Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – 20 – คือเธอนั่นเอง
20 – คือเธอนั่นเอง
โจวเจ๋อส่ายหัวบอกตามตรงแม้ในตอนแรกเขาจะรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆอยู่ในรถ แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องจะลงเอยอย่างนี้
โจวเจ๋อก็ไม่เข้าใจเช่นกันเขาพยายามเก็บตัวเงียบแล้วแต่สุดท้ายคนขับรถก็ยังเป็นผี
โจวเจ๋อเอาฝ่ามือของเขาไปปิดรูเล็กๆแสร้งทำเป็นง่วงเล็กน้อยโดยหลับตาลงและทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โจวเจ๋อจำได้ว่าตอนที่เขาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีครูบ้านเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ครูคนนี้เป็นอาจารย์ประจำวิชาพลศึกษาและมีงานพาร์ทไทม์เป็นยามเฝ้าประตู
เนื่องจากเขาแซ่ฉินเด็กๆจึงเรียกเขาว่าลุงฉิน
ลุงฉินเล่าเรื่องเก่งมากและมักเล่าเรื่องผีให้เด็กๆฟังประจำ ดูเหมือนเขาจะรู้สึกพอใจเมื่อเด็กๆหวาดกลัวเรื่องที่เขาเล่า
ด้วยเหตุนี้ผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจึงเรียกเขามาคุยสองสามครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยปรับปรุงตัวเองในเรื่องนี้
ก่อนที่โจวเจ๋อจะออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลุงฉินก็จากไปเพราะโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
โจวเจ๋อจำได้ว่าลุงฉินเล่าเรื่องผี “รถลาก” (มีสองล้อใช้คนลากแทนสัตว์)
ตามตำนานกล่าวว่าในสมัยโบราณมีผีหลายชนิด คนส่วนใหญ่เมื่อตายไปแล้วพวกเขาก็จะเดินทางไปที่หวงเฉวียนเพื่อดื่มน้ำแกงของแม่เฒ่าเมิ่งและเสียความทรงจำจากชาติที่แล้ว
จากนั้นจึงเข้าสู่การเวียนว่ายตายเกิด
แต่มีผีบางตัวที่ไม่ยอมทำเรื่องนี้พวกเขาไม่ยอมรับว่าตัวเองตายไปแล้ว จึงวนเวียนอยู่ในสถานที่ที่เคยอยู่และทำในสิ่งที่ตนเองเคยทำเหมือนเช่นตอนที่ยังมีชีวิต
ตัวอย่างเช่นผีรถลาก
พวกเขาปรากฏตัวบนถนนที่เปลี่ยวร้างหรือกลางดึกอย่างเงียบๆ ถามผู้คนว่าพวกเขาจะนั่งรถลากหรือไม่ ราคาถูกตั้งไว้น้อยมาก จนผู้คนไม่สามารถปฏิเสธได้
แต่เมื่อคนมีชีวิตอยู่ได้ทำธุรกรรมร่วมกับผีมันก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ผีรถลากพวกเขาไม่ได้ต้องการเงินของคุณแต่กลับต้องการวิญญาณที่มีชีวิตแทน
โจวเจ๋อจำเรื่องราวนี้ได้และชัดเจนมาก ในความเป็นจริงเรื่องราวมากมายที่ลุงฉินเล่าให้ฟังโจวเจ๋อยังคงจำได้ดี แม้ว่าเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วก็ตาม
เพราะโจวเจ๋อรู้ดีว่าวันก่อนที่ลุงฉินจะเสียชีวิตด้วยอาการป่วยอย่างกะทันหัน ลุงฉินได้แอบเข้ามาในห้องพักของเด็กๆและมองดูพวกเขาทุกคนด้วยความอาลัยอาวรณ์ โจวเจ๋อซึ่งตื่นขึ้นมาตอนดึกได้เห็นฉากนี้พอดี
ดูเหมือนว่าลุงฉินรู้ว่าเขากำลังจะตายจึงเข้ามาบอกลาพวกเขาล่วงหน้า
ลุงฉินรู้ว่าในวันรุ่งขึ้นจะมีใครบางคนมาเอาวิญญาณของเขา นั่นแสดงให้เห็นว่าเรื่องเล่าของเขาไม่ได้เป็นเรื่องไร้สาระอย่างที่ใครๆคิด
คนขับรถยังคงพูดเจื้อยแจ้วและคุยโวต่อไปโจวเจ๋อยังคงสงบนิ่งอยู่ด้านหลัง
ไม่รู้ว่าหลังจากขับรถไปส่งเขาแล้วฝ่ายตรงข้ามจะต้องการวิญญาณของเขาเป็นค่าโดยสารหรือไม่?
โจวเจ๋อไม่ได้กลัวเรื่องนี้ ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ถือได้ว่าเป็นผีเช่นกัน
แม้ว่าโจวเจ๋อจะไม่เข้าใจการแบ่งชนชั้นของผี แต่เขาสามารถเดินกลางแดดและพบปะกับผู้คนที่มีชีวิตทั้งยังเปิดร้านขายหนังสือได้
นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าสถานะของเขาที่เหนือกว่าบรรดาผีทั้งหลายที่เขาเคยพบ
และแม้แต่ผู้หญิงที่ไร้ใบหน้าในสระนรกก็ยังได้รับบาดเจ็บจากเล็บของเขา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้โจวเจ๋อจึงรู้สึกมั่นใจมากหากต้องพบเจอกับผีที่อยู่ในโลกมนุษย์
ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือในตอนแรกโจวเจ๋อตั้งใจที่จะจัดการกับซูชิงหลางซึ่งกำลังเปิดร้านอยู่ใกล้ๆกันกับเขานั่นเอง
“ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากซื้อรถยนต์และพวกเขาก็ไม่ค่อยปฏิบัติตามกฎจราจร” คนขับรถยังคงสนทนาแม้ว่าโจวเจ๋อจะไม่ตอบรับแต่เขาก็ยังคงพูดอยู่คนเดียว
ดวงตาของโจวเจ๋อหรี่ลง เขารู้สึกง่วงเล็กน้อยและอยากนอนด้วยซ้ำ แต่เขารู้ว่าเขานอนไม่หลับหากไม่ได้นอนในตู้แช่ที่อยู่บนชั้นสองของร้านหนังสือ
ทันใดนั้นโจวเจ๋อก็หัวเราะออกมา เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมคนขับรถถึงได้พูดคุยตลอดทางเขาไม่รู้ตัวว่าเขาน่ารำคาญมากแค่ไหน
นั่นเป็นเพราะเขาไม่เคยนอนหลับ ดังนั้นเขาจึงต้องพูดอยู่เสมอเพื่อแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างเป็นปกติในเวลานี้
เขาอยากจะหลับเห็นได้จากความเร็วของรถที่ขับได้ช้ามาก
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของโจวเจ๋อจากนั้นเขาก็เริ่มเอนหลังเพื่อนนอนลงไป
เสียงพูดของคนขับก็เบาลงเรื่อยๆเมื่อมองเห็นโจวเจ๋อซึ่งกำลังหลับ
อย่างไรก็ตามในขณะนี้จู่ๆคนขับก็มีสีหน้าดิ้นรนและในที่สุดก็ส่ายหัวอย่างรุนแรงถอนหายใจเบาๆก่อนจะขับรถต่อไป
ดูเหมือนว่าเกือบจะถึ’ร้านหนังสือแล้ว โจวเจ๋อไม่แน่ใจว่าผีขับรถกระดาษสามารถเคลื่อนย้ายตัวเขาที่มีร่างกายจริงๆมาไกลถึงขนาดนี้ได้อย่างไร
นี่เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายเนื่องจากไม่มี“ กลศาสตร์ผี” ในสาขาฟิสิกส์
โจวเจ๋อตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆเพราะเขารู้สึกว่าร่างกายของคนขับตรงหน้ากำลังระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว
น่าสนใจ ดูเหมือนว่าเขาจะเจอกับผีที่ดีอีกคนหนึ่งแล้ว
คนขับรถคนนี้ควรจะ “เก็บเงิน” จากโจวเจ๋อ มันน่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้ แต่เขาไม่มีความสามารถที่จะทำได้มันขัดกับความรู้สึกของเขา
ดังนั้นเมื่อเขาทำไม่ได้เขาจึงไม่มีคุณสมบัติในการเป็นวิญญาณอาฆาต เขาต้องเข้าสู่โลกแห่งความตายและเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง
จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้คนขับเคยพูดเรื่อง“ ไร้สาระ” มากและมันก็ไม่ใช่เรื่องเท็จทั้งหมด เขามีลูกสี่คนเขาเป็นพ่อที่ดีและพยายามหารายได้เพื่อจุนเจือครอบครัวรวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้ลูกๆ
เขาเป็นพ่อที่ดีและเป็นคนที่ดีด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่มีคุณสมบัติในการเป็นผี ‘ลากรถ’
โจวเจ๋อเงยศีรษะขึ้นช้าๆและลืมตาขึ้น คนขับไม่ได้หันมามองเขายังคงมุ่งมั่นกับการขับรถของตัวเองต่อไป
โจวเจ๋อพบว่ามีแสงส่องอยู่ข้างนอกอย่างช้าๆผ่านหน้าต่างรถ เขาสามารถมองเห็นการจราจรบนท้องถนนได้
คนขับกำลังจะสลายไป นี่ควรเป็นความทรงจำของเขาก่อนที่จะเสียชีวิต
โจวเจ๋อสูบบุหรี่อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้คนขับกำลังจะสลายไปแล้วมันจึงไม่มีความหมายต่อให้บุหรี่ของเขาจะเผารถคันนี้ก็ตาม
มีเสียงเพลงในรถซึ่งเป็นเพลงยอดนิยมเมื่อเร็วๆถูกเปิดไว้และคนขับฮัมเพลงเบาๆตามไปด้วย ดูเหมือนว่าหลังจากที่เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดอารมณ์ของเขาก็ค่อยๆดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทันใดนั้นโจวเจ๋อก็เห็นรถโดยสารปรากฏขึ้นที่ถนนด้านหน้ารถของพวกเขา รถของพวกเขากำลังไล่ตามหลังรถโดยสารคันนั้น
มันเป็นรถโรงเรียนที่มีตราโรงเรียนประถม XXX ถูกติดไว้
โจวเจ๋อไม่ได้จริงจังอะไรในตอนแรก แต่ทันใดนั้นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนที่เบาะหลังของรถ เธอหันหน้าเข้าหารถของพวกเขา แม้ว่าโจวเจ๋อจะนั่งอยู่ตรงนี้แต่ก็สามารถมองเห็นเธอได้อย่างชัดเจน
เด็กผู้หญิงน่ารักที่สวมกระโปรงดอกลิลลี่สีฟ้า
โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ได้รับการช่วยเหลือจากเขา หมอหลินบอกว่าเธอตื่นขึ้นมาแล้วอีกทั้งพ่อของเธอยังได้จัดงานเลี้ยงเพื่อขอบคุณเขาด้วย
สายตาของโจวเจ๋อมองกลับมาคนขับรถคนนี้คือผู้ร้ายที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้น? มีเด็กจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำให้เด็กๆเสียชีวิตแต่ตัวเขากลับเป็นคนที่เสียชีวิตแทน
“ เด็กผู้หญิงคนนั้นน่ารักมากเธอน่าจะอายุราวๆกับลูกชายคนโตของผม”
คนขับรถพูดกับตัวเองนี่คือภาพความทรงจำสุดท้ายในชีวิตของเขาดังนั้นเขาจึงคิดว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่คนเดียว
โจวเจ๋อมองไปรอบๆ เขาไม่เห็นขวดเหล้าอยู่ภายในรถและคนขับก็จ้องมองถนนด้วยความระมัดระวัง? แล้วอุบัติเหตุครั้งนั้นเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร?
หรือเพราะว่ารถโดยสารนักเรียนข้างหน้าชนกับรถคนอื่นจึงเป็นเหตุให้คนขับคนนี้เสียชีวิตหรือไม่?
แต่ทันใดนั้นเองเด็กผู้หญิงที่สวมกระโปรงสีฟ้าดอกลิลลี่ก็ยืนขึ้นแล้วหันมามองทางพวกเขา เธอมองออกมาด้วยสีหน้าเย้ยหยันพร้อมกับแลบลิ้นสีแดงออกมาจากปาก
ใช่! เธอแลบลิ้นที่ดูเหมือนพรมสีแดงขนาดใหญ่ตกลงมาด้านหน้ารถของพวกเขา
รอยยิ้มของเด็กหญิงเย็นยะเยือกน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง
“ แม่ผี !!!!!!!!!”
คนขับเหยียบคันเร่งด้วยความตื่นตระหนกและรถของเขาก็ชนรถโรงเรียนตรงหน้า
“ บูม!”
หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไป โจวเจ๋อยืนอยู่หน้าร้านหนังสือ
รอบๆบริเวณที่เขายืนอยู่ขี้เถ้าของรถกระดาษที่ถูกเผาไหม้กำลังล่องลอยไปกับสายลม
โจวเจ๋อไม่ได้รับบาดเจ็บไม่แม้แต่น้อย คนขับรถยังรักษาสัญญาและส่งเขาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
แต่โจวเจ๋อไม่รีบกลับไปที่ร้านหนังสือ บุหรี่ในมือของเขาเผาไหม้อย่างช้าๆ เขาสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
“ ลุงอย่าสูบบุหรี่ในโรงพยาบาล” เสียงของเด็กหญิงยังคงก้องอยู่ในหู
เธอนั่นเอง เธอเป็นตัวอะไรกันแน่?
คอมเม้นต์