล่ซูชิงหลาง มันนุ่มนิ่มเหมือนกับผ้าฝ้าย ถ้าอยู่บนเตียงมันคงจะนุ่มนิ่มมากกว่านี้อีก
โจวเจ๋อพยายามคิดไปถึงตอนที่หมอหลินกำลังอาบน้ำ เขาไม่มั่นใจในตัวเองว่าถ้าอยู่ที่นี่นานกว่านี้เขาอาจจะเบี่ยงเบนไปชอบผู้ชายก็ได้
หลังจากนั้นโจวเจ๋อก็เดินออกจากร้านก๋วยเตี๋ยว
ซูชิงหลางกลับไปที่ห้องด้านหลังและเปิดม่านก่อนจะคุยกับผิวหนังของผู้หญิงที่ตากไว้บนไม้แขวนเสื้อ
“ แม่คิดว่าเขาจะเชื่อเราจริงๆไหม”
ผิวของผู้หญิงพลิ้วไหวอย่างอ่อนโยน คล้ายกับเป็นคำตอบว่าเขาไม่เชื่อ
………………
คอมเม้นต์