เฮดโฟนของผมเชื่อมต่อกับอนาคตได้! My Headphones Can Connect to the Future – ตอนที่ 101
ตอนที่ 101 ชูหยุนซีหึง
หากเธอทําไม่สําเร็จเธอจะต้องเผชิญกับการถูกครอบครัวบังคับให้แต่งงานกับลูกชายของผู้สูงศักดิ์สักคนที่เธอไม่ชอบ
ในสายตาของฉินเสี่ยวหยุนมีผู้ชายไม่มากนักที่เข้าตา
เธอยอมตายดีกว่าถ้าเธอต้องไปแต่งงานกับคนที่เธอไม่ชอบ
แน่นอน ถ้าเธอสามารถแต่งงานกับซูฟ่านได้ เธอก็เต็มใจร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นธรรมดา แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้
แม้ว่าเธอต้องการที่จะชนะการเดิมพัน เธอก็ต้องรอจนกว่าเธอจะพาบริษัทให้มีมูลค่าถึงหมื่นล้านได้เสียก่อน
หลินจูกําลังเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการแต่งงานจากครอบครัวเช่นกัน
ครั้งล่าสุดที่เธอได้พบกับฉินเสี่ยวหยางและทําให้ฉินเสี่ยวหยางต้องเข้าไปโรงพยาบาลไปสักพัก ถ้าหากไม่มีฉินเสี่ยวหยุนออกมายืนปกป้อง เธอเกรงว่าจะต้องโดนครอบครัวดุไปแล้ว
เนื่องจากการแทรกแซงของฉินเสี่ยวหยุน ทําให้ฉินเสี่ยวหยางไม่ได้บอกว่าเขาถูกซู ฟ่านเพื่อนของหลินจูทุบตี
เขาแค่บอกว่าเขาทําให้คนอื่นขุ่นเคือง แต่ฉินเสี่ยวหยางก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเพียงแค่บอกครอบครัวว่าจะจัดการเอง
เขาสร้างปัญหาไว้มากมายและเขาไม่ได้ทําให้คนอื่นขุ่นเคืองแค่ครั้งหรือสองครั้ง พ่อแม่ของเขาจึงไม่คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
สําหรับหลินจูนั้นฉินเสี่ยวหยางไม่ได้พูดอะไรมากเพียงบอกแค่ทําความเข้าใจ บุคลิกของกันและกันต่อไป
แม้ว่าฉินซิ่วเหลียนจะรู้สึกว่าลูกชายของเธอแตกต่างไปจากเดิมที่อยากได้หลินจูไปแต่งงาน แต่เธอก็ไม่ได้กังวลมากนัก
ท้ายที่สุดฉินเสี่ยวหยางก็มีประสบการณ์มามากมายและเธอก็รู้เช่นกัน
เธอรู้แม้แต่เรื่องแฟนสาวทุกคนที่ฉินเสี่ยวหยางบังคับให้ทําแท้งลูกหลังจากที่เธอคนนั้นตั้งครรภ์
มีทั้งหมดสิบสามคนและแต่ละคนฉินเสี่ยวหยางก็จะเลิกหลังจากที่อีกฝ่ายตั้งท้องและให้ค่าตอบแทนอย่างมากมาย
สําหรับลูกชายของเธอ เธอเมินเฉยและช่วยลูกชายของเธอจ่ายค่าชดเชย
ถ้าฉินเจียนกั๋วรู้เรื่องนี้ ขาของฉินเสี่ยวหยางจะต้องหักแน่
อย่างไรก็ตามฉินเจียนถั่วเห็นด้วยเรื่องฉินเสี่ยวหยางและหลินจู
หลินตงเฉิงพ่อของหลินจูก็ตกลงเรื่องการแต่งงานครั้งนี้เช่นกัน
ตั้งตระกูลฉินและตระกูลหลินนั้นหากทั้งสองสามารถแต่งงานกันได้ ย่อมมีประโยชน์มากมาย
และไม่มีใครกังวลว่าลูก ๆ ของพวกเขาจะถูกรังแกจากครอบครัวของอีกฝ่าย
ครอบครัวฉันต้องการให้ฉินเสี่ยวหยุนแต่งงานกับหลินจินเซิงลูกชายคนโตของตระกูลหลิน
ผู้ชายคนนี้เกือบจะเป็นคนไร้สาระเหมือนฉินเสี่ยวหยางเลย และหลินจูก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับหลินจินเซิงและเธอก็ไม่ต้องการคุยกับพี่ชายของเธอสักนิด
ดังนั้นฉินเสี่ยวหยุนจึงไม่น่าจะเห็นหลินจินเซิงอยู่ในสายตา
ครอบครัวฉันชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว และตระกูลหลินก็ยิ่งชอบมากกว่านั้นอีก
ความรักและการหมั้นหมายครั้งก่อนกับซุนหยานเป็นผลมาจากการที่หลินจูดื้อดึง
แต่ตอนนี้หลินตงเฉิงได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่าหลินจูต้องแต่งงานกับฉินเสี่ยวหยา งและทั้งสองจะมีลูกภายในหนึ่งปีหลังจากแต่งงานเพื่อรวมความสัมพันธ์ของพวกเขาและให้ครอบครัวฉันแสดงความจริงใจ
ด้วยวิธีนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบริษัทจะใกล้ชิดกันขึ้นอีกขั้นหนึ่ง
แต่หลินจูไม่เห็นด้วยกับการจัดเตรียมของครอบครัว และฉินเสี่ยวหยุนเองก็ไม่เห็นด้วยกับการจัดเตรียมของครอบครัว
เพื่อนสาวทั้งสองมีบุคลิกที่แตกต่างกันคนหนึ่งแข็งแกร่งและอีกคนอ่อนโยน แต่ทั้งคู่ก็ยืนหยัดในความรู้สึกและไม่เคยประนีประนอมกับเรื่องนี้!
ด้วยอารมณ์อย่างหลินจูความพยายามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เธอสามารถทําได้คือการหนีออกจากบ้าน เธอไม่มีความสามารถอื่นใดที่จะต่อต้านได้อีก
ดังนั้นความหวังทั้งหมดของเธอจึงอยู่ที่ฉินเสี่ยวหยุน
ถ้าฉินเสี่ยวหยุนสามารถชนะเดิมพันได้ เธอจะได้รับสิทธิ์ในการออกเสียงในครอบครัวฉินกลับคืนมา
ดังนั้นแม้ว่าครอบครัวหลินยืนยันว่าจะปล่อยให้หลินจูแต่งงานกับฉินเสี่ยวหยางแต่ฉินเสี่ยวหยุนก็จะพยายามขัดขวางได้
ความหวังทั้งหมดอยู่ที่ฉินเสี่ยวหยุน
แต่ฉินเสี่ยวหยุนก็ต้องการความช่วยเหลืออย่างมากในตอนนี้
มีเพียงซูฟ่านเท่านั้นที่สามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้ได้
ทันทีที่รถของซูฟ่านกําลังจะขับรถไปถึงมหาลัย โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
หลังจากรับสายแล้วก็ได้ยินเสียงชูหยุนซี
“คุณกําลังทําอะไรอยู่?”
“ก็แค่กลับไปเรียน”
“วันนี้ทีมงานหยุดหนึ่งคืน ออกไปทานข้าวเย็นกันไหม?”
“ดีเลย”
เมื่อจะได้พบชูหยุนซี ซูฟ่านแน่นอนว่าตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด
เขาหันรถกลับและขับรถไปที่โรงแรมโกลเด้นไดมอนด์ที่ชูหยุนซีนัด
แม้ว่าโรงแรมโกลเด้นไดมอนด์จะไม่หรูหราเท่าโรงแรมหัวเป่า แต่บุฟเฟต์อาหารทะเลของโรงแรมนั้นมีชื่อเสียงมาก
แม้แต่ร้านอาหารบุฟเฟต์พิเศษข้างนอกก็ไม่สามารถเทียบกับรสชาติของที่นี่ได้
ราคาต่ำสุดก็มากถึง 1,028 หยวนต่อคน ทําให้คนธรรมดายอมแพ้กับราคา
คราวนี้เป็นดินเนอร์กับชูหยุนซี เขาจึงซื้อบัตรราคา 3,088 หยวน
ไม่เพียงแต่สามารถทานอาหารทะเลได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทานสเต็ก ขนมอบ และไวน์แดงได้อีกด้วย
“คิดถึงฉันไหมคุณซู”
ชูหยุนซีพูดด้วยรอยยิ้มขณะรับประทานอาหาร
“แน่นอนว่าผมคิดถึง!”
“ช่วงนี้คุณทําอะไรอยู่ ไม่ได้ส่งข้อความถึงฉันเลย”
ชูหยุนซีมีน้ำเสียงที่ไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
ซูฟ่านเกาหัวของเขา
ก่อนหน้านี้เขาจะแบ่งปันเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ กับชูหยุนซีเสมอแม้ว่าชูหยุนซีจะยุ่งจนไม่ได้ดูข้อความ แต่เธอจะตอบเขากลับเมื่อเห็นข้อความในภายหลัง
เมื่อชูหยุนซีว่างเธอก็จะแบ่งปันเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอกับซูฟ่าน ทั้งสองนั้นเป็นเหมือนคู่รักกัน
หลังจากที่เข้าร่วมกองถ่ายแล้ว ชูหยุนซีก็ยุ่งกับการถ่ายทําและไม่มีเวลาส่งข้อความถึงซูฟ่าน
แต่สิ่งที่เธอตั้งตารอมากที่สุดทุกวันคือการได้เห็นสิ่งที่ซูฟ่านทําทุกวันเมื่อเธอยุ่งนั่นคือการส่งข้อความมาเล่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
ซูฟ่านยุ่งมากเมื่อเร็ว ๆ นี้และเขาไม่ได้ส่งข้อความถึงชูหยุนซีมากนัก
สองสามวันมานี้ชูหยุนซีรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขนิดหน่อย
“ผมเพิ่งไปเมืองกุ้ยหยุนมา ผมค่อนข้างยุ่งเลยไม่ได้ส่งข้อความให้คุณเลย…”
ซูฟ่านอธิบาย
“จริงเหรอกับใครล่ะ”
ชูหยุนซียังคงมองซูฟ่านด้วยรอยยิ้ม
“กับเพื่อนน่ะ แต่เราบังเอิญมาเจอกัน ผมตอนนั้นยุ่งมากกับการไปเมืองกุ้ยหยุน”
“จริงเหรอ..”
ใบหน้าของชูหยุนซีดูมืดครื้มลงเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณน่ะ?”
ซูฟ่านถาม
“ไม่มีอะไรหรอก แค่ทีมงานของถ่ายของเราบังเอิญไปพบคุณตอนที่ไปรับคนที่สนามบิน แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้าง ๆ คุณใช่ไหม?”
ชูหยุนซีกัดริมฝีปากของเธอขณะพูด
ซูฟ่านตกตะลึง
“คุณอยู่กับเธอเหรอ?”
“เอ่อ…ใช่ เพราะเธอแสดงข้อมูลประจําตัวไม่ได้ ก็เลยเปิดห้องไม่ได้เท่านั้น…”
“จริงเหรอคุณซู ฉันไม่นึกเลยว่าคุณจะยุ่งมากขนาดนี้”
ชูหยุนซีพูดพลางหุ้นสเต็กบนจานอย่างแรง
เธอทุบสเต็กข้างในจาน
เมื่อเห็นความหึงหวงของชูหยุนซี ซูฟ่านรู้สึกสดชื่นในใจ
“ทําไม ดาราซูทิ้งเหรอ”
“ฉันเหรอ ไม่ ฉันจะทิ้งอะไร เราไม่ใช่คู่รักกัน มันก็แค่เรื่องปลอม ๆ”
ชูหยุนซียืนยัน
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่จําเป็นต้องอธิบาย”
ซูฟ่านพูดอย่างจงใจ
ใบหน้าของซูหยุนซีแดงอย่างกังวล
เธอวางมีดและส้อมลงแล้วมองไปที่ใบหน้าของซูฟ่านอย่างจริงจัง
“คุณซู คุณต้องให้คําอธิบายกับฉัน! แม้ว่าเราจะเป็นความสัมพันธ์ปลอม ๆ แต่ฉันก็ยังมีสิทธิ์ที่จะรู้สถานะของคุณ! ถ้าคุณมีแฟน ฉันจะไม่ขัดขวางคุณ…”
เสียงของชูหยุนซีเงียบลงเมื่อพูดจบ
แม้ว่าเธอจะเป็นดาราดัง แต่เธอก็จะไม่มั่นใจเรื่องใบหน้าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ
ซูฟ่านนั้นอยู่ในสายตาของเธอและเขาก็ดีที่สุดในสายตาของเธอ!
ซูฟ่านมองไปที่ใบหน้าที่มีสีแดงของชูหยุนซีและอดยิ้มไม่ได้
“อืม ผมอยู่ห้องเดียวกับเธอ”
“แล้ว?”
“แล้วก็อยู่บนเตียง”
“เอ่อ…แล้วก็…”
การแสดงออกบนใบหน้าของชูหยุนซีไม่อาจคุมได้อีกต่อไป
คอมเม้นต์