Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – 83 – ทำไมถึงไม่ยอมอดกลั้น
83 – ทำไมถึงไม่ยอมอดกลั้น
เมื่อถึงเวลากลับบ้านภรรยาของหวังเค่อยังคงขับรถอยู่ เธอเป็นคนขี้น้อยใจ และดูโทรศัพท์มือถือของเธอเป็นครั้งคราวในขณะเดียวกันหวังเค่อยังคงงุนงงกับเรื่องราวของ “ชีวิตหลังความตาย” เพียงแต่ว่าตอนนี้อาการของคุณหนูเจิ้งดีขึ้นมากจึงทำให้เขาสบายใจเล็กน้อย
โจวเจ๋อไม่ได้บอกหวังเค่อเรื่องที่ภรรยาของเขาสวมหมวกเขียวให้ เขาไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
ปัญหาสำคัญคือโจวเจ๋อไม่รู้ว่าหวังเค่อรู้เรื่องนี้แล้วหรือไม่ หรือว่าต่อให้เขาไม่รู้แล้วเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพี่น้องกันแต่หลายปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ไม่ได้พบกันเลย
ในกรณีนั้นหวังเค่ออาจจะบอกว่า
“ผมคิดว่าคุณเป็นพี่น้องแต่คุณกำลังกล่าวหาภรรยาผมว่าคบชู้!”
ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น โจวเจ๋อรับสาย
“สวัสดี.”
“สวัสดี ซูเล่อ พี่สาวของฉันกลับไปทำงานแล้ว” น้องภรรยากล่าวอย่างร่าเริง
“โอ้” โจวเจ๋อแกล้งทำเป็นตื่นเต้นไปอย่างนี้
“ช่วงนี้เธอไม่ค่อยสบาย ไปหาเธอเถอะอย่าทำให้เธอเหนื่อยเกินไป” น้องภรรยากล่าว
“โอ้”
“อย่าตอบรับแบบหน้าตายอย่างนั้น รีบไปหาพี่สาวของฉันได้แล้วไม่อย่างนั้นฉันจะบอกเรื่องรถมาเซราติ! “
โจวเจ๋อสั่นศีรษะเขารู้ว่าเหตุไฉนน้องภรรยาถึงได้พยายามช่วยเหลือเขา เหตุผลนั้นง่ายมากก็เพราะน้องภรรยาของเขาชอบออกไปเที่ยวเล่นโดยใช้ข้ออ้างว่ามาอ่านหนังสือที่ร้านของเขา
พี่สาวของเธอยุ่งและไม่ค่อยมีเวลา แม้ว่าพี่เขยอย่างซูเล่อจะเป็นคนไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นนักศึกษาวิทยาลัยและสามารถช่วยทำการบ้านได้
นี่เป็นข้อแก้ตัวที่ดีแม้แต่พ่อแม่ของหมอหลินผู้ซึ่งเคยดูหมิ่นซูเล่อมาตลอดยังยอมสนับสนุนเหตุผลในข้อนี้ของเธอ
โจวเจ๋ออยากจะไปที่บ้านของพ่อตาแม่ยายและชี้จมูกพวกเขาพร้อมกับตะโกนว่า ‘ลูกสาวคุณเที่ยวเล่นอยู่เป็นประจำไม่เคยมาอ่านหนังสือที่นี่แม้แต่ครั้งเดียว’
แต่เขาก็ไม่ได้ทำเพราะว่าน้องภรรยาของเขายังมีมโนธรรมอยู่บ้างเมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ล่าสุด เด็กหญิงคนนี้ไม่เพียงแต่โง่เขลาและงี่เง่าเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเธอเป็นคนจิตใจดี
“อืม ขอบคุณนะ” โจวเจ๋อพูดอย่างประชดประชัน
“เดี๋ยวเย็นนี้เลิกเรียนฉันจะแวะไปที่ร้านของพี่” น้องภรรยาเพิ่มเติมแล้ววางสาย โจวเจ๋อเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นว่ารถกำลังวิ่งผ่านสู่โรงพยาบาลประชาชน
มันเป็นเรื่องบังเอิญเหรอเพราะเขาเพิ่งพูดถึงเรื่องที่ภรรยากลับมาทำงานแล้ว
แน่นอนว่าโจวเจ๋อไม่อยากให้ภรรยาของหวังเค่อขี่รถเข้าไป
ตอนนี้หมอหลินเริ่มกลับมาทำงานแปลว่าเธอสามารถทำใจได้แล้วเรื่องที่เขาเป็นผี แต่โจวเจ๋อเพิ่งได้รับใบรับรองและเตรียมจะทำงานอย่างบ้าคลั่งดังนั้นเขาไม่อยากสร้างปัญหาอื่น
อย่างไรก็ตามภรรยาของหวังเค่อกลับขี่รถเข้าไปในโรงพยาบาลโดยตรง
“พ่อตาของผมอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อเร็วๆนี้ เดี๋ยวผมจะไปเยี่ยมเขาสักหน่อยใช้เวลาไม่นานหรอก” หวังเค่อขอโทษโจวเจ๋อ
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมกลับเองได้”
โจวเจ๋อผลักประตูและลงจากรถ หวังเค่อก็ลงจากรถเช่นกันและภรรยาของเขาก็ขับรถไปที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงพยาบาล
“กลับเองได้เหรอ” หวังเค่อถาม โจวเจ๋อพยักหน้า
“ขอบคุณมากนะวันนี้” หวังเค่อเอื้อมมือออกไปตบไหล่ของโจวเจ๋อ
“ผมจะไม่ติดต่อหาคุณอีก แต่ถ้าคุณมีปัญหาอะไรคุณสามารถติดต่อหาผมได้โดยตรง”
“ยินดีครับ” โจวเจ๋อกล่าว
หวังเค่อพูดจบก็มองโจวเจ๋ออีกครั้ง จากนั้นจึงหันไปที่อาคารผู้ป่วยใน
โจวเจ๋อสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกเงียบๆคนเดียวพร้อมกับคิดถึงเรื่องที่กาลเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
หวังเค่อแก่กว่าโจวเจ๋อหลายปี ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสได้เข้าสังคมของผู้ใหญ่เร็วกว่า ในอดีตเขาอาจจะเคยเป็นพี่ใหญ่หวังแต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนอื่นในสายตาของโจวเจ๋อไปแล้ว
โจวเจ๋อพ่นควันบุหรี่ออกมาและกำลังครุ่นคิดว่าจะเดินเข้าไปในอาคารหรือไม่ ปัญหาตอนนี้คือเขาไม่รู้ว่าจะเข้าไปหาเธอแล้วพูดว่ายังไง?
โจวเจ๋อหันหลังกลับและไม่คิดจะเดินเข้าไปในอาคารฉุกเฉิน
เขาคิดว่าควรให้เวลาหมอหลินในการคิด ยอมรับ และปรับตัว มากกว่าที่จะกระตุ้นเธอในเวลานี้
ใช่
ฉันควรคิดถึงเธอให้มากกว่านี้ และให้เวลาและพื้นที่กับเธอมากขึ้น เขาไม่สามารถบังคับเธอได้
โจวเจ๋อพยักหน้าและโน้มน้าวใจตัวเองให้ออกไป
แต่ในขณะนั้นเองรถพยาบาลก็ขับเข้ามาและโจวเจ๋อก็เห็นแพทย์และพยาบาลหลายคนวิ่งออกจากอาคารฉุกเฉิน รวมถึงบุคคลที่คุ้นเคยด้วย
หมอหลินมองมาที่เขาสักพักด้วยความตกตะลึง โจวเจ๋อยิ้มให้เธอก่อนจะเดินเข้าไปพูดอย่างอ่อนโยนว่า
“ผมแค่จะมาเยี่ยมคุณ”
จู่ๆหมอหลินก็กุมท้องของตัวเองและนั่งลงที่บันได
“เป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า” โจวเจ๋อถาม
หมอหลินส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เป็นไร”
“เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ?” โจวเจ๋อถามอย่างระมัดระวัง โดยตระหนักถึงคำพูดของน้องภรรยาที่บอกเขาว่าหมอหลินไม่ค่อยสบายในช่วงนี้
“เรื่องของผู้หญิง” หมอหลินพูดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย
ประจำเดือน?
โจวเจ๋อพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง บางทีสำหรับผู้หญิงโง่ๆอย่างน้องภรรยา การเป็นประจำเดือนอาจเป็นสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในโลกก็ได้
“คุณหมอหลิน อาการของผู้ป่วยค่อนข้างรุนแรง เธอเป็นหญิงมีครรภ์”
แพทย์หนุ่มรีบวิ่งเข้ามาเขาดูประหม่าทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเมื่อเขามองไปที่โจวเจ๋ออีกครั้ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและเขาพูดทันที:
“อาจารย์ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?”
ครั้งล่าสุดโจวเจ๋อไปโรงพยาบาลเพื่อปฏิบัติการช่วยเหลือฉุกเฉิน เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือหมอฝึกงานที่คิดว่าเขาเป็นอาจารย์
“ไปเถอะ ฉันจะดูให้”
หมอหลินยืนขึ้นเพื่อตรวจอาการของผู้ป่วย โจวเจ๋อทำได้แค่ต้องสวมรอยต่อไปเท่านั้น
หลังจากมาถึงอาคารฉุกเฉินแล้ว เด็กสาวที่เดินทางมากับหญิงมีครรภ์ได้ถามนักศึกษาฝึกงานชายว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ นักศึกษฝึกงานคนนั้นมีท่าทางทำอะไรไม่ถูก
“หมอกำลังทำอะไรอยู่พี่สะใภ้ของฉันเจ็บท้องจะแย่อยู่แล้ว ลูกเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ พี่ชายฉันอายุสามสิบคุณรู้ไหมว่าการจะมีลูกในวัยนั้นมันยากแค่ไหน!”
“เดี๋ยวผมลองดูใหม่นะ…” เด็กฝึกงานชายเริ่มประหม่าแม้แต่สมุดในมือก็ตกลงมา
“คุณเป็นอะไร? ที่นี่ไม่มีหมอคนอื่นอยู่อีกเหรอ!” หญิงสาวพูดต่อ
“ให้ฉันดูหน่อย.” หมอมาถึงห้องฉุกเฉินและต้องการจะตรวจดูหญิงตั้งครรภ์คนนั้น แต่โจวเจ๋อจับแขนเธอไว้ก่อน
“คุณควรดูแลตัวเองก่อนดีกว่า” โจวเจ๋อกล่าว “ช่วงนี้กินอาหารปกติหรือเปล่ามันจะทำให้อาการแย่ลงได้นะ”
หมอหลินไม่ได้พูดอะไรและพยายามเดินไปหาคนไข้
“มาเดี๋ยวผมดูเอง” โจวเจ๋อเดินแซงเธอขึ้นไป
“คุณ…” หมอลินคิดว่าไม่เหมาะสม
“ไม่เชื่อฝีมือผมเหรอ” โจวเจ๋อยิ้มและพูดว่า “เดี๋ยวจัดการเอง”
โจวเจ๋อเดินไปหาคนไข้ก่อนที่เด็กสาวคนนั้นจะตะโกนใส่หน้าเขา
“คุณเป็นใคร ทำอะไรอยู่”
โจวเจ๋อไม่ได้สวมเสื้อคลุมสีขาว
โจวเจ๋อเหลือบมองหญิงสาวแล้วพูดว่า “ผมเป็นหมอ คุณถอยออกไปก่อนผมจะทำงาน แต่ถ้าคุณอยากให้พี่สะใภ้ได้รับอันตรายก็เชิญคุณตะโกนอยู่ตรงนี้ต่อ”
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับยิ้ม “ช่วยพี่สะใภ้ของฉันด้วยนะคะหมอ” โจวเจ๋อหยิบถุงมือจากเด็กฝึกงานและตรวจดูอาการของคนไข้แล้วถามว่า
“คุณท้องมานานแค่ไหนแล้ว”
“28 สัปดาห์” เด็กสาวที่เป็นน้องสามีรีบสอดแทรกเข้ามาทันที
เด็กฝึกงานมองไปที่โจวเจ๋อด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“น้ำคร่ำแตกก่อนเวลา ทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ” โจวเจ๋อพูดขณะถอดถุงมือออก
“แล้วยังไงเหรอคะ…” เด็กสาวตกใจทันที
“คลอดก่อนกำหนด” โจวเจ๋อหันไปบอกกับเด็กฝึกงานว่า “แจ้งแผนกสูติศาสตร์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัด”
“ครับ” เด็กฝึกงานหยิบมือถือออกมาโทรทันที
โจวเจ๋อส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ โชคดีที่เขายืนอยู่ตรงนี้เด็กหนุ่มจึงรอดไปหวุดหวิด หากว่าเป็นหมอหลินอยู่ตรงนี้แทนเด็กฝึกงานคนนั้นคงต้องถูกดุด่าเป็นการใหญ่แน่นอน
“คลอดก่อนกำหนด?” เมื่อเด็กสาวได้ยินเรื่องนี้เธอก็ตกใจ เธอคว้าแขนของโจวเจ๋อแล้วพูดว่า “หมอ ช่วยช่วยพี่สะใภ้ของฉันและลูกของเธอด้วย พี่ชายของฉันอายุ 30 ปีแล้วไม่ง่ายเลยที่เขาจะมีลูก”
โจวเจ๋อไม่ได้เคลื่อนไหว ในฐานะแพทย์เขาได้เห็นสิ่งต่างๆ มากมาย ดังนั้นเขาจึงอดที่จะส่ายศีรษะไม่ได้
“ถ้าหากว่าพี่ชายของคุณมีลูกยากแล้วทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้”
“ฉันไม่เข้าใจ” เด็กสาวมีสีหน้างุนงงๆ
โจวเจ๋อหันไปมองหญิงสาวบนเตียงแล้วพูดว่า
“ทำไมคุณไม่เกลี้ยงกล่อมเขาเพื่อเห็นแก่ลูกในท้อง คุณตั้งครรภ์มาถึง 30 สัปดาห์ แล้วทำไมถึงไม่ทนต่อไป?”
หญิงมีครรภ์ที่เตียงในโรงพยาบาลไม่พูดอะไร เธอดูกังวลและกลัวมาก
แต่เด็กสาวที่มากับเธอก็ระเบิดความโกรธออกมาทันที
“เป็นไปไม่ได้! พี่ชายของฉันไปทำงานที่ปักกิ่งเมื่อหลายปีก่อนเขาไม่ได้กลับบ้านมาครึ่งปีแล้ว!”
แต่ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายเด็กหนุ่มนักศึกษาฝึกงานก็รีบวิ่งมาหาโจวเจ๋อพร้อมกับบอกว่า
“แผนกสูติศาสตร์บอกว่าห้องผ่าตัดพร้อมแล้วครับ”
คอมเม้นต์